8 คืนหรรษา

2341 คำ
ผมเปิดประตูรั้วเดินนำตุลย์เข้ามาในบ้าน ดึกดื่นขนาดนี้ปล่อยให้ ขี่มอเตอร์ไซค์กลับไม่ได้หรอกอันตรายมาก เดี๋ยวก็ได้เป็นแบบเด็กแว้นที่เล่าให้ผมฟังวันนี้พอดี แต่เด็กโข่งนี่จู่ ๆ ก็กระโดดมาเกาะแขนผมแน่น แถมเอาตัวแนบแทบจะสิงตัวผมอยู่แล้ว ผมหันไปมองเห็นเขาทำหน้าตื่น ๆ มองไปรอบ ๆ “พี่อิน แบบว่าบรรยากาศมันหนาว ๆ นะว่ามั้ย” “ก็นี่มันจะเที่ยงคืนก็ต้องหนาวอยู่แล้วมั้ย รอตรงนี้เดี๋ยวไปเอาผ้าเช็ดตัวมาให้” “มะ ไม่เอา ขอไปด้วยนะ ๆๆ” ผมไม่ได้ตอบเพราะเจ้าตัวยังเกาะแขนผมแล้วเดินตามมาติด ๆ เดี๋ยวนะห้องน้ำ… “รอตรงโซฟา พี่ไปทำความสะอาดแป๊บนึง” ผมขึ้นมาดูในห้องน้ำ ปล่อยน้ำในอ่างออกแล้วเอาแปรงขัด ๆ ถู ๆ เพราะมันไม่ได้สกปรกมาก จะสกปรกก็ตรงน้ำ...ช่างเถอะ “ว๊ากกกกกกกกก” “ตุลย์ เป็นอะไร” ผมรีบวิ่งลงมาดูข้างล่างตามเสียงร้องเห็นตุลย์นั่งกอดเข่าสั่นงก ๆ “พะ...พี่อิน” ตุลย์วิ่งมากอดผมแน่นตัวเขาสั่นแรงมาก “เมื่อกี้ แมวดำมันปามีดใส่ผมอ่ะ ละ..หลายเล่มด้วย” เขาชี้นิ้วสั่น ๆ ไปที่เจ้าเปียกปูนที่แทะลังกระดาษลังโปรดของมัน ผมขมวดคิ้วเข้าหากันแทบจะผูกเป็นโบว์ แมวดำปามีด? คือนึกภาพไม่ออกจริง ๆ ผมเดินไปอุ้มมันขึ้นมาแล้วหงายท้องพลิกซ้าย พลิกขวา ก็ปกตินี่หว่า มองไปรอบ ๆ ก็ไม่เห็นมีดสักเล่ม “แมวที่พี่เลี้ยงเอง เราเมาหรือเปล่าเนี่ยไป ๆ ไปอาบน้ำ” ผมลูบหลังเขาเบา ๆ ขี้กลัวแต่กลับเล่าเรื่องผีให้ผมฟังเนี่ยนะ “พี่ไปเฝ้าผมอาบได้ไหม” “เป็นเด็กอนุบาลหรือไงต้องให้เฝ้าน่ะ” “ผมรู้สึกแปลก ๆ นะ ๆๆ ผมกลัว” “เฮ้อ ไป ๆ” ฉันมาทำอะไรที่นี่....อยู่หน้าห้องน้ำรอเด็กอายุยี่สิบเอ็ดขวบอาบน้ำเนี่ยนะ เดินไปไหนก็ไม่ได้ เพราะเด็กนั่นเรียกชื่อผมไว้ทุกห้าวินาที “พี่อิน” “เออ ยังอยู่!!!” “อ๊ากกกกกกกกกกก พี่อินช่วยด้วยยย” “อะไรอีก!!” “เข้ามาก๊อนน แสบตา อ๊ากกกกกกก” โอ้ยยยไล่กลับบ้านดีมั้ยเนี่ย ผมเปิดประตูเข้าไป ‘เชี่ย...อะไรวะเนี่ย’ เลือดไหลเต็มพื้นไปหมด ตุลย์หลับตาปี๋พยายามควานหาฝักบัว มองไปบนหัวมีฟองสบู่ไหลลงมาอาบหน้า ผมรีบเข้าไปช่วยหา ‘ฝักบัวอยู่ไหนฟะ อยู่ไหน ใครมันเอาไปไว้ในโถส้วม โว้ยยย!!’ ผมหยิบฝักบัวมาเปิด กดหัวตุลย์ไว้แล้วค่อยๆ ล้างฟองออก “ตุลย์ โอเคมั้ย แล้วเลือดมาจากไหน” เขาไม่ตอบ ค่อย ๆ ก้มลงมองหว่างขาตัวเองซึ่งผมก็ไล่สายตาตาม เชี่ย… “ตุลย์ เป็นเมนส์เหรอ” “ก็เหี้ยแล้วพี่ อยู่ ๆ มีดโกนก็บาดอะ” “อยู่ ๆ ก็บาดหมายความว่าไง” “ก็ผมจะหยิบใยบวบมาถู แต่ดันหยิบมีดโกน” “ไอ้บ้า แค่จับก็รู้แล้วไหมว่าอันไหนใยบวบอันไหนมีดโกน ไป ๆ ทำแผลเดี๋ยวเลือดไหลหมดตัวพอดี” ผมพาตุลย์มานั่งที่เตียงแล้วเปิดตู้ค้น ๆ พวกกล่องปฐมพยาบาล จำได้ว่าแม่ให้เอามาด้วย แต่ในกล่องไม่ได้มียาเยอะมาก ส่วนใหญ่จะเป็นยาครอบจักรวาล เช่น ยาพาราที่ไม่ว่าจะปวดหัว ปวดฟัน ปวดขา ก็แค่กินยาพาราเม็ดเดียวก็หาย เอ๊ะ เหมือนลืมอะไรไป ผมเดินกลับมาหาตุลย์ที่ตอนนี้นั่งน้ำตาคลออยู่บนเตียง เห็นแล้วอดขำไม่ได้จริง ๆ “ไหนเปิดให้ดูหน่อย” “ผมเขินอะพี่” “เป็นผู้ชายด้วยกันจะเขินทำไม เปิดออก!” ผมกระชากผ้าเช็ดตัวเขาออกมาขงมาเขินอะไร ร.ด.ก็ผ่านมาแล้ว ผมมองไปที่ลูกชายของตุลย์ที่ไม่ได้ขาวไม่ได้คล้ำสีแบบ กลาง ๆ เดี๋ยวก่อนผิดประเด็น แผลยาวที่ยังมีเลือดซิบ ๆ อยู่ตรงแก่นกาย ดีที่ไม่ได้บาดลึก เห็นแล้วสงสารฮ่า ๆๆ “ฮ่า ๆๆ อดใช้การไปอีกนานแน่” “พี่ทำแผลให้ผมได้ไหม” “เขิน แล้วมาใช้กันเนี่ยนะ” “ก็ผมทำใจมองไม่ได้อ่ะ ทำให้หน่อยนะครับ นะ ๆ” ตุลย์เอาผ้ามาปิดน้องชายของเขา เปิดไว้แค่ตรงที่มีแผลเท่านั้น ผมหัวเราะ แล้วมานั่งยอง ๆ ตรงหว่างขา มือก็เอื้อมไปหยิบสำลีกับแอลกอฮอล์ แต่ใช้แอลกอฮอล์กับส่วนนั้นได้หรือเปล่า? ช่างเถอะผมเทแอลกอฮอล์ใส่สำลี พยายามบิดน้ำออกให้หมาดที่สุด เพราะกลัวเขาจะแสบผมค่อย ๆ ถูสำลีไปรอบ ๆ แผลของเขาอย่างเบามือที่สุด “ซี๊ดดด แสบ ๆๆ พี่อิน” “ทนแป๊บเดียว ถ้าเน่าขึ้นมาไม่รู้ด้วยนะ” ผมพูดขู่ซึ่งมันได้ผล ตุลย์เอามือปิดปากตัวเอง พยายามกลั้นเสียงร้องโอ้ยคือมันเห็นแล้วฮาจริง ๆ เอาล่ะถึงตาเบตาดีนแล้ว ผมหยดเบตาดีนใส่คอตตอนบัด แล้วก็ทาไปที่แผลเขาเบา ๆ อยู่ ๆ แก่นกายของเจ้าตัวก็เริ่มพองตัวเด้งขึ้นมาชี้หน้า ผมเงยหน้าไปมองตุลย์ ซึ่งเด็กนั่นก็ก้มหน้างุดหลบตา ผมส่ายหน้าหน่าย ๆ ก็เข้าใจนะเป็นผู้ชายเวลามีอะไรมาสัมผัสนิด ๆ หน่อยมันก็ตอบสนองแล้ว “เอ้า เสร็จแล้ว” ผมพูดพลางเก็บแอลกอฮอล์กับเบตาดีนเข้ากล่อง เดินไปหาเสื้อผ้ามาให้ตุลย์ใส่คงต้องเลือกไซซ์ที่ ใหญ่ที่สุดแล้วล่ะ ‘เพล้ง’ “เฮ้ย มีอะไร” “แจกันมันมายังไงไม่รู้ เฉี่ยวหัวผมไปนิดเดียว” ผมมองแจกันบนพื้นซึ่งมันอยู่คนละฟากกับเตียงด้วยซ้ำ เอาแล้วไง โดนผีเล่นแล้วไง มองไปรอบ ๆ ห้องยังไม่เห็นตัวการ เลยเดินไปเอาเสื้อผ้าไปให้ตุลย์ใส่ คืนนี้ยังไงก็นอนแยกห้องไม่ได้ ไม่รู้ตุลย์จะโดนอะไรอีกหรือเปล่า “บ้านพี่มีผีหรือเปล่าเนี่ย” “มี” “จริงดิ” ตุลย์ทำหน้าเหมือนปลาช็อกน้ำจ้องมาที่หน้าผม “ล้อเล่น ๆ ไม่มีไร อย่าคิดมาก” “ผมว่ามันแปลก ๆ พี่ไปนอนบ้านผมมั้ย” ‘กูไม่ให้ไป!!’ “พะ พี่อินได้ยินเสียงอะไรมั้ย” ตุลย์วิ่งมากอดผมแน่นแล้วมองไปรอบ ๆ ด้วยความระแวง “พี่พูดเมื่อกี้ไง ว่าไม่ไป” “ไม่ มันไม่ใช่เสียงพี่” “ถ้าเยอะกว่านี้จะไล่ออกไปนอนข้างนอกละนะ” “นอนแล้วครับ ๆ” ผมหยิบไม้กวาดมากวาดพวกเศษแจกันให้เรียบร้อย เดินไปปิดไฟเตรียมเข้านอน ให้ตุลย์นอนบนเตียงข้าง ๆ ผม เพราะไม่ได้เอาพวกที่นอนสำรองสำหรับแขกมาด้วย บรรยากาศเย็น ๆ หนาว ๆ อย่างที่ตุลย์บอกสงสัยคืนนี้ฝนคงจะตก เปลือกตาผมหนักอึ้งขึ้นเรื่อย ๆ ขอผมนอนหน่อยเถอะ ตกเย็นไปเดินงานวัด กลับบ้านมาก็ถูกผีทำมิดีมิร้าย เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว… “พี่อิน ๆ” “อื้ออ” “พี่อินตื่นก่อน” “อืออ อะไรอีก” “ผมได้ยินเสียงแมวพี่ร้อง” “ห๊าอะไรนะ” ผมเด้งตัวขึ้นมาอย่างเร็วเสียงแมวร้องงั้นเหรอ?! ความทรงจำของวันที่สองแล่นเข้ามาในหัว ไอ้พวกผีนั่นทำอะไรกับแมวผมหรือเปล่า ผมกึ่งวิ่งกึ่งเดินลงมาบันไดตุลย์ก็วิ่งตามมาติด ๆ จะทำลายอะไรก็ได้ แต่จะมาทำแมวตูไม่ได้!! พอลงมาถึงเจ้าเปียกปูนนอนหลับขดอยู่ตรงโซฟาปกติ ผมหันไปทำตาขวางใส่ตุลย์ที่บังอาจปลุกผมขึ้นมา เจ้าตัวก็ยืนยันว่าได้ยินจริง ๆ ร้องดังมากด้วย ผมเลยตัดปัญหาด้วยการอุ้มมันขึ้นไปนอนด้วยซะเลย แต่พอมาถึง...เตียงนอนเปียกผ้าปูที่นอนกับผ้าห่มถูกฉีกเละเทะไปหมดแถมยังมีเพื่อนใหม่สีเดียวกับเจ้าเปียกปูนมานอนด้วย ตะขาบ!! สองตัวใหญ่ ๆ อยู่กลางเตียง หึ แค่นี้คิดว่าจะกลัวหรือ ผมไม่ได้นิสัยเหลาะแหละเหมือนหน้าตานะ ผมเดินไปหยิบไม้กวาดที่ยังไม่ได้เอาลงไปเก็บกับหนังสือเล่มใหญ่ ๆ มาหนึ่งเล่ม ใช้ด้ามไม้กวาดช้อนไปที่ท้องของตะขาบ ขาหลาย ๆ ขาของมันพยายามคลานหนี ช้อนมันลงมาที่พื้นใช้หนังสือเล่มใหญ่ฟาดไปเต็มแรงสองสามทีจนตัวมันเละ แล้วทำกับอีกตัวเช่นเดิม เอาที่ตักผงที่ยังมีเศษแจกันค้างอยู่มาตักเก็บให้เรียบร้อย ใช้หลังมือปาดเหงื่อที่เริ่มซึมตามขมับ ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เหนื่อย! เหนื่อยจริง ๆ “ตุลย์ มีพวกชุดผ้าปูกับผ้าห่มอยู่ในตู้ไปเอามาปู” “พะ พี่มัน…มัน..ได้ยังไง” “ก็ฝนข้างนอกมันตก พี่ไม่ได้ปิดหน้าต่าง” “แต่ว่ามะ...” “ไป เอา มา ปู” “ครับๆ” เสียงฟ้าผ่าข้างนอกกับฝนที่ตกหนักขึ้นเรื่อย ๆ หน้าต่างตีเข้าตีออกพึ่บพั่บสร้างบรรยากาศเหมือนวันนั้นไม่มีผิด ตุลย์เปิดตู้เอาพวกผ้าปูออกมาจัดการปูเตียงเรียบร้อย ผมเห็นเขาเดินไปแถวโต๊ะ แล้วเดินกลับมาพร้อมพวกผ้ายันต์ สายสิญจน์ ที่แม่ผมส่งไปรษณีย์มาให้ พร้อมกับเอาไปวางไว้รอบ ๆ เตียง เอ่อ ตุลย์....ไม่เอาไม่พูดดีกว่า ถ้าเขาสบายใจก็ปล่อยเขาไป ในที่สุด..เราก็ได้นอนกันสักที ตุลย์เดินไปปิดหน้าต่างแล้วกลับมานอน ผมล้มตัวลงนอนที่เตียงอีกรอบในรอบนี้มีเปียกปูนนอนคั่นกลางระหว่างผมกับตุลย์ไว้เพื่อกันปัญหาไอ้พวกสองผีนั่นแกล้ง แมวผมอีก อยากจะร้องเพลงนี่เป็นครั้งแรกที่รอมาเนิ่นนานของแอนนา ในโฟรเซ่น ทีนี้ก็หมดปัญหากวนใจแล้วสินะ... ซี๊ดด อะไรเนี่ย ผมลืมตาขึ้นมากลางความมืด มือก็เกาที่แขนตัวเองยิก ๆ จนหนังแทบจะหลุด อาการมันแสบ ๆ คัน ๆ ผมพยายามเอามือลูบ ๆ ดูปรากฏว่ามดกัด ลืมไปว่าเอาเปียกปูนมานอนด้วย ไม่รู้ว่าตอนกลางวันมันคลุกดินคลุกทรายอะไรมาบ้าง ผมเดินไปเปิดไฟกลัวมดมันจะเข้าหูเสียก่อน แต่พอเดินกลับมาที่เตียง มด...เดินออกมาจากกางเกงตุลย์...เป็นสาย! ไวกว่าความคิดผมกระชากกางเกงตุลย์ออกทันที เหี้ย!!! ไม่ ไม่ใช่เหี้ย แต่เป็นมดแดง ไม่ใช่แค่สิบกว่าตัวแต่ มดแดงทั้งรัง ไอ้เหี้ยยยย!!!!!!!!! “ตุลย์ ๆๆ ตื่น ๆๆๆ” ผมรีบเขย่าตัวตุลย์ที่นอนไม่รู้เจ็บไม่รู้ปวดใด ๆ ทั้งสิ้น “อืออออ พี่อิน” “มด!!!!! มดในกางเกง” “หา เหี้ยยยยยยยย” ตุลย์รีบลุกออกมาแต่ยังไม่พ้นจากเตียงก็ล้มหน้ากระแทกพื้นอย่างแรง มองไปที่ขามีลวดหนามมัดหลาย ๆ ทบอยู่ตรงข้อเท้าทั้งสองข้างผูกตรึงไว้กับขาเตียง เขาพยายามดึงขาตัวเองออกจนหนามมันเจาะเข้าไปในหนัง ตุลย์ยังคงสะบัดเท้าและดึงตัวเองออกอย่างคนขาดสติ ลวดหนามหลาย ๆ เส้นที่เจาะเข้าไปขูดลากลงจนหนังเปิดเห็นเนื้อสีขาวด้านในเลือดเริ่มไหลกระฉอกอาบขา “ตุลย์ ใจเย็น ๆ พี่เอาออกให้” ผมเอาผ้าห่มหนา ๆ มารองไว้ก่อนที่จะ ค่อย ๆ แกะออกเพื่อไม่ให้มันบาดมือ ตุลย์รีบคลานไปห้องน้ำซึ่งผมก็วิ่งตามไปติดๆ น้ำก็ไม่ไหลอีก อ๊ากก ผมประคองตุลย์ลงมาข้างล่าง เปิดตู้เย็นดีที่มีน้ำอยู่ หมุนฝาขวดออกล้างมันตรงนั้นเลย มดแดงค่อย ๆ ไหลลงตามขา มดที่ว่าแดงแล้วส่วนนั้นของเขานี่ยิ่งกว่า วันนี้คงเป็นวันที่ผมพูดคำหยาบเยอะที่สุดในชีวิต ถ้าคุณย่ายังอยู่โดนฟาดแน่ ๆ เงยหน้าขึ้นมองตุลย์...สติหลุดไปแล้ว ผมไปเอาผ้าเช็ดตัวมาให้เช็ดพร้อมกับยาพารา หยิบผ้าก๊อซมาพันห้ามเลือดที่ขาของเขาไว้ “ต้องไปโรงพยาบาลนะ” มองนาฬิกาตอนนี้ก็ตีสามแล้ว ไม่รู้ในชนบทแบบนี้มีคลินิกฉุกเฉินหรือเปล่า โรงพยาบาลใหญ่ก็น่าจะอยู่ในเมือง “ตุลย์ โอเคหรือเปล่า” ตุลย์ไม่ได้ตอบ เขามองมาที่หน้าผมนิ่ง ๆ ผมรู้สึกผิด รู้สึกผิดจริง ๆ ที่ทำให้เขาต้องเจอกับอะไรแบบนี้ ผมเอามือไปลูบหัวตุลย์เบา ๆ “ขวัญเอยขวัญมานะ” “พี่อิน” “หืม” “พี่มีแฟนหรือเปล่า?” “แฟน? ไม่มีหรอก” “งั้นผมจี...” ‘ปั่ก’ มีดสั้นพุ่งมาอย่างแรงปักอยู่ที่กำแพงค้างไม่กระดิก อีกนิดเดียว....ต่ำกว่าอีกแค่ไม่กี่องศาก็จะปักตรงกลางหน้าผาก ของตุลย์พอดีใบมีดคมจนปักลงกำแพงแข็ง ๆ ได้ทำไมจะเฉาะกะโหลกคนไม่ได้ พวกเขาทำเกินไปแล้วผมขมวดคิ้วยุ่งหันกลับไปตามทิศทางที่มีดถูกปามา นัยน์ตาขาวจ้องเขม็งมาที่ตุลย์ สีหน้าดุดันราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ อีกคนถือมีดสั้นไว้ในมือ อีกคนถือดาบอาทมาฏแกว่งไปแกว่งมา นี่พวกมันจะไปออกรบหรือยังไง!! ‘กูให้เลือก จะคลานกลับไปเอง หรือ จะให้กูไปส่ง’
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม