“อันนี้มันเรียกว่าอะไรน่ะดูน่ากินจัง อันนี้ล่ะ นี้ด้วย นั้นอีก ตรงโน้นน่ะเห็นมั้ยที่เขากินกันอยู่ แล้วก็…”
นลินมองอาหารในตลาดกลางคืนอย่างละลานตา ไม่ว่าจะซ้าย ขวา หน้าหรือหลัง อาหารทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นของแปลกใหม่สำหรับเธอ
“โอ๊ยคุณนลินคะ! ทีละอย่างได้ไหมคะ วีตอบไม่ทันหรอกนะ” รวีถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะเริ่มประมวลผลว่านลินถามสิ่งไหนไปบ้าง “ตรงนั้นเขาเรียกว่าขนมถังแตกค่ะ ส่วนนั้นก็กล้วยทับ แล้วนั้นคือปลาไข่ทอด อันนั้นอ่ะข้าวจี่”
“หูย ชื่อแปลก ๆ ทั้งนั้นเลยเนาะ”
“มันแปลกสำหรับคุณคนเดียวน่ะสิคะ อ่าวแล้วนั้นคุณจะไปไหน”
รวีตะโกนถามเมื่อจู่ ๆ นลินก็เดินนำออกไป
“จะไปซื้อมาลองกินน่ะสิ”
นลินเดินนำต่อไปโดยไม่ได้สนใจคนข้างหลัง รวีจึงวิ่งเข้าไปจับมือของนลินไว้
“ไปด้วยกันสิคะ เดี๋ยวหลง” รวียิ้มบาง ๆ
นลินซื้ออาหารที่สนใจเสร็จแล้วก็มานั่งกินที่ลานกว้างของตลาด ซึ่งเป็นมุมสำหรับโต๊ะนั่งทานอาหารที่ตลาดได้จัดไว้ให้กับลูกค้าของร้านอาหารต่าง ๆ ได้รับความสะดวกสบาย
“คุณนลินคะ ในบรรดาอาหารที่ซื้อมาเนี่ย คุณชอบอันไหนที่สุดเหรอ?”
รวีมองเศษซากอาหารบนโต๊ะที่หมดเกลี้ยงทุกอย่าง
“เอิ่ม… ฉันชอบอันนี้” นลินชี้ไปที่ข้าวจี่ “กินเล่นก็ได้แถมยังอิ่มเหมือนกินข้าวอีกต่างหาก”
“ก็แน่สิคะ ก็นี่มันข้าวหนิ”
“ฉันหมายถึงว่ามันไม่ต้องมีกับข้าว มีแค่ข้าวก้อนเดียวชุบไข่ก็อร่อยได้อ่ะ อ่อแล้วก็ตอนเดินมานั่งที่โต๊ะฉันเห็นอะไรก็ไม่รู้อ่ะ เป็นถึงสแตนเลสใหญ่ ๆ มีรู ๆ อยากไปดูว่ามันคือไร”
“ป่ะไปกัน”
รวีเอื้อมมือไปจับมือนลิน ก่อนเก็บเศษกล่องพลาสติกใส่ลงถุงและนำไปทิ้งที่ถังขยะ
ทั้งสองมาหยุดอยู่หน้าร้านหนึ่ง ที่มีถังสแตนเลสและมีรู ๆ อยู่กลางถังตามที่นลินกล่าวเอาไว้
“เอารสอะไรบ้างจ๊ะ”
แม่ค้าเอ่ยถามขึ้น
รวีหันหน้าไปทางนลิน “นี่เขาเรียกว่าไอติมหลอดค่ะ รูนั้นที่คุณพูดเขาเอาไว้ใส่พวกน้ำหวาน น้ำอัดลม แล้วก็เขย่า ๆ ให้มันแข็ง ก็จะเป็นไอติม อร่อยมาก วีชอบ”
“แล้วมันแข็งได้ไง?”
“เอ้านี่ไง ใส่น้ำแข็งกับผสมเกลือไว้ในถังแล้วก็เขย่า ๆ หมุนไปมา เหมือนที่ป้าเขาทำ” เมื่อบอกนลินเสร็จรวีก็หันไปสั่ง “หนูเอาโคล่าสองไม้ค่ะป้า”
“งั้นหนูเอาน้ำแดงกับโคล่าค่ะ” นลินสั่งต่อเมื่อรวีสั่งเสร็จ
“นี่จ๊ะ ยี่สิบบาท”
“ไม่ยักจะรู้ว่าแค่เขย่า ๆ ก็เป็นไอติมด้วย” นลินพูดพลางกัดไอติมไปด้วย “แล้วทำไมสั่งโคล่าตั้งสองอันแหน่ะ”
“ความจริงวีก็อยากสั่งรสอื่นเหมือนกันนะ แต่พอจะซื้อทีไรก็อดซื้ออย่างเดิมไม่ได้”
รวีมองดูไอติมในมือก็อดนึกถึงอดีตครั้นเมื่อเธอยังเป็นเด็ก “คุณนลินรู้ไหมคะ เมื่อก่อนนะสามไม้ห้าบาทเอง”
“อือ...ฉันน่าจะรู้จักให้เร็วกว่านี้ ไม่คิดว่าแค่น้ำอัดลมแช่แข็งเนี่ยจะอร่อย”
“คุณนลิน!” รวีก้มหน้าลงไปดูดก้นของไอติมในมือของนลิน ริมฝีปากบางส่วนโดนไอติมที่กำลังละลายละหยดลง แต่อ**บางส่วนโดนมือของนลินเบา ๆ
“เรียกทำไม แล้วทำไรเนี่ย” นลินยืนตะลึงเมื่ออีกคนก้มพรวดพราดลงมา
“วีเห็นไอติมมันจะหยดลงมือคุณน่ะคะ กลัวเปื้อน เดี๋ยวมือจะเหนียวเอา” รวีเงยหน้ามองนลินพร้อมกับอมยิ้มบาง ๆ “แล้ว...ทำไมคุณนลินหน้าแดงอย่างนั้นล่ะคะ?”
“ฉันเนี่ยนะหน้าแดง ตาเธอลายรึเปล่า!”
“หรือว่าคุณ...เขินวีเหรอคะ?” รวีอมยิ้มมีเลศนัย ส่งสายตาเป็นประกายให้กับนลิน
“เขินอะไร ฉันไปดูอาหารตรงนั้นดีกว่า” นลินรีบเบี่ยงประเด็นไปให้ความสนใจซุ้มอาหารอีกฝั่งทันที
“ชิมฟรีได้นะจ๊ะหนู” แม่ค้ายื่นจานเล็กไว้สำหรับชิมฟรีให้กับลูกค้าตรงหน้า นลินหยิบไม้จิ้มฟันแล้มจิ้มอาหารเม็ดกลมรีเข้าปากไป “อร่อยไหมจ๊ะหนู รับกี่กล่องดีจ๊ะ?”
“อร่อยดีค่ะป้า มัน ๆ กรุบ ๆ หนูขอถุงแล้วกันค่ะ”
ทางด้านของรวีตอนนี้กำลังเดินมองหานลินที่เดินหายไปสักครู่
“อยู่ไหนเนี่ยคุณนลิน โทรไลน์ไปก็ไม่รับ เบอร์ก็ไม่มีอีก”
ถึงรวีจะเริ่มสนิทกับนลินแล้วก็ตามแต่ก็ยังไม่มีเบอร์ของนลิน ไม่ใช่ว่ารวีไม่ขอ เพียงแต่นลินไม่ยอมให้ บอกแค่ว่าติดต่อทางไลน์สะดวกที่สุดแล้ว
เมื่อรวีเดินหาจนรอบตลาดแล้วแต่ก็ยังไม่เจอตัวของนลิน จึงเดินกลับไปรอที่รถและเป็นตามคาด นลินนั่งรอเธออยู่ในรถเปิดแอร์เย็นสบายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ก๊อก ก๊อก รวีเดินไปเคาะกระจกรถเพื่อเรียกให้นลินเปิดประตู
นลินค่อย ๆ เลื่อนกระจกลง “เปิดเลย ไม่ได้ล็อค”
“คุณนลิน วันหลังล็อครถด้วยสิคะ มันอันตรายนะ”
รวีพูดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
“ไม่เห็นเป็นไรเลย ฉันไม่เคยล็อคสักครั้ง”
นลินพูดพลางยักไหล่ให้รวีก่อนจะยื่นของกินเล่นที่ซื้อมาเมื่อครูให้กับรวี
“กินนี่สิ อร่อยนะ”
“นี่คุณไม่ฟังกันบ้างเลย วีเป็น...”
“กินนี่ดูสิ”
‘วีเป็นห่วง’ รวีทันได้พูดจบนลินก็รีบแทรกขึ้นมาเพื่อปัดความรำคาญทันที ใช้ว่ารวีจะไม่รู้ว่าคนข้าง ๆ รำคาญ แต่รวีก็ไม่ได้พูดต่อถึงพูดไปยังไงนลินคงพูดบางอย่างขัดขึ่นมาอีก เธอหันไปสนใจสิ่งเจ้าตัวยื่นมาแทน
“รถด่วน? คุณนลินกินด้วยเหรอคะ?”
รวีถามด้วยความสงสัย หรูหราอย่างนลินเนี่ยนะจะกินหนอนทอด ตัวของเธอเองยังกินไม่เป็นเลย
“รถด่วน? รถด่วนคือไรอ่ะ อันที่ฉันกินอยู่เรียกว่ารถด่วนเหรอ?”
“หนอนไง หนอน กระดึ๊บ ๆ อะ”
เชื่อเขาเลย กินโดยที่ไม่รู้ว่ามันคืออะไรเนี่ยนะ ถ้ามีคนหลอกเอายาพิษมาให้แล้วบอกว่าเป็นขนมก็คงเสร็จคุณเขาล่ะ
นลินเบิกตาโตขึ้นเมื่อได้ยินคำตอบของรวี พร้อมกับเอามือปิดปาก วิ่งออกนอกรถทันที
“อุ๊บ...แหวะ!”
รวีค่อย ๆ ลูบหลังนลิน “ค่อย ๆ ค่ะคุณนลิน ไหวไหม? ทำไมคุณไม่ดูดี ๆ หรือถามคนขายก่อนว่ามันคืออะไร”
“แหวะ แหวะ” นลินอาเจียนต่อเนื่อง “ขอน้ำหน่อย มีไหม?”
รวีเดินไปหยิบน้ำในรถก่อนยื่นให้นลิน
“ค่อย ๆ ดื่มค่ะ นี่วีเอาทิชชู่มาให้ด้วย ดีขึ้นรึยังคะ?”
นลินไม่ตอบแต่พยักหน้าช้า ๆ
“เดี๋ยววีพาไปที่รถนะ ขากลับวีขับให้แล้วกัน ดูท่าคุณจะไม่ค่อยไหวแล้ว บ้านคุณอยู่ไหนเดี๋ยววีขับไปส่ง”
รวีหันไปถามนลินที่นั่งหมดแรงอยู่ข้าง ๆ
“ไม่กลับบ้าน”
นลินพูดเสียงแผ่ว
“แล้วคุณจะไปไหนถ้าไม่กลับ?”
“บ้านเธอไง ฉันจะไปค้างบ้านเธอ ขืนฉันกลับไปสภาพนี้คงโดนถามเยอะแยะแน่ ฉันไม่มีแรงตอบหรอกนะ แล้วอีกอย่างฉันส่งข้อความไปบอกคนที่บ้านเรียบร้อยแล้วว่าจะค้างบ้านเพื่อน”
“คุณนลินแต่ว่า...อ่าวหลับไปซะละ”
รวีไม่มีทางเลือกจึงจำเป็นต้องพานลินกลับบ้านของเธอไปด้วย ใจหนึ่งก็อยากจะปลุกแต่มีใจก็กลัวนลินจะพักผ่อนไม่เต็มทีหลังจากหมดแรงกับการเอารถด่วนออก ให้ตายสิอะไรเข้าปากแล้วอร่อยก็กิน พอมารู้ทีหลังว่าคืออะไรก็จะเป็นจะตายเสียนี่ ไม่รู้จะกินเข้าไปทำไมกัน
“คุณ ๆ ถึงแล้วนะ คุณนลินจะนอนพักเลยไหมคะ เดี๋ยววีไปจัดที่นอนให้”
“ยัง ฉันจะอาบน้ำก่อน”
“คุณไหวเหรอ? ไม่นอนพักเลยล่ะ”
“ไม่ไหวก็ต้องไหว ถ้าฉันไม่อาบน้ำก่อนฉันนอนไม่ได้หรอกนะ ฉันน่ะคนสะอาด”
“ค่ะ ๆ งั้นเดี๋ยววีเอาชุดนอนกับผ้าเช็ดตัวให้นะคะ”
“อือ”
หลังจากนลินเดินเข้าห้องน้ำไป รวีก็จัดเตรียมผ้าห่มและหมอนออกมาจากในตู้ โชคดีที่ยังมีหมอนและผ้าห่มอีกชุด ขณะที่รวีกำลังจัดที่นอนก็มีเสียงข้อความเข้า
[วี นี่พี่เองนะ]
[ค่ะ แล้วพี่ชัชไปเอาไลน์วีมาจากไหนคะเนี่ย?]
[เอามาจากมีนน่ะ]
[แล้วพรุ่งนี้เราว่างเปล่า?]
[ก็...ว่างนะคะ พี่มีอะไรรึเปล่า?]
[พี่ว่าจะชวนไปดูหนังแล้วก็หาไรกิน พรุ่งนี้เก้าโมงเช้า]
[โอเคเลยพี่ เลี้ยงใช่ปะ?]
[พี่ชวนขนาดนี้ก็ต้องเลี้ยงสิ ไว้พรุ่งนี้เจอกันนะ]
[ฝันดีครับ]
“นี่ คุยกับใครหน้าระรื่นเชียว”
นลินนอนมองรวีเล่นโทรศัพท์ได้สักพัก เพราะแสงโทรศัพท์ของรวีมันสว่างจึงทำให้นลินนอนไม่หลับ เธอชอบนอนในห้องที่มืดสนิท อีกอย่างเธออยากรู้ว่ารวีคุยกับใครอยู่จึงรอหาจังหวะถาม
“รุ่นพี่น่ะค่ะคุณนลิน วีนึกว่าคุณนอนแล้วซะอีก”
“จะนอนได้ยังไงล่ะก็แสงโทรศัพท์เธอมันเข้าตาฉัน ปิดไปเลยนะฉันนอนไม่หลับ อ่อ..แล้วคุยไรกัน”
“พี่ชัชเขาชวนวีไปดูหนังน่ะค่ะ ไม่มีอะไรหรอก คุณพักผ่อนเถอะ วีก็จะนอนแล้ว”
นลินปิดตาลงหลังจากรวีพูดจบแต่ในหัวของเธอยังไม่ยังหลับ คิดสงสัยว่ารุ่งพี่ของรวีเป็นใคร สนิทกันแค่ไหนในขณะที่รวีปิดหน้าจอมือถือและวางไว้ข้างหัวเตียงก่อนล้มตัวลงนอนข้าง ๆ นลิน
“ฝันดีนะคะ คุณนลิน”