“ไม่มีอะไรหรอก แม่ไม่เห็นแกที่ทำงานนะเลยโทรฯถามดูนะ แล้วนี่ถึงไหนกันแล้ว” เธอถามลูกชายออกไป
“แล้วต่อนนี้ผมกำลังจะถึงบริษัทฯแล้วครับ” ชายหนุ่มตอบมารดาออกไปพร้อมกับเลี้ยวรถเข้าบริษัท “คุณแม่ครับตอนนี้ผมอยู่หน้าบริษัทแล้วครับแค่นี้ก่อนนะครับ ผมขับรถอยู่ มันอันตราย” ชายหนุ่มพูดออกไปพร้อมกับตัดสายโทรศัพท์จากมารดา
"คุณค่ะ คุณพี่"
“มีอะไรหรือคุณ แล้วทำไมต้องตะโกนด้วย ผมอยู่ใกล้แค่นี้เอง เขาต่อว่าภรรยาออกไปพร้อมกับก้มหน้าลงมาสนใจเอกสารบนโต๊ะต่อ “
“คุณพี่ค่ะ คุณจะเงยหน้ามาคุยกับฉันแป็บหนึ่งจะได้มั้ยคะ “
“อ้าว ว่ามามีอะไรหรือครับคุณภรรยา” เขากล่าวออกมาอย่างล้อเลียนภรรยาแล้วก็ลงขึ้นจากโต๊ะทำงานเดินอ้อมมานั่งข้างภรรยาที่โต๊ะรับแขกชุดเล็กที่ตั้งอยู่ในห้องทำงานของเขา
“คุณทายสิคะว่าตาหนึ่งของเรามากับใคร”
“ผมไม่รู้หรอกเอาเป็นว่าคุณบอกผมมาดีกว่าว่าตาหนึ่งนะมาบริษัทกับใคร คุณถึงได้อารมณ์ดีแบบนี้ ผมว่าผมเดาไม่ถูกหรอก” เขาตอบภรรยาออกไปพร้อมกับคิดในใจว่าทำไมผมจะไม่รู้ว่าคนที่มากับบุตรชายเป็นใคร แต่เขาก็ไม่ได้บอกภรรยาหรอก รอให้ภรรยาเขาตอบมาดีกว่าเดี๋ยวจะหาว่าเขารู้มากอีก
“แล้วตาหนึ่งมากับใครล่ะ” พ่อเลี้ยงวิเชียรเงยหน้าขึ้นถาม
“ตาหนึ่งมากับยัยดาแล้วก็หนูเมย์ไงคะ” ตอบออกไปพร้อมกับส่งรอยยิ้มให้สามีแล้วลุกขึ้นตาสามีบ้าง “ฉันไม่กวนคุณแล้วล่ะคะ ฉันออกไปทำงานดีกว่า คุณก็เหมือนกันทำงานได้แล้วฉันไม่รบกวนแล้ว” พูดจบพร้อมกับเดินไปยังประตูเดินออกไปอย่างอารมณ์ดีพร้อมกับปิดประตูห้องทำงานของสามี
////////////
“สวัสดีค่ะคุณหนึ่ง วันนี้มาเกือบสายเลยนะคะ”
เลขาสาวถามออกไปพร้อมกับหันไปมองเจ้านายหนุ่มที่วันนี้มีสาวน้อยเดินเคียงข้างมาด้วย เนื่องจากคนที่เดินด้านซ้ายนั้นเธอรู้จักดีเพราะเป็นน้องสาวของเจ้านายหนุ่มแต่หญิงสาวที่อยู่ด้านขวามือเจ้านายหนุ่มนี่สิใครกัน เพราะดูยังไงก็ยังเด็กอยู่เลยจากที่สังเกตก็ไม่สวยมากมายแต่กลับดูอ่อนหวาน น่ารักมากว่าจะสวยเซ็กซี่แบบน้องสาวของเจ้านาย
“เอ่อ...คุณเดือน เดี๋ยวเข้าไปพบผมที่ห้องด้วยนะ”
“คะคุณหนึ่ง” เลขาสาวตอบออกไปพร้อมกับแววตาที่สงสัยส่งไปยังเจ้านายหนุ่มว่าหญิงสาวอีกคนที่มากับเขาคือใคร แต่ก็ไม่ได้คำตอบอะไรออกมา
“แล้วคุณพ่อกับคุณแม่มาถึงนานแล้วหรือคุณเดือน”
เอกราชถามเลขาพร้อมกับหันหน้าไปเปิดประตูให้สองสาวเขาไปแล้วเขาก็เข้าตามไปพร้อมกับปิดประตู หลังจากมองดูจนเจ้านายปิดประตูแล้ว ดวงเดือนก็กดหมายเลขไปยังหยิงสาวอีกคนทันที
“ฮัลโหล คุณแอนนาหรือค่ะ นี่เดือนเองนะคะ”
“มีอะไรหรือเดือน โทรฯมาปลุกฉันแต่เช้าแบบนี้”
“คุณหนึ่งนะคะเธอมาทำงานแล้ว เธอก็พาผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาที่บริษัทฯด้วย เดือนเลยโทรมาบอกคุณแอนนาก่อนนะคะ แค่นี้ก่อนนะคะพอดีเดือนต้องเอากาแฟเข้าไปให้คุณหนึ่งเธอ แค่นี้ก่อนนะค่ะ”
ดวงเดือนพูดออกไปพร้อมกับตัดสายโทรศัพท์ แล้วเดินเข้าไปชงกาแฟให้เจ้านายหนุ่ม
“นี่มันอะไรกันหนักหนา”
แอนนากล่าวออกมาอย่างหัวเสียเพราะเอกราชเป็นผู้ชายที่เธอจะต้องแต่งงานให้ได้ แต่นี้ก็คบกันมาหลายปีแล้วไม่เห็นว่าฝ่ายชายจะมาขอเธอแต่งงานเสียทีคิดแล้วก็น่าเสียใจเหลือเกิน แต่สงสัยเธอจะอยู่เฉยไม่ได้แล้ว
ผู้หญิงคนนั้นคือใครทำไมมาบริษัทกับหนึ่ง เธอคิดอย่างน้อยใจที่ชายที่หล่อนรักพาหญิงอื่นที่ไม่ใช่หล่อนเข้าบริษัททีกับหล่อนไม่เห็นจะพาไปบริษัทเขาเลยมีแต่หล่อนที่ต้องไปหาเขาเองเสมอ
/////////
“วางไว้ตรงนั้นแหละ ดากับเมย์จะทานอะไรมั้ย เดี๋ยวพี่ให้คุณเดือนจัดการให้เลยทีเดียว” ชายหนุ่มหันมาถามน้องสาวของตัวเอง
“ไม่คะพี่หนึ่ง ดายังไม่หิวเมย์ละหิวหรือยัง” กานดาหันไปถามเพื่อนรัก
“เราก็ยังไม่หิวเหมือนกัน ไม่เป็นไรหรอกคะเมย์ยังไม่หิว” หญิงสาวหันไปตอบชายหนุ่มแล้วหันไปยิ้มกับเลขาของเขา
“ไม่มีอะไรแล้วล่ะคุณเดือน ถ้ามีอะไรเดี๋ยวผมจะโทรเรียกคุณเอง” ชายหนุ่มพูดออกไปพร้อมกับกลับมานั่งที่โต๊ะทำงานแล้วหยิบกาแฟขึ้นดื่ม
“ค่ะเจ้านาย”
เลขาสาวก็ถอยหลังออกมาหันไปมองสองสาวอีกครั้งหนึ่งพร้อมกับหันไปสบตาหญิงสาวที่เธอสงสัยว่าเป็นใครกันแน่ ดูเหมือนว่าเจ้านายดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดีหรือว่าจะเป็นเพื่อนกับคุณกานดา แต่ก็ไม่น่าจะดูแลเทคแคร์กันขนาดนี้ เธอดูออกว่าเจ้านายรู้สึกอย่างไรกับหญิงสาวคนนี้
//////////
หลายชั่วโมงต่อมา
ดวงเดือนนั่งก้มหน้าทำงานด้วยความขะมักเขม้น ก่อนเงยหน้าขึ้นมาสบตากับเข้าของเสียงแหลมและยังไม่ทันได้ถามอะไร หญิงสาวก็ชิงถามขึ้นมาก่อน “ผู้หญิงคนนั้นอยู่ไหน ดวงเดือน” แอนนาถามดวงเดือนออกมา
“อยู่ในห้องของคุณหนึ่งค่ะคุณแอนนา” หล่อนตอบออกไปไม่ทันจบ เมื่อหญิงสาวอีกคนตรงไปยังห้องของชายหนุ่มทันทีโดยที่เธอยังพูดไม่จบเลย เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็เจอแต่ผู้หญิงที่หล่อนไม่รู้จักนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานของชายหนุ่ม อารมณ์โกรธก็สูงขึ้นทันที
“เธอเป็นใคร” หญิงสาวถามออกไปด้วยความโกรธ เพราะขนาดเธอยังไม่สามารถนั่งที่โต๊ะทำงานของชายหนุ่มได้เลยแล้วผู้หญิงคนนี้เป็นใครถึงมานั่งโต๊ะทำงานของเขาได้
“แล้วคุณล่ะคะเป็นใคร ถึงได้มาทำเสียงดังแบบนี้ ไม่รู้จักคำว่ามารยาทหรือคะ ห้องทำงานนะไม่ใช่ตลาดคุณถึงได้ทำกิริยาแบบนี้” เมธาวีกล่าวออกไปอย่างโกรธๆหญิงสาวตรงหน้าที่เธอดูแล้วเหมือนกับว่าโกรธใครมาสักสิบปีมายืนด่าเธอยู่แบบนี้.....
“ฉันถามว่าเธอเป็นใคร แล้วมานั่งที่นี่ได้ยังไง”
“แล้วแต่คุณจะคิดสิคะ ฉันนั่งในห้องนี้มาตั้งแต่เช้าแล้วไม่เห็นมีใครมาต่อว่าฉันสักคำ คุณล่ะคะเป็นใครถึงได้มาแว้ดๆ ใส่ฉันแบบนี้ ถ้าคุณจะมาหาพี่หนึ่ง เขาไม่อยู่หรอกคะ”
เมธาวีพูดออกไปพร้อมกับยิ้มขำๆให้กับหญิงสาวตรงหน้า สงสัยคงจะเป็นแฟนของเจ้าของห้องนี่แน่ หึหึ เหมาะสมกันดี หญิงสาวคิดแล้วนั่งยิ้มน้อยๆ
“กรี๊ด! เธอยิ้มอะไร” แอนนาถามออกไปพร้อมกับก้าวเท้ามาหาหญิงสาวที่นั่งอยู่บนโต๊ะทำงานของคนที่หล่อนรัก
“ฉันถามว่าเธอยิ้มอะไร ที่ฉันถามว่าเธอเป็นอะไรกับหนึ่ง เธอยังไม่ได้ตอบฉันเลย บอกมาเดี๋ยวนี้นะ”
“คุณอยากรู้ก็ไปถามเขาเองสิ” เมธาวีบอกด้วยน้ำเสียงกวนๆ ก่อนจะจ้องมองหญิงสาวด้วยสายตาดุจเดียวกัน รู้จักเมธาวีน้อยไปเสียแล้ว
“อยากมีปัญหากับฉันหรือไง” แอนนาถามด้วยน้ำเสียงคุกคามและหาเรื่องอีกฝ่าย
เมธาวีลุกขึ้นจากโต๊ะแล้วก้าวเท้าเข้าไปยืนประจันหน้ากับหญิงสาวตรงหน้า พร้อมกับส่งยิ้มอย่างผู้ชนะ “คุณจะมาถามฉันให้มันได้อะไรขึ้นมา คุณต้องไปถามคุณหนึ่งดูสิค่ะว่าฉันเป็นใครไม่ใช่มาเอะอะแบบนี้ ขอตัวนะคะ” กล่าวออกไปพร้อมกับเดินผ่านหญิงสาวตรงหน้าเพื่อที่จะเปิดประตูแล้วก้าวออกไปโดยไม่ได้หันกลับมามองว่าคู่อริมองเธอด้วยสาตาอย่างไร
///////////
...โปรดติดตามตอนต่อไป...