“คงไม่ได้หรอกไอ้หนู พี่คาร่าของพวกเธอมีนัดกับฉันแล้ว”
ชายหนุ่มพูดแทรกเมื่อเดินมาหยุดอยู่ข้างๆ มรินญา เขายกยิ้มมุมปาก ปรายตามองมรินญาเหมือนสั่งให้หล่อนหุบปาก!! ห้ามออกความเห็น
“ไม่ทราบคุณเป็นใครครับ? ผมแน่ใจว่าไม่เคยเห็นหน้าคุณแถวนี้มาก่อน”
องอาจถามเสียงขุ่น เขามองคนมาใหม่ตาขวาง เขาโชคดีที่มีลูกติดเลยใช้เป็นข้ออ้างเขาใกล้มรินญา เธอรักเด็ก แต่คู่แข่งของเขาก็มีไม่ใช่น้อย ตลอดระยะเวลา2ปีกว่าที่เขาเทียวไล้เทียวขื่อ เขาต้องฝ่าฟันอยากหนักกว่าเจ้าของร้านกาแฟคนสวยจะยอมให้ความสนิทสนมด้วย แล้วไอ้หน้าหล่อคนนี้เป็นใคร? ทำไมจู่ๆ ทำท่าทางสนิทสนมกับมรินญาเป็นอย่างดี ที่สำคัญมรินญายอมรับนัดมัน ทั้งที่บ่ายเบี่ยงกับทุกคนที่มาติดพันเธอ
โลแกนแสยะยิ้ม “โลแกน โคล์” เขาตอบและทันเห็นว่าอีกฝ่ายสะดุ้ง
หน้าจืดๆ ของไอ้หนุ่มพ่อลูกติดค่อยๆ ซีดลงทันควัน และเหลือบมองมรินญาด้วยสายตาตัดพ้อ
นามสกุลคนมาใหม่ แถมท่าทางเขายังดูมีอำนาจ เขาทำท่าทางขึงขังได้ ก็เพราะเขาน่าจะเป็น ‘สามี’ ของเธอ
“ทำไมใช้นามสกุลเหมือนพี่คาร่าเลยอะครับ” เด็กจอมแสบเอ่ยถาม เขาเอียงคอมองทั้งสองคนสลับกัน
“เรากลับกันเถอะลูก วันนี้พี่คาร่าคงไม่สะดวก” ความจริงตรงหน้าทำให้องอาจแทบทรุด หลังภรรยาหอบผ้าหนี เพราะเบื่อหน่ายทุกอย่างรอบตัว หนุ่มใหญ่เลี้ยงดูบุตรมาโดยลำพัง ไม่เคยชายตาแลสาวคนไหน มาสะดุดกึกกับร้านกาแฟข้างทางเพราะเจ้าของร้านสวยหวานถูกใจ ที่สำคัญหล่อนก็ร้างราสามีเช่นกัน เขาเคยพยายามถามหล่อนหลายครั้ง ไม่มีคำตอบจากมรินญา วันนี้เขารู้แล้ว ที่หล่อนไม่เคยตอบ เพราะหล่อนยังคงรอคอย...เมื่อสายตาของหล่อน เวลาที่มองคนๆ นี้ มีแต่ความภักดีและรักสุดหัวใจ
“ได้ยังไงคะป๊า!! ตุ๊กตาบลายธ์ของหนู เครื่องบินบังคับของผมล่ะคร๊าฟ”
เด็กแฝดแย่งกันพูด เขามีภารกิจต้องทำให้สำเร็จ ไม่อย่างนั้นของขวัญพิเศษที่อยากได้ก็จะชวด
หญิงสาวยืนขึ้นช้าๆ กลืนน้ำลายเอือกๆ เธอหวังว่าเหตุการณ์วันนี้คงไม่ทำให้เธอต้องเสียลูกค้าประจำไป
“เสน่ห์แรงจริงนะ... เธอไม่ได้บอกพวกเขาเรอะ!! ว่าเธอมีสามีแล้ว”
ชายหนุ่มเปรยเสียงเข้ม เขาสอดมือล้วงเขาไปในกระเป๋ากางเกง ผินหน้ามองตามสามคนพ่อลูกไปด้วยสายตาดุดัน
หญิงสาวสูดลมหายใจลึกๆ เธอมีสามีก็เหมือนไม่มีนั่นแหละ จะแปลกอะไรล่ะถ้าจะมีผู้ชายมาติดพันเธอบ้าง
“บอกค่ะ หนูไม่เคยปิดใคร” เธอตอบเสียงแผ่ว เดินตามโลแกนไปติดๆ เพราะเขาคงไม่ยอมกลับ หากวันนี้ยังไม่ได้เปิดปากพูดเรื่องสำคัญที่เขาเกริ่นไว้...
“ขนาดรู้!”
มุมปากได้รูปเหยียดยิ้ม ขนาดรู้ ไอ้หนุ่มหน้าโง่พวกนั้น ก็ยังจะหวังในตัวหล่อน
โลแกนคิดเคืองๆ เขาลืมไปว่าตัวเองกับมรินญาไม่เคยใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน เขากับเธออยู่ห่างกันคนละที่ จะแปลกตรงไหนท่ามีผู้ชายมาสนใจมรินญา เมื่อข้างกายของหล่อนว่างเปล่า แม้จะใช้คำนำหน้าว่า ‘นาง’
แต่ก่อนที่โลแกนจะทันได้ต่อว่ามรินญาเพิ่ม...เสียงแทรกที่ดังขึ้นมา ทำให้ชายหนุ่มแทบสติหลุด!!
“คาร่า!! เหนื่อยชะมัด ขอเอสเพรสโซ่เย็นแก้วสิ”
ยังไม่ทันได้หย่อนก้นลงนั่ง ลูกค้าคนใหม่ก็เดินเข้ามาร้องสั่งออเดอร์กับมรินญา ทั้งที่หน้าเค้าน์เตอร์ก็มีพนักงานคอยให้บริการ โลแกนจึงตวัดสายตาดุๆ มอง ก่อนจะสูดลมหายใจลึกๆ เมื่อคนมาใหม่นี่ คงไม่แคล้วมาติดพันมริญาอีกคน!!
ชัดถอดหมวกเซฟตี้จากศีรษะพร้อมกับยิ้มแผล่ เขาแหล่มองลูกค้าหน้าใหม่ที่หล่อพอๆ กับนายแบบ ผู้ชายคนนั้นมีส่วนผสมระหว่างเอเชียกับตะวันตก เป็นความคมเข้มที่ลงตัว ที่สำคัญเขากำลังสนทนากับผู้หญิงที่เขาวางให้เป็นแม่ของลูก ใคร? เขาได้แต่ถามตัวเอง ไม่กล้าเปิดปากถามหญิงสาว เมื่อหล่อนเว้นระยะห่างระหว่างกันไว้ ยังไม่ได้ให้ความสนิทสนมกับเขาเป็นพิเศษ แต่ชัดไม่เคยท้อ เมื่อเขามีภาษีดีกว่าองอาจผู้ชายเรื่อพ่วง หรือนายโผนเจ้าของกิจการเช่าสปีดโบท เมื่อเขาโสดสนิทไร้พันธะใดใด และไม่เคยรังเกียจที่มรินญาเคยผ่านการมีสามี
“สวัสดี...ผมโลแกน โคล์”
ไอ้หมอนั่นแนะนำตัว หลังมรินญาคล้อยหลัง หล่อนกำลังไปสั่งเครื่องดื่มที่เขาร้องสั่งเมื่อสักครู่
ชัดยืนอึ้ง!! เขากะพริบเปลือกตาปริบๆ จ้องมองหน้าคนมาใหม่ตาเขม็ง เพราะคำพูดที่ได้ยินจากปากกับนามสกุลพ่วงท้าย มันใช้นามสกุลที่มรินญาใช้อยู่
“ผมเป็นสามีเธอ” โลแกนย้ำอีกครั้ง เขากดยิ้มมุมปาก เมื่อไอ้หนุ่มคนใหม่ทำท่าทางเหมือนจะทรุด
“คุณบอกว่า...” ชัดถามย้ำ เสียงเขาแผ่วหวิวเหมือนกำลังหมดแรง
“ใช่...ผมเป็นสามีเธอ ผู้หญิงที่ดูเหมือนว่าคุณกำลังสนใจ...แต่ขอโทษ เธอไม่ว่างสำหรับคุณ”
โลแกนพูดย้ำหนักๆ แสยะยิ้มแบบเป็นต่อ เขาลืมไปหมดว่าเขามาเพราะอยาก ‘หย่า’ กับมรินญา อารมณ์หวงก้าง ทำให้ชายหนุ่มชะงักที่จะดำเนินการต่อ ตอนนี้ขอกันท่าไอ้ลูกหมาพวกนี้ก่อน!!
ชัดยอมรับว่าตกใจ เขาขวัญเสีย แต่หลังใคร่ครวญซ้ำอีกครั้ง ชายหนุ่มจึงไหวไหล่ และเปรยเสียงเคร่ง “ผมแน่ใจว่าตลอดเวลา2ปี ผมไม่เคยเห็นคุณ ผัว-เมีย ที่ไม่เคยติดต่อกันเลยเป็นเวลานาน ทางกฎหมายเขาถือเป็นโมฆะ และตอนนี้ผมกำลังลงสมัครเป็นว่าที่ ‘สามี’ ของเธอ ส่วนคุณมันก็แค่อดีต”
ฟันกรามของโลแกนบดกัดดังกรอดๆ เขาโกรธจัดจนแทบกระอักเลือด ชายหนุ่มสุดทะนงตวัดสายตาดุดันมองตรงไปยังคนต้นเรื่อง เมื่อ3ปีก่อนมรินญาฉีกหน้าเขาเสียจนแหกยับเยิน วันนี้หล่อนก็ยังทำให้เขาเสียหน้าเช่นเดิม หล่อนกำลังคิดจะสวมเขาบนศีรษะให้เขา เขานั้นทั้งแหลมคม มันทิ่มตำใจจนเจ็บจี๊ด!!
ไอ้หน้าจืดเรือพ่วง ไอ้หนุ่มผิวเข้มปากดี ยังมีใครอีกไหมที่มาติดพันหล่อน โลแกนไม่อยากคิด เวลาแค่3ปี ทำให้มรินญาเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ เขาปรายตามองแก้วกาแฟตรงหน้า ก็ยังดีที่หล่อนยังไม่ลืมว่าเขาโปรดกาแฟดำ...โลแกนสูดลมหายใจลึกๆ ยกกาแฟขึ้นจิบแก้เซ็ง!! อืม...ใช้ได้ เขาไม่แปลกใจแล้ว ทำไมร้านกาแฟของหล่อนถึงอยู่ได้ รสกาแฟของหล่อนกลมกล่อม...พอๆ กับร้านดังๆ และหล่อนยุ่งวุ่นวายกับการดูแลลูกค้า เขาจะผ่อนปรนให้ก็ได้ วันนี้เขาจะยังไม่เจรจา
ชายหนุ่มแสร้งหาข้ออ้าง...ทั้งที่เขากำลังทำท่า ‘หวงก้าง’ อยู่แท้ๆ
อารมณ์โลแกนยังไม่ทันได้คงที่ เพราะไอ้หนุ่มผิวเข้มที่บังอาจท้าทายเขานั่งขวางหู ขวางตาอยู่ตรงหน้า ก็มีผู้ชายคนใหม่เข้ามาทำให้อุณหภูมิในร่างกายเขาเดือดปุดๆ เพิ่มอีกคน
“อเมริกาโนร้อนแก้วนะน้องคาร่าคนสวย” ผู้ชายผิวเข้มแต่งตัวเหมือนคาวบอยหลงยุค เดินเข้ามาร้องสั่งออเดอร์เสียงลั่น เขาถอดหมวกปีกกว้างบนศีรษะกระพือตรงหน้าเพื่อให้ความร้อนในร่างกายได้ระบายออก
มรินญาหันมายิ้มให้ เมื่อโผนไม่ต่างอะไรกับพี่ชาย เขาคอยให้คำแนะนำ และคุ้มครองให้เธอไม่ทุกรุกรานจากอิทธิพลท้องถิ่นเธอจึงมีวันนี้ได้
“นั่งก่อนค่ะพี่โผน ขนมเค้กสักชิ้นด้วยไหมคะ?” เสียงหล่อนหวานจนโลแกนนึกฉุน เขาเริ่มหงุดหงิด ลูกค้าร้านนี้ทำไมมีแต่ผู้ชาย?!!
“ได้ก็ดีจ้า ชีวิตกำลังขาดหวาน แต่จะให้ดีกว่านี้ถ้าน้องคาร่าคนสวยจะมานั่งจิบกาแฟเป็นเพื่อนพี่ด้วย” โผนหยอดคำหวาน เขาพูดไปอย่างนั้นแหละเมื่อรู้ดีอยู่แก่ใจ มรินญาไม่มีสายตามองใคร ในหัวใจของหล่อนมีผู้ชายคนหนึ่งจับจอง แม้เขาผู้นั้นจะยังไม่ปรากฏตัว
หญิงสาวยิ้มตอบ เธอเปิดประตูด้านข้างเค้าน์เตอร์ เข้าไปช่วยลูกน้องทำงาน เพราะมีลูกค้าสั่งออเดอร์จนทำเกือบไม่ทัน และมรินญาลืมโลแกนไปชั่วขณะ มานึกขึ้นได้ก็ตอนเดินถือถาดเพื่อเอากาแฟมาเสิร์ฟโผน เธอเผลอตัวสบนัยน์ตาคู่คมของโลแกนเขาพอดี หญิงสาวตัวชาวูบ รังสีจากดวงตาเขาร้อนเหมือนเปลวไฟจากปล่องภูเขาไฟ เขาโกรธ!! แต่โกรธเธอเรื่องอะไรล่ะ โกรธที่เธอยุ่งจนไม่มีเวลาฟังความต้องการของเขาเหรอ จริงสิ!! นักธุรกิจอย่างเขาคงไม่มีเวลามานั่งเอ่อระเหย เธอควรพูดให้จบๆ ไปใช่ไหม แม้จะเจ็บปางตาย แต่ก็ยังดีกว่าปล่อยให้คาราคาซัง