ซาตานหลงเงารัก EP.14

1339 คำ
ณ ห้องทำงานของวีรพล “เป็นไงได้มาหรือยัง ที่ฉันให้พวกนายไปสืบมา” “ได้แล้วครับนาย” แล้วซองเอกสารถูกวางตรงหน้าอย่างเบามือ สายตาที่เคยอบอุ่นกับแข็งกร้าวอย่างน่ากลัว มือหนายื่นมาหยิบซองเอกสารอย่างรวดเร็ว “พวกนายออกไปได้แล้ว” วีรพลดูจนลูกน้องเดินออกไปจากห้องก่อนจะหันมาสนใจซองเอกสารในมือ เขาแกะอย่างเชื่องช้า เพราะถึงยังไงเขาก็รู้ดีว่าข้างในมันมีอะไรบ้าง เพียงแต่ตอนนี้เขากลับคิดว่าควรจัดการกับแผนขั้นแรกยังไงดี บุกไปเยี่ยมคุณหญิงวีรดาถึงที่บ้านเพื่อให้ได้เจออลินลดาดีไหม หรือว่าหาโอกาสเจออลินลดาที่อื่นดี ชายหนุ่มจ้องมองเอกสารในมืออย่างสนใจ เขาเริ่มอ่านตั้งแต่บรรทัดแรกจนบรรทัดสุดท้าย เขาได้แต่แปลกใจกับข้อมูลที่ได้มา ลูกน้องเขาไปสืบข้อมูลของอลินลดามาถูกหรือเปล่า ชื่อ อลินลดา ศิริวัฒน์ (ภิวัฒน์เกรียงไกร) ชื่อเล่น (ลดา) วัน/เดือน/ปี 25 พฤษภาคม 2530 อายุ 22 ปี จบการศึกษา คณะบริหารธุรกิจ เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง ความสามารถพิเศษ ทำอาหาร ทำขนม เย็บปักถักร้อย นักกีฬามหาวิทยาลัย (นักบาสเกตบอล) กีฬาที่ชื่นชอบ บาสเกตบอส,แบดมินตัน,เทนนิส หนังที่ชื่นชอบ รักโรแมนติก แฟนตาซี การ์ตูนที่ชื่นชอบและสะสม สแลมดั้ง,เทพมรณะ,โคนัน,โดเรมอน งานอดิเรก อ่านหนังสือนิยาย ดูหนัง ดูการ์ตูน เพลงที่ชื่นชอบ ฟังทุกแนว ทั้งไทยและเทศ บิดา ภัทร ภิวัฒน์เกรียงไกร มารดา ศลินดา ศิริวัฒน์ “นี่เธอเรียนเก่งขนาดนี้เลยเหรออลินลดา” วีรพลถึงกับทึ่งในความสามารถของเด็กสาวคนนี้ ถ้าเทียบกับวนิดาแล้ว ดูเหมือนอลินลดาเหนือกว่าวนิดาเกือบทุกอย่าง ไม่ว่ารูปร่าง หน้าตา ความรู้ ความสามารถ ตระกูลภิวัฒน์เกรียงไกรมีลูกสาวที่เก่งขนาดนี้เลยเหรอ สายตาคมก้มลงมามองข้อความอีกหน้าหนึ่งด้วยความสนใจ คุณอลินลดาเรียนจบปริญญาตรี เกียรตินิยมอันดับหนึ่งด้วยวัยเพียงยี่สิบเอ็ดปี คุณอลินลดาเพิ่งเปลี่ยนนามสกุลจากศิริวัฒน์ มาเป็นภิวัฒน์เกรียงไกรเมื่อไม่นานมานี้ ที่สำคัญตอนนี้คุณอลินลดาเตรียมตัวเรียนต่อปริญญาโทที่มหาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งของเมืองไทย วีรพลอ่านเอกสารที่เขาให้ลูกน้องไปสืบเรื่องของอลินลดามาจบ ก็ได้แต่ทึ่งในความสามารถของเด็กสาวคนนี้ไม่ใช่น้อย จากข้อมูลที่เขาอ่าน เธอเรียนจบปริญญาตรีด้วยวัยเพียงยี่สิบเอ็ดปีเอง นับว่าเป็นผู้หญิงที่เก่งมากคนหนึ่งเลยทีเดียว แต่ถึงเรียนเก่ง ฉลาดแค่ไหน แต่สำหรับเขาเธอก็คือหมากตัวหนึ่งที่เขาใช้ในการแก้แค้นวนิดาเพียงเท่านั้น เขารู้ดีว่าเกมครั้งนี้เขาเป็นผู้ชนะ จุดจบของเกมครั้งนี้คนที่พ่ายแพ้ก็ต้องเป็นภิวัฒน์เกรียงไกรอย่างแน่นอน “รณกร เข้ามาหาฉันหน่อย” วีรพลก้มลงกดโทรศัพท์เรียกหาลูกน้องอย่างเจ้าเล่ห์ แผนการที่เกิดขึ้นในสมองกำลังเริ่มดำเนินไปตามที่เขาต้องการ ไม่นานรณกรก็เปิดประตูเข้ามาหาเจ้านายหนุ่มอย่างสงสัย เขาไม่เข้าใจเหมือนกันว่าตอนนี้นายเขากำลังคิดจะทำอะไรอยู่ หลังจากเมื่อวานเจอเด็กสาวที่ชื่อ อลินลดา ภิวัฒน์เกรียงไกร เขาก็ได้รับคำสั่งให้ไปสืบหาข้อมูลของเด็กสาวมาทันทีเหมือนกัน “นายไปเช็คดูสิว่าวันนี้คุณอลินลดาเธอไปไหนบ้าง ถ้ารู้แล้วก็รีบมาบอกฉัน” “ครับนาย” “ไปได้แล้ว หวังว่าฉันคงได้รับข่าวดี จากนายนะรณกร” วีรพลสบตาลูกน้อง ใบหน้าคมสันนั้นดูดุดันเหลือเกิน รณกรได้แต่แอบคิดในใจว่าทำไมเจ้านายหนุ่มของเขาถึงได้เปลี่ยนไปมากขนาดนี้ ตามที่เขารู้มานายวีรพล สุทธิการ ผู้นี้ดูเป็นคนอบอุ่น น่ารัก สุภาพบุรุษ เป็นที่คลั่งไคล้ของสาวๆ แต่ทำไมตอนนี้ถึงได้กลายเป็นคนล่ะคน ไม่เหมือนอย่างที่เขาเคยได้ยินมาเลย นายวีรพล สุทธิการ ในวันนี้ดูแข็งกระด้าง ไร้ความนุ่มนวล ไม่ใช่ผู้ชายอบอุ่น ที่สำคัญไม่เหลือความเป็นสุภาพบุรุษเอาเสียเลย ดูอย่างเมื่อวานสิอยู่ๆ ก็ไปทำร้ายผู้หญิงที่ตนเองไม่รู้จักเสียเฉยเลย /////////// ชญานินทร์นั่งรถมากับภูผาเกือบหนึ่งชั่วโมงแล้ว เธอยังไม่เห็นชายหนุ่มขับรถตรงไปยังมหาวิทยาลัยเธอสักที เธอหันไปมองคนขับกิตติมศักดิ์ด้วยความลำบากใจ ไม่รู้จะทำยังไงให้ชายหนุ่มหันมาพูดกับเธอสักที ใบหน้าคมสันดูบึ้งตึงยังไงก็ไม่รู้ ตอนขับออกมาจากบ้านเธอเห็นเพียงสายตาแข็งกร้าว ดุดัน ส่งมาปรามเธอว่าให้หยุดพูดหยุดถาม ไม่อย่างนั้นเขาจะระเบิดมันในรถนี่แหละ แต่นี่มันชั่วโมงกว่าแล้วนะที่เธอนั่งอดทนกับความตึงเครียดอยู่บนรถของชายหนุ่ม จะให้พูดยังไงดีล่ะเธอก็ไม่ชอบอดทนกับอะไรที่เธอไม่เข้าใจ ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเกิดเป็นบ้าอะไร โมโหอะไรก็ไม่พูด โกรธอะไรกันก็ไม่บอก “คุณภูคะ” ชญานินทร์เอ่ยเรียกชายหนุ่มซะเสียงหวาน แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะยังนิ่งเฉยไม่สนใจเสียงที่เธอเรียกเลย “คุณภูผา” คราวนี้ชญานินทร์เอ่ยเรียกชายหนุ่มเสียเต็มยศ และดูเหมือนว่าการเรียกของเธอครั้งนี้จะได้ผล เมื่อคนที่นิ่งเงียบมาเป็นชั่วโมงหันมามองเธอทันทีเหมือนกัน “จะเรียกทำบ้าอะไรนักหนาฮะชญานินทร์” เสียงตอบกลับดุจเดียวกับที่อีกฝ่ายเรียกเขามา “เมื่อไรคุณจะพาหนูโรสไปส่งที่มหาลัยเสียที นี่คุณขับมาเกือบชั่วโมงแล้วนะ” เสียงที่เคยหวานเริ่มเขียวขึ้นมากับท่าทางไร้อารมณ์ของคนข้างๆ วันนี้มันเป็นวันอะไรของเธอถึงได้เซ็งและเบื่อหน่ายแบบนี้ “วันนี้หยุดไปเลย ไม่ต้องไปมันหรอกมหาลัยน่ะ แต่งตัวแบบนี้จะไปล่าผู้ชายหรือไปเรียนกันฮะหนูโรส” คำพูดที่หลุดออกมาจากปากภูผาทำให้ใบหน้าหวานนั้นแดงก่ำไปด้วยความโกรธ ชญานินทร์ถึงกับกำหมัดแน่น กัดริมฝีปากตัวเองด้วยความโกรธและไม่พอใจ เธอเริ่มไม่แน่ใจตัวเองเสียแล้วว่าเธอรักผู้ชายข้างๆ นี่จริงหรือเปล่า พยายามสงบสติอารมณ์ที่กำลังพลุ่งพล่านไปด้วยความโกรธให้มันสงบ “ว่าไงล่ะ ที่ฉันถามทำไมไม่ตอบ” “จะให้ตอบคำถามไหนก่อนดีล่ะคะคุณภู” คนเสียงหวานถามขณะดึงกระโปรงให้มันลงไปอีกหน่อย เพราะตอนนี้มันดันร่นขึ้นอีกแล้ว เธอไม่น่าเชื่อคำยุยงของมารดาเลย เธอรู้ดีว่ามารดาเลี้ยงรักเธอและเป็นห่วงเธอมากขนาดไหน ท่านรู้ว่าเธอรักหลานชายของท่าน แทนที่ท่านจะขัดขวางกับหันมาช่วยเหลือเธอแทน แถมท่านยังให้เหตุผลอีกว่า ถ้าได้ศศิริษามาเป็นหลานสะใภ้ท่านคงรับไม่ได้ หากเป็นเธอท่านยังรับได้มากกว่าอีก “อย่ามายอกย้อนฉัน ฉันถามว่าเธอจะแต่งตัวแบบนี้ไปเรียนหรือไปล่าผู้ชาย” ภูผาหักพวงมาลัยรถเลี้ยวเข้าจอดข้างทาง หันมามองชญานินทร์ด้วยความโกรธ หึงหวงจนแทบบ้า ละสายตาจากใบหน้าหวานก้มลงไปมองกระโปรงที่มันร่นขึ้นแล้วอยากบ้าตาย นี่เขาต้องอดทนได้นานขนาดไหน “จะปิดมันทำไม ในเมื่อจะใส่ไปยั่วผู้ชายอยู่แล้ว” เขายังโวยวายไม่หยุด อารมณ์ที่พยายามกักเก็บมันเริ่มพลุ่งพล่านกระเจิดกระเจิงจนเกือบกู่ไม่กลับแล้ว “คุณภู!” “ฉันพูดผิดหรือไง แล้วนี่เธอคิดจะใส่ไปยั่วใครล่ะ” ////////// ...โปรดติดตามตอนต่อไป...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม