โรงแรมดังระดับหกดาว
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! เสียงเคาะประตูหน้าห้องพักของโรงแรมชื่อดังระดับหกดาวดังขึ้นติดๆ กัน ซึ่งถูกใช้เป็นห้องแต่งตัวของอุรวรา เจ้าสาวที่กำลังจะเข้าสู่พิธีมงคลสมรสในระยะเวลาอันใกล้ ร่างงามระหงในชุดเจ้าสาวสีขาวแนบเนื้อ เผยเรียวแขนกลมกลึงนวลเนียน ใบหน้าเรียวสวยถูกตกแต่งไว้อย่างงดงามสมกับเป็นเจ้าสาวแสนสวยของงานคืนนี้
อุรวรา สิงห์ไพศาล เจ้าสาวแสนสวยของงานนี้นั่งเหม่อลอยอยู่ตรงหน้ากระจกส่องเงาเพียงลำพัง ด้วยเพราะนมยิ้มออกไปหาของว่างมาให้หญิงสาวได้รับประทานก่อนที่พิธีจะเริ่ม เสียงเคาะประตูทำให้อุรวราตื่นจากภวังค์แห่งความคิดของเธอที่ไม่ปรารถนาจะแต่งงานกับเจ้าบ่าวคนนี้เลยแม้แต่นิดเดียว ‘หรือว่าเธอจะหนีงานแต่งงานครั้งนี้ดีนะ’ หญิงสาวคิดในใจ ก่อนที่ร่างงามระหงจะค่อยๆ หันกลับไปยังทิศทางของประตู
“ใครคะ” เสียงหวานเอ่ยถามกลับไป
“ห้องคุณอรอุมา สิงห์ไพศาลใช่ไหมครับ ทางโรงแรมมีเรื่องด่วนที่จะต้องแจ้งให้ทราบครับ”
เสียงของพนักงานโรงแรมบอกตรงหน้าประตู
คิ้วเรียวสวยของอุรวราขมวดเข้าหากันเล็กน้อยเมื่อได้ยินเช่นนั้น ร่างบอบบางลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินตรงไปที่ประตูและทันทีที่ประตูถูกเปิดออกหญิงสาวก็ถามกลับไปทันที
“มีเรื่องด่วนอะไรเหรอคะ”
อุรวรายืนมองหน้าพนักงานโรงแรมที่อยู่ตรงหน้าเธอ
“บริเวณลานจอดรถแจ้งมาว่ามีคนนอนหมดสติอยู่ภายในรถครับ และระบุว่าเป็นรถของลูกค้าห้อง 1918 ก็คือห้องของคุณผู้หญิง จองในนามคุณอรอุมา สิงห์ไพศาล ใช่หรือปะ...”
ยังไม่ทันที่พนักงานโรงแรมจะพูดจบ ร่างงามระหงของอุรวราก็รีบวิ่งออกมาจากห้องพักของโรงแรมทันที พร้อมเสียงที่ร้องขึ้นอย่างตกใจของเธอ
“คุณแม่!”
เสียงอุรวราบ่งบอกถึงความตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด หญิงสาวไม่คิดว่าจะเป็นคนอื่น แน่นอน! คนที่นอนหมดสติในรถจะต้องเป็นคุณแม่ของเธอ เพราะก่อนที่หญิงสาวจะแยกเข้ามายังห้องแต่งตัวกับนมยิ้มนั้น คุณแม่บอกว่าจะกลับไปที่รถเพราะลืมเครื่องเพชรที่จัดเตรียมไว้ให้เธอเพื่อที่จะใช้สวมใส่ในวันแต่งงานวันนี้
ลานจอดรถของโรงแรม
เมื่อประตูลิฟต์ถูกเปิดออกพร้อมๆ กับร่างงามระหงของอุรวราในชุดเจ้าสาวสีขาวแนบเนื้อ เผยสัดส่วนอันน่าชวนมอง หญิงสาวรีบวิ่งไปที่จุดจอดรถของเธอด้วยความรีบเร่ง ดวงตากลมโตจับจ้องอยู่ที่จุดจอดรถ โดยไม่ทันสังเกตเห็นบางอย่างที่ผิดปกติบังเกิดขึ้น
กรี๊ดดดด! เสียงกรีดร้องด้วยความตื่นตระหนกสุดขีดดังขึ้นในบริเวณลานจอดรถของโรงแรมดัง เมื่อร่างงามระหงในชุดเจ้าสาวสีขาวถูกชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ แข็งแกร่งและบึกบึนประชิดตัวเข้ามาโอบรัดทางด้านหลังของเธอ ท่อนแขนกำยำตรงเข้าสวมกอดแล้วรัดบั้นเอวคอดกิ่วดึงรั้งร่างของหญิงสาวเข้าหากายแข็งแกร่ง ร่างสูงใหญ่ในชุดดำถึงกับนิ่งไปชั่วขณะเหมือนดั่งถูกมนต์สะกดไปกับความเนียนนุ่มของอุรวรา แต่ยังไม่ทันที่ความคิดจะเตลิดไปไกล เสียงหวานของคนในอ้อมกอดก็ร้องเรียกให้คนช่วยดังขึ้นมาเสียก่อน
“ช่วยด้วยค่ะ! ใครก็ได้ช่วยฉั...”
