"พี่ฟาโรห์กลับมาแล้วครับคุณแม่" เขาเห็นฟาโรห์เดินไปที่เรือนกล้วยไม้ แล้วก็มีริษาเดินตามหลังไปด้วย คุณวีณามองตามที่ลูกชายคนเล็กเอ่ยบอกยิ้มๆ
"น่าจะได้กล้วยไม้มาเพิ่มอีกแล้ว ถ้าไม่รู้ว่าชอบกล้วยไม่มาก่อน แม่คงคิดว่าพี่ชายเราคงมีแฟนเป็นคนขายกล้วยไม่เป็นแน่" คุณวีณาพูดอย่างอารมณ์ดี พร้อมกับทอดสายตามอง ฟาโรห์กับริษาที่ช่วยกันถือกล้วยไม้เดินไปเดินมาพูดคุยยิ้มแย้มกันอยู่สองคนอย่างนึกเอ็นดู
"สองคนน่ารักดีนะลูกว่าไหม" อยู่ๆคุณวีณาก็เอ่ยถามลูกชายคนเล็ก ไคโรมองผู้เป็นแม่อย่างสงสัยว่าท่านจะพูดอะไร
"แม่หมายถึง พี่ชายเรากับหนูริษา ฟาโรห์ดูเอ็นดูริษาดี แม่ลองถามทั้งคู่ดีไหม"
"ถามว่าอะไรครับ?"
"ก็ถ้าฟาโรห์ยังไม่มีใครริษาก็เหมาะที่จะเป็นสะใภ้แม่นะ แม่เห็นมาตั้งแต่เล็กๆริษาเป็นเด็กน่ารัก แม่ไม่อยากให้ลูกชายแม่มองข้ามน้องไป ทั้งสวยทั้งน่ารักขนาดนั้น"
ไคโรได้ยินแบบนั้นได้แต่กลืนน้ำลายฝืดๆลงคอ แต่ก็ไม่ได้ออกความเห็นอะไร ได้แต่นั่งมองภาพสองคนที่พูดคุยยิ้มแย้มกันตลอดเวลา ริษายิ้มง่ายหัวเราะง่ายเวลาที่อยู่กับพี่ชายเขา ยิ่งถ้าคุณแม่ของเขาสนับสนุนทั้งคู่ด้วยแบบนี้ ทั้งคู่ก็คงลงเอยกันไม่ยาก
"ไคโร" ครับคุณแม่ ทำไมเงียบไป เปล่าครับ ผมขอไปทักทายพี่ฟาโรห์หน่อยนะครับ ใกล้เวลานัดที่ทีมงานจะมารับผมแล้ว "จ้าไปเถอะ"
"คุณแม่อย่าทำงานเยอะจนเกินไปนะครับ หาเวลาไปสวีทกับคุณพ่อบ้างนะครับ" จ้ะแม่รู้ เขาหอมแก้มคุณแม่ไปหลายฟอด แล้วเดินออกจากบ้านไปหาพี่ชาย
"พี่ฟาโรห์" อ้าว!พี่กำลังจะเดินเข้าไปหาในบ้าน ริษาบอกพี่แล้วว่านายมา พอดีได้กล้วยไม้มาใหม่ ฟาโรห์เอ่ยพูดกับน้องชายพร้อมกับฉีดพ่นน้ำให้กล้วยไม้ของเขาไปด้วย
"พอดีใกล้เวลานัดของผมแล้วผมจะกลับแล้วครับ" อ้าว! นายมีงานต่อเหรอ ฟาโรห์วางทุกอย่างแล้วหันมาคุยกับน้องชาย
"มีถ่ายงานนิดหน่อยครับ" นายกลับมานอนที่บ้านบ้างสิ ได้ครับวันนี้เสร็จงานแล้วจะมา
ไคโรมองนาฬิกาแล้วก็มองคนตัวเล็กที่พอเขาก้าวเข้ามาก็ไม่ได้ยินเสียงเธอเลย ริษามองเขาอยู่เงียบๆ มีปากไว้คุยแต่กับฟาโรห์สินะ
"พี่ฟาโรห์ผมต้องไปแล้ว" โอเคไว้เจอกัน ด้วยความไม่พอใจเธอรึอะไรก็ไม่รู้ทำให้เขาเดินออกไปเฉยๆไม่ได้บอกลาริษา ทำให้คนตัวเล็กได้แต่ส่งยิ้มเก้อไปให้เขา
เป็นอะไรของเขาอยู่ก็บึ้งตึงใส่กัน เมื่อกี้ยังชมกับข้าวที่เธอทำอยู่เลย คนตัวเล็กหน้างอ ได้แค่ค่อนขอดเขาในใจ
"ริษา" ค่ะ เข้าบ้านเถอะเพื่อคุณแม่เราเรียกหา ตรงนี้พี่ไม่มีอะไรให้ช่วยแล้วอากาศร้อนด้วยไปเถอะ ค่ะพี่ฟาโรห์
ติ้ง ~
เจ้านาย : ริษาคนสวยเมื่อไหร่จะรับนัดผม
ริษามองข้อความนั้นอย่างรู้สึกเอือมระอา เมื่อไหร่เขาจะเลิกวุ่นวายกับเธอ เธอเงียบไม่ตอบเขา เธอจะตอบและคุยเฉพาะเรื่องงาน ริษาได้เอาเรื่องนี้ไปปรึกษาพี่ที่ทำงานคนหนึ่ง ว่าเธอควรทำยังไงดี เพราะถ้ายังเป็นแบบนี้เธอคงต้องลาออกจากงานนี้แน่ๆ และก็พลันคิดถึงคำสั่งของไคโรที่บอกให้เธอลาออก งานที่เงินเดือนเยอะๆก็หายาก ถ้าออกแล้วต้องไปเริ่มต้นใหม่อีกเธอจะพอกินพอใช้ได้ยังไง ตอนนี้ทำงานหาเงินเองได้คุณแม่ก็จะได้เบาใจลงบ้าง เพราะคุณแม่เธอก็ต้องแบบรับค่าใช้จ่ายอยู่ก็เยอะมากพอแล้ว ถ้าอยู่ๆเธอต้องมาตกงานอีก ริษาก็หนักใจเรื่องนี้
ด้านไคโร
"ขอพักหน่อย" ได้ครับคุณไคโร วันนี้เป็นอะไรรึเปล่าครับคุณไคโร เจสันเข้ามาถามเจ้านายอย่างเป็นห่วงเพราะจับสังเกตอาการที่ไม่ค่อยมีสมาธิเท่าไหร่ของไคโรซึ่งจะเป็นความผิดปกติที่จะไม่เกิดขึ้นบ่อยแน่นอน
"ฉันมีเรื่องให้คิดแล้วก็สลัดออกจากหัวไม่ได้สักทีวะเจสัน" ดื่มอะไรเย็นๆหน่อยไหมครับ อืมก็ดี
ไคโรนั่งหลับตาทำสมาธินิ่งๆอยู่แบบนั้น วันนี้เขามีถ่ายภาพนิ่งคู่กับรถยนต์ งานแบบนี้ปกติเขาใช่เวลาไม่นาน
แต่เพราะมีเรื่องให้คิดและหน้าใครบางคนที่กวนใจเขาไม่หยุด นี่สิ งานเลยไม่เสร็จซะที ริษาคุณแม่เล็งเธอไว้ให้พี่หาโรห์สินะ แล้วเธอละเห็นด้วยกับคุณแม่รึเปล่า เรื่องนี้กวนใจเขาจริงๆ
ไคโรดื่มน้ำส้มเรียกความสดชื่นแล้วกลับไปเข้าเซตถ่ายงานต่อ จบงานแล้วเขาเข้าไปขอบคุณทีมงานทุกคนและ ขอโทษที่ทำงานงานล่าช้าไปบางช่วง
"เขาไม่ถือตัวเลยนะ พูดจากดียิ้มแย้มตลอด" เสียงชมเบาๆมาจากทีมงานช่างกล้องช่างไฟ
"เจสัน วันนี้ฉันมีคิวอะไรอีกไหมเรียกโมน่ามาสิ" โมน่าผู้ดูแลคิวงานของเขา
"วันนี้หมดแล้วค่ะคุณไคโร แต่มีปาร์ตี้คุณไคโรอยากไปไหมคะ รึว่าอยากเข้าสปาไปนวดตัวหน่อยไหมคะ รึไปตัดผมไหมคะ"
"ไม่ไปไหน ปาร์ตี้ค่อยไปคืนพรุ่งนี้งานเดียวก็พอ ถ้างั้นฉันจะกลับไปนอนที่บ้านไปส่งฉันด้วย แล้วงานพรุ่งนี้กี่โมงทักฉันมาก็แล้วกัน"
ทีมงานไปส่งเขาที่บ้าน ไคโรเดินเข้ามาริษายังอยู่ที่บ้านเขา คุณแม่เธอน่าจะยังทำงานอยู่กับแม่เขา คุณป้าแม่บ้านเข้ามาดูแลเขา
"ผมจะมานอนนี่นะครับ" เขาพูดกับป้าแม่บ้านแล้วก้มตัวลงไปลูบหัวเจ้าลูกชิ้น แต่ไม่ได้เอ่ยอะไรกับริษาเลย
"คุณไคโรทานอะไรดีคะ" ผมทานมาแล้ว จะนั่งรอคุณแม่แถวนี้แหละ ป้ามีอะไรก็ไปทำเถอะครับไม่ต้องเป็นห่วงผม พูดเสร็จคนตัวโตก็อุ้มเจ้าลูกชิ้นไปนั่งที่โซฟา ไม่ได้หันมามองริษาด้วยซ้ำ
เธอรู้สึกอึดอัด กับท่าทางแบบนั้นของเขา เลยลุกขึ้นจะเดินเลี่ยงไปนั่งที่อื่น ไคโรเงยหน้ามองคนตัวเล็กที่ทำท่าจะเดินหนีเขา
"ริษาจะไปไหน" เสียงทุ้มเรียกเธอ
"พี่ไคโรมีอะไรรึเปล่าค่ะ" เทไวน์ให้แก้วหนึ่งสิ เธอเดินไปทำตามที่เขาสั่งโดยที่ไม่ได้พูดอะไร แล้วเดินถือไวน์มาส่งให้เขา
"อืม ขวดนี้อร่อยดี มีอีกไหม" เขามองเธอเพื่อให้เช็กดูไวน์ในขวด จะหมดแล้วค่ะ ไคโรกระดกไวน์จนหมดแก้ว แล้วก็ลุกขึ้น
"พี่ไคโรจะไปไหนคะ" ไปเอาไวน์มาเพิ่ม แล้วพี่ฟาโรห์ไปไหน พี่ฟาโรห์ออกไปทานข้าวข้างนอกค่ะบอกว่ามีนัด ไคโรยิ้มพี่เขาคงมีแฟน
"เขาบอกเธอแบบนั้นเหรอ" ค่ะ ไคโรวางเจ้าลูกชิ้นลงแล้วเดินออกไปด้านนอก ริษาเดินตามเขามา
"ตามมาทำไม" ก็พี่บอกว่าจะมาเอาไวน์ริษาจะมาช่วยส่องไฟให้ค่ะ ไม่ต้องหรอกฉันกำลังจะไปเปลี่ยนหลอดไฟนั่นอยู่ด้วยเลย
ไคโรเดินเข้าไปหาหลอดไฟที่ ห้องเก็บของ ริษาเดินตามเขาไปด้วย มองดูเขาหยิบนั้นหยิบนี้ เสร็จแล้วก็เดินไปที่ห้องเก็บไวน์ เขาลากเก้าอี้แล้วปีนขึ้นไปด้วยความตัวสูงของเขา การเปลี่ยนหลอดไฟมันช่างง่ายดีจัง
ริษาเงยหน้ามองเขาทำนั่นทำนี้เพลินๆ แล้วเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว
"ยิ้มอะไรฉันน่าตลกเหรอ" เปล่าๆค่ะ แค่คิดว่าความสูงของพี่มันดีจริงๆ
"แล้วทำไมเราไม่สูงบ้างละ ตอนเด็กๆก็ไม่ค่อยจะยอมกินนม กีฬาก็ไม่ค่อยจะยอมเล่น" เขาบ่นเธอไปเรื่อยเปื่อย แต่มันทำให้เธอคิดไปถึงตอนเด็กๆ
ที่มักจะต้องไปรอพี่ไคโรเล่นบาสตอนเย็นหลังเลิกเรียนทุกวัน เพราะต้องรอกลับบ้านพร้อมเขา ส่วนเธอก็นั่งกินขนมรอ ไม่ได้ออกกำลังกายอะไร เหมือนที่เขาพูดนั่นแหละ แต่ก็นั่นแหละเธอไม่คิดว่าเขาจะจำเรื่องราวพวกนั้นได้
"ริษา"
"ค่ะ"
"ช่วงนี้พี่ฟาโรห์มีแฟนรึเปล่า" ริษาไม่ทราบค่ะ แล้วถ้าพี่เขามีแฟนละเธอจะว่าอะไรไหม แล้วทำไมริษาต้องว่าด้วยละคะ
"คุณแม่ฉันอยากได้เธอเป็นลูกสะใภ้"
"ว่าอะไรนะคะ"
"คุณแม่อยากให้เธอกับพี่ฟาโรห์คบกัน เธอคิดว่าไง อืม จะคิดว่าไงฉันไม่น่าถามเลยเนอะ เธอก็คงดีใจสินะ"
ได้ยินแบบนี้ ริษาถึงกับงง