พักกลางวันฉันแยกตัวออกมาเข้าห้องน้ำคนเดียวค่ะแต่ระหว่างทางสวนกันกับเก้าพอดีเขาพูดอะไรสักอย่างตอนเราเดินผ่านกัน ได้ยินไม่ค่อยถนัดว่ากลับบ้านอะไรสักอย่างนี่แหละ หันกลับไปมองเขาก็เดินเลยไปแล้ว ช่างเถอะ!
“อาทิตย์หน้าสอบแล้วอะยังไม่มีอะไรอยู่ในหัวเลย” ปูนาพึมพำออกมาก่อนจะฟุบหน้าลงไปกับหนังสือเรียน
“ก็ในใบงานกับแบบทดสอบไง นั่นแหละข้อสอบเชื่อเราสิ”
“นั่นแหละปัญหา! เพราะลอกเธอมาตั้งแต่ต้นจนไม่ได้อ่านเลยสักตัว”
“นั่นแหละ กลับบ้านไปก็อ่านซะ”
ติ๊ง!
“เลิกเรียนรอที่เดิมนะ”
ฉันเปิดอ่านเฉย ๆ แต่ไม่ได้ตอบกลับอะไร กวาดสายตาไปรอบบริเวณก่อนจะเจอเข้ากับเจ้าของข้อความที่ตอนนี้นั่งกันอยู่ที่ซุ้มไม้ซึ่งไม่ไกลจากฉันมากนัก
บ่ายนี้ว่างค่ะเนื่องจากเป็นสัปดาห์สุดท้ายของการเรียนแล้วอาจารย์บางวิชาจึงไม่ได้สอนต่อแค่เพียงรองานสำหรับคนที่ยังไม่เสร็จและยังไม่ส่งเท่านั้นเอง
“ที่รัก!”
“ที่รักบ้านป้ามึงสิ” ปูนาสวนกลับแทบจะทันทีและเสียงที่ดังก็พลอยทำให้คนที่อยู่ไม่ไกลได้ยินไปด้วย
“กูไม่ได้เรียกมึงครับเขยิบไปซิ” เอ็กซ์เอ่ยก่อนจะแทรกตัวนั่งลงข้างฉัน “ขอลอกใบงานคณิตศาสตร์หน่อยครับ”
“ส่งไปแล้วอะ”
“ใจร้ายชะมัดเลย”
“ใจร้ายอะไรเขาเรียกส่งตั้งแต่เมื่อวานแล้ว”
“สมน้ำหน้ามันไม่ต้องไปบอกมันหรอกอยากโดดเองดีนักให้ติดศูนย์ไปเลย” น้ำเสียงเย้ยหยันของปูนาทำเอาเอ็กซ์ต้องหันกลับไปมองและไม่วายที่จะสวนกลับเช่นกัน
“กูไม่สบายครับ เมื่อวานกูป่วย มึงเป็นหัวหน้าห้องจริง ๆ ไหมเนี่ยขนาดกูลามึงยังไม่รู้เลยปีหน้ากูจะปลดมึงออกจากตำแหน่ง!!”
“ปลดเลย ปลดกูเดี๋ยวนี้เลยกูอยากถูกถีบออกจากตำแหน่งจะแย่ละ”
“กวนส้นตีนฉิบหาย”
... : ฮ่า ๆ
มัวแต่มองสองคนนี้เถียงกันจนไม่ได้สังเกตว่าที่โต๊ะมีสมาชิกเพิ่มตั้งหลายคน
“แล้วพวกมึงมาเบียดกูทำไมกันเนี่ย” ปูนาถึงกับโวยวายยกใหญ่เมื่อพวกนั้นแทรกตัวนั่งลง
“ขอนั่งด้วยสักชั่วโมงไม่ได้เหรอ” หนึ่งในนั้นตอบ ถ้าจำไม่ผิดเขาชื่อโอมนะคะ เหมือนว่าฉันจะเคยได้ยินโบเรียก
“พวกมึงหลบอะไรกัน” โบเอ่ยถามขึ้นมาบ้าง “หรือมึงชอบใครในแก๊งกู”
“กูน่ะไม่แต่คนข้าง ๆ ไม่แน่”
“...”
... : หูย...!
“ชอบหัวหน้าห้องกูก็ไม่บอกกูได้ยกให้พร้อมหัวหมู”
“ไอ้โบ!! ไอ้ห่า!!”
... : ฮ่า ๆ
เสียงหัวเราะดังไปทั่วบริเวณ บรรยากาศตอนนี้ถูกปกคลุมไปด้วยผองเพื่อนทำให้ฉันรู้สึกว่าการมีเพื่อนผู้ชายมันก็ไม่ได้แย่เสมอไปแถมยังสนุกสนานโลดโผนแบบที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนอีกต่างหาก
“เดี๋ยวนะ! ไอ้เก้าแล้วมึงมานั่งอะไรข้างที่รักกูเนี่ย” เอ็กซ์เอ่ยอย่างไม่จริงจังมากนัก
“ใครที่รักมึง?”
“ทำเฉไฉซะด้วย”
“สัส! กวนตีนฉิบหาย” ก่นด่าออกมาแล้วย้ายไปนั่งตรงข้ามฉันแทน
ระหว่างคาบว่างนี้บทสนทนาก็ไหลไปเรื่อยเลยค่ะ ยาวไปจนถึงเทอมหน้าที่จะจบมอสามโน่นแหละ
“เรียนต่อที่ไหนเหรอ” ฉันเอ่ยถามคนที่อยู่ตรงข้ามเมื่อเห็นว่าเขาเอาแต่เงียบไม่ค่อยพูดกับใคร
“ไม่รู้ดิ คงไม่เรียนมั้ง”
“...”
“แล้วเธออะ”
“ต่อมอปลายที่นี่แหละ”
“อ่อ”
เหมือนบทสนทนาของเราสองคนจะแข็ง ๆ นะคะ ไม่รู้สิฉันรู้สึกเหมือนเก้าจะถอยออกไปให้มีระยะห่างมากขึ้น เหตุผลหลักก็คงไม่พ้นเรื่องที่เคยบอกฉันสินะ
“เลิกเรียนแล้วไปเดินตลาดกันดีกว่า” เอ็กซ์เอ่ยชวนขึ้นเมื่อได้ยินเสียงสันญาณเตือนหมดเวลาของโรงเรียน
“เออ”
“ไปดิ”
“ไปด้วย”
ทุกคนพร้อมใจกันตอบตกลงเหลือฉันกับเก้าที่ยังเงียบอยู่
“ที่รักไปเถอะนะ เราเป็นผู้หญิงคนเดียวเดี๋ยวคนอื่นจะมองไม่ดีเอาได้” ปูนาเอ่ยด้วยน้ำเสียงออดอ้อนแถมยังใช้คำพูดชวนหัวเราะกับฉันอีกด้วย
“มึงต้องใจเย็น ๆ นะปู พวกกูไม่ได้พิศวาสมึงขนาดนั้น”
“พวกมึงอย่าสองมาตรฐานสิกูก็เป็นผู้หญิงบอบบางเหมือนกันนะ”
“ฮ่า ๆ เออกูจะปกป้องมึงเอง ว่าแต่มึงล่ะไปไหม?” ประโยคหลังนี้โอมหันไปถามเก้าค่ะ
เขาไม่มีคำตอบในทันทีก่อนจะมองหน้าฉันแล้วตอบออกไป “กูปฏิเสธได้ไหมล่ะ”
“ได้! แต่กูอยากให้ไป”
“แล้วจะถามทำไมวะ”
สรุปก็ไปกันหมดค่ะ หลังโรงเรียนข้ามถนนไปจะมีตลาดนัดคลองถมอยู่เดินไปไม่กี่นาทีก็ถึงแล้ว
จากเดิมที่มีเพื่อนในกลุ่มแค่ห้าคนตอนนี้ต้องมาเดินกันเป็นโขยงมันก็รู้สึกแปลกดีเหมือนกัน แถมทั้งกลุ่มยังมีแค่ฉันกับปูนาสองคนเท่านั้นที่เป็นผู้หญิง
“ไอ้เก้า”
“หืม?”
“มึงเคลียร์จบยัง”
“จบแล้ว”
“แล้วมันมานั่งรอเหี้ยอะไรกันวะ”
“...”
ตรงหน้าพวกเราตอนนี้คือรุ่นพี่มอปลายค่ะ พวกเขานั่งกันอยู่ที่ประตูทางออกและยังมองมาทางพวกเราอีกด้วย
“นี่... พวกนายคงจะไม่พาเราสองคนวิ่งหนีตีนหรอกใช่ไหม?” ปูนาเอ่ยเมื่อเห็นสถานการณ์ไม่ค่อยดีนัก
“มึงมาถูกทางแล้วเพื่อน กูกำลังคิดแบบนั้นอยู่พอดีเลย”
“ไอ้นี่!”
... : ฮ่า ๆ
ทุกอย่างปกติดีค่ะ กระทั่งพวกเรากำลังจะเดินผ่านพวกเขาไป อยู่ ๆ พี่คนหนึ่งก็เดินมาหยุดตรงหน้าฉัน
“...”
“ไหนอะเบอร์?” เขาคือพี่คนนั้นที่ฉันได้เบอร์มานั่นเอง
“หนูทำหายค่ะเลยไม่ได้โทรไป”
“งั้นก็เอาเบอร์หนูมาค่ะเดี๋ยวพี่โทรไปเอง”
“...” ไม่เคยคิดไว้ล่วงหน้าเลยว่าจะต้องกลับมาแก้เกมส์อีกครั้ง
ตอนนี้ทุกคนต่างมองมาที่ฉันเป็นตาเดียว โดยเฉพาะเก้าที่เอาแต่มองหน้าพี่เขาด้วยสายตาที่โคตรจะหาเรื่อง ก็แหงสิ! เพิ่งจะมีเรื่องกันไปหมาด ๆ
“อย่าเงียบสิพี่ใจไม่ดี” เขาว่ายิ้ม ๆ เห็นแบบนั้นฉันจึงตัดสินใจจดเบอร์มือถือให้เขาไป “เดี๋ยวพี่โทรหานะ”
“ค่ะ”
“คนนี้ชื่อพี่พีทว่าที่ประธานนักเรียนปีหน้า หล่อรวยแถมเรียนโคตรเก่ง” คล้อยหลังพี่คนนั้นปูนาก็รีบเอ่ยขึ้นทันที
“กูนึกว่าจะมีเรื่อง ที่ไหนได้มาขอเบอร์คนสวยของกูนี่เอง” เอ็กซ์พูดขึ้นมาบ้างก่อนจะหันไปพูดกับเก้าต่อ “เพื่อนมันใช่ป่ะที่มีเรื่องกับมึงอะ”
“เออ”
มาถึงตลาดก็เดินหาของกินกันตามประสาค่ะ แต่จู่ ๆ ฉันก็ถูกแรงดึงจากด้านหลังจนทำให้ต้องหยุดเดินแล้วหันไปมองแทน
“อะไรของนายเนี่ย”
“ขาสั้นแล้วยังเดินเร็วอีก”
“หลอกด่าหรืออะไร?”
“คิดเอาเอง” จบประโยคก็เดินนำหน้าฉันไปเลยค่ะ ส่วนคนอื่นก็แยกกันไปคนละทิศคนละทางไม่เว้นแม้กระทั่งปูนาที่ทิ้งฉันแล้วไปหยุดอยู่หน้าร้านยำแทน
“โกโก้ปั่นหนึ่งแก้วค่ะ”
“สองแก้วเลยครับป้า”
“...” เบือนหน้าไปมองไม่ใช่ใครที่ไหนค่ะ ก็คนที่หลอกด่าฉันก่อนหน้านี้นั่นแหละ “นายชอบโกโก้เหมือนกันเหรอ”
“ตอนแรกก็ไม่ชอบหรอก แต่ตอนหลังเริ่มติดละเพราะแย่งเธอกินบ่อย”
“เหอะ! นิสัยไม่ดีก็แบบนี้แหละ”
“ไม่รู้ไม่ชี้” ลอยหน้าลอยตาได้น่าหมั่นไส้มาก
เดินเล่นต่ออีกนิดหน่อยก็แยกย้ายกันกลับค่ะ ฉันส่งปูนาขึ้นรถเมล์แล้วเรียบร้อย บ้านเราอยู่คนละทางไงเลยกลับด้วยกันไม่ได้
“รอนี่นะไปเอารถก่อน”
“เดี๋ยวเดินไปเป็นเพื่อนก็ได้”
“ไม่ต้องหรอกรอที่นี่แหละ”
“อืม”
แค่เพียงไม่นานเก้าก็มาค่ะ แถมยังถอดหมวกกันน็อคกับเสื้อแจ็กเก็ตให้ฉันใส่เหมือนเดิมอีก
“นายใส่ดีกว่านะ”
“เธอใส่น่ะถูกแล้ว”
“...” สุดท้ายก็ปฏิเสธอะไรไม่ได้อยู่ดี
“เดี๋ยวแวะเอาของแป๊บหนึ่งนะ”
“อืม” ไม่ได้ถามต่อหรอกว่าของอะไรและแวะที่ไหน
รถแล่นไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงทางเข้าซอยบ้านฉัน แต่ทิศทางของรถมันเปลี่ยนค่ะ ไกลพอสมควรก่อนจะหยุดที่บ้านหลังหนึ่ง
เก้าเดินเข้าไปแล้วออกมาพร้อมกับกล่องเครื่องมืออะไรสักอย่าง
“เอาไปทำอะไร”
“ทำรถให้เธอไง”
“อ่อ... ความจริงไม่ต้องก็ได้นะ”
“ไม่ได้หรอกเพราะจะหลอกกินข้าวบ้านเธออีก”
“ร้ายกาจ”
“เขาเรียกว่าอยู่เป็นนะ”
กลับมาถึงบ้านแม่ไม่อยู่ค่ะสงสัยจะไปซื้อของล่ะมั้ง ฉันจึงไปทำอะไรให้คนตรงหน้ากินและปล่อยให้เขาทำรถไปก่อน
“กินได้ก็กิน กินไม่ได้ก็ต้องกินนะ” ง่าย ๆ ค่ะข้าวผัดกระเพราไข่ดาวก็พอ
“ไล่เหรอ? รีบให้กินจะได้รีบกลับ”
“คิดไปโน่นแน่ะ! ก็เห็นว่าตอนเที่ยงไม่ได้กินข้าวไม่ใช่หรือไง”
“ขอบใจ แต่กินแล้วจะไม่ตายใช่ไหม?”
“ไม่หรอก อย่างดีก็แค่เป็นโรคไตเท่านั้นเอง”
“เธอ!”
“ฮ่า ๆ”
ระหว่างนี้ก็คุยเล่นกันไปเรื่อยค่ะกระทั่งมีคำถามแปลก ๆ เกิดขึ้น
“เธอชอบมันเหรอ”
“ชอบใคร?”
“ไอ้นั่นน่ะ ก็เห็นให้เบอร์มัน”
“โทรให้ติดเถอะ” ฉันตอบกลับอย่างไม่จริงจังมากนักเพราะเบอร์ที่ให้ไปมันเป็นเบอร์เก่าค่ะไม่ได้ใช้งานแล้ว
“แล้วเบอร์มันล่ะ เธอเอามาได้ยังไง”
“ตอนนั้นก็แบบนี้แหละแต่เราไม่อยากให้เลยใช้กลอุบายนิดหน่อย” ฉันว่ายิ้ม ๆ แล้วพูดต่อ “ก็แค่เอาเบอร์เขามาแทนแล้วบอกว่าจะโทรไปแต่ความจริงก็ไม่ได้โทร”
“ตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“อืม... น่าจะวันเดียวกันกับที่นายเขียนเบอร์ให้เราล่ะมั้ง”
“หึ! อีกเดี๋ยวมันก็คงโทรมา”
“มันไหน? นายพูดให้มันดี ๆ หน่อยสิเขาเป็นพี่ตั้งสามปีนะ”
“โทษทีพอดีฉันไม่มีพี่น้อง”
“ฉันก็มาแฮะ โมโหอะไรเนี่ย”
“เปล่า ก็แค่ไม่ชอบหน้ามัน”
“ฮ่า ๆ เขาก็อาจจะไม่ชอบหน้านายเหมือนกันก็ได้”
“แต่มันชอบเธอ”
“...”