รุ่งเช้าวันต่อมา
เสียงนาฬิกาปลุกทำลายความสงบของการนอน ฉันลืมเปลือกตาอันหนักขึ้น พร้อมกับอาการมึนหัวที่ยังคงแฮงค์อยู่ เช้าวันจันทร์ช่างเป็นสิ่งที่น่าเบื่อของมนุษย์เงินเดือนอย่างฉันเป็นที่สุด
การลืมตาว่ายากแล้วแต่การขยับสังขารให้ลุกจากที่นอนยิ่งยากกว่า ตอนนี้ในหัวไม่ได้คิดเรื่องอะไรเลย นอกจากห่วงเพื่อนสาวสองคนนั้น เพราะหลังจากที่ฉันกลับมาจากผับ ยังติดต่อพวกนางสองคนไม่ได้เลยสักคน ถ้าพวกนางไปเจอมิจฉาชีพ ไปโดนชิงทรัพย์ หรือโดนลักกระเป๋าเงิน ไม่ก็เจอพวกโรคจิต พวกไซโคพาธ จะทำยังไง
สมองคิดไปร้อยแปด
ภาวนา...ให้พวกนางทั้งสองคนปลอดภัย
แต่ใด ๆ ขออวดผู้ของฉันก่อน หล่อโฮก
ฉันส่งไลน์ไปบอกพวกนางสองคนว่าเป็นห่วง ตามด้วยส่งรูปผู้ไปขิงต่อ
แต่เสียดายที่เขาไม่ชอบชะนี ดูดิ…หล่อชิบ เป็นผู้ชายที่ใช้ความหล่อได้โคตรเปลือง
นึกย้อนถึงเรื่องเมื่อคืน…
ด้วยความที่อยากขิงเพื่อนว่าเจอผู้หล่อมาก ประกอบกับระดับแอลกอฮอล์ในตัวสูงพอประมาณ ทำให้ฉันเกิดความกล้ามากกว่าตอนปกตินิดนึง จังหวะที่เราสองคนถ่ายรูปคู่กันอยู่ ฉันแอบเขย่งตัวขึ้นไปหอมแก้มเขาดังฟอดใหญ่ แล้วกดกล้องจากมือถือฉัน
แชะ…
ผู้ชายอะไรไม่รู้ตัวหอมมากกกกกก หอมจนกลิ่นติดจมูก
“คุณทำอะไรของคุณ!” น้ำเสียงคนที่โดนหอมแก้มโวยวาย หน้าตาดูซีเรียส เขายกมือขึ้นถูแก้มตัวเองไปมา
แหงสิ เกย์ที่ไหนจะชอบให้ชะนีมาหอมแก้ม
“เอ้า ก็แค่หอมแก้ม เพื่อความสมจริงไงคะ เราแสดงเป็นแฟนกันไม่ใช่เหรอ เอาน่า เดี๋ยวแม่คุณไม่เชื่อนะว่ามีแฟนแล้ว”
“ไร้สาระ ทีหลังไม่จำเป็นต้องทำขนาดนี้! แค่นี้คุณแม่ผมก็เชื่อแล้ว” เขาละสายตาจากใบหน้ากวน ๆ ของฉัน ก่อนจะใช้นิ้วกดรูปที่แสดงว่ากำลังอยู่กับแฟน ประมาณสองสามรูป ส่งไลน์ไปให้แม่เขาดู
แน่นอนว่าไม่มีรูปที่ฉันหอมแก้มเขาเมื่อครู่เพราะรูปนั้นมันถ่ายจากมือถือของฉันเอง
ทำไงได้ฉันแค่อยากเอารูปไปขิงยัยกอหญ้ากับสาลี่บ้างนี่นา
“คุณดูหล่อดีนะ แต่เสียดายอะ ไม่น่าเป็น…”
“เป็นอะไร?” สายตาคมตวัดกลับมามองหน้า พร้อมคิ้วหนาขมวดขึ้น
“ก็เป็น… เป็นผู้ชายที่ชอบผู้ชายไงคะ เอาเถอะค่ะ สมัยพวกเราถือว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาจะตายไป แต่ถ้าอย่างรุ่นแม่คุณท่านเป็นผู้อาวุโสแล้ว คงไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้สักเท่าไหร่”
“…”
“ไม่เป็นไรนะคะอย่าคิดมาก ฉันขอเอาใจช่วยให้ความรักของคุณกับผู้ชายคนนั้นสมหวังละกันนะ บาย ไปก่อนนะคะ ไม่ไหววันนี้เมามาก”
มือเรียวโบกบ้ายบาย ไม่ได้อยู่ฟังต่อว่าเขาพูดอะไร เพราะตอนนี้ที่ฉันwantมากคือเตียงนอน
อยากนอนเตียงนุ่ม ๆ จะแย่
ง่วงมาก…
ภาพตัดกลับมาที่ฉันในตอนนี้ กำลังลุกจากที่นอน เพื่ออาบน้ำแต่งตัวไปทำงาน
สายแล้วเถอะ…
ง่วงด้วยเถอะ…
ไว้แอบงีบที่ทำงานก็ได้วะ…วันนี้ไม่มีตารางนัดพบกับลูกค้าคนไหน จะแอบนอนให้ชุ่มปอด
แต่ทว่าพอถึงที่ทำงานปุ๊บ ผู้จัดการกลับเรียกปั๊บ! ให้มันได้ยังงี้สิ งานเข้าแต่เช้าเลย
“วันนี้เธอไปเสนอโครงการแทนเดมิกาก็แล้วกันนะ”
“คะ? ผู้จัดการจะให้แมรี่ไปเหรอ?”
“ใช่ เดมิกาป่วยหนัก แล้วเธอก็เป็นบัดดี้กัน ถ้าไม่ใช่เธอแล้วใครจะไปแทน”
“อ่า รับทราบค่ะ”
“เอานี่เอกสารเอาไปดูให้เรียบร้อย แย่จริงป่วยวันไหนไม่ป่วยดันมาป่วยเอาวันนี้” ผู้จัดการบ่นกระปอดกระแปด ก่อนจะยื่นเอกสารโครงการที่ว่านั่นมาให้ ซึ่งมันคือโครงการคอนโดสุดหรูย่านสาทร ราคาหลักร้อยล้าน
เป็นงานใหญ่โคตร ๆ
“ได้ค่ะบอส ไม่มีปัญหาค่ะ เดี๋ยวแมรี่ประสานงานต่อเอง นัดสิบเอ็ดโมงที่บริษัท PKL ใช่ไหมคะ”
“อืม”
“ยังพอมีเวลาอีกสองชั่วโมงก่อนเวลานัด งั้นขอออกไปเตรียมงานเลยนะคะ” ฉันยกข้อมือดูนาฬิกาเพื่อเช็กเวลาที่เหลือ ก่อนจะขอตัวออกไปเตรียมความพร้อม พอมาถึงโต๊ะ ไม่ลืมที่หยิบกระจกมาจะเช็กเบ้าหน้าตัวเอง
สภาพเบ้าหน้าตัวเองตอนนี้ดูไม่จืด ขนาดป้ายคอนชีลเลอร์มายังดูรู้ แหงสิ ทั้งเมา ทั้งอดนอน ทั้งยังไม่หายจากอาการแฮงค์ ขอบตางี้คล้ำเป็นหมีแพนด้า แค่ลากสังขารมาถึงทำงานได้นี่ก็บุญหัว
เติมหน้าเสร็จยังพอมีเวลาเหลือ ฉันเลยไล่เปิดดูแฟ้มเอกสารคอนโดที่เตรียมตัวไปเสนองาน
“ว้าว รีเควสให้เสนอคอนโดชั้นเพนเฮ้าส์ซะด้วย”
จะไม่ให้ว้าวได้ไงก่อน ราคาปาไปเกือบสองร้อยล้านเลยเด้อ
“รวยมากค่ะพ่อ ว่าแต่น่าจะทั้งหล่อ ทั้งโสดด้วยจะดีมาก หุ หุ”
มือเรียวหยิบนามบัตรพรีเมี่ยมสุดหรูสีดำขึ้นมาอ่าน ก่อนจะทวนชื่อลูกค้าท่องไว้จำให้ขึ้นใจ
แพทริค ไคเลอร์
ประธานบริษัท PKL
ชื่อหล่อเชียว เป็นชาวต่างชาติงั้นเหรอ น่าสน
^___10.30 น. หน้าตึก PKL
ด้วยมารยาทของการเป็นเซลล์ที่ดี คือฉันต้องถึงก่อนเวลานัดครึ่งชั่วโมง ฉันหยิบนามบัตรของลูกค้าในมือมาอ่านอีกครั้ง มีเก็บข้อมูลมาบ้างแล้วว่า ท่านประธานแพทริคเป็นคนพูดน้อย เอาใจยาก เข้าถึงตัวก็ยาก และการที่เลขาของคุณแพทริค ติดต่อมาให้ทางโครงการของเราเสนอห้องชุดมาให้นี่ก็ว่าหินสุด
แต่…
ถ้าฉันสามารถเจรจาสำเร็จจนเขาตัดสินใจซื้อห้องชุดในโครงการของบริษัทฉันได้ ใช่…หมายถึง ถ้าฉันดีลสำเร็จ ฉันนี่เทพเลยนะเอออ
เพราะงั้นถ้าขายได้จริง ๆ ถึงตอนนั้น โปรดเรียกแมรี่ว่า ‘พระมารดาแมรี่’ ตัวแม่ตัวมัม สุดยอดของนักขายมือทอง
ก็นะ งานนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นงานหินแบบสุด ๆ ยิ่งลูกค้าระดับบริษัท PKL ก็น่าจะมีโครงการอื่น ๆ มาเสนอโครงการแข่งกัน น่าจะมีตัวเลือกไม่น่าจะต่ำกว่า 5-6 โครงการด้วยซ้ำไป และทางPKL ก็คงต้องเลือกโครงการที่ที่ดีที่สุด
แอบหวั่นเหมือนกันแฮะ
“สวัสดีค่ะ คุณมลิษา เชิญทางนี้ค่ะ”
เสียงใสของเลขาสุดสวยที่อยู่หน้าห้องของท่านประธานบริษัท ปลุกฉันจากภวังค์ กำลังฝันอยู่เลยว่าอีตาคุณแพทริคนั่นเซ็นสัญญาโครงการเรียบร้อย
“อ่อค่ะ ขอบคุณค่ะ” ฉันส่งยิ้มให้คุณเลขาคนสวยที่กำลังเชิญฉันที่นั่งรออยู่ที่ห้องรับรองด้านหน้าเข้าไปพบคุณแพทริค หลังจากที่มานั่งรอเกือบชั่วโมง
ใจสั่นมากแม่เอ๊ย ไม่เคยเสนองานโครงการใหญ่อะไรที่น่าตื่นเต้นขนาดนี้มาก่อน
ฉันโค้งคำนับขอบคุณเลขาคนสวยหน้าห้อง ก่อนจะเดินตามเข้าไป ทว่าพอประตูเปิดออกจนกระทั่งมองเห็น ท่านประธานที่นั่งอยู่กลางห้อง
ใจแทบร่วง!