เสียงร้องเรียกให้คนช่วยเหลือหยุดลงเพียงแค่นั้น เมื่อริมฝีปากเรียวสวยถูกริมฝีปากร้อนผ่าวตรงเข้าประกบจูบอย่างดุดัน เพื่อปิดปากของหญิงสาวไม่ให้ส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือออกมาได้
ดวงตาสีนิลกาฬของพ่อเลี้ยงหนุ่มเหลือบไปเห็นร่างสูงวัยของชายในวัยประมาณห้าสิบปลายๆ เดินมาพร้อมกับผู้หญิงวัยสี่สิบต้นๆ ดูจากท่าทางและการแต่งตัวน่าจะเป็นคนในวงสังคมชั้นสูง กำลังเดินตรงมาที่ลานจอดรถเช่นเดียวกัน เสียงร้องเรียกของหญิงสาวตรงหน้า ทำให้คนทั้งสองหยุดยืนอยู่กับที่พร้อมกับมองตรงมาที่เขาและหญิงสาวที่กำลังโอบกอดอยู่ในวงแขนแข็งแกร่ง
“ว้าย! ตายแล้ว! หนุ่มสาวสมัยนี้มันอะไรกัน นึกจะกอดจะจูบกันตรงไหนก็ได้รึไงนะ ทำไมไม่พากันไปเปิดห้องแล้วฟัดกันในโรงแรมซะให้มันหมดเรื่องหมดราวไปนะ ไปกันเถอะคุณ! ฉันไม่อยากอยู่ตรงนี้นานๆ เสียลูกตา!”
เสียงของสตรีนางนั้นบอกเร่งสามีให้รีบกลับ
“แต่มันดูแปลกๆ อยู่นะ ผู้หญิงท่าทางจะโดนบังคับ คุณเห็นที่มือของผู้ชายไหมล่ะ จับมือของผู้หญิงเอาไว้แน่นเชียว”
เสียงบอกของสามีตอบภรรยากลับไป
“คุณอย่าไปยุ่งเรื่องของชาวบ้านเขานักเลย! พวกเขาจะทำอะไรกัน จะเต็มใจหรือไม่เต็มใจก็ไม่ใช่เรื่องของเรา ฉันจะกลับบ้านได้ยินไหมตาแก่!”
ฝ่ายภรรยาแว้ดกลับมา ทำให้ชายสูงวัยรีบเปิดประตูและก้าวขึ้นมาบนรถพร้อมกับขับออกไปจากบริเวณลานจอดนั้นด้วยความรวดเร็ว
ร่างสูงใหญ่บดเบียดริมฝีปากของเขาลงบนเรียวปากบางอยู่อย่างนั้นไม่ยอมปล่อย เพราะต้องการปิดปากไม่ให้หญิงสาวส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือออกมาได้ ก่อนจะผละริมฝีปากออกเมื่อเห็นว่าหญิงสาวอ่อนระทวยอยู่ภายในอ้อมแขนของเขาแล้ว จากนั้นจึงเปลี่ยนมาเป็นชักวัตถุสีดำมะเมื่อมออกมาจากเอวแล้วเล็งมาที่ศีรษะของหญิงสาวแทน
อุรวราเข่าแทบทรุด หญิงสาวตัวเย็นวาบขึ้นมาทันที หัวใจดวงน้อยเต้นกระหน่ำรัวราวกับกลองเพล ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นด้วยความกลัวเมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าในชุดดำกระทำกับเธอเช่นนั้น
“ยะ...อย่า!...คะ...คุณ...ต้องการอะไร!”
เสียงหวานพูดถามออกมาตะกุกตะกัก พลางสายตาก็กวาดมองไปโดยรอบว่าตรงไหนมีกล้องวงจรปิดติดตั้งเอาไว้บ้าง ‘คุณพระช่วย! ทำไมจุดที่เธออยู่ถึงไม่มีกล้องติดตั้งเอาไว้เลย’ อุรวราคิดในใจ
และเหมือนกับว่าพายุเองก็พอจะรู้ว่าผู้หญิงตรงหน้าเขานั้นคิดอะไรอยู่ ก่อนจะพูดขึ้น
“ไม่ต้องมองหากล้องวงจรปิดไปหรอก หาให้ตายมันก็ไม่เจอ! ถึงเจอมันก็ใช้การอะไรไม่ได้! ไป! ลุกขึ้นแล้วเดินไปขึ้นรถกระบะคันนั้นซะ” เขาพูดสั่งเสียงเหี้ยมเกรียม
“ฉะ...ฉัน...ฉัน”
“ถ้าไม่อยากตายอยู่ตรงนี้ก็ทำตามที่ฉันบอกเดี๋ยวนี้!!!”
พูดพร้อมกับจี้ปากกระบอกปืนจ่อลงมาที่หน้าอกของหญิงสาวทันที
อุรวราถึงกับตัวแข็งทื่อ แล้วรีบพูดออกไปว่า
“ฉันมีเงินนะ แล้วก็มีมากด้วย คุณต้องการเท่าไหร่บอกมาได้เลย”
พ่อเลี้ยงพายุแสยะยิ้มออกมาเหยียดๆ แล้วพูดขึ้นมาว่า
“เงินของเธอน่ะฉันไม่ต้องการหรอก ที่ฉันต้องการก็คือตัวเธอยังไงล่ะ”
“ไอ้คนเลว! โอ๊ย!”
อุรวราด่าอีกฝ่ายออกมาก่อนที่เจ้าตัวจะร้องอุทานขึ้นด้วยความเจ็บปวด เมื่อมือแข็งแกร่งของชายหนุ่มตรงเข้าบีบที่กระพุ้งแก้มทั้งสองข้างของหญิงสาวเอาไว้ราวกับคีบเหล็ก
“เธอไม่มีสิทธิ์ที่จะมาด่าคนอย่างฉัน เพราะถึงยังไงฉันก็คงจะเลวน้อยกว่าเจ้าบ่าวของเธออย่างแน่นอน ไป! เดินไปขึ้นรถได้แล้ว หรือว่าอยากจะโดนข่มขืนที่ลานจอดรถตรงนี้”
พูดจบก็สะบัดมือแกร่งออกจากแก้มของหญิงสาวทันที
อุรวราถึงกับน้ำตาหยด หญิงสาวเจ็บไปทั่วแก้มเนียน ได้แต่มองใบหน้าของผู้ชายที่กำลังยกปากกระบอกปืนจ่อเล็งมาที่หน้าอกของเธออีกครั้ง
“แก!”
“แสดงว่าอยากโดนข่มขืนตรงนี้จริงๆ ถึงยังปากดี ได้! เดี๋ยวฉันจัดให้”
พูดจบชายหนุ่มก็คว้าข้อมือของหญิงสาวตรงหน้าเอาไว้ พร้อมๆ กับเสียงหวานที่พูดขึ้นมาว่า
“อย่ามาแตะต้องตัวฉัน!”
อุรวราสะบัดข้อมือของตนออกจากอีกฝ่ายอย่างรังเกียจเต็มที่ พายุถึงกับหน้าม้านไปทันที ชายหนุ่มกัดฟันกรอดอย่างต้องการระงับอารมณ์โกรธของตนเองไว้อย่างเต็มที่ก่อนจะพูดขึ้น
“ถ้าเธอยังไม่ยอมทำตามที่ฉันสั่ง รับรองได้เลยว่าฉันจะทำมากกว่าแตะต้องตัวเธอ”
พูดจบพายุก็ผลักร่างงามระหงให้เดินไปที่รถโฟร์วีลของเขาทันที
“คุณ...คุณจะพาฉันไปไหน”
อุรวราพูดออกมาทันทีที่เห็นรถกระบะโฟร์วีลอยู่ตรงหน้า ก่อนที่ร่างงามระหงของหญิงสาวจะถูกเขาผลักให้ขึ้นไปบนรถ อุรวราไม่อาจที่จะขัดขืนได้ เพราะปากกระบอกปืนซึ่งจ่อมาที่ตัวเธออยู่ตลอดเวลาทำให้หญิงสาวไม่กล้าตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ หนำซ้ำบริเวณนั้นก็ยังไม่มีพนักงานรักษาความปลอดภัยอยู่เลยแม้แต่คนเดียว
โครม! เสียงปิดประตูรถที่ดังขึ้นทันทีที่ร่างของอุรวราขึ้นไปอยู่ภายในรถโฟร์วีลแล้ว หญิงสาวรอจังหวะให้อีกฝ่ายเดินอ้อมกลับมาเปิดประตูด้านคนขับแล้วก็จะอาศัยจังหวะนั้นเปิดประตูรถเพื่อหนีออกไป แต่เสียงชายชุดดำที่พูดออกมานั้นทำให้เธอต้องนั่งนิ่งแต่โดยดี
“ถ้าเธอหนีลงจากรถ เธอก็รอรับศพแม่ของเธอได้เลย!”
“แก! ไอ้คนเลว! แกอย่าทำอะไรคุณแม่ของฉันนะ!”
อุรวรายกมือชี้นิ้วไปที่หน้าเขา นิ้วมือสั่นระริกด้วยความกลัวว่าคนตรงหน้าจะหันไปทำร้ายแม่ของเธอ
“ถ้าเธอยอมทำตามที่ฉันสั่งแต่โดยดีรับรองว่าแม่ของเธอจะปลอดภัย แต่ถ้าไม่! ฉันเองก็ไม่รับรองความปลอดภัยเหมือนกัน”
พายุบอกออกไปก่อนที่จะสตาร์ทรถแล้วขับออกจากบริเวณลานจอดรถของโรงแรมในทันที
อุราวราที่นั่งอยู่ข้างๆ ชายชุดดำชะเง้อมองมาที่ป้อมยามทางออกของโรงแรม หญิงสาวเตรียมตัวที่จะปลดล็อกประตูรถเพื่อที่จะร้องขอความช่วยเหลือ และความคิดของหญิงสาวที่พยายามจะหนีลงจากรถก็ไม่รอดพ้นสายตาและความคิดของพายุไปได้ เขาเองก็คิดไว้เช่นกันว่าผู้หญิงคนนี้ไม่มีทางที่จะยอมไปกับเขาดีๆ อย่างแน่นอน และก่อนที่เธอจะทำให้แผนของเขาต้องล้มเหลว พายุต้องตัดไฟตั้งแต่ต้นลมนั่นก็คือ
“นี่เธอ!”
“อะไรล่ะ!”
ฉีดดดด!!!!
“อ่ะ ว้าย! กะ...แก...ฉีด...อะ...ไร...ใส่...ฉัน...”
อุรวราไม่ทันระวังตัว หญิงสาวหันหน้ากลับมาตามเสียงเรียกของชายชุดดำ ทำให้สูดดมกลิ่นยาสลบที่อีกฝ่ายฉีดพ่นเข้ามาที่หน้าเต็มๆ ก่อนที่ร่างงามระหงจะสลบแน่นิ่งไปกับเบาะรถเหมือนกับคนที่นอนหลับ
พายุรีบเอื้อมมือมาปรับเบาะรถให้ลดลงต่ำเพื่อให้พ้นจากรัศมีของกล้องวงจรปิดหน้าป้อมยามของโรงแรม แล้วเอื้อมมือไปหยิบเสื้อสูทที่อยู่เบาะหลังมาสวมทับชุดดำที่เขาใส่อยู่ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่รถกระบะโฟร์วีลของพายุขับมาถึงป้อมยามอย่างฉิวเฉียดพอดีเช่นกัน
พ่อเลี้ยงหนุ่มกดเลื่อนกระจกรถลงเพื่อส่งคืนบัตรจอดรถให้กับรปภ.ของโรงแรม ก่อนที่พนักงานรปภ.จะบอกให้เขาเดินทางกลับไปโดยสวัสดิ์ภาพ
“เดินทางโดยสวัสดิ์ภาพนะครับ”
“ขอบคุณครับ”
พายุรับคำพร้อมกับกดปิดกระจกรถทันที แล้วปรายตามองร่างงามระหงของหญิงสาวที่สลบไสลเพราะยาสลบที่ฉีดพ่นออกไปคงจะออกฤทธิ์นานอยู่หลายชั่วโมง กว่าหญิงสาวจะฟื้นคืนสติเขาก็น่าจะขับรถพาเธอไปได้ไกลแล้วเหมือนกัน
“อยากจะรู้นักว่าถ้าไอ้สารเลวนั่นมันรู้ว่าเจ้าสาวของมันหายตัวไปแล้วมันจะทำหน้ายังไง เธอโทษฉันไม่ได้นะ ต้องโทษเจ้าบ่าวของเธอที่มันทำร้ายน้องสาวของฉันก่อน เอาเป็นว่าถ้าฉันเบื่อเธอเมื่อไหร่แล้วฉันก็จะส่งเธอกลับมาหาไอ้สารเลวนั่นก็แล้วกันนะ หรือถ้าใจเสาะก็ให้มันตายตกไปตามกันซะเลยถึงจะสาสมกับสิ่งที่เธอและไอ้กันต์ทำไว้กับน้องสาวของฉัน!”
พายุบอกกับร่างงามระหงที่ไร้สติของอุรวรา ด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยียบ ความงดงามของหญิงสาวทำให้พ่อเลี้ยงหนุ่มเหยียดยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจ การแก้แค้นเอาคืนครั้งนี้มันช่างสะใจเขาเป็นยิ่งนัก ไอ้สารเลวนั่นมันจะต้องเจ็บปวดแทบกระอักเลือดตายแน่ๆ ถ้ามันรู้ว่าเจ้าสาวของมันได้ผัวเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคนไม่ได้มีไว้สำหรับมันอีกต่อไปแล้ว