บทที่ 8 งานหมั้น

1002 คำ
"หุบยิ้มบ้างก็ได้ค่ะคุณแม่" ฟองดูว์กระซิบที่ข้างหูเบาๆ "ลูกคนนี้นี่แม่มีความสุขแม่ก็ต้องยิ้มกว้างๆถึงจะถูกสิจ้ะ" "ค่ะๆเอาตามที่คุณแม่สบายใจเลย" "พี่ฟอสมาแล้ว มานั่งลงข้างๆฟองดูว์หน่อยค่ะ นี่เป็นครั้งแรกเลยมั้งคะที่พี่สองคนได้เจอกันในรอบหลายปี" "สวัสดีครับ" ต่างฝ่ายต่างทักทายกัน "คุณโภคินก็น่าจะรู้นะครับว่าน้องสาวผมชอบคุณมาก" ฟอสถามอีกฝ่ายออกไปน้ำเสียงราบเรียบ "พี่ฟอส!" หญิงสาวตกใจไม่คิดว่าพี่ชายจะถามอะไรอย่างนี้ออกไป "ผมทราบครับ" ชายหนุ่มตอบกลับด้วยการยิ้มๆ "อย่าทำให้น้องสาวของผมต้องเสียใจละกันนะครับ ไม่อย่างนั้นผมจะจัดการคุณแน่ ผมไม่สนว่าคุณเป็นใครแต่ถ้าคุณทำให้น้องสาวผมต้องเสียน้ำตาผมก็ไม่ไว้หน้าทั้งนั้น" “พี่ฟอสอย่าขู่พี่โภคินสิคะ เกิดพี่โภคินปฎิเสธน้องน้องก็แย่นะคะ นะคะๆเลิกทำหน้าดุเถอะค่ะ” "ครับ ผมจะไม่ทำให้น้องฟองดูว์ต้องเสียใจแน่นอน" “อย่างนี้ผมก็ค่อยเบาใจ เรามาเป็นเพื่อนกันได้ครับ” “โอ้โห ไอ้เราก็ตกใจแทบแย่” ฟองดูว์รู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมากที่พี่ชายไม่วางท่าทางมึนตึงกับโภคินแล้ว งานหมั้นจบลงด้วยดีทั้งสองแลกแหวนหมั้นซึ่งกันและกัน แหวนของชายหนุ่มรูปเรียบง่ายแต่ของหญิงสาวมีเพชรเม็ดเล็กๆแวววับประดับอยู่ เรียกได้ว่าสวยงามถูกใจคนตัวน้อยที่สวมใส่ที่สุด “ขอบคุณมากนะครับคุณพัทธ์ที่มาร่วมงานหมั้นของเราสองคน” เมื่อเห็นว่าพัทธ์เดินเข้ามาหาเขาก็รีบโอบไหล่บางเป็นการแสดงความเป็นเจ้าของให้อีกฝ่ายรู้ขอบเขตของตนเอง “ครับ พี่ยังอดเสียดายจังเลยครับที่น้องฟองดูว์ไม่ให้โอกาสพี่บ้าง” พัทธ์หันไปสนใจหญิงสาวแทน ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมากที่ถูกหักหน้า “อะ เอ่อ พี่พัทธ์ชอบแซวเล่นอยู่เรื่อย พี่พัทธ์เป็นพี่ชายของฟองดูว์ส่วนพี่โภคินคือคนที่ฟองดูว์ชอบ” หญิงสาวพยายามจะบอกถึงสถานะให้พัทธ์ได้รับรู้ “ครับๆพี่คงต้องยอมแพ้ พี่กลับก่อนนะครับ ถ้ามีโอกาสค่อยนัดทานข้าวกัน” “ขับรถกลับบ้านดีๆนะคะ” “อย่าได้ไปทานข้าวกับคนหน้าหม้ออย่างนั้นเชียวนะครับ” “คิกๆพี่โภคินดูหงุดหงิดจังเลยนะคะ” “ก็ใครใช้ให้ไอ้หมอนั่นมาส่งสายตาเชื่อมกับคู่หมั้นพี่ล่ะครับ” “ดีใจจังที่พี่โภคินหึง” ชายหนุ่มไม่ได้ตอบกลับแต่เลือกที่จะบีบจมูกหญิงสาวเบาๆให้หายหมั่นเขี้ยว หลังจากที่พัทธ์กลับไปแล้วโภคินก็ขอตัวกลับบ้างหลังจัดการทุกอย่างภายในงานเรียบร้อย “พี่กลับก่อนนะครับ” “ค่ะ ถึงแล้วไลน์มาบอกฟองดูว์บางนะคะ” “ได้เลยครับ ผมกลับก่อนนะครับคุณพ่อคุณแม่” ตอนนี้ต่างเรียกบิดามารดาของอีกฝ่ายเหมือนเป็นบิดามารดาของตนแล้ว “จ้ะ แม่ดีใจมากนะจ๊ะที่เรามาเป็นครอบครัวเดียวกัน” หญิงสาวอยากจะดูแลเรื่องอาหารการกินของคู่หมั้นหนุ่มจึงมาขอความช่วยเหลือกับเพื่อนสนิทอีกครั้ง และเธอคิดว่าอีกไม่นานจะนัดให้เขามารู้จักกับเพื่อนสนิทคนนี้ เสียงกระดิ่งกรุ๊งกริ๊งทำให้น้ำค้างเงยหน้าขึ้นมอง ปรากฏว่าไม่ใช่ลูกค้าแต่เป็นเพื่อนสนิทของเธออย่างฟองดูว์ “น้ำค้างจ๋า” “ลมอะไรหอบมาถึงที่นี่จ้ะ” “นอกจากขนมแล้วอยากจะให้เพื่อนสอนทำกับข้าวด้วยน่ะสิ” “ต้องมีค่าสอนด้วยนะ” “ได้สิ ถ้าคิดเงินก็จะดีมากเอาจริงๆฉันก็เกรงใจแกมากน้ำค้าง” “ฉันล้อเล่นไหม เพื่อนกันจะคิดเงินได้ไงเล่า” “งั้นฉันจะเป็นคนซื้อวัตถุดิบแล้วกัน” “งั้นก็ตามใจ อยากทำเมนูไหนก็จัดมาได้เลย นี่เป็นสูตรที่ฉันสรุปเอาไว้แล้ว” น้ำค้างหันไปคว้าตำราทำอาหารของตนมาให้เพื่อนสาวได้ดู “นี่สูตรแกหมดเลยหรอยัยน้ำค้าง” “ใช่ค่ะคุณเพื่อน” “แกสุดยอดเลยอ่ะ” หญิงสาวตื่นตาตื่นใจกับคู่มือการทำอาหารของเพื่อนมาก เธอขอเอากลับไปนอนดูที่บ้านหนึ่งคืนก่อนที่จะเลือกว่าอยากทำเมนูอะไร “น่าทานทุกเมนูเลย” “ขอแม่เข้าไปหน่อยสิลูก” “เข้ามาได้เลยค่ะประตูไม่ได้ล็อค” “ทำอะไรอยู่ลูก” “กำลังดูตำราอาหารของยัยน้ำค้างค่ะ” “ไหนจ๊ะแม่ขอดูด้วย” “นี่เลยค่ะ เพื่อนหนูคนนี้สุดยอดเลยค่ะ หนูอยากทำอาหารให้พี่โภคินทานเลยขอให้ยัยน้ำค้างช่วยสอน” “ขอโทษนะลูกที่แม่ไม่มีเวลาสอนลูกเลย” เพราะเธอเอาแต่ช่วยสามีทำงานเลยไม่ค่อยได้เอาใจใส่ลูกสาวเท่าที่ควรแต่เธอก็ดีใจที่ลูกสาวไม่โกรธแถมยังเข้าใจตนเสมอมา แม้บางเวลาจะไม่ได้ดูแลเองแต่ก็มีคนที่ไว้ใจได้ดูแลลูกสาวแทนเธอจึงค่อนข้างวางใจและไปทำงานหาเงินมาให้ลูกสาวแทน “อย่าคิดมากสิคะคุณแม่ คนเรามีทางออกหลายทางและทางออกของหนูคือยัยน้ำค้างค่ะ” เธอไม่เคยน้อยใจเลยเพราะรู้ว่าทุกสิ่งที่ท่านทั้งสองทำนั้นก็เพื่อเธอ เธอไม่อยากให้ท่านนึกโทษตัวเองเลย “หนูน้ำค้างสุดยอดจริงๆ วันหลังพาแม่ไปทานของอร่อยๆร้านหนูน้ำค้างบ้างสิลูก” “ได้เลยค่ะเดี๋ยวฟองดูว์จะนัดวันอีกทีนะคะ” “จ้ะ แม่ไปนอนก่อนนะลูก ฝันดีนะลูก” “ฝันดีเช่นกันค่ะคุณแม่”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม