"ทำอะไรกันนะลูกเสียงดัง เอะอะเชียว" แม่เลี้ยงนารีเอ่ยถามบุตรสาวและสาวน้อยหน้าหวาน ด้วยความดีใจ นานแค่ไหนแล้วนะที่เธอไม่ได้เจอลุกสาวและสาวน้อยหน้าหวานคนนี้
”เปล่าค่ะคุณแม่ พอดียัยเมย์เขาจะทำอาหารให้เราทานนะคะ ดาเลยมาเป็นลูกมือคุณแม่จะทานอะไรดีคะวันนี้น้องดากับยัยเมย์จะลงมือทำให้คุณแม่กับคนพ่อทานเองคะ”
"อืมม์ แล้วแต่เราสองคนละกันจ๊ะ แม่จะรอทานฝีมือเราสองคนล่ะกัน"
"งั้นเรามาเริ่มกันเลยดีกว่านะไอ้เมย์" กานดาตอบเพื่อนรักออกไปพร้อมกับรอยยิ้มหวานให้อย่างเป็นกำลังใจ หันซ้ายหันขวา มองหาอุปกรณ์ทำอาหาร ก่อนจะก้มลงมามองข้าวของบนโต๊ะ
“ได้สิ แล้วแกอยากกินอะไรว่ามา เดี๋ยวฉันจะทำให้แกกินเอง” พูดจบเมธาวีหยิบมีดขึ้นมา ปากก็พูดไปเรื่อย แต่มือก็ลงมือหั่นเนื้อหมู อย่างขะมักเขม้น
กานดาก้มลงมือเนื้อหมูและผักต่างๆบนโต๊ะ ตัดสินใจบอกคนที่กำลังหั่นเนื้อหมูอยู่ข้างๆ "อืมม์ เอาอย่างนี้ดีมั้ยแกก็ทำอาหารบ้านแกให้ฉันกับคุณพ่อคุณแม่กินเป็นไง เอ่อ ลืมไปอีกคนหนึ่ง อิอิ ก็พี่ชายสุดที่รักของแกกับฉันไง”
“จะบ้าเหรอแก พี่ชายแกคนเดียวไม่ใช่พี่ชายฉัน คนอย่างฉันไม่มีพี่ชายประสาท แบบนี้หรอกจะบอกให้ และอีกอย่างพี่ชายฉันนะน่ารักกว่าพี่ชายแกเยอะวะไอ้ดา”
“โอเค ฉันเข้าใจ ฉันว่านะเรารีบทำอาหารกันเถอะ”
“ก็ได้ งั้นทำอะไรกันก่อนดีละเมย์”
“ฉันจะทำแกงส้มให้แกกินดีมั้ย หรือว่าแกงจืดดีละ เอาเป็นว่าฉันทำอาหารแบบง่ายๆ ดีกว่า สักอย่างสองอย่าง ที่เหลือก็ให้พี่ลีช่วยทำอีกอย่างสองอย่างก็น่าจะพอนะ” หันมายิ้มให้อีกครั้ง แล้วหันมาสนใจมีดและเนื้อหมูในมืออีกครั้ง
“อืมม์ม์ ฉันว่าก็ดีเหมือนกันนะ จะได้เสร็จเร็วๆ ฉันก็หิวแล้วเหมือนกัน”
แม่เลี้ยงนารีมองดูสองสาวปรึกษากันแล้วก็อดยิ้มอย่างขันๆ หันหลังเดินออกมาจากห้องครัว เธอเคยคิดที่อยากจะให้ลูกชายของเธอชอบสาวน้อยผู้นี้ อีกอย่างตัวเธอเองก็ชื่นชอบเพื่อนของลูกสาวคนนี้อยู่ไม่ใช่น้อย เดินยิ้มกว้างอย่างมีความสุข
พ่อเลี้ยงวิเชียรละจากหนังสือเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาภายในห้องรับแขก สบตามองภรรยาด้วยความสงสัย ยิ่งรอยยิ้มที่แต้มอยู่เต็มใบหน้าแล้ว ก็อดแปลกใจขึ้นมาไม่ได้
“ยิ้มอะไรนะคุณนะ...นารี” พ่อเลี้ยงวิเชียรถามภรรยาด้วยรอยยิ้มก่อนจะหันมาสนใจหนังสือพิมพ์ในมือ
“เปล่าหรอกคะคุณพี่ พอดีเข้าไปเจอน้องดากับหนูเมย์ทำอาหารอยู่ในครัวนะ”
ส่งยิ้มกว้างให้สามีอีก เมื่อนึกถึงสองสาวที่เธอ เพิ่งเดินจากมา อมขำในอาการของทั้งสองสาวไม่ได้ ถ้าหากเธอได้เพื่อนรักของลูกสาวมาเป็นลูกสะใภ้คงดีไม่ใช่น้อย
“คุณว่าอะไรนะ ผมได้ยินไม่ถนัดนะ” ละสายตาจากหนังสือพิมพ์ ขึ้นมาสบตาภรรยาด้วยความไม่แน่ใจ กับสิ่งที่เขาได้ยิน
“ฉันบอกคุณว่าน้องดากับหนูเมย์นะ สองคนนั้นกำลังทำอาหารกันอยู่ในครัวนะ เห็นว่าจะโชว์ฝีมือให้ฉันกับคุณทานเช้านี้นะ”
“ผมแปลกใจนะ ปกติยัยดาไม่ค่อยชอบทำอาหารนี่น่า อยู่ๆคุณบอกผมว่าลูกสาวสุดที่รักของเราสองคน กำลังทำอาหารให้ผมกับคุณทาน” พ่อเลี้ยงถามกลับเหมือนกับไม่เชื่อในสิ่งที่ภรรยาบอก
“คุณก็ไปว่าลูก เดี๋ยวลูกก็น้อยใจหรอก” น้ำเสียงงอน ตอบกลับสามีด้วยน้ำเสียงกึ่งขำกึ่งงอน ที่สามีไม่เชื่อในสิ่งที่เธอบอก
ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ นัยย์ตาคมเข้ม จมูกโด่งเหมือนผู้หญิง เดินตรงเข้ามาร่วมวงสนทนาของบิดามารดา ด้วยความสงสัย ตั้งแต่เดินเข้ามาภายในห้องรับแขก ก็ได้ยินเสียงบิดามารดา กำลังคุยกันถึงเรื่องทำอาหาร ใครมาทำอาหารในบ้านเขา
“คุยอะไรกันครับคุณพ่อเสียงดังเชียว”
ก่อนถามขึ้นด้วยความสงสัย พร้อมกับอ้าปากหาวออกมา เมื่อคืนกลับมาเอาเกือบรุ่งส่าง เลยไม่รู้ว่าตอนนี้แม่น้องสาวตัวดี กับ สาวน้อยจอมแสบที่เคยหักอกเขาเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว กำลังเป็นหัวข้อสนทนาระหว่างบิดามารดาของเขาอยู๋ในขณะนี้
“แม่คุยเรื่องน้องดากับหนูเมย์นะตาหนึ่ง แล้วนี่เราไม่รู้เหรอว่าน้องกลับมาบ้านนะ”
“อะไรนะครับ คุณแม่” น้ำสียงบ่งบอกถึงความตกใจ เมื่อรู้ว่าใครเป็นหัวข้อสนทนาของบิดามารดา กำหมัด กัดฟันแน่น ด้วยความไม่พอใจ เมื่อรู้ว่าตอนนี้ผู้หญิงที่เคยปฏิเสธความรักของเขา กำลังอยู่ในบ้านของเขา จนไม่ได้สนใจที่จะมารดาพูด
“ก็รายเดิมนั้นแหละ คู่ปรับเก่าเราไงตาหนึ่ง”
“คุณแม่อย่าบอกผมนะว่า เป็นยัยทอมนั่นนะกำลังอยู่กับยัยดา”
เอกราชเพียงแค่ได้ยินชื่อของคู่อริก็โวยวายออกมาทันที ไม่สิ ไม่ใช่แค่คู่อริเก่าเท่านั้น แต่ยังเป็นคนที่เขาเคยหลงรักและก็ยังรักมาจนถึงทุกวันนี้
เราเจอกันอีกแล้วนะเมธาวี
“อะไรนะตาหนึ่ง เราเรียกหนูเมย์ ว่าอะไรนะเมื่อกี้” ต่อว่าบุตรชายทันทีที่เห็นลูกชายแสดงกริยาแบบนี้กับเพื่อนรักลูกสาว
“ผมเรียกว่ายัยทอมไงครับคุณแม่ แล้วตอนนี้สองคนนั้นอยู่ที่ไหนครับ”
“เห็นแม่แกบอกว่าอยู่ในครัวนะตาหนึ่ง” พ่อเลี้ยงวิเชียรบอกออกไปอย่างขันๆในอาการของลูกชายหัวแก้วหัวแหวน ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่รู้ว่าลูกชายคนนี้คิดยังไงกับเพื่อนรักของลูกสาว เพียงแต่เขาไม่อยากเข้าไปก้าวก่ายก็เท่านั้น คงปล่อยให้เป็นเรื่องของเขาสองคน
“งั้นเดี๋ยวผมมานะครับ จะเข้าไปดูเสียหน่อย คุณพ่อกับคุณแม่ปล่อยให้สองคนนั้นอยู่ด้วยกันลำพังได้ยังไงครับ” ว่าแล้วก็สาวเท้าเดินไปทางห้องครัว ด้วยท่าทางหงุดหงิด ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ว่าทำไมถึงไม่ชอบ หรือบางทีอาจเป็นเพราะหญิงสาวนั่นแหละ
“ยัยดากลับมาทำไมไม่โทรฯมาบอกพี่ก่อนละ มันอันตรายนะเดินทางมาแบบนี้”
เสียงเข้มถามขึ้นทันทีที่เดินเข้ามาภายในห้องครัว ลอบมองยัยตัวแสบด้วยสายตาขุ่นมัว เมื่อนึกถึงที่หญิงสาวเคยปฏิเสธความรักของเขา สายตาก็จ้องมองร่างบาง แต่ปากก็ยังคงเอ่ยถามน้องสาวตัวดี ด้วยความไม่พอใจ
ทั้งที่ในใจก็บอกไม่ได้เหมือนกัน ว่าเขาไม่ชอบให้น้องสาวอยู่ใกล้ หรือเพราะเขาอิจฉาน้องสาวตัวเองกันแน่น ที่ได้อยู่ใกล้ผู้หญิงที่เขาแอบหลงรัก
ร่างบางถึงกับยืนนิ่งเงียบ เมื่อเธอรู้ว่าตอนนี้ภายในห้องครัวไม่ได้มีเธอและเพื่อนรักอยู่กันสองคน กลับมีอีกคนที่เข้ามาในห้องครัว คนที่เธอไม่อยากเจอที่สุดในชีวิต ไม่ใช่ว่าจะเกลียดอะไรหรอก แต่เธอยังทำใจยอมรับ ในสิ่งที่เธอเองก็เคยทำผิดพลาด นั่นก็คือปฏิเสธความรู้สึกดีๆ ที่ชายหนุ่มเคยมอบให้ จนทำให้เธอและชายหนุ่มมองหน้ากันไม่ติด
และที่เธอรู้สึกผิดนั้นก็เพราะ หลังจากเธอปฏิเสธความรักเมื่อหลายปีก่อน ชายหนุ่มก็ตันสินใจบินไปเรียนต่อทันทีเหมือนกัน นับจากนั้นเป็นต้นมาเธอก็ไม่เคยได้เจอ ชายหนุ่มผู้นี้อีกเลย จะทำหน้าอย่างไร เมื่อต้องมาเจอกันอีก หลังจากที่ไม่เจอกัน
“พี่หนึ่งโวยวายอะไรแต่เช้าคะ ไม่อันตรายหรอกคะ ดามากับไอ้เมย์ แล้วก็ปลอดภัยดี พี่หนึ่งนะ คิดมากไปหรือเปล่า”
กานดาหันไปมองสบตาพี่ชายของตนด้วยความแปลกใจ ยิ่งเห็นสายตาที่พี่ชาย จ้องมองเพื่อนรักแล้ว ก็ยิ่งสงสัย สองคนนี้มีอะไรปิดบังเราหรือเปล่า แล้วทำไมพี่หนึ่ง ถึงได้จ้องไอ้เมย์แบบนั้น
//////////////
...โปรดติดตามตอนต่อไป...