“หนูฟองดูว์เขาน่ารักเนาะลูกคิดเหมือนแม่ไหม” คนเป็นแม่ามกับลูกชายยิ้มๆ หล่อนเอ็นดูสาวสวยคนนี้มาก
“ครับ เขาคุยสนุกด้วย” ชายหนุ่มตอบกลับมารดายิ้มๆ หญิงสาวมีอัธยาศัยดีพูดคุยด้วยแล้วให้ความรู้สึกสบายใจไม่อึดอัดใจ
"โภคินลูก แม่อยากให้ลูกหมั้นกับหนูฟองดูว์" แม่ของชายหนุ่มไม่อยากให้ลูกชายต้องเสียเวลาจึงพูดความต้องการของตนเองที่มีออกไปตรงๆ หล่อนอยากให้ลูกชายมีเพื่อนคู่คิดยิ่งพูดคุยกับแล้วรู้สึกถูกคอหล่อนก็ยิ่งคิดว่าสิ่งที่บอกลูกชายไปนั้นสมควรแล้ว
"ทำไมรีบร้อนจังเลยล่ะครับคุณแม่" ชายหนุ่มถามออกไปด้วยความสงสัย
"ไม่รีบร้อนได้ยังไงล่ะ หนุ่มๆบ้านอื่นเขาจ้องจะมาเป็นเขยบ้านนี้กันทั้งนั้นลูกไม่รู้หรอก แม่น่ะชอบหนูฟองดูว์มากๆ หน้าตาน่ารักแถมนิสัยก็ดีมากด้วย แล้วยังคุยสนุกอย่างที่ลูกบอก แม่ชอบหนูฟองดูว์จริงๆนะลูก" มารดาของชายหนุ่มรีบพูดอวยว่าที่ลูกสะใภ้ในอนาคตของตน
"ไม่ใช่ไม่รู้ครับผมก็พอรู้อยู่บ้างว่าหนุ่มๆน่ะสนใจน้องเขาหลายคน" ดูได้จากสายตาที่ผู้ชายหลายๆคนมองมาที่หญิงสาวเขาก็รับรู้ได้ทันทีว่าคนพวกนั้นน่ะคิดเกินเลยไปมากแต่หญิงสาวก็ไม่ได้ให้ความสนใจตอบกลับ
"งั้นก็ดีเลย ตกลงลูกจะหมั้นกับหนูฟองดูว์ได้ไหม ทำเพื่อแม่สักครั้งหนึ่งในชีวิตสิลูก แม่เคยบังคับอะไรลูกเมื่อไรกัน" มารดาของชายหนุ่มตอบกลับน้ำเสียงออดอ้อน นางของัดไม้ตายออกมาใช้
"ผมปฎิเสธคุณแม่ได้ด้วยเหรอครับ" เขาถามออกไปน้ำเสียงราบเรียบ เขาเองก็ไม่อยากจะทำให้มารดาผิดหวังนักหรอก อะไรที่ทำให้ท่านได้เขาก็พร้อมจะทำในเมื่อเขาเองก็เป็นโสด
"คิกๆปฏิเสธไม่ได้แน่นอนจ้ะ เป็นอันว่าลูกตกลงแล้วนะ ลุกชายของแม่น่ารักที่สุดเลย" มารดาของชายหนุ่มโผเข้ากอดลูกชายเต็มรัก
"แล้วน้องฟองดูว์เขาตกลงไหมครับ ไม่ใช่ว่าแม่ไปบังคับน้องเขานะครับ แบบนั้นผมคงไม่โอเคแน่นอน ในอนาคตมองหน้ากันไม่ติดแน่ๆ ถ้าถูกบังคับทั้งสองฝ่ายผมกลัวว่า..." ชายหนุ่มยังไม่ทันได้เอ่ยจนจบประโยคมารดาก็รีบเอ่ยขึ้นมาว่า
"น้องตกลงสิจ้ะ ไม่เป็นการฝืนใจหนูฟองดูว์แน่นอน ใจคนน่ะฝืนกันไม่ได้หรอก" ตัวเขายังไงก็ได้เพราะเขาก็ไม่มีใคร หวังเพียงว่าหญิงสาวเต็มใจที่จะหมั้นกับเขาก็พอแล้ว มารดาของชายหนุ่มรีบส่งข่าวดีไปให้บ้านของหญิงสาว พอฝ่ายโภคินยืนยันทั้งสองบ้านก็เตรียมหาฤกษ์หมั้นให้กับลูกสาวลูกชายทันที บรรดาคุณแม่ต่างยิ้มหน้าบานจนลูกสาวนึกหมั่นไส้
“ลูกสาวของแม่สวยที่สุดเลยลูก” มารดาอดที่จะเอ่ยชมลูกสาวของตนไม่ได้เพราะชุดที่สวมอยู่นั้นดูสวยสง่างาม
“ฟองดูว์สวยเหมือนคุณแม่ไงคะ” หญิงสาวตอบกลับยิ้มๆ มารดาสวยเธอจึงมีหน้าตาที่สวยงามตามท่านไงเล่า
“ปากหวานจริงๆลูกคนนี้ จะว่าไปแม่ก็ใจหายเหมือนกันนะที่ลูกใกล้จะเป็นฝั่งเป็นฝาแล้ว”
“ไม่ว่าอนาคตจะเป็นยังไง ฟองดูว์ก็จะเป็นลูกสาวที่น่ารักของคุณแม่ไม่เปลี่ยนแปลงแน่นอนค่ะ รักคุณแม่นะคะ”
“แม่ก็รักลูกจ้ะ”สองแม่ลูกโผเข้ากอดกันน้ำตาซึม
“สองแม่ลูกซึ้งใจอะไรกันอยู่ล่ะเนี่ย”
“น้องกำลังชื่นชมความงามของลูกไงคะ”
“หนูสวยเหมือนคุณแม่ไงคะคุณพ่อ”
“ข้อนี้พ่อเห็นด้วยเพราะพ่อก็ตกหลุมรักแม่เขาตั้งแต่ครั้งแรกที่พบกัน”
“ฮ่าๆ คู่นี้เขารักกันตลอด” หญิงสาวเอ่ยแซวบิดามารดายิ้มๆแล้วก็หัวเราะชอบใจออกมา ท่านทั้งสองน่ารักมากไม่เคยทะเลาะกันเลยก็ว่าได้มีแต่แย่งกันตามใจเธอตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็กจนปัจจุบัน ในใจของหญิงสาวตอนนี้ดีใจที่ชายหนุ่มยินยอมหมั้นหมายกับเธอด้วยความเต็มใจ แม้เขาจะยังไม่ได้รักเธอแต่เธอก็คิดว่าไม่เกินความสามารถของเธอแน่นอนที่จะทำให้เขาตกหลุมรักผู้หญิงหน้าตาน่ารักคนนี้
ณ คฤหาสน์ของหญิงสาว
“ยิ้มหน้าบานเลยนะครับคุณแม่” ชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะเอ่ยแซวคนเป็นแม่
“ก็แม่มีความสุขจะไม่ให้ยิ้มได้ยังไงล่ะลูกคนนี้นี่”
“น้องฟองดูว์มานู้นแล้วลูก”
“สวัสดีค่ะ”
“ไหว้พระเถอะลูก วันลองชุดว่าดีงามแล้ววันนี้ดีงามหลายเท่าตัวเลยนะลูก”
“ขอบคุณค่ะ หนูจะลอยแล้วค่ะเพราะทุกคนเอาแต่ชมหนูกันใหญ่”
“ฮ่าๆ”
“วันนี้น้องฟองดูว์สวยมากเลยครับ” เขาเอ่ยชมหญิงสาวยิ้มๆ
“ฟองดูว์ดีใจที่พี่โภคินชอบค่ะ”
“พาน้องเดินไปสิลูก”
“ครับ”
งานหมั้นถูกจัดขึ้นที่คฤหาสน์หลังงามของหญิงสาว งานสำคัญวันนี้มีแขกมาร่วมงานมากมายเพราะทั้งสองตระกูลถือว่ามีชื่อเสียงไม่น้อย ข่าวการหมั้นของเธอเป็นที่น่าสนใจในวงการธุรกิจเป็นอย่างมากเพราะมีข่าวลือหนาหูมาว่าอาจจะรวมบริษัทยักษ์ใหญ่เข้าด้วยกัน งานนี้คงจะเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดเลย ทุกคนต่างชื่นชมว่าทั้งสองเหมาะสมกันเหมือนกิ่งทองใบหยก ทั้งสวยทั้งหล่อ แน่ล่ะว่าในอนาคตถ้าได้แต่งงานกันคนที่จะได้เป็นปู่ย่าตายายต้องหวังจะได้อุ้มหลานหน้าตาน่ารักๆแน่ๆ