ร่างบางนอนกระสับกระส่ายในความมืด คิดถึงเรื่องราวในเทศกาลโคมไฟ อาไฉนอนที่เรือนบ่าว จะมาปลุกนาง ในยามสาย ร่างบางนอนกระสับกระส่าย แล้วเปิดหน้าต่างเรือนที่ชั้นสองช้าๆนั่งรับลมหนาวอยู่ผู้เดียว มีทิวไม้พรางสายตานางจากผู้คนและมีทหารยามที่เดินไปมา
ถัดจากเรือนของนางเป็นสวนร่มรื่น มิติดในเส้นทางที่ผู้คนสัญจรไปมา ร่างบางในชุดบางเบาท้าดินฟ้าและลมหนาวขยับกายออกไปเปิดหน้าต่างเรือนไว้อีกนิดแล้วล้มตัวลงนอน ยามที่นางหลับร่างหนึ่งกระโดดเข้าในห้องของนางแล้วปิดหน้าต่างเบาๆ ร่างหนาพิศมองนางด้วยใจที่รุ่มร้อน มิอาจทนรอผู้ใหญ่ส่งสามหนังสือหกพิธีการมาหมั้นหมายนางได้อีก ร่างของนางแสนหวานล้ำเพียงแค่พบเจอในคราเดียว ก็ถึงกับสะกดเวทย์เข้าถึงนางในความฝัน หลอกล่อนางให้ไปในดินแดนภูติพรายโดยมิรู้ตน ใช้ภูติพรายสิงสู่นางจนนางนั้นตกลงในบ่วงฝันราคะติดต่อกัน
สุดท้ายเมื่อพบเจอนาง ในเทศกาลลอยโคมจึงมิอาจทานทนต่อไปได้อีก แอบลักชิมนางที่บึงน้ำ และติดตามนางมาถึงห้องหอของนาง ครานี้ต้องครอบครองนางให้จนได้ มิอาจทานทนได้อีกแล้ว แก่นกายจะระเบิดแล้ว
"อีกมินานข้าคงใกล้จะเจียนคลั่ง หากว่ามิได้นางในครานี้ "
ร่างหนาเปลื้องอาภรณ์ของตนเองลงที่พื้นเรือนของนาง ขยับไปใกล้ๆนางที่ผ้าผ่อนหลุดลุ่ย ยามที่นางหลับ เรียวขาของนางยกขึ้นตั้งชันบนที่นอน เปิดเผยเรือนกายสีหวานต่อสายตาบุรุษเพศอย่างยั่วยวน ร่างหนาครางแผ่วในลำคอ ขยับหานางอย่างเลื่อนลอยคล้ายถูกมนต์สะกด ร่างหนากดใบหน้าซุกที่เรือนกายของนางเบาๆแล้วใช้ฝ่ามือกรีดกลีบกุหลาบของนางออก ตวัดปลายลิ้นชอนไชรุกรานนางอย่างรุนแรง
"อ่า...หวานยิ่งนักหลิ่งซือคนงาม อ่า..."
ร่างบางที่หลับไหลยังมิทันตื่นมิเต็มตาก็ครวญครางบิดกายเบาๆ คิดว่าตนนั้นตกลงในห้วงฝันราคะอีกเสียแล้ว
"ท่านจ้าวหลิว...อ่า..."
ร่างหนามัวเมาในรสหวานล้ำของกายนาง ดูดดื่มลิ้มรสนางอย่างพอใจ ยิ่งนางครวญครางเรียกหาตนเองขึ้นมา ร่างหนายิ่งพึงใจนางเป็นอย่างยิ่ง เร่งปรนเปรอนางด้วยปากและลิ้นจนกายของนางสั่นกระตุกส่งเสียงหวาน ร่างหนาจึงขยับกายขึ้นทาบทับนางอย่างว่องไว ยามรู้สึกถึงเรือนกายหนาหนักทาบทับตนหลิ่งซือจึงตื่นขึ้นมาเต็มตา ดวงตาของนางเบิกขึ้นช้าๆในความมืด
"เป็นของข้านะหลิ่งซือ เป็นของข้าเพียงผู้เดียว"
"ท่านเข้ามาได้อย่างไรกัน "
นางตื่นตระหนกกระซิบเสียงบางเบาหวั่นเกรงว่าผู้อื่นจะได้ยินเสียงของนางในยามราตรี
"ข้าเข้ามาทางหน้าต่างเรือน "
"ท่านทำเหมือนโจรปล้นสวาท ทำเช่นนี้ข้าจะเสื่อมเสียได้ ท่านออกไปเถิดท่านจ้าวหลิว "
ร่างหนาใบหน้าแดงเรื่อยามได้นอนชิดใกล้นาง กกกอดนางในอ้อมอกแนบแน่น หลิ่งซือตาโตยามรู้สึกถึงเรือนกายของบุรุษเพศ
"ข้ารอผู้ใหญ่มาสู่ขอเจ้ามิได้แล้ว...เป็นของข้าเถิด แล้วข้าจะมาตบแต่งเจ้า ให้สมฐานะของเจ้า “
"มิได้หรอกท่านจ้าวหลิว ท่านจะบ้าหรืออย่างไร ข้ามิอาจทำเช่นนั้นได้ ท่านออกไปเถิด ไปจากเรือนของข้าซะ มิเช่นนั้นข้าจะร้องให้บิดามาช่วยข้าในเร็วพลัน "
ร่างบางผลักจ้าวหลิวแรงๆ ร่างหนากรุ่นโกรธจึงใช้ฝ่ามือรวบแขนของนาง แล้วใช้ผ้าผูกผมของตนรัดเข้าที่แขนของนางเสีย
"ปล่อยนะ ข้าจะเรียกบิดาข้าจริงๆนะ ท่านพ่อ อุ๊บบบบ"
ร่างหนาตะปบริมฝีปากของนางเอาไว้แล้วดึงผ้าผูกผมอีกเส้นมัดคาดปากของนางเอาไว้ ร่างบางทำตาโตมิคิดว่าจะจบลงเช่นนี้เลย จ้าวหลิวขยับเรือนกายทับนางอีกครา แล้วกระซิบบางเบาส่งเสียงแหบพร่าข้างๆหูของนาง
"เจ้าจะเจ็บมากจากแก่นกายใหญ่โตของข้า ถ้าหากเจ้าดิ้นรนอีก แต่หากเจ้ามิดื้อดึง ข้าจะอ่อนโยนต่อเจ้า ค่อยๆรุกล้ำเจ้าเพียงช้าๆ ดีหรือไม่เล่าหลิ่งซือคนงาม คนงามของข้า"
ร่างบางสั่นไปทั้งกายยามเมื่อนึกถึงแก่นกายที่ใหญ่โตนั้น นางมิอาจส่งเสียงห้ามปรามหรือขยับกายหนีไปได้อีกแล้ว มีเพียงเสียงกระซิบขึ้นมาในความมืด
"แยกเรียวขาของเจ้าออกกว้างๆซิหลิ่งซือคนงาม แล้วข้าจะค่อยๆทนุถนอมเจ้าช้าๆ "
ร่างบางทำตาโตและจำยอมยกแยกเรียวขาขาวๆเปิดเปลือยต่อบุรุษเพศช้าๆ จนเรียวขาของติดที่นอนนุ่ม ร่างหนาจดจ่อแก่นกายใหญ่โตลงไปที่กลีบกุหลาบนุ่ม ถูไถไปบนช่องทางคับแคบเบาๆช้าๆ จนร่างบางครางครวญออกมาในลำคอ
"อื้อ อื้อ"
"อา หลิ่งซือ ช่างนุ่มนัก คนงาม"
ร่างหนาถูไถจนกุหลาบบางฉ่ำหวานจึงค่อยๆกดหัวแก่นกายลงในทางช่องทางคับแคบเบาๆ เป็นดังคาด เรือนกายของนางบีบรัดจนผ่านไปมิได้ ใบหน้าของนางบิดเบี้ยวเหยเก กลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้ ร่างหนาแทบจะระเบิดกายตนเองลงสู่ร่างของนาง จึงเร่งถอดถอนออกและส่งเจ้ามังกรยักษ์มุดลงไปอีกช้าๆ มินานความอดทนก็ขาดผึง มิอาจรอคอยนางพร้อมได้อีกแล้ว
ร่างของนางคับแคบเกินไป ร่างหนากลั้นใจ ถอดถอนแก่นกายออกแล้วกดหัวมังกรยักษ์ลงสู่เส้นทางคับแคบ บดดันลงแรงๆจนพรหมจรรย์ของนางฉีกขาด เลือดไหลซึมลงมาช้าๆ ใบหน้างดงามมีน้ำตาหยาดหยดลงที่ข้างแก้มขาวนวลในทันที
"อ้า หลิ่งซือ เจ้าคับแคบและคับแน่นนัก แก่นกายของข้า ยังมิอาจล่วงสู่กายเจ้าได้ถึงครึ่งเลย โอว ซี้ด โอว "
ร่างหนาครวญครางและมิขยับไหวติง ปล่อยให้นางคุ้นชินกับความใหญ่โตนั้นเพียงนิด เรือนกายของนางอุ่นร้อนและบีบรัดรุนแรงถี่ๆ ร่างหนาครวญครางจนแทบจะขาดใจ
"อ้า ซี้ด หลิ่งซือคนงาม ซี้ด"
ร่างหนาทานทนมิไหว ขยับสะโพกหมุนวนโยกแก่นกายยาวใหญ่ในกายของนาง จนร่างนางสั่นกระตุกบีบรัดถี่ๆ
"อื้อ"
นางครวญครางในลำคอยกขาถูไถไปกับที่นอนนุ่ม ร่างหนาหอบกระชั้นเสียวแปลบปลาบที่ปลายแก่นกาย อยากเข้าไปในกายนางให้หมดลำ แต่นางก็ช่างคับแคบนัก
"อา ข้าทรมานนักหลิ่งซือ นิดเดียวเท่านี้คงมิเพียงพอสำหรับข้า ขออภัย อา ซี้ด หลิ่งซือ ข้าขอโทษ"
ร่างบางมิรู้ว่าต่อไปจะเกิดสิ่งใด แต่คำพร่ำขอโทษนาง ทำให้นางใจชื้นว่า ความทรมานของนางคงจะหยุดลงแล้วในอีกมินาน ร่างหนาหยุดขยับกายในร่างของนางแล้วและเตรียมถอดถอนเรือนกายออกความเจ็บปวดของนางเบาบางลง และคล้ายมีความรู้สึกอื่นมาแทนที่ ร่างหนาค่อยๆขยับโยกไปมาช้าๆ หมุนวนสะโพกเหนือร่างบาง ให้แก่นกายขยับหมุนในกายของนาง
"อื้อ อื้อ อ่า "
ร่างบางขยับสะโพกหนี ร่างหนาจึงค่อยๆขยับแก่นกายถอดถอนออกช้าๆเบาๆแล้วขยับลงไปใหม่
"อ้า หลิงซือ ข้าขอโทษ ซี้ด"
ร่างหนาจูบเรือนผมของนางเบาๆ ขยับแก่นกายโยกวนไปมา จนสะโพกบางแอ่นขึ้นช้าๆร่างหนาค่อยๆขยับเข้าออกเบาๆ ส่งเพียงแค่ปลายแก่นกายลงสู่กายของนางแค่เพียงนิด