Episode-๐๙ ข้อแลกเปลี่ยน

1389 คำ
อาทิตย์หน้าสอบแล้วนายส่งงานครบทุกวิชาหรือยัง” ฉันเอ่ยถามเก้าที่กำลังนั่งเล่นเกมส์อยู่ข้าง ๆ “ยังอะ ช่างมันเถอะไม่สนใจหรอก” “ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ นั่นมันคะแนนของนายนะ” “ก็ช่างสิ ไม่ได้สนใจแต่แรกอยู่แล้ว” “คิดแบบนั้นเหรอ” “...” “คะแนนเกรดเฉลี่ยหรือวุฒิการศึกษามันสำคัญนะ ต่อให้มันจะกินไม่ได้แต่มันก็ทำให้ชีวิตเรามีทางเลือกมากขึ้นนะ” ฉันยังคงพยายามพูดให้คนตรงหน้าเข้าใจแต่เหมือนว่าเขาจะฟังแบบขอไปที “สำหรับเธอมันใช่ แต่สำหรับเรามันเลือกไม่ได้ขนาดนั้นหรอก” “บางทีนายควรลองเข้าเรียนให้ครบทุกวิชาดูบ้างนะจะได้รู้ว่ามันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น” “แลกกันคนละวันเอาไหมล่ะ แต่ข้อแลกเปลี่ยนของเราอาจจะยากเกินไปสำหรับเธอหน่อยนะ” “ยังไง” “หนึ่งวันของเราจะเข้าเรียนครบทุกวิชาและไม่มีเรื่องกับใคร ส่วนอีกหนึ่งวันของเธอคือโดดเรียนไปกับเรา” มันไม่ใช่ประโยคบังคับหรอกค่ะแต่เป็นประโยควัดใจต่างหาก “ถ้านายกล้าที่จะเรียนรู้ชีวิตของเรา เราก็กล้าที่จะเรียนรู้ชีวิตของนาย” ก็แค่เกเรวันเดียวคงไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าหนึ่งวันของเขามันจะเป็นยังไง “แปลว่าตกลง?” “อืม” “...” เก้าเงียบไปเมื่อเห็นว่าฉันตอบตกลงโดยไม่ลังเลสักนิด เขาคงไม่คิดล่ะมั้งว่าฉันจะกล้าทำแบบนั้น “สามวันสุดท้ายก่อนสอบนายเลือกมาเลยว่าวันไหน” “พรุ่งนี้เราจะเข้าเรียน ส่วนวันที่สามวันสุดท้ายของเธอแล้วกัน” “วันสุดท้ายเลยเหรอ...” พลางคิดอะไรบางอย่างแล้วมองคนตรงหน้าไปด้วย “นายคิดว่าเราไม่กล้าสินะ” “แล้วกล้าป่ะล่ะ” “หึ! นายท้าผิดคนแล้ว” ฉันว่าพลางแค่นหัวเราะออกมาเบา ๆ ให้กับความคิดของคนตรงหน้า วันสุดท้ายของการมาเรียนเป็นวันสำคัญค่ะ มีการนัดแนะมีการประชุมชี้แจงหลายอย่างแต่ก็นะ เลือกไปแล้วนี่ลองดูก็ไม่เห็นจะเสียหายอะไร เช้าอีกวัน เก้าก็มาเรียนตามปกติค่ะ แถมยังเข้าเรียนทุกชั่วโมงอย่างที่รับปากไว้อีกด้วย อยู่ในโรงเรียนเราแทบจะไม่ได้พูดคุยกันสักคำเว้นแต่มีจังหวะจริง ๆ เขาถึงจะเป็นฝ่ายทักทายก่อน อย่างเช่นตอนนี้ “อึ้งเลยอะดิ” “ทำดีก็ทำได้แต่นายไม่ทำเองแหละ” “หลอกด่าเก่งชะมัดเลย” “ฮ่า