ฉันมองนาฬิกาที่ข้อมือก็พบว่ามันเกือบ 1 ทุ่มแล้ว แต่เจ้าของห้องดันไม่ยอมให้ฉันกลับ แถมตอนนี้ยังนั่งจ้องฉันอีก ว่าแต่พี่เขาดูแปลกๆนะ
"พี่มีอะไรจะพูดกับหนูหรือเปล่าคะ" และฉันต้องขยับจนชิดโซฟาเมื่อพี่ติณโน้มหน้าเข้ามาใกล้
"ฉันคิดว่าฉัน เป็นไปไม่ได้น่า" ฉันขมวดคิ้วเพราะไม่รู้ว่าพี่ติณพูดกับฉันหรือพูดกับตัวเอง เขาเม้มปากแน่นก่อนจะมองฉันเหมือนกำลังคิดอะไรสักอย่าง
"ฉันคิดว่า...." ฉันเลิกคิ้วเพื่อรอฟังว่าเขาจะพูดอะไร
" คิดว่าอะไรเหรอคะ"
"ฉันคิดว่าฉันควรจะไปส่งเธอได้แล้ว"
"อะ อ๋อค่ะ" ฉันพยักหน้าเข้าใจก่อนจะเดินตามเขาไปที่จอดรถ เขาดูแปลกๆนะ
ไม่นานพี่ติณก็มาส่งฉันจนถึงคอนโด "ขอบคุณนะคะพี่พาหนูไปหาหมอ",
"อืม"เขาตอบแค่ 'อืม' เขาก็ขับรถออกไปทันที ฉันส่ายหน้าเบาๆก่อนจะเดินขึ้นห้อง
ผมขับรถจนมาถึงผับก่อนจะเดินเข้าไปหาพวกไอ้ไวน์ไอ้ปลื้ม พลางคิดเรื่องบางเรื่อง เรื่องที่ผมสงสัยตัวเองทำไมผมต้องเป็นห่วงพราวไหมด้วยทั้งที่ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน
" ขมวดคิ้วมาแต่ไกลเลยนะมึง คิดอะไรอยู่วะ" ไอ้ปลื้มที่ยิงคำถามใส่ผม ว่าแต่ผมควรปรึกษามันดีไหม
"เวลามีผู้ชายมาคุยกับน้องจู่ๆกูก็รู้สึกหงุดหงิด กูอยากให้น้องยิ้มให้กูแค่คนเดียว เวลาอยู่ใกล้น้อง กูรู้สึกมีความสุข เวลาไม่เจอหน้าน้องเหมือนกูขาดอะไรสักอย่างในชีวิต มึงว่ากูเป็นอะไรวะ" พวกมันนั่งอ้าปากค้างก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มแปลกๆ
"ไม่เห็นจะยากเลย มึงก็แค่ชอบน้อง ไม่สิอาจจะรัก"
" รัก" เป็นไปไม่ได้น่า ผมเนี่ยนะรักน้อง
" เออ ว่าแต่น้องที่มึงหมายถึงคือใครวะ" ผมหันไปมองไอ้ปลื้มก่อนจะเบือนหน้าหนี
" น้องพราวไหมไง มึงโง่จังนะไอ้ปลื้มแค่นี้ก็คิดไม่ได้" เสียงไอ้ไวน์ทำให้ไอ้ปลื้มยกมือปิดปากทันที
" นี่มึงชอบน้องนางฟ้าของกูเหรอวะ โถ่ น้องพราวไหมของพี่ปลื้มช่างโชคร้ายจริงๆ" ควับ!!! ผมหันไปมองไอ้ปลื้มด้วยสายนิ่งๆก่อนที่มันจะหุบยิ้ม
"กูก็แค่ล้อเล่นน่า ทำเป็นหวง"
" ติณ" เสียงผู้หญิงคนหนึ่งที่เรียกชื่อผมก่อนจะหันไปพบกับ ฟ้า ซึ่งเธอคือรักแรกของผม แทนที่จะทำให้ผมรู้สึกดี แต่กลับทำให้ผมรู้สึกเบื่อและไม่อยากเจอ
"เอ้าฟ้า กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่" เสียงไอ้ปลื้มที่แทรกขึ้นเพื่อไม่ให้บรรยากาศมันอึดอัด
" ฟ้ากลับมาได้สักพักแล้วค่ะ"
"ฟ้าดีใจมากๆเลยที่ได้เจอติณ ติณสบายดีไหม"
"อืม ฉันสบายดี งั้นขอตัวก่อนนะ" ผมพูดก่อนจะเดินออกจากผับทันที ผมแค่ยังไม่พร้อมที่จะเจอหน้าฟ้าตอนนี้
เช้าที่สดใส แสงแดดอ่อนๆตกกระทบต้นไม้ทอดยาวเป็นร่มเงา ฉันค่อยๆปั่นจักรยานไปตามถนนสวนสาธารณะเรื่อยเปื่อย เพราะว่าวันนี้เป็นวันหยุดของฉัน งั้นก็ขอออกมาเล่นข้างนอกหน่อยก็แล้วกัน
" ว้าว สดชื่นจัง" ฉันปั่นจักรยานพร้อมกับกางแขนข้างหนึ่งออกเพื่อรับลม ก่อนจะหยุดรถแล้วเดินไปนั่งโต๊ะริมแม่น้ำ
"สวยจัง" ฉันพิงโต๊ะก่อนจะหลับตาลง
"ว้าวหอมจัง ถ้าฉันได้กลิ่นแบบนี้ทุกเช้าก็คงจะดีสิ" ฉันสูดกลิ่นหอมๆ ก่อนจะขมวดคิ้วสงสัย ปกติฉันได้แค่กลิ่นธูปนี่ แต่จะว่าไปกลิ่นนี้มันเหมือน
"หอมมากเลยเหรอ หื้ม" ฉันลืมตาขึ้นก่อนจะพบกับร่างสูงที่โน้มหน้าจนจมูกเกือบชนกัน
"พะ พี่ติณมาได้ยังไงคะ" เขายิ้มก่อนจะเดินมานั่งข้างๆฉัน
" ทำไมเราถึงได้กลิ่นพี่" ห้ะ เขาแทนตัวเองว่าพี่ ฉันไม่ได้หูเพี้ยนไปใช่ไหม
"นะ หนูก็สงสัยเหมือนกันทำไมถึงได้กลิ่นพี่ติณ"
"สงสัยชาติก่อนพี่คงจะเป็นเจ้านายพราวแน่ๆ ฮาๆ" นี่เขาว่าฉันเป็นหมาเหรอ แต่จะว่าไปเวลาเขายิ้มก็น่ารักดีนะ แถมลักยิ้มของเขาทำให้ดูมีเสน่ห์ขึ้นไปอีก
"มองหน้าพี่แบบนั้น คิดอะไรกับพี่หรือเปล่า"
"ค่ะ" คำตอบของฉันทำให้พี่ติณชะงักทันที
" หนูแค่คิดว่า เวลาพี่ติณยิ้มน่ารักมากกว่าทำหน้าโหดอีก" จู่ๆ เขาก็หุบยิ้มก่อนจะโน้มหน้ามาหาฉัน
"งั้นพี่จะยิ้มให้เราแค่คนเดียว เพราะพราวคือคนพิเศษ" ฉันชะงักไปเสี่ยววิ ให้กับคำพูดของพี่ติณ ทำไมวันนี้พี่เขามาแบบแปลกๆ หรือว่ากินยาลืมเขย่าขวด
"พี่พูดเล่นน่ะ ทำเป็น งง ไปได้ เหมือนไม่เคยถูกสารภาพรักอย่างงั้นแหละ"
" คะ พี่ติณพูดว่าอะไรนะคะ" คือฉันได้ยินชัดแต่คำว่าพูดเล่น ส่วนประโยคหลังไม่ได้ยินเพราะพี่เขาพูดเบาเกินไป
"เปล่านิ" เขาหยักไหล่ก่อนจะนั่งกอดอกมองแม่น้ำ
"งั้นเราไปขี่จักรยานเล่นดีไหมคะ" เมื่อบรรยากาศเริ่มเงียบ ฉันจึงรีบเอ่ยปากชวนพี่ติณ หมับ ไม่รอให้พี่ติณได้ปฏิเสษฉันจึงรีบจูงมือเขามาที่รถจักรยานทันที
"ขึ้นเลยค่ะ เดี๋ยวหนูจะพาเที่ยวชมสวนสาธารณะเอง" พี่ติณยิ้มก่อนจะขึ้นนั่งซ้อนท้ายฉัน
