หลังจากที่ฉันกินไอศครีมอิ่มพี่ติณก็พามาส่งที่คอนโดทันที ทิ้งตัวลงบนที่นอนก่อนจะจับแก้มตัวเองที่ร้อนผ่าว หัวใจเต้นคล้ายคนเป็นโรคหัวใจ ยามนึกถึงจูบที่อีกฝ่ายมอบให้มันกลับรู้สีกดีจนบอกไม่ถูก แถมตอนนี้เราสองคนกำลังเดตกันอยู่
"นี่ฉันมีแฟนแล้วเหรอ" ฉันส่ายหน้าไปมาเพื่อไล่ความคิดก่อนจะเดินไปอาบน้ำเพื่อทำให้ร่างกายและจิตใจที่ร้อนผ่าวสงบลง
หลังจากอาบน้ำเสร็จจึงเดินไปหยิบขนมของโปรดก่อนจะเดินมานั่งดูทีวีบนโซฟาอย่างที่เคยทำประจำ เสียงเคาะประตูทำให้ฉันขมวดคิ้วก่อนจะหันไปมองประตูบานสีขาว นี่มันก็เกือบหนึ่งทุ่มแล้ว ใครกันที่มาหา ฉันเดินไปเปิดประตูก่อนจะพบร่างสูงที่กำลังส่งยิ้มมาให้
"พี่ติณมีอะไรหรือเปล่าคะ" หมับ!! ฉันเซไปข้างหลังนิดหนึ่งเมื่อร่างสูงเดินเข้ามากอดฉัน สัมผัสถึงความรู้สึกไม่ชอบมาพากล
"อื้อ คิดถึง" ร่างสูงบ่นพึมพำข้างๆหู แถมยังทำท่าทางออดอ้อนอีก ต้องมีแผนอะไรแน่ๆ
"ก็โทรมาสิคะ" ร่างสูงส่ายหน้าก่อนจะพาฉันไปนั่งที่โซฟาพร้อมกับดึงฉันให้นั่งลงบนตัก
"ขอนอนนี่นะ นะครับ" ฉันหรี่ตามองเขาซึ่งเขาก็ใช้สายตาขอร้องส่งมาให้ บอกเลยว่านี่คือครั้งแรกที่เห็นพี่ติณเวอร์ชั่นนี้
"ไม่ได้ค่ะ ทำไมไม่ไปนอนที่คอนโดตัวเองละคะ" เขากอดเอวฉันแน่นขึ้นก่อนจะทำหน้ามุ้ย นี่คือพี่ว้ากที่เคยให้ฉันวิ่งรอบสนามจริงๆใช่ไหม
"ไม่เอา อยากนอนกับที่รักมากกว่า"
"งั้นก็ได้ค่ะ"ร่างสูงเผยยิิ้มออกมาทันทีแววตาระยิบระยับพร้อมกับส่งสายตาเจ้าเล่ห์มาให้
ไม่รีรอ ใบหน้าหล่อก็โน้มเข้ามากดจมูกโด่งลงบนแก้ม "น่ารักจังเลย" ฉันยกยิ้มมุมปากก่อนจะมองร่างสูง
"แต่ พี่ติณต้องมานอนข้างนอกค่ะ" และทันใดนั้นจากสีหน้าดีใจก็เปลี่ยนมาเห็นเศร้าทันที
"ก็ได้ครับ" ร่างสูงปล่อยมือจากเอวฉันก่อนจะนั่งกอดอกดูโทรทัศน์ แล้วไอ้ท่าทางหน้าบึ้งแบบนี้คืออะไร งอนเหรอ
ผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วโมงก็พบว่ามันใกล้เวลาเข้านอนของฉันแล้ว แต่พอหันไปมองร่างสูงข้างๆก็พบว่านอนหลับอยู่ ฉันเดินไปหยิบหมอนกับผ้าห่มมาให้เขาก่อนจะช่วยจัดท่าให้เขานอนสบายมากขึ้น จุ๊ป ฉันจูบปากร่างสูงเบาๆก่อนจะผละออก
"ไม่คิดเลยว่าคนที่ทำให้พราวรู้สึกอบอุ่นจะเป็นพี่ เพราะฉะนั้นห้ามทิ้งพราวนะคะ" ตึก ตึก ฉันเดินเข้ามาในห้องนอนก่อนจะล้มตัวนอน
ผมแตะริมฝีปากตัวเองก่อนจะเผยรอยยิ้มออกมา นี่ผมถูกขโมยจูบเหรอเนี่ย ผมนอนเคาะโซฟาพลางมองนาฬิกาซึ่งพบว่า ห้าทุ่มแล้ว ตึก ตึก แอ๊ด ผมค่อยๆย่องเข้าห้องของพราวไหมซึ่งพบว่ากำลังนอนหลับตาพริ้ม ก่อนจะเดินขึ้นเตียงสอดตัวไปใต้ผ้าห่มผืนหนา
"อื้อ" เสียงคนตัวเล็กที่ดังออกมาก่อนที่เธอจะนอนหันหน้ามาหาผม
"หลับจนไม่รู้ว่ามีคนแอบขึ้นเตียงเลยเหรอ" ผมดึงคนตัวเล็กเข้ามากอด กลิ่นหอมของตัวเธอ มันกระตุ้นบางอย่างในตัวผม ผมค่อยๆจูบปากเธอเบาๆก่อนจะผละออก ก่อนจะเลื่อนไปที่ซอกคอพร้อมกับขบเม้มให้เกิดรอย ผู้ชายคนอื่นเห็นจะได้รู้ว่ามีเจ้าของแล้วและผมก็หวงมาก
"อื้อ" เสียงคนตัวเล็กดังมาอีกครั้งเมื่อผมเลียต้นคอของเธอ ทำให้ผมชะงักทันที ยกมือลูบหน้าตัวเองเรียกสติกลับมา ทำไมมึงกลายเป็นคนแบบนี้เนี่ยไอ้ติณ ลูกเขามีพ่อมีแม่นะ
"เอาเป็นว่าพอแค่นี้ก่อนแล้วกัน ไม่อยากลักหลับคนขี้เซา" ผมยกยิ้มุมปากก่อนจะเดินออกไปนอนที่โซฟาเหมือนเดิม แค่ได้กอดเพียงเสี่ยววิก็พอใจแล้ว
กรี๊ง กรี๊ง ผมลืมตาขึ้นมาก่อนจะกดรับโทรศัพท์
"โทรมาทำไมวะ คนจะหลับจะนอน"
(เห้ย มีเรื่อง ไอ้ตะวันมันเละเลยว่ะ)
"แล้วมึงมาบอกกูทำไมวะไอ้ปลื้ม"
( ที่กูโทรมาบอกมึงก็เพราะว่า มันกำลังมีเรื่องกับผู้ชายกลุ่มหนึ่งอยู่ มึงรีบมาที่ผับ xx เลยนะ) ผมเดินไปหยิบเสื้อแขนยาวก่อนจะเดินออกไปนอกห้องโดยที่ไม่ลืมล็อคประตู
โครม!! ผมเดินเข้ามาข้างในผับได้ไม่ไกลก็เห็นผู้ชายกลุ่มหนึ่งกำลังชกต่อยกันกับไอ้ปลื้มไอ้ไวน์และไอ้ตะวันอยู่ แล้วทำไมต้องมามีเรื่องร้านของป๊าผมด้วยเนี่ย
"ติณช่วยตะวันด้วย" ฟ้าที่วิ่งเข้ามาหาผมด้วยอาการหวาดกลัว
"ฟ้าไปรอที่รถก่อนนะ เดี๋ยวผมจัดการทางนี้เอง" ผมบอกฟ้าก่อนจะเดินไปหาผู้ชายกลุ่มนั้น ซึ่งผมรู้ดีว่าเป็นลูกน้องของพ่อฟ้า
"หยุดทะเลาะกันถ้าไม่อยากให้ผมแจ้งตำรวจ" ปัง เมื่อไม่ท่าทีจะหยุดผมก็เลยยิงปืนออกไปหนึ่งนัดซึ่งทำให้ทั้งสองฝ่ายผละออกจากกัน
"ผมขอโทษครับ แต่มันคือคำสั่งของนาย" ผมหันไปมองลูกน้องของอาดนัยที่กล่าวขอโทษผม
"พวกคุณกลับไปก่อน แล้วฝากบอกอาดนัยด้วยเดี๋ยวผมจะไปส่งฟ้าเอง"
"แต่..."
"งั้นผมจะโทรบอกอาดนัยว่าพวกคุณไม่ได้แค่มาพาตัวฟ้ากลับ แต่มาทำร้ายเพื่อนผม" ตึก ตึก ไม่นานลูกน้องของอาดนัยก็เดินออกไปจากร้าน
"ถ้ามึงมาช้ากว่านี้พวกกูต้องแย่แน่เลย" ผมไม่สนใจได้ปลื้มก่อนจะหันไปมองไอ้ตะวัน
"ตะวันเจ็บมากไหม" เป็นเสียงของฟ้าที่วิ่งเข้ามาช่วยพยุงไอ้ตะวัน
"ไปขึ้นรถเดี๋ยวกูพาไปโรงพยาบาล"
ฉันตื่นขึ้นมาก่อนจะเดินไปดูร่างสูงที่นอนบบนโซฟาแต่กลับไม่เจอ สงสัยจะกลับแล้ว จู่ๆก็มีเสียงสายเรียกเข้า ฉันมองเบอร์แปลกโทรเข้ามาก่อนจะกดรับสาย
*สวัสดีค่ะ"
(พราวไหมใช่ไหม คือตอนนี้ไอ้ติณมันอยู่โรงพยาบาลนะ) หัวใจฉันหล่นวูบทันทีเมื่อฟังน้ำเสียงของคนที่โทรเข้ามา
"พี่ติณเป็นอะไรคะ"
(พอดีมีเรื่องนะ มันก็เลย...)
"งั้นเดี๋ยวหนูจะรีบไปโรงพยาบาลนะคะ" ฉันกดวางสายก่อนจะวิ่งไปยิบกระเป๋าตังค์ พี่ติณอย่าเป็นอะไรนะ
ฉันลงจากรถก่อนจะรีบเดินขึ้นไปโรงพยาบาลที่พี่ติณเคยพาฉันมา จริงๆฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าพี่เขาจะอยู่ที่นี่หรือเปล่า เอ้ะ นั่นพ่อของพี่ติณนี่
"สวัสดีค่ะ"
"เอ้า หนูมาหาเจ้าติณเหรอ" ฉันเผยยิ้มทันที
"ใช่ค่ะ คุณหมอพอจะรู้ไหมคะ ว่าพี่ติณอยู่ห้องไหน"
"อย่าเรียกแบบนั้นสิมันดูห่างเหินเกินไป เรียกพ่อดีกว่า"
"ค่ะคุณพ่อ" ท่านยิ้มให้ฉันก่อนจะชี้ไปทางข้างหน้า
"ติณอยู่ห้อง 223 งั้นพ่อไปทำงานก่อนนะ" และก็เป็นเช่นนั้น พี่ติณอยู่ที่นี่
"ขอบคุณค่ะ" หลังจากที่ฉันรู้ห้องก็รีบเดินไปทันที ฉันกลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีกับเขา
ผมยืนกอดอกมองไอ้ตะวันที่มันยังสลบอยู่ โดยที่มีฟ้านั่งอยู่ข้างๆไอ้ตะวัน ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นก่อนจะเอาไปชาร์จพอดีแบตมันหมด ว่าจะโทรไปบอกยัยตัวเล็กว่าอยู่เฝ้าไอ้ตะวันแต่แบตดันมาหมดก่อนก็เลยขอยืมโทรศัพท์ไอ้ปลื้มโทร แต่จู่ๆ คุณหมอก็เรียกผมไปฟังอาการของไอ้ตะวันก็เลยฝากไอ้ปลื้มโทรบอกยัยตัวเล็ก
"ทำไมไอ้ปลื้มมันไปคุยโทรศัพท์นานจังวะ" ไอ้ไวน์พูดขึ้นทำให้ผมสงสัยขึ้นมาทันที
"เดี๋ยวกูไปดูมันก่อน" ก็กะว่าจะเดินไปหาไอ้ปลื้มว่ามันแอบจีบยัยตัวแสบของผมหรือเปล่า พอผมเปิดประตูก็พบกับกระต่ายน้อยของผมยืนอยู่
หมับ!! "ฮือ พี่ติณเจ็บตรงไหนหรือเปล่า" ผมเลิกคิ้วก่อนจะหันไปมองไอ้ไวน์เมื่อเห็นคนตัวเล็กกอดผมพร้อมกับร้องไห้
"ร้องไห้ทำไม หื้ม พี่ไม่ได้เป็นอะไรซ่ะหน่อย" ผมเช็ดน้ำตาเธอก่อนจะมองหน้าที่เปื้อนไปด้วยน้ำตา
"แต่มีคนโทรมาบอกพราวว่าพี่ติณอยู่โรงพยาบาล พราวก็กลัวว่าเกิดเรื่องไม่ดีกับพี่" ไอ้ปลื้มมันไปทำอะไรให้กระต่ายน้อยของผมเข้าใจผิดได้เนี่ย
"พี่ไม่ได้เป็นอะไร แต่เป็นไอ้ตะวันต่างหาก" พราวไหมขมวดคิ้วก่อนจะมองไปทางคนที่นอนอยู่ ส่วนผมทำได้เพียงปาดน้ำตาออกจากแก้มใสอย่างอ่อนโยน
"เอ้า นางฟ้าของพี่ปลื้ม ทำไมได้มาอยู่ที่นี่ละ" ผมหรี่ตามองไอ้ปลื้มกับคำว่านางฟ้าของพี่ปลื้ม
"แฮ่ เขาล้อเล่นน่า แตะนิดแตะหน่อยไม่ได้เลยนะ"
"น้องพราวไหมใช่ไหม" ฉันส่งยิ้มไปให้พี่ฟ้าก่อนจะยกมือมือไหว้
"สวัสดีคะ หนูชื่อพราวไหมค่ะ"ว่าแต่มองไกล้ๆเธอสวยมากๆเลยละ อืม ว่าแต่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นทำไมพี่ตะวันถึงอยู่ในสภาพนี้ได้
"น่ารักแบบนี้นี่เอง ถึงเปลี่ยนเสือให้เป็นแมวได้"
"น้องพราวไหมไม่น่าไปคบกับไอ้ติณเลย เลิกกับมันแล้วมาคบกับพี่ปลื้มดีกว่า"
"อยากกินลูกปืนสักลูกไหม" ฉันได้แต่ส่ายหน้าให้กับพี่ปลื้มที่ไม่หยุดยั่วโมโหพี่ติณสักที
"ฟ้ากลับบ้านเถอะเดี๋ยวผมไปส่ง" พี่ติณเดินมาจับมือฉันเดินออกจากห้องก่อนจะมีพี่ฟ้าเดินออกมาตาม
รถมาหยุดอยู่ที่บ้านหลังหนึ่งซึ่งมีบอดี้การ์ดล้อมอยู่มากมาย "ขอบคุณนะที่มาส่ง ถ้าตะวันฟื้นรบกวนติณโทรบอกเราด้วยนะ" พี่ติณพยักหน้าให้พี่ฟ้าก่อนจะขับรถออกจากบ้าน
"วันนี้ที่รักมีเรียนตอนไหน"
"มีเรียนบ่ายค่ะ ว่าแต่ทำไมบ้านพี่ฟ้ามีบอดี้การ์ดเยอะจัง หรือว่าพ่อพี่ฟ้าเป็นมาเฟีย" ร่างสูงยื่นมือมายีหัวฉันก่อนจะเปลี่ยนมากุมมือฉันแทน
"ไม่ใช่เรื่องของเด็กไม่ต้องอยากรู้หรอกน่า" ชิ๊ แค่นี้ก็ไม่ยอมบอก
"งั้นมีเรื่องหนึ่งพี่พราวสงสัย และพี่ต้องตอบความจริงพราว" พี่ติณเลิกคิ้วโดยที่สายตายังจับจ้องมองถนน
"สงสัยพี่เรื่องอะไรครับ"
"พี่สามารถมองเห็นวิญญาณได้ใช่ไหม" ฉันขมวดคิ้วทันทีเมื่อพี่ติณยิ้ม
"ทำไมถึงรู้ละ" ฉันคิดไม่ผิดจริงๆ
"ก็ตอนที่พราวจมน้ำ พราวเห็นพี่ติณมองผู้หญิงที่กดไหล่พราว" ต่อจากนั้นฉันก็จำไม่ได้แล้ว
"ใช่ พี่เห็นเธอ แต่ทำไมที่รักถึงรู้ว่าตรงนั้นมีสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็นอยู่ด้วย" อ่า ทำไมเป็นฉันที่ต้องตอบซ่ะงั้นละ
"พราวได้กลิ่นเลือด" แต่ก็แปลกนะเวลาฉันได้กลิ่นธูปฉันมักจะไม่เป็นอะไร หรือว่ากลิ่นเลือดเป็นสิ่งที่บอกว่าฉันอยู่ในอันตราย
"ต่อจากนี้ห้ามออกไปไหนคนเดียว เวลาได้กลิ่นเลือดก็ต้องบอกพี่ เข้าใจไหม" เจอว้ากอีกละ
"ได้ค่ะพ่อ"
"พ่อทูลหัวนะเหรอ"