บทที่2.ก็เลือกที่จะเดินไป...จะสนทำไมกับทางที่ผ่านมา...

1546 คำ
“จริงค่ะ หนูคงหนีคุณไม่พ้น คุณมีธุระกับหนูสิ... ใช่ไหมคะ?”          มันต้องเป็นธุระสำคัญแน่ ไม่อย่างนั่นโลแกนคงไม่ดั้นด้นมาหาเธอถึงที่ หลังจากเขาปล่อยเธออยู่สบายๆ มากว่า3ปี          “ใช่...” ชายหนุ่มพยักหน้า สีหน้าเขากร้าวกระด้างจนหัวใจเธอปวดแปลบ...แววตาของเขาไม่เคยเปลี่ยน ในนั้นมีแต่ความรำคาญและความรังเกียจ          “ค่ะ... หนูขอเวลา5 นาที เดี๋ยวหนูจะออกไปหาคุณ”          มันคงถึงเวลาแล้วสินะ เธอไม่สามารถซ่อนตัวได้อีกแล้ว...เขาคงต้องการบางอย่างจากเธอ ไม่อย่างนั้นคนยโสอย่างโลแกนคงไม่ลดตัวมาหาเธอถึงที่ มรินญาเหม่อ ความคิดคำนึงย้อนกลับเข้ามาในหัว คำเตือนของพิมรักดังแว่วๆ จนหญิงสาวแทบทรุด!!          “คาร่า....เอ่อ...” พิมรักมีท่าทีกระอึกกระอัก เพื่อนเธอเหมือนมีบางอย่างอยากบอก          “ว่ามาเลยพิม...เรารับได้” หญิงสาวสูดลมหายใจลึกๆ พิมรักเป็นเพื่อนคนเดียวที่เธอไว้ใจ หลังเรื่องราวความวุ่นวายที่มรินญาก่อไว้ซาลง... เธอจึงโทรศัพท์หาพิมรักคนแรก!!          สาวสวยแต่ตกเทรนเรื่องการแต่งกายมองเพื่อนด้วยสายตารวดร้าว ความฝันของผู้หญิงคือการแต่งงานกับคนที่ตัวเองรัก มีครอบครัวอบอุ่น ห้อมล้อมไปด้วยความสุข แต่ผู้หญิงตรงหน้าพิมรักนี่ เพื่อนของเธอได้แต่งงานสมความปรารถนา แถมแต่งงานกับคนที่ตัวเองรักเสียด้วย แต่ข้อเสียของการแต่งงานครั้งนี้คือ... เจ้าบ่าวหาได้รักเจ้าสาวไม่ มันจึงเป็นที่มาของการตัดสินใจเด็ดขาด มรินญาหนี!! แต่ดันเก็บความร้าวระทมติดมือมาด้วยนี่สิ เมื่อเพื่อนของเธอดันเผลอลืมหัวใจตัวเอง...ทิ้งไว้กับชายผู้นั้น          “พิมรู้...คาร่าพยายามไม่สนใจ แต่ก็ตัดใจไม่ได้ใช่ไหมล่ะ? ตอนนี้คงถึงเวลาแล้วล่ะ ผู้ชายคนนั้นไม่มีค่าพอสำหรับคาร่าอีกต่อไป ขนาดเขาได้ชื่อว่ามีภรรยาแล้วตัวเป็นๆ แล้ว โลแกนก็ยังมั่วไม่เลือก!! แต่มันคงไม่ร้ายแรงหรอก หากเขาไม่คิดจะจริงจังกับแม่นั่น...โลแกนเขากำลังคิดจะแต่งงานใหม่ กับคนที่เขารัก”          พิมรักร่ายยาว ให้เพื่อนเจ็บตอนนี้ ดีกว่าหัวใจกลัดหนองไปจนตาย ต่อให้นอนกอดทะเบียนสมรสไว้กับตัว มันก็ไม่มีประโยชน์ เมื่อหัวใจของผู้ชายคนนั้นถูกยกให้คนอื่น          น้ำตาเกร็ดเล็กๆ ไหลเอ่อในหน่วยตา ไม่ว่าพยายามทำใจให้นิ่งเท่าไร ข่าวร้ายก็มักทำให้เธอน้ำตาร่วงได้เสมอ หากข่าวนั่นเกี่ยวกับโลแกน          “มาลาเบล แซก!! นางแบบมาแรงของปารีส หล่อนคือคู่รักที่โลแกนคิดจะแต่งงานด้วยในขณะนี้”          เสียงของพิมรักลอยมาตอกย้ำ จนหัวใจของมรินญาโทรมไปด้วยลิ่มเลือด หัวใจเธอถูกเขาเหยียบซ้ำอีกครั้ง เธอควรทำอย่างไรดี ยอมถอย หรือจะทวงสิทธิ์ของตัวเองคืน          “พิมจะให้เราทำไงล่ะ?” เธอถามกลับ เสียงสั่นเครือเพราะกลั้นเสียงสะอื้นสุดตัว          “หย่าสะ!! คืนอิสระให้เขา คาร่าเองก็ควรมองหาใครได้แล้ว จะมามัวจมอยู่กับคนไม่เห็นค่าทำไม”          คำแนะนำของพิมรัก มรินญานอนคิดมาหลายคืน บางทีเธอควรคืนอิสรภาพให้โลแกน และปลดตัวเองออกจากพันธนาการนั่นสักที หญิงสาวคิดในใจด้วยความเศร้า!!          ผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ชิดริมกระจก เขามองเหม่อไปด้านนอก มองดูผู้คนที่เดินสวนไปสวนมาด้วย สายตาเลื่อนลอย...เขาตามสืบหามรินญา ยอมกลืนน้ำลายตัวเอง เพราะเขาคิดว่ามันสมควรแก่เวลา...เขาไม่อยากให้ผู้หญิงที่ไหนไม่รู้ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยาเขา เมื่อมีคนเหมาะสมกับเขาโผล่เข้ามาในชีวิต ผู้หญิงที่เข้ากับเขาได้ทุกทาง เก่งทุกเรื่องโดยเฉพาะเรื่องบนเตียง มาลาเบลทำให้เขาหลุดโลก เขาลุ่มหลงหล่อนบอกได้เลย          กลิ่นกาแฟหอมๆ โชยมาก่อนกลิ่นหอมอ่อนๆ เย็นจมูก โลแกนสูดลมหายใจลึกๆ เขาเผลอตัวดมดอมกลิ่นหอมเย็นๆ นั่นด้วยความเพลิดเพลิน          “กาแฟค่ะ” หญิงสาวทรุดนั่งฝั่งตรงข้าม วันนี้เธอจะไม่หนี...แม้จะพ่ายแพ้ยับเยิน          “3ปีแล้วสินะ ที่ไม่ได้เจอกัน” ชายหนุ่มเอ่ยประโยคแรก เป็นคำทักทายของคนที่ไม่ได้เจอกันมาถึง3ปี          “ค่ะ คุณน้าเป็นอย่างไรบ้างคะ?” เธอถามถึงมาดามนับทอง ผู้ใหญ่ที่เธอนับถือประหนึ่งมารดา          “เธอใส่ใจแม่ฉันด้วยเหรอ? แปลกมาก!!...เพราะหากเธอห่วงใยท่านจริง... เธอควรแวะกลับไปให้ท่านเห็นหน้าบ้าง ไม่ใช่หลบมาไกลถึงที่นี่”          ชายหนุ่มพูดกระทบ เป็นเพราะหล่อน3ปีมานี่เขาถึงถูกมารดาพูดกรอกหูทุกวัน ท่านแข็งแรงดี ไม่มีทางแรงตก เพราะท่านอยากเห็นวันที่มรินญากับมาอยู่ในฐานะเดิม มาทวงการเป็นภรรยาเขานี่ล่ะ          “หนูขอโทษค่ะ ตอนนั้นหนูคิดอะไรไม่ออกจริงๆ” หญิงสาวก้มหน้าลง เธอเสียใจทุกครั้งหากย้อนนึกถึงอดีต แต่ให้เธอทนอยู่ในสภาพเช่นนั้น มันก็เท่ากับเป็นการทำร้ายตัวเองเหมือนกัน          “คาร่า...ใครพาเธอหนีมา?” เป็นข้อเดียวที่เขาอยากรู้ ถึงจะพอทราบเลาๆ แต่เขาอยากได้ยินคำยืนยันจากปากหล่อนมากกว่า          “เอ่อ...” หญิงสาวช้อนสายตามองโลแกน แววตาของหล่อนตื่นตกใจ แต่ก็ไม่ปริปากพูดเช่นเดิม เมื่อบุคคลผู้นั้นเป็นผู้มีพระคุณ เขาพาเธอออกมาจากวังวนของความเศร้าหมอง          “ไม่ต้องตอบก็ได้...ฉันพอรู้ แค่อยากแน่ใจ ฉันจะได้เอาคืนมันถนัดมือหน่อย!!”          ชายหนุ่มกระแทกเสียงตอบ เขาแสยะยิ้ม ปรายตามองแก้วกาแฟควันกรุ่นแต่ไม่คิดจะแตะ          “ฉันมาเพราะมีเรื่องอยากตกลงกับเธอ...สำคัญมาก!! และคิดว่าเธอคงต้องการเช่นกัน”          เวลาของเขามีจำกัด เขาไม่อยากให้เรื่องราวระหว่างตัวเองกับหล่อนเยิ่นเย่ออีกนาน เขาอยากเริ่มต้นใหม่ และเป็นของขวัญให้กับสาวคนรัก หล่อนคงดีใจไม่ใช่น้อยหากได้เปิดเผยตัวเองสักที หลังจากต้องหลบซ่อนมานาน เพราะเขาไม่ใช่คนตัวเปล่า          ทั้งๆ ที่ทำใจมาตลอดว่าวันนี้คงมาถึงเข้าสักวัน แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากันจริงๆ มรินญากลับรู้สึกโหวงๆ ในอก จากนี้ไปคำต่อท้ายของเธอคงไม่ใช่ ‘โคล์’ เธอแน่ใจ...ว่าโลแกนมาเพราะจุดประสงค์นี้ชัวร์          แต่ก่อนที่โลแกนจะเปิดปากพูด เขากลับถูกขัดจังหวะเสียก่อน          “พี่คาร่าคร๊าฟ...ขอเค้กช็อคหน้านิ่มกับสตอเบอรี่ชีสเค้กอย่างละชิ้นคร๊าฟ วันนี้ป๊าเลี้ยงผมกับแอนนาที่ได้ดาวห้าดวง”          เด็กชายวัย6ปีกับเด็กผู้หญิงอายุเท่ากันวิ่งตึงตังเข้ามาหา มือเล็กๆ เกาะขอบเก้าอี้ พวกเขาเงยหน้าขึ้นพูดกับมรินญาพร้อมกับฉีกยิ้มจนตาหยี ดวงตาพริบพราวสดใส          “ได้ค่ะ ไปนั่งโต๊ะรอได้เลย เดี๋ยวพี่คาร่าให้พี่เอม เขาเอามาเสิร์ฟให้ค่ะ”          หญิงสาวหันไปตอบ “ขอตัวสักครู่ค่ะ” หญิงสาวถอนใจยาวๆ เดินไปสั่งลูกน้อง และยกไปเสิร์ฟเด็กชายและเด็กหญิงด้วยตัวเองปล่อยให้โลแกนนั่งหน้าตึงเพราะธุระของเขาถูกขัดจังหวะ จากบุคคลที่สาม          มันคงไม่ได้ทำให้หนวดโลแกนกระตุกได้เท่ากับผู้ชายคนหนึ่ง... อายุอานามคงพอๆ กับเขาที่เดินตามเข้ามาทีหลัง ไอ้หมอนั่นส่งยิ้มให้มรินญาแบบหวานหยด!! และหล่อนดันยิ้มหวานฉ่ำตอบกลับเสียด้วย ทีกับเขาใบหน้าเล็กๆ ของหล่อนกลับเรียบกริบ (อิจนิดๆ)          “คาร่า...เหนื่อยไหมคะ?” แหมคำถามของมัน!! ถามเหมือนสนิทสนมกันเป็นอย่างดี ดูตามันก็รู้ ไอ้หมอนั่นหวังทาบ มรินญาแหงๆ โลแกนคิดเคืองๆ          “ไม่ค่ะ แขกซาๆ ไม่ยุ่งเหมือนทุกวันค่ะ แต่เอ...ทำไมวันนี้มากันแต่วันเลย โรงเรียนยังไม่เลิกนี่คะ?” หญิงสาวถามกลับ แต่โลแกนขมวดคิ้ว คำพูดหล่อนสื่อเป็นนัยๆ ว่าสามคนพ่อลูกนี่มาเป็นประจำทุกๆ วัน          “วันเกิดทีกับแอนนา สงสัยคาร่าคงลืม” ชายหนุ่มพ่อลูกติดเปรยยิ้มๆ          มรินญายกมือทาบอก เธอลืมวันเกิดของลูกค้าขาประจำได้ยังไง!!          “พี่คาร่าขอโทษค่ะ เอาเป็นว่า ขนม2 ชิ้นนี่พี่คาร่าเลี้ยงเอง แถมด้วยสมูทตี้ปั่นคนละแก้ว โอเคไหมคะ?”          หญิงสาวหันไปขอโทษขอโพยเด็กน้อย เธอทรุดนั่งข้างๆ เก้าอี้ ทำตาปริบๆ จนเด็กหญิง-ชายอมยิ้มชอบใจ          “ป๊าบอกว่าถ้าเชิญพี่คาร่าไปร่วมงานวันเกิดของพวกเราได้ ป๊าจะซื้อเครื่องบินบังคับให้ผมเป็นของขวัญ พี่คาร่าไปงานวันเกิดของผมนะครับ”          เด็กชายเอียงตัวกระซิบ เขามองมรินญาอย่างมีความหวัง และทุกอย่างตกอยู่ใต้สายตาของโลแกน ชายหนุ่มร้อนก้น เขาทนนั่งมองเฉยๆ ไม่ไหว...มันคงต้องลงมือทำอะไรสักอย่าง...เขารู้สึกเช่นนั้นจริงๆ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม