ตอนที่ 4

1111 คำ
“ไม่นะ อย่าทำหนู หนูกลัวแล้วอย่าตีหนูเลย” “อย่ามายุ่งเรื่องของกู กูจะมีเมียน้อยใครจะทำไม!” “อย่าทำลูก มึงทำลูกทำไมไอ้เลว ไสหัวไปหาเมียใหม่มึงเลยไป!”   ไม่จริง อะไรกัน ทุกอย่างเข้ามาในหัวจนแทบทานทนไม่ไหว ร่างเล็กสั่นเทาความกลัวเข้าแทรก พลอยภัทราไม่อาจทานทนและสลบไปในที่สุด ร่างเล็กล้มลงทรุดกองกับพื้นนิ่งสนิทไม่ไหวติง “พลอย!”มิรินร้องเรียก เต็มเดือนตกใจ เธอยังไม่ได้ทำอะไรเพื่อนร่วมห้องแค่จิกผมเท่านั้นเอง “ฉันไม่ได้ทำอะไรมันนะ มันเป็นลมเอง!”เต็มเดือนบอกแล้ววิ่งหนีออกจากตรงนั้นไป มิรินรีบเข้าประคองเพื่อนตะโกนเรียกให้คนช่วย จนกระทั่งพี่ชายมาเข้าห้องน้ำพอดี เวธัสตรงเข้าอุ้มเพื่อนน้องสาวไปยังห้องพยาบาลทันที พี่น้องช่วยกันนั่งเฝ้าด้วยความเป็นห่วง “เพื่อนไม่เป็นไรหรอก แค่เป็นลมเท่านั้นเอง”คุณครูบอก เพราะเห็นสีหน้านักเรียนไม่สู้ดี “พลอยคงไม่เป็นไรแล้วล่ะ พี่ไปเรียนก่อนนะ” “อืม”เขาลุกยืนหันมองเพื่อนน้องสาวอีกครั้ง แล้วเดินออกจากห้องพยาบาลไป   เกือบสองชั่วโมงคนเป็นลมเลยรู้สึกตัว พลอยภัทราค่อยๆ ชันกายลุกนั่ง สาวน้อยวัยแรกรุ่นยกมือกุมขมับ ภาพที่เห็นราวกับฝันร้ายไม่อยากนึกถึงอีกแล้ว มือเพื่อนสะกิดแผ่นหลัง จนเธอสะดุ้งโหย่งด้วยความตกใจหันมาสบตามิรินน้ำตาคลอหน่วย ดวงตาเรียวมองเพื่อน ไม่เข้าใจได้ยิน เห็นภาพเหล่านั้นได้อย่างไร ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลย มันน่ากลัวเหลือเกิน หรือสิ่งที่เกิดเป็นเพียงเรื่องบังเอิญเท่านั้น ฝันหรือจินตนาการไปเอง “พลอยเป็นอะไร”มิรินถามเมื่อเห็นน้ำตาเพื่อน “ปะ...เปล่าริน พลอยไม่ได้เป็นอะไร” “ถ้าไม่เป็นอะไรทำไมทำหน้าแบบนั้น”มิรินสงสัย “ริน ถ้าพลอยบอกอะไร รินอย่าบอกใครนะ” คนฟังขมวดคิ้วสงสัย หรือเพื่อนจะตกใจมาก “รินไม่บอกหรอก ถ้าพลอยให้เก็บเป็นความลับ ตกลงเป็นอะไรกันแน่” พลอยภัทรานิ่งอึดใจแล้วขยับปาก “พลอยเห็นภาพพ่อแม่แล้วก็เต็มเดือนทะเลาะกัน ได้ยินเสียง เหมือนไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นเอง” เธอจ้องเพื่อตาวาว “หรือสิ่งที่พลอยเห็นมันคือความจริง” มิรินหัวเราะลั่นออกมา แล้วตบไหล่เพื่อน “เธอกลัวยัยเดือนมากไปเปล่า เลยคิดไปเองน่ะ” “ไม่ใช่นะ พลอยไม่ได้กลัวเดือน”เธอรีบปฏิเสธ “ถ้าไม่ได้กลัวแสดงว่าพลอยคิดมาก หรือถ้าพลอยอยากพิสูจน์กล้าถามเดือนมันปะล่ะ ดีไม่ดีมันจะหาเรื่องตบพวกเราอีก” พลอยภัทราคิดอย่างเช่นที่เพื่อนพูด ใครจะกล้าถาม แต่ภาพที่เห็นพ่อและแม่ของเต็มเดือนทะเลาะกัน สาเหตุอาจมาจากมารดาเธอเกี่ยวข้อง พอคิดแบบนี้เลยเข้าใจว่าทำไมเพื่อนร่วมห้องถึงได้เกลียดเธอนัก “อืม เข้าใจแล้วริน พลอยคงคิดมากไปเอง” “หายแล้วใช่ไหมพลอย ได้เวลากลับบ้านแล้ว” “จ้ะ” เด็กสาวสองคนเดินออกจากห้องพยาบาล พลอยภัทราพยายามสลัดความคิดทั้งหมดออกไป หรือสิ่งที่เธอเห็นเป็นเพียงแค่ความฝัน หรือจิตนาการที่ตนเองสร้างเท่านั้น   รถยนต์จอดเทียบหน้าบ้านพลอยภัทราลงแล้วยกมือกระพุ่มไหว้คุณลุงวิรุตม์แล้วเดินกลับมายังบ้านตนเอง ประตูรั้วไม่ได้ใส่กุญแจเด็กสาวยิ้มกว้าง แม่คงอยู่บ้าน เมื่อก้าวเข้ามาด้านในเห็นมารดานอนอยู่บนโซฟาด้านหน้าโต๊ะรับแขกมีแก้วน้ำดื่มกับยาแก้ไข เด็กสาวย่อกายลงมองดูใบหน้าอันซีดเซียวของแม่ ไม่รู้ว่าตนเองควรทำอะไรดี ก่อนตัดสินใจยกมือทาบหน้าผากรับจึงรับรู้ถึงความร้อน พลอยภัทรารีบเดินไปหลังครัวนำกะละมังใส่น้ำกับผ้าขนหนูมาชุบแล้วเช็ดตามแขน ใบหน้า ของมารดาเพื่อคลายความร้อน แต่ทว่าบางอย่างกลับแทรกเข้ามา เมื่อมือซ้ายเธอสัมผัสท่อนแขนมารดา ภาพมากมายผุดเต็มหัว เด็กสาวชะงักดวงตาเบิกกว้าง  ร่างเล็กผงะถอยหลังก้นกระแทกพื้น น้ำตาเริ่มไหลรินออกมา สิ่งที่ชาวบ้านนินทามันเป็นความจริงหรือนี่ ไม่จริงบางทีภาพเหล่านั้นมันคือจินตนาการด้านลบภายใต้จิตสำนึกของเธอเท่านั้น แม่... ไม่ใช่คนแบบนั้น แต่ทำไมถึงมีภาพพ่อของเต็มเดือนโผล่เข้ามาด้วย “กลับมาแล้วเหรอพลอย”เสียงมารดาทำให้เด็กสาวหลุกจากภวังค์ ดวงตาเรียวสวยมองแม่ด้วยความปวดร้าว คนเป็นแม่ปรือตามอง “เป็นอะไรพลอย” “ปะ...เปล่าจ้ะแม่” “กินข้าวหรือยัง แม่ทำกับข้าวไว้ในครัวไปหากินเอานะ” “จ้ะแม่” “มีการบ้านหรือเปล่า อย่าลืมทำด้วยล่ะ” “มีจ้ะแม่ เดี๋ยวพลอยทำ” พลอยภัทรากัดริมฝีปาก “แม่ไม่สบายกินอะไรหรือยัง ให้พลอยทำข้าวต้มให้ไหม” “ไม่เป็นไรแกไปกินข้าวทำการบ้านเถอะ แม่กินเรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวก็หาย” เธอแทบไม่เคยเห็นแม่ป่วยเลย แต่ดูจากสีหน้าแม่คงเหนื่อยมาก พลอยภัทราลุกยืนเธอไม่อยากขัดใจเพราะเกรงแม่จะดุเอา แต่ในใจกลับสะดุดภาพที่เห็นก่อนหน้าไม่อาจละความรู้สึกเจ็บปวดออกไปได้เลย สิ่งที่เธอเห็นมาจากอะไรกันแน่ เท่าที่จำได้ทันทีมือซ้ายหลุดจากท่อนแขนแม่ภาพทุกอย่างมันหายไป ยกมือขึ้นมองสีหน้าไม่สบายใจ หวังว่าคงไม่ใช่อย่างที่คิดหรอกนะ เกือบสี่ทุ่มร่างเล็กเดินมาดูมารดาอีกครั้ง เห็นยังคงนอนอยู่ที่เดิมไม่มีทีท่าว่าจะฟื้นจากอาการเจ็บป่วย เธอรู้สึกเป็นห่วง ร่างเล็กเดินมาหยุดยืนมือทาบหน้าผากแม่เหมือนอาการจะทรุดลงมากกว่าเดิมเสียอีก ทำยังไงดีคงไม่ดีแน่หากไข้ขึ้นมากกว่านี้ เด็กสาววิ่งตรงไปยังข้างบ้านเห็นปิดไฟเรียบร้อยเดินวนเวียนอยู่ตรงนั้นด้วยความกังวล มองกริ่งหน้าบ้านยกมือหลายครั้งแต่ไม่กล้า สุดท้ายตัดสินใจกดลง แล้วรอ... แสงไฟในบ้านเริ่มสว่าง ร่างสูงโปร่งเดินออกมาเห็นเพื่อนลูกสาวยืนอยู่ “อ้าวพลอยมีอะไรลูก”วิรุตม์ถาม “คุณลุง แม่พลอยไม่สบายค่ะ” “ไม่สบายเหรอ” “ค่ะ” จารุนีสาวเท้าออกมายืนข้างสามี “มีอะไรคะคุณ” “คุณพิมลไม่สบายน่ะสิ”วิรุตม์บอกภรรยาเสียงเครียด “พาป้าไปดูหน่อยสิลูก”จารุนีอาสา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม