ตอนที่ 2

1932 คำ
คฤหาสน์สิงห์ไพศาล  คฤหาสน์หลังงามสองชั้นตั้งอยู่ชานเมืองของกรุงเทพฯ คฤหาสน์หลังนี้อยู่ติดริมทะเลสาบ และเป็นทำเลที่สวยที่สุดในหมู่บ้านของเหล่าผู้มีอันจะกินระดับเศรษฐีหรือมหาเศรษฐี คฤหาสน์ใหญ่โตหรูหราหลังนี้มีผู้อยู่อาศัยเพียงสองคนคือคุณอรอุมา สิงห์ไพศาลผู้เป็นประมุขของบ้าน และอุรวรา สิงห์ไพศาล หรือน้องอุ๊ ลูกสาวคนเดียวของคุณอรอุมา ส่วนคุณดิลกผู้เป็นสามีนั้นได้ถึงแก่กรรมด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ไปตั้งแต่อุรวรามีอายุได้เพียง 15 ปีเท่านั้น และนอกจากเจ้าของบ้านแล้วก็ยังมีข้าทาสบริวารที่อาศัยอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ที่คุณดิลกเริ่มก่อร่างสร้างตัวมานานนับสิบๆ ปีอีกสี่คนคือนมยิ้ม ลุงสมบูรณ์ ป้านุชและเปิ้ลซึ่งเป็นหลานสาวของนมยิ้ม ทั้งสี่คนพักอยู่ที่เรือนหลังเล็กด้านหลังของคฤหาสน์ นมยิ้มรับหน้าที่ดูแลบ่าวไพร่ในบ้านทุกคน ขาดเหลือสิ่งไหนภายในบ้านให้แจ้งกับนมยิ้มได้ในทันที ลุงสมบูรณ์รับหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยและสวนโดยรอบบริเวณบ้าน และขับรถพาคุณอรอุมาและคุณหนูของตนออกไปธุระข้างนอกแล้วแต่ว่าประมุขของบ้านจะเรียกใช้อะไร ส่วนป้านุชทำหน้าที่เป็นแม่ครัวและดูแลความสะอาดภายในบ้านโดยมีเปิ้ลคอยช่วยเหลืองานทุกอย่างที่ป้านุชทำ และในวันนี้ภายในคฤหาสน์ของตระกูลสิงห์ไพศาล ก็ได้ต้อนรับร่างงามระหงของหญิงสาวผู้มีใบหน้าเรียวสวย จมูกสวยได้รูปดั่งหยดน้ำ รับกับเรียวปากสวยรูปกระจับได้เป็นอย่างดียิ่ง สาวน้อยหน้าหวานก้าวลงมาจากรถเบนซ์ราคาแพงที่แล่นเข้ามาจอดภายในคฤหาสน์หลังงาม ผิวขาวผ่องเป็นยองใยของอุรวรานั้นช่างผุดผาดยิ่งนัก หญิงสาวสวมใส่ชุดเดรสสีพาสเทล ตัดเย็บด้วยผ้าชีฟองเนื้อดีราคาแพงที่พลิ้วไหวไปกับท่วงท่าการก้าวเดินของเธอเสียนี่กระไร อุรวรา สิงห์ไพศาล หญิงสาวในวัย 22 ปี พาร่างงามระหงเดินยิ้มหวานก้าวเข้าไปภายในคฤหาสน์ แล้วตรงดิ่งเข้าไปสวมกอดประมุขของบ้านในทันทีที่เธอเดินเข้ามาถึงภายในห้องโถง “คุณแม่ขา น้องอุ๊กลับมาแล้วค่ะ คิดถึงคุณแม่ที่สุดเลย” คุณอรอุมา สิงห์ไพศาล ผู้เป็นประมุขของบ้านยิ้มกว้างออกมาด้วยความดีใจ เมื่อลูกสาวสุดที่รักได้สำเร็จการศึกษาปริญญาตรีที่บอสตันแล้ว แต่ไม่ยอมกลับมาพร้อมกับนางหลังจากที่เรียนจบ และเลือกที่จะอยู่เที่ยวต่ออีกสักพักและจะเดินทางกลับมาทีหลัง ซึ่งนางอรอุมาก็อนุญาต และในวันนี้ลูกสาวของนางก็ได้เดินทางกลับมาถึงคฤหาสน์สิงห์ไพศาลแล้ว “โอ้! น้องอุ๊ของแม่กลับมาแล้วเหรอลูก แต่น้อยๆ หน่อยนะ อย่ามาทำปากหวานกับแม่หน่อยเลย ตอนที่แม่ชวนกลับพร้อมกันตอนรับปริญญาเสร็จแล้วทำไมหนูถึงไม่ยอมกลับกับแม่ล่ะ” คุณอรอุมา เจ้าของธุรกิจอัญมณีส่งออกรายใหญ่ของประเทศ หนำซ้ำยังร่ำรวยติดอันดับต้นๆ ของเมืองไทย ถามลูกสาวคนสวยที่ยังสวมกอดเอวของมารดาอยู่อย่างนั้นไม่ยอมปล่อย “โธ่คุณแม่ขา ก็น้องอุ๊ตั้งใจเรียนอย่างเดียว ก็เลยไม่ค่อยจะได้ไปเที่ยวที่ไหนเลย อีกอย่างน้องอุ๊ก็ชวนคุณแม่ให้อยู่เที่ยวด้วยกันก่อนแต่คุณแม่ไม่ยอมอยู่ด้วยนี่นา” อุรวราพูดบอกน้ำเสียงออดอ้อนผู้เป็นแม่ “ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ แต่น้องอุ๊ก็อยู่เที่ยวซะนานจนแม่เองยังนึกว่าหนูคงจะลืมแม่ไปแล้วซะอีก นี่ถ้าไม่ต้องแต่งงานกับตากันต์เร็วๆ นี้น้องอุ๊ของแม่ก็คงไม่คิดที่จะกลับมาบ้านเลยใช่ไหมล่ะ” คุณอรอุมาแกล้งพูดตัดพ้อลูกสาวออกมาเล็กๆ อุรวราทำแก้มป่อง เรียวปากยื่นออกมาน้อยๆ เมื่อถูกผู้เป็นแม่พูดตัดพ้อขึ้น “คุณแม่ขา คุณแม่อย่าโกรธน้องอุ๊เลยนะคะ น้องอุ๊ขอโทษนะคะ นะคะคุณแม่ แล้วน้องอุ๊ก็ไม่ได้อยากแต่งงานกับพี่กันต์เลยค่ะ แต่ที่ยอมก็เพราะว่าเป็นความต้องการของคุณพ่อที่สั่งเสียไว้ต่างหากล่ะ ถ้าน้องอุ๊เปลี่ยนใจไม่แต่งงานจะได้ไหมคะเนี่ย” อุรวราพูดอ้อนง้อผู้เป็นแม่ด้วยการใช้ศีรษะเอนซบลงไปที่อกของผู้เป็นแม่ดั่งลูกแมวน้อยที่ต้องการไออุ่นจากแม่ของมัน คุณอรอุมาเองก็เห็นใจลูกสาวไม่ใช่น้อย แต่เป็นเพราะความต้องการของผู้เป็นสามีก่อนที่จะสิ้นลมทำให้นางและลูกสาวต้องยอมรับปากออกไป คิดๆ แล้วก็อยากจะบอกเลิกคำสัญญานี้นัก ด้วยเพราะว่าที่เจ้าบ่าวนั้นไม่ได้เป็นคนดีเหมือนดั่งเมื่อก่อน กันต์ รังสีภิรมย์ ในตอนนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นเพลย์บอยนักรักตัวยงเลยก็ว่าได้ ข่าวคาวๆ ของชายหนุ่มมีออกมาให้เห็นไม่เว้นแต่ละวัน ถ้าหากลูกสาวของนางแต่งงานไปด้วยคงไม่แคล้วต้องตรอมใจอย่างแน่นอน แต่มันก็คงจะเป็นไปไม่ได้ในเมื่องานแต่งมันกำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้แล้ว ยิ่งคิดคุณอรอุมาก็ยิ่งกลุ้ม ก่อนที่นางจะรีบสลัดความคิดนี้ออกไป แล้วอมยิ้มให้กับความขี้อ้อนของลูกสาวคนนี้แทน เมื่อเห็นท่าทางของลูกสาวที่เอาแต่ซุกซบกับอกอุ่นของผู้เป็นแม่อยู่อย่างนั้น ‘ยังขี้อ้อนเหมือนเดิมจริงๆ น้องอุ๊นี่ แต่นิ่งแบบนี้หรือว่าน้อยใจอะไรอีกละ’ คุณอรอุมานึกในใจ “เป็นอะไรไปอีกล่ะ แม่แค่พูดหยอกเล่นเฉยๆ เอง ไม่ได้ว่าอะไรน้องอุ๊เลยนะ อย่าขี้น้อยใจขี้งอนนักสิ แล้วที่บอกว่าไม่อยากแต่งงานกับตากันต์ทำไมไม่รีบบอกแม่เสียแต่เนิ่นๆ มาบอกเอาตอนนี้แล้วจะไปปฏิเสธฝ่ายนั้นเขายังไงกันฮึ” คุณอรอุมาพูดน้ำเสียงปรานียิ่งนัก อุรวราเงยหน้าขึ้นจากอกอุ่นของผู้เป็นแม่ แล้วถอนหายใจดังออกมาก่อนจะพูดขึ้นว่า “เฮ้อ! น้องอุ๊ก็ว่าจะโทรฯ มาบอกคุณแม่เหมือนกันค่ะ แต่พอนึกถึงคำสัญญาที่รับปากกับคุณพ่อเอาไว้แล้วก็ไม่กล้า อีกอย่างน้องอุ๊ก็ไม่ได้งอนนะคะ แค่อยากบอกกับคุณแม่ว่าน้องอุ๊รักคุณพ่อและก็คุณแม่มากที่สุดเลยค่ะ” คุณอรอุมาตื้นตันบอกไม่ถูก ความจริงลูกสาวของนางก็พูดคำว่า ‘รักแม่’ ให้ได้ยินก็ออกจะบ่อยไป แต่ว่าวันนี้คำบอกรักจากปากของลูกสาวทำให้คนเป็นแม่มีความสุขยิ่งนัก ‘คุณคะ น้องอุ๊ของคุณน่ารักที่สุด แก้วตาดวงใจของเราสองคนโตขึ้นมาได้อย่างสวยสดงดงามมากๆ เชียวค่ะ คุณเห็นไหมคะคุณดิลก’ คุณอรอุมาเหลียวหลังกลับไปมองรูปถ่ายขนาดใหญ่ของคุณดิลกที่ตั้งโชว์ไว้ที่ห้องโถง แล้วหันกลับมามองลูกสาวที่ยังซุกซบอยู่ที่อก ก่อนจะค่อยๆ ดันร่างของอุรวราออกห่าง พลางพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า “แม่กับพ่อก็รักหนูมากที่สุดเหมือนกันลูกรักของแม่ แต่แม่ว่าน้องอุ๊อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องแต่งไม่แต่งตอนนี้เลยนะ หนูควรจะหันไปให้นมยิ้มได้กอดได้หอมหนูตอนนี้หน่อยนะ นั่นน่ะ เดินมานั่นแล้ว” คุณอรอุมาพูดแซว เมื่อเหลือบไปเห็นแม่นมของลูกสาวสุดที่รักเดินเข้ามาภายในห้องโถง “โธ่ คุณท่านก็ อิฉันยังไม่ได้พูดหรือทำอะไรเลย ก็แค่อยากออกมาดูให้เห็นกับตาว่าคุณหนูของอิฉันน่ะสวยปานนางฟ้าอย่างที่เปิ้ลมันพูดให้ฟังหรือเปล่าก็เท่านั้นล่ะค่ะ” “จ้าจ้ะ ก็นั่นไงล่ะ ที่ยืนอยู่ตรงหน้านั่นไง สวยเหมือนนางฟ้าหรือเปล่าล่ะนมยิ้ม” คุณอรอุมาถามออกมา “คุณหนู คุณหนูของนม แม่คุณช่างสวยเหมือนกับนางฟ้าจริงๆ เชียว แม่คุณทูนหัวของนม คุณหนูรู้ไหมคะว่านมน่ะคิดถึงคุณหนูมากขนาดไหน โอย ทูนหัวของนม” นมยิ้มพูดรำพันไม่หยุด อุรวราได้แต่ยืนส่งยิ้มหวานไปให้ แล้วปล่อยให้คนแก่ใช้มือเหี่ยวย่นลูบไล้ไปทั่วเนื้อตัวอย่างแสนรัก ไม่เว้นแม้แต่ใบหน้านวลเนียนของหญิงสาว ก่อนที่อุรวราจะถูกนมยิ้มจับหมุนซ้ายหมุนขวาอยู่อย่างนั้นหลายรอบ จนคุณอรอุมาต้องพูดขึ้นเพราะกลัวว่าคนแก่จะเกิดอาการมึนหัวและเป็นลมไปก่อน “นมยิ้มพอได้แล้วมั้ง เดี๋ยวก็เป็นลมเป็นแล้งไปซะก่อนหรอก จับน้องอุ๊หันไปหันมาอยู่แบบนั้นน่ะ ปล่อยให้น้องอุ๊ไปพักก่อนดีไหม เดี๋ยวคืนนี้ฉันจะให้นมยิ้มไปนอนที่ห้องของน้องอุ๊เลยเอาไหมล่ะ” “แหม...คุณท่านก็ นมน่ะยังแข็งแรงอยู่เลยนะคะ ไม่มีทางเป็นอะไรไปง่ายๆ ได้หรอกค่ะ” นมยิ้มพูดออกมาพร้อมกับส่งค้อนไปให้กับคุณอรอุมา ก่อนจะถามคุณหนูของตน “คุณหนูเดินทางมาเหนื่อยมากไหมคะ แล้วนี่หิวบ้างหรือยังคะเนี่ย” นมยิ้มถามด้วยความเป็นห่วงเป็นใย อุรวราถึงกับยิ้มกว้างออกมา ดวงตาสีนิลกลมโตเปล่งประกายสดใสออกมาทันที ก่อนที่ริมฝีปากอวบอิ่มจะพูดตอบออกมาว่า “น้องอุ๊นึกว่านมยิ้มจะไม่ถามเสียแล้วสิว่าเหนื่อยหรือเปล่า ไอ้เหนื่อยมันก็เหนื่อยอยู่ค่ะ แต่น้องอุ๊ว่าตอนนี้ท้องของน้องอุ๊น่าจะหิวมากกว่าค่ะนม แล้วนมยิ้มทำอะไรไว้ให้ทานบ้างล่ะคะ” อุรวราพูดจาออดอ้อนคนแก่ตรงหน้าอย่างประจบ “มีเยอะแยะเชียวล่ะค่ะคุณหนูของนม เดี๋ยวยังไงคุณหนูรอนมแป๊บเดียวนะคะ นมจะให้เด็กตั้งโต๊ะเดี๋ยวนี้เลยค่ะ” นมยิ้มพูดบอกอย่างกระตือรือร้น “เดี๋ยวยังไงน้องอุ๊ขอตัวขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนดีกว่าค่ะ เดี๋ยวน้องอุ๊มานะคะคุณแม่” อุรวราบอกคนเป็นแม่ ก่อนจะเดินขึ้นไปห้องพักของตนชั้นบนเพื่อไปชำระล้างร่างกายและขับไล่ความเมื่อยล้าออกไปให้หมด ก่อนที่จะกลับลงมารับประทานอาหารร่วมกับผู้เป็นแม่ที่ห้องอาหาร ส่วนนมยิ้มที่ยืนมองร่างงามระหงของคุณหนูคนสวยของตนเดินหายลับขึ้นไปด้านบนแล้วก็หันกลับมาบอกกับคุณอรอุมาก่อนที่จะเดินกลับเข้าไปในครัวอีกครั้ง “คุณท่านรออิฉันสักครู่นะคะ” “จ้านม เดินช้าๆ ก็ได้ไม่ต้องรีบ เดี๋ยวจะหกล้มเอานะ” คุณอรอุมาบอกด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะอมยิ้มให้กับตนเองเมื่อลูกสาวสุดที่รักได้กลับมาอยู่ร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง โดยที่นางไม่รู้เลยว่า ความสุขของลูกสาวคนเดียวของตระกูลสิงห์ไพศาลจะเกิดขึ้นเพียงระยะเวลาอันสั้นนี้เท่านั้น
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม