“เฮ้อ” หญิงสาวถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
"โล่งอกเลยหรอครับ ตอนนี้ดูสบายใจกว่าข้างในงานมากเลยนะครับ"
"แน่นอนสิคะเมื่อกี้อึดอัดแทบตาย" หญิงสาวรู้สึกสบายใจมากเมื่อได้เดินห่างออกมาจากวงสนทนา
"ฮ่าๆ เหมือนกันเลยครับ พี่นึกว่าฟองดูว์จะชอบออกงานสังคมเสียอีกเห็นยิ้มหวานตลอดเวลา" ชายหนุ่มหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อเห็นท่าทางของคนตัวน้อย
"โนวๆค่ะ ฟองดูว์เพียงแค่ต้องรักษาภาพพจน์ ความจริงฟองดูว์ไม่ชอบออกงานเลยแต่ก็ไม่อยากเสียมารยาทหรอกนะคะเลยต้องมาแล้วก็ต้องยิ้มหวานเป็นมิตรกับทุกคน" เธอไม่บอกเขาออกไปหรอกว่าความจริงวันนี้เธอดีใจมากแค่ไหนที่มีโอกาสได้ควงเขาออกงาน
"ดีแล้วล่ะครับ มาแค่เป็นมารยาทก็พอแล้วครับ"
"อีกสักพักเราก็กลับกันเถอะนะคะ บรรยากาศในนี้ไม่ค่อยน่ารื่นรมย์เลย อีกอย่างฟองดูว์ไม่อยากถูกจับคู่กับใครค่ะ"
"โอเคครับ"
“…”
“เป็นอะไรไปครับ”
“อะ เอ่อ ฟองดูว์หิวน่ะค่ะ จะเป็นการรบกวนไหมคะถ้า...”
“ฮ่าๆพี่ก็นึกว่าอะไร เดี๋ยวพี่พาไปทานของอร่อยเองครับ”
“ขอบคุณค่ะ พี่โภคินใจดีที่สุดเลยค่ะ” เมื่อออกมานอกงานชายหนุ่มก็พาหญิงสาวมาที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเพราะเธอบ่นว่าหิว
"อยากทานอะไรสั่งได้เลยครับวันนี้พี่เลี้ยงเอง"
"พี่โภคินพูดเหมือนพี่ฟอสเลยค่ะ พี่ฟอสก็ชอบเลี้ยงของอร่อยๆฟองดูว์ตลอด" ไปๆมาๆเธอคิดถึงพี่ชายสุดหล่อของเธออีกแล้ว
"ก็เพราะเราน่ะตัวเล็กแค่นี้พี่เลี้ยงไหวอยู่แล้วไงครับ"
"คิดผิดแล้วค่ะฟองดูว์กินเก่งมากเลยต่างหาก ระวังกระเป๋าสตางค์ของพี่จะฉีกได้นะคะ คิกๆ"
"ฮ่าๆ พี่จะรอดูครับว่าจะทานหมดจริงๆอย่างที่พูดหรือเปล่า"
"รอดูได้เลยค่ะ" เมื่ออาหารมาครบแล้วหญิงสาวก็ลงมือรับประทานทันที แล้วก็เป็นไปอย่างที่คนตัวเล็กบอกเอาไว้เธอสั่งอะไรมาทานก็สามารถทานจนหมดเกลี้ยง ชายหนุ่มยังแอบแปลกใจเลยว่าตัวเล็กนิดเดียวเอาอาหารที่รับประทานลงท้องไปเก็บไว้ที่ส่วนไหนของร่างกายกันแน่ เธอมีเรื่องน่าทึ่งให้เขาได้รับรู้เสมอ ยิ่งรู้จักเธอก็ยิ่งน่าสนใจ
“ไม่อยากจะเชื่อเลยครับ”
“ฮ่าๆ ฟองดูว์กินจุจริงๆคราวนี้พี่โภคินเชื่อหรือยังคะ”
“พี่เชื่อแล้วครับ”
“ที่ไม่อ้วนก็เพราะฟองดูว์ออกกำลังกายค่ะ ถ้ามีเพื่อนไปวิ่งที่สวนก็คงจะดี”
“เอาไว้ว่างๆพี่จะไปวิ่งเป็นเพื่อนครับ”
“จะ จริงหรอคะ สัญญาก่อนเร็วค่ะ”
“ฮ่าๆ พี่ไม่สัญญาหรอกครับเพราะพี่ไม่อยากให้ใครต้องรออย่างมีความหวัง พี่หวังว่าการกระทำของพี่จะแทนสัญญาได้”
“ก็ได้ค่ะ อย่าลืมนะคะว่าถ้ามีเวลานึกถึงฟองดูว์บ้าง”
“ครับ”
เวลาอยู่กับฟองดูว์เขาลืมเรื่องของเบญญาไปเสียสนิท ชายหนุ่มเมื่อกลับมาถึงบ้านก็อาบน้ำเตรียมเข้านอนเพราะพรุ่งนี้เขามีประชุมแต่เช้าที่บริษัท แต่พอเขาหลับตาลงก็นึกถึงเรื่องของเบญญาขึ้นมาอีกครั้ง เธอมีคนที่รักอยู่แล้ว เธอบอกว่าที่เขาสนใจเธอนั้นเป็นเพียงแค่ความสงสารที่มีให้กันมันไม่ใช่ความรักแบบคนหนุ่มสาว คำพูดของเธอทำให้เขาต้องกลับมาคิดทบทวนถึงสิ่งที่ผ่านมา เขามีเรื่องมากมายอยากจะพูดให้เธอฟังในขณะที่เธอไม่เคยเล่าเรื่องส่วนตัวของเธอให้เขาฟัง และเมื่อได้ไตร่ตรองดูดีๆแล้วก็พบว่าเป็นอย่างที่เบญญาพูดไว้จริงๆ การที่เธอมีคนรักและกำลังจะสร้างครอบครัวเล็กๆด้วยกันทำให้เขารู้สึกเศร้าแต่ความเศร้ามันไม่ได้กัดกินหัวใจของเขามากนัก ตั้งแต่นี้ต่อไปเขารู้ตัวแล้วว่ามันไม่ใช่ความรักอีกต่อไป
ฟองดูว์ตื่นแต่เช้าลุกขึ้นมาทำอาหารให้กับโภคินด้วยความตั้งใจ คนเป็นแม่เห็นแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ที่เห็นลูกสาวเอาใจใส่ชายหนุ่มด้วยความเต็มใจ
ณ คฤหาสน์
“ฟองดูว์ทำอาหารมาให้พี่โภคินทานค่ะ”
“ขอบคุณนะครับ” ชายหนุ่มยื่นมือไปรับกล่องข้าวสีชมพูหวานแหววของหญิงสาวมาถือเอาไว้
“วันนี้พี่เข้าบริษัทเหรอคะ”
“ใช่ครับ”
“ดีนะคะที่ฟองดูว์มาทันไม่อย่างนั้นคงไม่ได้ให้พี่โภคินแน่ๆ พี่โภคินจะต้องเสียใจที่ไม่ได้ชิมฝีมือของฟองดูว์แน่นอน”
“พี่กำลังจะสายแล้วพี่ขอตัวก่อนนะครับพอดีมีประชุมกับผู้บริหารคนอื่นๆ”
“อะ เอ่อ ค่ะ เชิญค่ะ”
“อ้าว หนูฟองดูว์มาหรอลูก หนูฟองดูว์อยู่คุยเล่นกับป้าก่อนสิจ๊ะปล่อยพี่เขาไปทำงานเถอะรายนั้นงานยุ่งจะตาย”
“ได้เลยค่ะคุณป้า”
“พี่ไปนะครับ ไปก่อนนะครับแม่”
“จ้ะๆ” แม่ของชายหนุ่มยิ่งได้พูดคุยกับหญิงสาวก็ยิ่งชอบใจ อาจเพราะหญิงสาวมีความชอบคล้ายๆกัน สองสาวต่างวัยคุยกันถูกคอมากๆ มีหลายหัวข้อสนทนาที่ดูเหมือนจะจูงใจให้สองสาวต่างวัยสนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว เธอคุยกับมารดาของชายหนุ่มจนลืมเวลาเมื่อเห็นว่ารบกวนท่านมานานมากแล้วจึงขอตัวกลับก่อน
“ขับรถกลับดีๆนะลูก”
“ค่ะคุณป้า วันหลังฟองดูว์จะทำของอร่อยมาให้คุณป้าทานบ้างนะคะ”
“จ้ะ ป้ารอทานนะจ๊ะ”