@คฤหาสน์ของฟรานซิส
[Pikkang Talk]
“แม่ให้คนไปเก็บของที่คอนโดพริกแกงมาให้แล้วนะคะ อย่าลืมที่แม่บอกนะพี่เขาแพ้ลูกอ้อน และไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นพริกต้องสู้นะลูก” คุณแม่สามีบอกฉันด้วยรอยยิ้มและใบหน้าที่เป็นห่วง
ทำไมต้องบอกให้ฉันสู้ล่ะ ตั้งแต่ฉันถึงประเทศไทยคุณแม่ย้ำมาตลอดว่าห้ามหย่านะ ต้องสู้นะ เขาโหดร้ายขนาดนั้นเลยเหรอ!?
แต่ก็น่าจะโหดอยู่หรอกนะดูจากสายตาที่มองฉันเมื่อตอนอยู่สำนักเขตหน่อยสิ ดีนะตอนมาบ้านเขาไม่ได้นั่งรถคันเดียวกันไม่งั้นฉันคงได้ปะทะสายตากับเขาอีกแน่ๆ ก็รู้ว่าเป็นมาเฟียแต่จำเป็นต้องโหดขนาดนี้ไหม
“ค่ะ ว่าแต่เขาชื่ออะไรคะ” ฟังไม่ผิดค่ะ ฉันไม่รู้จักชื่อนายหน้าโหดนั่นเลย ชื่อตอนจดทะเบียนฉันก็ดันลืมอ่าน
มัวแต่โดนสายตาของคุณแม่สามีจ้องเหมือนกำลังบังคับฉันเซ็น สายตาโหดทั้งลูกทั้งแม่เลย รอดไหมเนี่ยพริกแกง
“พี่ฟรานซิสค่ะ” คุณแม่บอกฉันด้วยรอยยิ้ม
ฟรานซิสงั้นเหรอชื่อก็พราะนะ
“ค่ะ” ฉันจึงยิ้มตอบกลับไป
“ฟรานซิสดูแลน้องด้วยแม่ต้องกลับแล้ว ป๊าอยู่คนเดียว” ไม่นานฟรานซิสคนหน้าโหดก็เดินเข้ามาด้วยใบหน้าที่นิ่งเรียบไม่แสดงอารมณ์หรือความคิดอะไรผ่านทางสีหน้าเลย
ถ้าฉันถามคุณแม่ว่าตอนออกจากท้องนายฟรานซิสลืมเอารอยยิ้มมาเหรอ คุณแม่จะเอาปืนยิงฉันไหมนะ
“….” ฟรานซิสมองหน้าฉันด้วยหางตาก่อนจะเดินผ่านหน้าฉันไปทันที ไม่มีคำทักทายหรืออะไรเลย ฉันว่าฉันเริ่มเห็นอนาคตตัวเองลางๆ แล้วแหละ
“เฮ้อ พี่เขาเป็นอย่างนี้แหละลูก งั้นแม่กลับก่อนนะพริกมีอะไรโทรหาแม่นะถ้าพี่เขาทำอะไรหนูจับปืนยิงได้เลยแม่อนุญาต”
นี่โหดทั้งแม่ทั้งลูกเลยไหมเนี่ย? แต่คุณแม่อนุญาตแบบนี้แล้วฉันก็สบายใจ
“ค่ะ เดินทางปลอดภัยนะคะ” ฉันยกมือไหว้ท่านก่อนที่ท่านจะยิ้มให้แล้วเดินออกไปโดยมีลูกน้องเดินตามเป็นสิบๆ
“นายหญิงจะไปดูห้องเลยไหมครับ ผมจะพาไป” จังหวะที่ฉันหันหน้ากลับมาเพื่อที่จะเดินเข้าบ้านก็มีผู้ชายหน้าตาหล่อเหลาคนหนึ่งเดินมาทางฉัน
นี่ฉันว่าฟรานซิสหล่อแล้วนะ คนนี้ก็หล่อเหมือนฟรานซิสเลย ลูกน้องเขาเหรอ ลูกน้องมาเฟียนี่คัดกันยังไงอะ คัดที่ฝีมือหรือหน้าตา?
“นายหญิง?” ฉันเลิกคิ้วถามคนตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง
“ครับ คุณเป็นภรรยานายใหญ่” ชายตรงหน้าตอบฉันด้วยท่าทางเคราพ เอาจริงก็ไม่ชินนะมีคนมาพูดครับๆ ก้มหัวให้แบบนี้
“เรียกพริกแกงก็ได้ค่ะ ว่าแต่คุณชื่ออะไรคะ?”
