“จวบจนข้าอายุได้สิบเจ็ด โชคชะตาก็พัดพาบุรุษผู้หนึ่งเข้ามาในชีวิตข้า คนผู้นั้นสูงส่งด้วยยศศักดิ์ มากไปด้วยอำนาจบารมี เขาช่วยชีวิตข้าไว้ แน่นอนว่าหลังจากนั้นข้าก็หลงรักเขา คนคนหนึ่งที่ให้ความสำคัญกับข้ามากกว่าที่ข้าเคยได้รับมาในชีวิต” “หลังจากนั้นข้าก็แต่งให้เขา คิดวาดฝันไว้ว่าหลังจากนี้ชีวิตคงได้พบเจอแต่ความสุข อนาคตข้างหน้าสดใสจนใครก็ตามที่เคยละเลยข้า หลงลืมข้าต้องหันกลับมามองข้า แล้วมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ บิดามารดาข้าดีใจมากที่ข้าได้แต่งงานกับบุรุษผู้นั้น ผู้หญิงหลายสิบคนในเมืองต่างอิจฉาข้า ทว่าสุดท้ายทุกอย่างก็พังทลายลงไปภายในสองปีกว่าๆ” เล่ามาถึงตรงนี้หลานหลีเกอก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่อีกต่อไป หยดน้ำใสๆ ไหลลงอาบแก้มนวลหยดแล้วหยดเล่า เสียงสะอื้นเริ่มดังขึ้นทุกขณะ ในขณะที่คนบนหลังคาแทบจะหยุดลมหายใจของตัวเองไว้ตั้งแต่ที่ได้ยินหลานหลีเกอเอ่ยเล่าประโยคแรก ข้าหรือ? ...ข้าก็คือคนบาปคนหนึ่งอย