"จอด" ฉันปั่นได้ไม่นานก่อนที่ร่างสูงจะบอกให้ฉันจอดแล้วเดินมาขับแทนฉัน
"กอดไว้แน่นๆ ห้ามปล่อย" ร่างสูงปั่นจักรยานไปเรื่อยๆก่อนจะดึงมือฉันทั้งสองไปกอดเขาพร้อมกับกุมมือฉันไว้
"เอ่อ คือว่า... "และฉันต้องหยุดพูดเมื่อเขาบีบมือฉันก่อนจะคลายออกเป็นเชิงห้ามให้ฉันพูด ตึกตัก ตึกตัก ว้า ทำไมหัวใจเต้นแรงขนาดนี้เนี่ย
ผมปั่นจักรยานจนมาถึงสวนดอกทานตะวัน ก่อนจะจอดจักรยานแล้วจูงมือพราวไหมให้เดินตาม
"ไม่คิดเลยว่าจะมีสถานที่แบบนี้ด้วย" พราวไหมเดินไปดมดอกทานตะวันพร้อมกับทำหน้าเศร้า ก่อนจะเดินมาหยุดอยู่หน้าผม
"เป็นอะไรหรือเปล่า" เธอทำหน้ามุ้ยก่อนจะมองผม
"ถ้าหนูได้กลิ่นมันก็คงจะดี อืม งั้นไปตลาดตอนเช้าดีกว่า" ผมเลิกคิ้วก่อนจะเดินตามคนตัวเล็กไป
ไม่นานเราสองคนก็ถึงตลาด ผมเดินตามคนตัวเล็กไปเรื่อยๆก่อนจะมาหยุดอยู่ร้านขนมสายไหม
"พี่ติณเอาด้วยไหมคะ"
"ไม่ พี่ไม่ชอบกินหวาน"
" งั้นก็ตามใจค่ะ แต่อร่อยนะ ไม่คิดจะลองหน่อยเหรอ" ผมมองสายไหมที่ติดริมฝีปากของคนตัวเล็ก ริมฝีปากสวยอมชมพู ดูแล้วมันน่ากัดเล่นจริงๆ เห้ย แกคิดอะไรของแกวะไอ้ติณ
"พี่ติณ เป็นอะไรหรือเปล่า พี่ดูเหม่อๆนะ" ผมหลุดจากภวังค์ก่อนจะมองคนตัวเล็กที่กำลังเลียริมฝีปากตัวเอง ตึกตัก ตึกตัก ผมรีบเบือนหน้าหนีทันที ก่อนที่ผมจะคิดไปไกลมากกว่านี้
"เปล่า ไม่ได้เป็นอะไร" ตึก ตึก ผมรีบเดินออกไปทันที
หมับ!! "พี่ติณ ไปตรงนั้นดีกว่าค่ะ" ผมมองข้อมือตัวเองที่มีคนตัวเล็กจับไว้อยู่พร้อมกับลากผมให้มาหยุดอยู่ตรงร้านลูกชิ้นปิ้ง
"ร้านนี้อร่อยนะคะ" ผมหยิบลูกชิ้นมาไม้หนึ่งก่อนจะลองกินดู มันก็อร่อยดีนะ จะว่าไปผมก็อดสงสัยไม่ได้ คุณหนูอย่างพราวไหมแทนที่จะไปกินอาหารหรูๆแต่นี่กลับมากินลูกชิ้นข้างทาง ไม่เหมือนกับผู้หญิงที่ผมเคยควงที่กินแต่อาหารหรูๆแพงๆ
"ไม่อร่อยเหรอคะ" อึก ตึดตัก ตึกตัก จู่ๆ เธอก็ยืดตัวมากินลูกชิ้นที่มือของผม ซึ่งทำให้ผมมองริมฝีปากเธอชัดขึ้นเพราะหน้าเราอยู่ใกล้กันมาก น้องเซกซี่มากเลย อ่า เธอกำลังทำให้ผมอยากจับเธอกดอยู่นะ
"ก็อร่อยนะคะ พี่ติณเป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมยืนนิ่งแบบนั้น" เธอมันยัยแม่มด
" แค่จิ้มน้ำจิ้มเยอะเกินไปก็เลยเผ็ด"