“ไมเคิลครับ แต่ผมเกรงว่าจะเรียกนายหญิงแบบนั้นไม่ได้เพราะ…”
“แต่กูไม่อนุญาตให้เรียกนายหญิง” ไมเคิลยังพูดไม่ทันจบก็มีเสียงของฟรานซิสดังขึ้นจากทางด้านหลังของไมเคิลจนไมเคิลรีบหันไปมอง
“เรียกพริกแกงเถอะค่ะ” ฉันรีบเป็นฝ่ายพูดออกไปเมื่อเห็นว่าหน้าตาของฟรานซิสไม่พอใจเอามากๆ ที่ไมเคิลเรียกฉันว่านายหญิง
“รู้ตัวก็ดี” ฟรานซิสพูดขึ้นก่อนจะหันหลังแล้วเดินไปแต่ฉันดันพูดขึ้นซะก่อนทำให้เขาหยุดชะงักฝีเท้า
“ฉันรู้ดีค่ะ”
“รีบๆ ชมเชยใบสมรสก่อนที่มันจะไม่มีให้ชม” ฟรานซิสหันหน้ามาพูดกับฉันด้วยใบหน้านิ่งเรียบ
“ไม่มีวัน เพราะฉันจะไม่มีวันหย่า” ฉันเดินเข้าไปยืนอยู่ตรงหน้าของฟรานซิสพร้อมมองหน้าเขานิ่งๆ
“อยู่กับฉันยังไม่ถึงวันติดใจแล้ว?”
“อย่ามั่นหน้าไปสิคะ” ฉันถึงกับยกยิ้มออกมาบางๆ ให้กับคำพูดของฟรานซิส
คิดได้ยังไงเนี่ยเขาเอาสมองซีกซ้ายหรือซีกขวาคิดกันนะ ที่ฉันไม่หย่าก็เพราะฉันไม่มีทางยอมแพ้เขาง่ายๆ แน่ ก็ฉันเคยบอกแล้วทั้งชีวิตขอจดทะเบียนสมรสครั้งเดียวพอ
“ไม่เคยมีใครกล้าว่าฉันแบบนี้” ฟรานซิสพูดจบก็ดึงอะไรบางอย่างที่อยู่ที่ด้านหลังกางเกงออกมา และฉันก็ต้องตกใจเมื่อสิ่งที่มันกำลังจ่ออยู่ที่กลางหน้าผากของฉันคือ
ปืน! นี่เขาเล่นปืนกันเลยเหรอ!?
“....” ฉันได้เพียงแค่เงียบ ยืนนิ่งๆ ไม่ขยับตัว ไม่สิ แทบจะไม่หายใจเลยล่ะ
“นายครับนั่น...”
“หุบปาก!” ยังไม่ทันที่ไมเคิลจะพูดจบฟรานซิสก็หันไปตวาดใส่ไมเคิลจนเขาต้องเงียบลง แล้วฉันควรทำยังไงต่อไปเนี่ยถ้าเกิดปืนมันลั่นขึ้นมา
ตายแน่ๆ เสียชื่อหมดตายเพราะปืนของสามี
“ถ้าไม่อยากตายก็อย่าทำให้ฉันไม่พอใจ” ปลายกระบอกปืนมันวาวเลื่อนมาจรดอยู่ที่กลางหน้าผากของฉันก่อนที่ฉันจะสะดุ้งเล็กน้อยจากนั้นเขาก็เก็บมันลงแล้วเดินออกไป
โหด พูดได้คำเดียวว่าโหด!
นี่น่ะเหรอคนที่คุณแม่บอกว่า นิสัยดี ตั้งแต่ฉันเจอเขาฉันยังไม่เห็นความนิสัยดีของเขาเลยแม้แต่น้อย แต่ถ้านายนั่นต้องการแบบนี้ได้ ฉันจัดให้!
“ไมเคิล” ทันทีที่ฟรานซิสเดินหายเข้าไปในห้องแห่งหนึ่งฉันก็เรียกชื่อไมเคิลขึ้นเสียงดังฟังชัด
“ครับ”
“ห้องซ้อมปืนอยู่ไหน”
“คุณพริกแกงจะไปทำไมครับ” ไมเคิลถามฉันด้วยใบหน้าสงสัย คงไม่คิดล่ะสิว่าผู้หญิงน่ารักตัวเล็กๆ แบบฉันจะถามหาอะไรแบบนี้
“ซ้อมยิงปืน เอาไว้ยิงหัวนายฟรานซิส!” ฉันพูดออกมาเสียงดังฟังชัดจนไมเคิลมองหน้าฉันเหมือนไม่เชื่อว่าฉันจะทำอะไรแบบนี้