ๆ” “ไปเข้าห้องเรียนได้แล้ว” “นายก็เหมือนกัน” เราเรียนตึกเดียวกันค่ะ เก้าเรียนชั้นสามฉันเรียนชั้นสอง “อ้าว... เธอเพิ่งมาหรอกเหรอ” ปูนาที่มาถึงก่อนเอ่ยถามขึ้น “ใช่ดิ แกเดินโคตรเร็วเลยไม่รู้จะรีบไปไหน” “แหะ ๆ ขอโทษนะที่รักคราวหน้าจะไม่รีบแบบนี้แล้ว เราลืมไปว่าขาเธอสั้น” “ปูนา!” “ฮ่า ๆ” เข้าห้องเรียนได้ไม่นานอาจารย์ก็มาค่ะ แต่ว่ามาพร้อมกับเพื่อนห้องสี่... “เรียนรวมกันอีกแล้วเหรอวะ” แซ็กเอ่ย “น่าจะเป็นอย่างนั้นนะ” ใช่ค่ะ มันเป็นแบบนั้นจริง ๆ เพราะอาจารย์อีกคนไม่อยู่ “ขยับให้เพื่อนนั่งด้วยนะคะ ชั่วโมงที่เหลือนี้ครูอนุญาตให้ทำงานค้างได้ คุยกันก็ได้ค่ะแต่อย่าเสียงดังเกินไปนะ” ... : ค่ะ/ครับ ฉันนั่งคู่กับปูนาค่ะ เอ็กซ์กับแซ็กนั่งด้วยกัน และโบนั่งคนเดียวอยู่แถวหลังฉันนี่แหละ “ไอ้เก้า! ไวเชียวนะมึง” “อะไรมึง?” “ฮั่นแน่...” เสียงแซวดังขึ้นไปรอบบริเวณ เบือนหน้าไปมองก็เห็นว่าเก้านั่งลงตรงที่ว่างข้างโบค่ะ “ครูครับ เพื่อนผมแอบชอบลูกสาวห้องครูครับ” “ใคร?” “ไอ้เก้าครับ ไม่เชื่อดูสิมันเข้าใกล้แม่สาวผมยาวทุกครั้งเลยที่มีโอกาส” ... : ฮ่า ๆ “ทำตัวให้ดีก่อนสิเผื่อครูจะใจดียกให้” “...” ฟังผ่าน ๆ ก็เหมือนคำแซวธรรมดาทั่วไปใช่ไหมล่ะคะ แต่สำหรับฉันรู้สึกว่ามันไม่ใช่เลย นี่มันคือฉนวนชั้นดีที่คอยจี้ปมในใจของเขาเลยด้วยซ้ำ ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมเก้าถึงไม่อยากให้ใครรู้ว่าเราสองคนสนิทกัน “ไม่เป็นไรนะเขาแก่แล้ว อีกเดี๋ยวก็เกษียณแล้วล่ะอย่าไปสนใจเลย” “คิกคิก” คำพูดของฉันทำเอาปูนากลั้นขำแทบไม่ไหวรวมไปถึงโบและใครอีกคนก็ด้วย “สวย ถ้าไม่ได้ยินกับหูตัวเองกูก็ไม่คิดนะว่ามึงจะเป็นคนแบบนี้” โบว่ายิ้ม ๆ “เราก็เป็นคนเหมือนกันนะ” “ฮ่า ๆ” กวาดสายตาไปรอบบริเวณคือทุกคนมีงานทำกันหมดเลยค่ะยกเว้นพวกเราสี่คนเพราะส่งกันหมดแล้ว “ธนบดินทร์ งานเธอเสร็จหมดแล้วเหรอ” “ครับ” “ส่งหรือยัง?” “ส่งครบแล้วครับ” “เยี่ยม!” “มึงส่งงานครบทุกวิชาเลยเหรอเก้า” คล้อยหลังอาจารย์โบก็เอ่ยถามขึ้น “เออ” “เชี่ย... เป็นไปได้แฮะ” “เป็นไปแล้ว พอดีมีข้อแลกเปลี่ยนกับคนในความลับนิดหน่อย” “กูชักอยากรู้แล้วสิว่าเขาคนนั้นเป็นใครทำไมมึงถึงเปลี่ยนเพื่อเขาได้ขนาดนี้” “ใช้คำว่าเปลี่ยนเลยเหรอวะ” “เออดิ การที่มึงเข้าเรียนครบทุกวิชานี่มันเป็นเรื่องอัศจรรย์เลยนะ” “หลอกด่ากูไหมเนี่ย?” “ไม่ ๆ กูแค่เปรียบเปรยให้ฟังเฉย ๆ” ต้องรู้สึกยังไงนะที่ถูกนินทาระยะเผาขนแบบนี้ แถมยังทิ้งระเบิดไว้ให้คนอื่นตามหาอีก ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ รู้ตัวอีกทีตอนนี้ก็ถึงเวลาเลิกเรียนแล้ว แถมคนที่ยื่นข้อเสนอให้ก็ทำภารกิจสำเร็จไปได้ด้วยดีอีกต่างหาก “เพียงจันทร์” “หืม?” “...” “เรียกแล้วไม่พูดนะ” ฉันว่าพลางหันไปมองโบด้วยความสงสัย ”ว่าไง?” “เปล่าไม่มีอะไรแค่จะบอกว่าอ่านหนังสือเผื่อด้วย” “โวะ!” “ฮ่า ๆ คนอะไรขนาดโวยวายก็ยังน่ารัก” “ถ้าเห็นตอนเราโกรธโบอาจจะเปลี่ยนคำพูดก็ได้” “ใช่ไหม? เพราะคนเรามันมีหลายมุม” “...” สองวันต่อมา... และแล้ววันนี้ก็มาถึงค่ะ ตื่นเต้นเป็นบ้าเลยไม่เคยทำอะไรแบบนี้ “เราจะไปไหนกันเหรอ” ฉันเอ่ยถามเก้าที่ตอนนี้พาฉันไปไหนไม่รู้ “ไปเรื่อย ๆ สบายใจตรงไหนก็อยู่ตรงนั้นแหละ ทำไมอะ กลัวเหรอ?” “ถ้ากลัวจะมาอยู่ตรงนี้หรือไง” ฉันตอบออกไปตามความคิด รู้นะคะว่ามันไม่ดีและไม่ควรทำตาม มันก็จริงอย่างที่แม่สอนนั่นแหละว่าไม่มีใครพาใครเสียคนหรอก มีแต่เราเองต่างหากที่อยากทำ เก้าพาฉันมาที่บ้านหลังหนึ่ง จำได้ว่าเคยมาแล้วแต่ตอนนั้นเขาสั่งให้ฉันรอที่รถและเข้าไปคนเดียว “...” ฉันหยุดนิ่งไม่ยอมเดินตามไปเมื่อเห็นว่าในตัวบ้านเต็มไปด้วยคนแปลกหน้าที่มีทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แถมยังคละคลุ้งไปด้วยควันบุหรี่ ถ้าจะพูดกันตามตรงมันก็แหล่งมั่วสุมดี ๆ นี่เอง “เปลี่ยนใจไหม? กลับเข้าโรงเรียนตอนนี้ยังทันนะ” “ไม่ล่ะ ถ้ามีนายอยู่ด้วยเราก็ไม่น่าจะกลัวอะไร” “เชื่อใจกันขนาดนั้นเลยเหรอ เธอไม่คิดว่าเราจะพาเธอมาทำอะไรไม่ดีไม่ร้ายบ้างหรือไง” “ก็คิด... แต่ถ้าจะทำนายคงทำไปนานแล้ว” “...” เก้าเงียบไปแล้วมองหน้าฉันเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ “เราไม่ได้ดีเหมือนที่เธอคิดหรอกนะเพียงจันทร์ แต่จำไว้เถอะว่าเราจะไม่ทำร้ายเธอไม่ว่าจะเป็นร่างกายหรือว่าความรู้สึก เพราะเธอเป็นคนเดียวที่อยู่ข้างเรา” “...” คราวนี้เป็นฉันเองที่เงียบไป รู้สึกว่าคุ้มค่ามากเลยที่วันนี้เลือกที่จะแหกกฎเพราะมันทำให้เห็นอีกด้านหนึ่งของเขา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม