ตอนที่ 3

2009 คำ
สามวันต่อมา หลังจากที่พายุและอัคคีพูดคุยตกลงกันแล้วว่าจะทำยังไงกับคนที่ทำให้น้องน้อยของพวกเขาต้องเจ็บช้ำระกำใจอุ้มท้องลูกน้อยกลับมาหาพี่ชายทั้งสองที่ไร่ฤทธิ์ธิเดช ไร่ที่เป็นที่รักของทั้งสามคนพี่น้อง พ่อเลี้ยงพายุทรุดร่างสูงใหญ่ลงนั่งพิงพนักเก้าอี้ในห้องทำงานอย่างใช้ความคิด ใบหน้าคมเข้มหันมองออกไปที่นอกหน้าต่าง ดวงตาสีนิลกาฬมองออกไปยังส่วนที่เป็นไร่กาแฟและไร่ชาของเขาที่กินพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลบนดอยสูง ซึ่งที่ดินทั้งหมดเป็นของพวกเขาพี่น้องทั้งสามคน โดยพื้นที่ของพายุนั้นทำไร่กาแฟและปลูกชาอยู่หลายสายพันธุ์ และชาที่เขานำมาปลูกนั้นก็ล้วนแล้วแต่เป็นชาพันธุ์ดีๆ ก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นชาเขียว ชาไป๋ห่าวหยินเซนซึ่งเป็นชาขาวที่มีคุณภาพดีที่สุด ไม่เว้นแม้แต่ชาพันธุ์อู่หลงก้านอ่อน ภายในไร่ของพายุก็มีเช่นกัน เพียงแค่รายได้ในส่วนของพายุก็มากมายมหาศาลมากพออยู่แล้ว นี่ยังไม่นับรวมรายได้ของอัคคีและชลธิชาเข้ามาด้วย ฉะนั้นจึงไม่น่าแปลกในที่สาวน้อยสาวใหญ่ต่างต้องการที่จะได้ครอบครองหัวใจของพ่อเลี้ยงพายุคนนี้เป็นยิ่งนัก อัคคีนั้นสนใจทำรีสอร์ตและไร่ส้มกับสตรอเบอรี่เป็นอย่างมาก แถมยังชอบเข้าป่าทำตัวเหมือนนายพรานคอยออกตรวจตราสำรวจพื้นที่ของครอบครัวที่ยังมีเหลืออยู่อีกมากซึ่งยังไม่ได้ทำการบุกเบิกจัดการให้เรียบร้อย เวลาส่วนใหญ่ของอัคคีหมดไปกับการเข้าป่าเสียส่วนใหญ่ แต่เขาก็ไม่เคยบกพร่องต่องานที่รับผิดชอบเลยแม้แต่ครั้งเดียว ส่วนชลธิชาน้องน้อยของพวกเขาชอบปลูกดอกไม้ พายุจึงปรับสภาพดินและทำไร่กุหลาบและปลูกพวกดอกไม้เมืองหนาวเพื่อให้เหมาะกับอากาศของทางภาคเหนือ ไร่ฤทธิ์ธิเดชจึงกลายเป็นไร่ที่มีขนาดใหญ่และเป็นแหล่งของคนที่อยากได้งานทำอยู่เป็นจำนวนมากไปโดยปริยาย แต่ไร่แห่งนี้ก็มีกฎที่เข้มงวดมากตามขนาดของไร่ไปด้วยเช่นกัน ก่อนที่อัคคีจะพูดทำลายความเงียบขึ้นมา “พี่พายุ เรื่องนี้ให้ผมไปจัดการกับมันเถอะ ไม่ต้องให้ถึงมือของพี่หรอก” อัคคีพูดออกมาเสียงเข้ม ดวงตาลุกโชนด้วยความโกรธแค้นหมายที่จะไปจัดการกับไอ้ผู้ชายสารเลวที่มันทำร้ายและทำลายน้องสาวอันเป็นที่รักของพวกเขา พ่อเลี้ยงปรายตามองน้องชายเจ้าอารมณ์ที่ยืนอยู่ตรงหน้าอย่างชั่งใจก่อนจะพูดขึ้น “แกจัดการเรื่องนี้ไม่ได้หรอก อารมณ์อย่างแกถ้าให้ไปจัดการเรื่องนี้พี่ว่ามันจะพังไม่เป็นท่าซะละมากกว่า” พายุบอกน้องชายออกไป “แต่ผมอยากจะสั่งสอนไอ้สารเลวนั่น!” อัคคียังยืนยันที่จะเป็นคนจัดการเรื่องนี้เอง เขาอยากจะชกหน้าของไอ้ผู้ชายสารเลวคนนั้นให้สมแค้น “ไม่ได้! เรื่องนี้พี่จะเป็นคนจัดการกับมันเอง” พายุพูดสั่งเสียงดุออกมา “ครับ...พี่พายุ อัคคีจึงต้องยอมจำนนกับคำสั่งของพี่ชายคนโต หากลองว่าพี่ชายของเขาออกคำสั่งมาแบบนี้ต่อให้อ้อนวอนขอร้องยังไงรับรองว่าไม่มีทางได้สมหวังอย่างแน่นอน ก่อนจะถามต่อ “แล้วพี่พายุจะจัดการกับไอ้เลวนั่นยังไงล่ะ” อัคคีถามคนเป็นพี่ด้วยความอยากรู้ พายุหันมามองหน้าน้องชายเต็มๆ แล้วพูดขึ้นว่า “พี่จะไม่จัดการกับมันโดยตรงหรอกอัคคี ในเมื่อมันเห็นผู้หญิงคนอื่นดีกว่าธิชาของเรา พี่ก็จะทำให้มันเห็นว่าผู้หญิงที่มันเลือกน่ะ ไม่ได้มีค่าอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว นายลองคิดดูสิว่าถ้าถึงวันแต่งงานของมันแล้วอยู่ๆ เจ้าสาวของมันเกิดหายตัวขึ้นมาในวันงานนั้นมันจะทำหน้ายังไง” อัคคีเมื่อได้ฟังแผนการของพี่ชายก็รู้สึกขัดใจ ความคิดของเขาขัดแย้งกับพี่ชายอย่างสิ้นเชิง “ผมไม่เห็นด้วยเลยที่พี่พายุจะไม่จัดการกับไอ้เลวนั่น แต่กลับจะไปจัดการกับผู้หญิงที่มันจะแต่งงานด้วยแทน” “แต่พี่จะใช้วิธีนี้ แกไม่เห็นด้วยพี่ก็ไม่สน แต่พี่จะทำ เพราะว่าพี่ต้องการให้มันเจ็บปวดตรงนี้ ตรงที่หัวใจของไอ้ผู้ชายสารเลวคนนั้น” พายุบอกออกมาเสียงเหี้ยมเกรียมพร้อมกับใช้นิ้วจิ้มลงไปที่หน้าอกของตนเองตำแหน่งที่ตั้งของหัวใจ ก่อนจะพูดต่ออีก “ในเมื่อมันทำให้หัวใจของพวกเราต้องเจ็บปวดมันก็ควรที่จะได้รับรู้ความรู้สึกนี้ด้วยเช่นกัน” อัคคีเห็นความมุ่งมั่นของคนเป็นพี่แล้วก็ต้องยอมถอย แม้ว่าจะไม่เห็นด้วยสักเท่าไหร่ แต่ก็คงจะค้านอะไรไม่ได้ ลองว่าพ่อเลี้ยงพายุมีอารมณ์เกรี้ยวกราดแสดงออกมาถึงขนาดนี้แล้ว น้องชายอย่างเขาก็คงที่จะต้องยอม อะไรจะเกิดก็คงต้องปล่อยให้เกิดไป “ถ้าอย่างนั้นเพื่อกันความผิดพลาดพี่พายุก็ควรที่จะต้องรู้จักหน้าตาของผู้หญิงคนนั้นไว้ก่อน เดี๋ยวจะไปคว้าผิดตัวเอาได้” อัคคีพูดจบก็เดินไปหยิบหนังสือพิมพ์ที่ถือติดมือเข้ามาในห้องทำงานของพี่ชายออกมาจากด้านหลังที่ชายหนุ่มเหน็บมันเอาไว้ ก่อนจะวางลงแล้วเปิดไปยังหน้าข่าวสังคมทันที นิ้วเรียวใหญ่ของอัคคีจิ้มไปที่กรอบข่าวที่ต้องการ ดวงตาสีนิลกาฬของพ่อเลี้ยงพายุจ้องเขม็งกับกรอบข่าวตรงหน้า มือใหญ่ของชายหนุ่มยกหนังสือพิมพ์ขึ้นมาดูใกล้ๆ ก่อนที่ริมฝีปากหนาจะขยับอ่านข้อความใต้ภาพนั้นว่า “อุรวรา สิงห์ไพศาล ว่าที่เจ้าสาวคนสวยของกันต์ รังสีภิรมย์กลับมาแล้ว” พูดจบดวงตาสีนิลกาฬก็จ้องมองภาพหญิงสาวที่ยืนให้ช่างภาพถ่ายภาพไว้ในงานเปิดร้านเพชรงานหนึ่ง พ่อเลี้ยงพายุมองภาพของหญิงสาวที่เป็นเป้าหมายของตนอย่างไม่วางตา หัวใจของพ่อเลี้ยงกระตุกวาบขึ้นมาทันทีที่เห็นภาพถ่ายของหญิงสาว เขายอมรับว่าหญิงสาวในรูปนั้นสวยมากจริงๆ ก่อนจะพูดออกมาว่า “แล้วเราจะได้พบกันเร็วๆ นี้...อุรวรา” ทันใดนั้นเอง กรี๊ดดดดดดดดดดดดด เสียงกรีดร้องดังก้องออกมาจากอีกฟากหนึ่งของตัวบ้าน ทำให้สองพี่น้องรีบวิ่งออกมาจากห้องทำงานอย่างรวดเร็ว “เกิดอะไรขึ้น!”ทั้งพายุและอัคคีต่างถามออกมาพร้อมกัน ก่อนจะเห็นร่างของป้าสายนั่งร้องห่มร้องไห้อยู่กับพื้นห้องตรงหน้าห้องนอนของธิชาน้องน้อยของเขา “ธิชา!ธิชา!”สองพี่น้องเรียกชื่อน้องสาวเพียงคนเดียวจนเสียงหลง ก่อนจะมาหยุดยืนอยู่หน้าห้องอย่างตกตะลึงเมื่อเห็นน้องสาวคนเดียวของทั้งสองผูกคอตาย ร่างห้อยต่องแต่งอยู่บนขื่อไม้บนเพดาน “ไม่!!!!ธิชา!!!”ทั้งพายุและอัคคีต่างตะโกนออกมาจนสุดเสียง สองคนพี่น้องรีบเข้าไปหาร่างอันไร้วิญญาณของน้องสาวตรงหน้า พลางรีบเร่งช่วยกันตัดเชือกนำร่างลงมาก่อนจะพากันกอดร่างอันไร้วิญญาณเอาไว้แนบอก พายุและอัคคีต่างร่ำไห้ออกมาด้วยความโศกเศร้าเสียใจอย่างยิ่งยวด “ทำไมถึงคิดสั้นแบบนี้ธิชา! ฆ่าตัวตายแล้วมันได้ประโยชน์อะไรขึ้นมา ทำไมต้องเอาชีวิตของน้องและลูกไปทิ้งกับไอ้ผู้ชายลวงโลกแบบนั้น ทำไม!”พายุพร่ำบอกน้องสาวที่เหลือเพียงร่างอันไร้วิญญาณ หยาดน้ำตาแห่งความเสียใจหลั่งรินไม่ขาดสายเมื่อน้องน้อยตัดสินใจทำลายชีวิตของตัวเองและลูกเช่นนั้น “ทำไมน้องถึงทำแบบนี้ ทิ้งพวกพี่ไปทำไมธิชา! ทิ้งพี่สองคนไปทำไม!”อัคคีพูดกับร่างไร้วิญญาณของน้องน้อยพลางลูบศีรษะไปมา สองคนพี่น้องกอดร่างอันไร้วิญญาณของน้องสาวด้วยความรันทดและเสียใจเป็นที่สุดอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ 2 สัปดาห์ผ่านไป ร่างสูงใหญ่ของพายุและอัคคีสองพี่น้องแห่งไร่ฤทธิ์ธิเดช ยืนมองรูปถ่ายของน้องสาวซึ่งติดอยู่บนที่เก็บอัฐิธาตุประจำตระกูลในวัด หญิงสาวพร้อมลูกในท้องเหลือเพียงเถ้าถุลีและหลับอย่างเป็นสุขชั่วนิรันดร กระดูกบางส่วนนำมาเก็บไว้รวมกับพ่อและแม่ในเจดีย์ “ธิชา! ป่านนี้น้องคงจะได้พบพ่อกับแม่แล้วนะ ต่อไปนี้ไม่ต้องพบกับความเจ็บปวดอีกต่อไปแล้ว”อัคคีพูดเสียงสั่นเมื่อมองไปที่รูปถ่ายของน้องสาวที่มีใบหน้าใสซื่อบริสุทธิ์ ร่างสูงของพายุยืนนิ่งไม่ไหวติงแม้แต่น้อย ดวงตายังคงแดงก่ำด้วยความเสียใจเพราะรักน้องน้อยของเค้ามากไม่ต่างไปจากอัคคี “พี่สัญญาธิชา! ว่าไอ้ผู้ชายคนนั้นมันจะต้องได้รับการชดใช้อย่างสาสม มัน! และผู้หญิงของมัน! จะต้องได้รับความเจ็บปวดและทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสมากกว่าที่มันทำไว้กับน้องเป็นร้อยๆเท่า พี่สองคนจะทำให้พวกมันรู้ว่าความเจ็บปวดเป็นอย่างไง!” เวลาผ่านไปอย่างเนิ่นนานสองพี่น้องค่อยๆ เดินออกจากวัดอย่างเงียบๆ ก่อนจะได้ยินเสียงของอัคคีถามพี่ชายคนโตของเขา “เราจะเริ่มลงมือไอ้คนที่ทำกับธิชาเมื่อไรพี่พายุ” “เดี๋ยวนี้เลย!”พ่อเลี้ยงหนุ่มตอบน้องชายกลับไปทันที ทำให้แววตาที่โศกเศร้าเมื่อครู่ที่ผ่านมาของอัคคีลุกโชนขึ้นมาทันใด ก่อนจะได้ยินเสียงพี่ชายสั่งกำชับ “เราสองคนแยกย้ายกันทำตามแผนที่วางไว้ จัดการพวกมันทีละคน หลังจากได้พวกมันมาแล้ว ความทรมานที่พวกมันจะได้รับจะเริ่มต้นขึ้น”พ่อเลี้ยงพายุพูดเสียงลอดไรฟัน ดวงตาสีนิลกาฬลุกโชนขึ้นเป็นไฟด้วยความแค้น กันต์ รังสีภิรมย์และเจ้าสาวของมัน จะต้องชดใช้ให้น้องน้อยของเขาอย่างสาสม ร่างสูงใหญ่เดินตรงดิ่งไปที่รถโฟรวีลของเขาทันที “พี่พายุจะไปไหน” “กรุงเทพฯ” สั้นและได้ใจความมากที่สุด ก่อนจะพูดต่อ “ส่วนนายจัดการกับไอ้กันต์หลังจากที่พี่ได้ตัวผู้หญิงของมันกลับมาแล้ว”พ่อเลี้ยงพายุกำชับเสียงหนักแน่น “โชคดีนะพี่ชาย ขอให้จัดการเรื่องนี้ให้สำเร็จ” อัคคีพูดอวยพรพี่ชายล่วงหน้า “แน่นอน และพี่จะกลับมาพร้อมกับผู้หญิงคนนั้น นายรีบไปเตรียมเปิดบ้านพวงแสดที่เพิ่งสร้างเสร็จเอาไว้รอพี่ได้เลย แล้วดูแลไร่ตอนที่พี่ไม่อยู่แทนด้วยอย่าเอาแต่เข้าป่าปลอมตัวเป็นคนงานในไร่เที่ยวไปหลอกสาวๆ ไร่ฟากนู้นล่ะเข้าใจไหม” พ่อเลี้ยงพายุพูดสั่งการจบก็ก้าวยาวๆ ขึ้นไปบนรถกระบะโฟร์วีลคู่ใจของเขาทันที “โอเคพี่ชาย” อัคคีตอบรับเสียงดังฟังชัดก่อนจะพูดต่ออีก “เรื่องบ้านกับเรื่องไร่รับรองว่าจะไม่มีอะไรขาดตกบกพร่องเลยพี่ชาย แต่เรื่องสาวๆ อันนี้มันห้ามกันไม่ได้หรอกนะคร้าบพ่อเลี้ยง แต่คงอีกนานกว่าจะมีกะจิตกะใจไปทำแบบนั้นอีก ตอนนี้เรื่องของธิชาต้องมาก่อนเป็นอันดับแรก ถ้าไม่ทำอะไรให้มันหายแค้นคงอยู่ไม่เป็นสุขหรอกครับ”พูดจบก็เดินแยกไปอีกทางเพื่อไปสั่งการตามคำสั่งของพี่ชายโดยเร็ว และเพียงไม่กี่นาทีต่อมารถกระบะโฟร์วีลคู่ใจของพ่อเลี้ยงพายุก็พุ่งทะยานลงจากวัดที่อยู่ยอดดอยมุ่งเข้าสู่เมืองกรุงฟ้าอมรทันที
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม