ถวิลหา

1057 คำ
        ราวสี่ทุ่มเศษ หลังจากที่หยิบหนังสือนิยายออกมาอ่านแต่มันไม่เข้าหัวเลยด้วยความว้าวุ่น เธอก็ตัดสินใจปิดไฟเอนกายลงบนเตียงหนานุ่ม หลับตาลง ทว่ามิอาจข่มมันให้สู่ห้วงนิทราได้ ในสมองพาลคิดถึงเรื่องที่ต้องไปใช้ชีวิตในที่ทำงาน ต้องคอยดูแลนฤบดินทร์ นั่นมันทำให้เธอเครียดเหลือเกิน         เหตุใดมันจึงเป็นแบบนี้หนอน้ำหนึ่ง ทำไมไม่มีความสุขเลย..         ถึงแม้เธอจะไม่เคยมีคนรักมาก่อน แต่เท่าที่เคยอ่านในนิยาย เคยดูในละคร คนรักกันย่อมต้องมีความห่วงหาอาทร คอยดูแลเอาใจใส่ คอยปกป้อง อยากอยู่ใกล้กันตลอดเวลานี่นา เหตุใดเธอจึงไม่เคยรู้สึกอยากใกล้ชิดกับอีกฝ่าย และเธอก็ไม่ได้โง่พอที่จะไม่รู้ว่าเขาเองก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับตนเองเลย         มันเป็นเช่นไรหนอความรัก เป็นอย่างไรหรือ จะละมุนอบอุ่นกรุ่นความสุขสักเพียงไหน..             พลันสายตาคมหวานกับรอยยิ้มมุมปากของใครบางคนก็โผล่เข้ามาในภวังค์ คนที่ดูแลเธอ ช่วยถือของ ขับรถมาส่งถึงบ้าน เขาอาจทำไปเพราะเพื่อนไหว้วานแต่นั่นมันทำให้เธอรู้สึกดีเหลือเกิน ยิ่งตอนที่เขาสวมหมวกกันน็อคให้ ส่งเสื้อให้สวม แววตากับน้ำเสียงนุ่ม ๆ มันทำให้อบอุ่นหัวใจเหลือเกิน         คล้าย ๆ แบบนี้ไหมหนอความรัก จะใช่แบบนี้หรือเปล่า..         ริมฝีปากอวบอิ่มเผยอยิ้มอย่างไม่รู้ตัวก่อนเรียกชื่อหนึ่งออกมาเบา ๆ          “ พี่ราม ” ก่อนจะค่อย ๆ เข้าสู่ห้วงนิทราในที่สุด         ในห้วงเวลาเดียวกันนั้น มันบังเอิญเหลือเกินที่เจ้าของชื่อก็กำลังคิดถึงเธอแทบบ้าไม่ต่างกัน         ร่างสูงใหญ่ของรามลุกขึ้นไปยืนรับลมที่ระเบียงของคอนโดมิเนียม หลังจากที่พลิกไปพลิกมาบนเตียงอยู่นานสองนาน เขาข่มตาอย่างไรก็ไม่หลับ มีแต่รอยยิ้มหวาน ๆ กับแก้มใส ๆ มาวนเวียนรบกวนหัวใจอยู่ร่ำไป         เกิดมายี่สิบเก้าขวบปีก็ไม่เคยรู้สึกเช่นนี้ ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ความรู้สึกแบบนี้มันจะเป็นอะไรไปได้ นอกจากที่เขาเรียกกันว่ารักแรกพบ         คิดได้ดังนั้น รามก็หัวเราะขำแล้วต่อว่าตัวเองเบา ๆ         “ น้ำเน่าว่ะไอ้ราม ”         แล้วถ้ามันจะเป็นรักแรกพบจริง ๆ ทำไมต้องมาเกิดกับผู้หญิงต้องห้าม ผู้หญิงที่มีเจ้าของแล้ว ที่สำคัญดันเป็นผู้หญิงของเพื่อนด้วยวะ ไอ้รามเอ๊ย         รอยยิ้มกว้างปรากฏขึ้นบนใบหน้าคมสัน หัวใจอิ่มเอมชุ่มชื้นอย่างบอกไม่ถูก         เขาเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ดันปรากฏรอยยิ้มหวาน ๆ บนนั้นเข้าให้อีก รามหัวเราะร่วน         “ นี่มึงบ้าไปแล้วแน่ ๆ ไอ้ราม ” ก่อนสลัดศีรษะแรง ๆ แล้วเดินกลับเข้าห้องเพื่อหนีความฟุ้งซ่าน แล้วทิ้งตัวบนเตียงนอน พยายามข่มตาลงอีกครั้ง         แต่มันหนีไม่พ้น เขาหนีเธอไม่พ้นจริง ๆ !       “ พี่รามขา ”          แว่วเสียงกระซิบอยู่ข้างหูพร้อมประทับจูบแผ่วเบาบนริมฝีปาก รามลืมตาโพลงขึ้นทันทีพร้อมกับความปวดปร่าที่แก่นกายชาย         “ มึงเป็นมากแล้วราม สงสัยต้องพบแพทย์ ไอ้โรคจิต ”  เขาสบถด่าตัวเองก่อนลุกขึ้นไปหยิบยาคลายเครียดที่ซื้อติดไว้เวลานอนไม่หลับเข้าปากพร้อมน้ำตาม         “ ไม่หลับให้มันรู้ไปทีนี้ ” เขาว่าก่อนทิ้งตัวลงบนเตียงใหญ่อีกครั้ง ไม่กี่นาทีถัดมาเขาก็ค่อย ๆ เข้าสู่ภวังค์ ทว่าก่อนสติจะลาลับ ในห้วงคำนึงยังปรากฏใบหน้าหวานนั้นลอยวนมารบกวนหัวใจอยู่ร่ำไป ริมฝีปากหยักเผลอแย้มยิ้มแล้วร่ำเรียกอย่างถวิลหา         “ น้ำหนึ่ง ”         ***             อรุณรุ่งของอีกวัน             รามตื่นแต่เช้า รีบอาบน้ำแต่งตัวแล้วบึ่งจักรยานยนต์คันใหญ่มาที่โรงแรมปุชารายาตามที่เพื่อนได้ส่งข้อความไปนัดหมาย เมื่อมาถึงก็รีบโทรหาเพื่อนตัวแสบในทันที ปลายสายกดรับส่งเสียงงัวเงียมาตามสาย                “ ว่าไงราม ”                “ อยู่ไหนน่ะ ”                “ อยู่โรงแรม ”                “ อยู่โรงแรมแล้วทำไมเสียงยังงัวเงียอยู่วะ ”                “ ก็เมื่อคืนนอนที่โรงแรมไง ” รามนิ่งเงียบ นี่เพื่อนยังไม่แยกจากแม่เซย่าอะไรนั่นอีกเหรอเนี่ย                “ ถ้างั้นกูกลับก่อนละกัน ”                “ เฮ้ย ๆ เดี๋ยว ”  นฤบดินทร์หูผึ่งตาตื่นเลยทีเดียว ใช่ วันนี้เขานัดเพื่อนไว้             ชายหนุ่มดีดตัวลุกขึ้นนั่งแล้วเขม้นมองตัวเลขบอกเวลาบนโทรศัพท์มือถือ             “ แปดโมงยี่สิบแล้วเหรอเนี่ย ” เขานัดรามไว้แปดโมง นี่มันเลยมายี่สิบนาทีแล้ว เขารู้จักรามดีว่ามีความรับผิดชอบและตรงต่อเวลาแค่ไหน ถ้าขืนเล่น ๆ หัว ๆ ผิดคำพูด ทำให้มันรำคาญใจ ประเดี๋ยวมันหนีไปไม่ทำงานให้ล่ะยุ่งเลย             “ เดี๋ยวมึงขึ้นมารอที่ห้องทำงานกูเลยราม ชั้นแปดนะ กูบอกเลขาไว้แล้ว ขอตัวล้างกระดูกไม่เกินครึ่งชั่วโมง ”             “ อืม ” ตอบสั้น ๆ ก่อนกดวาง             “ ใครโทรมาแต่เช้าเหรอคะที่รัก ” เสียงหวานของคนข้าง ๆ เอ่ยถามงัวเงีย             “ ไอ้ราม เพื่อนผม จะให้มาช่วยออกแบบโครงการที่หัวหิน นัดมันไว้วันนี้ ผมต้องรีบอาบน้ำไปทำงานแล้วนะ ”             ว่าก่อนลุกขึ้นยืน แต่มือขาวคว้าหมับเข้าที่แก่นกายชายก่อนจะรูดรึงมันช้า ๆ                “ สักน้ำก่อนไม่ได้เหรอคะ ” เธอว่าพลางส่งสายตายั่วยวนมาให้ พร้อมสลัดผ้าห่มออกจากกายจนเปลือยเปล่า เผยให้เห็นร่างอวบอัดอันเปลือยเปล่า สิ่งที่เธอกำอยู่เหยียดยาวขยายอย่างรู้หน้าที่ เซย่าดึงเขาลงนั่งบนเตียง ก่อนจะคลานเข้าคร่อมบนตัก             ชายหนุ่มกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ก่อนฝืนใจดันร่างที่กำลังนั่งยอง ๆ แล้วจับจ่อท่อนเอ็นของเขาเข้ากับรูร่องสีชมพูสดนั้นออก เพราะถ้าขืนใจอ่อนให้เธอละก็จะยิ่งทำให้ช้าเข้าไปอีก             “ ไม่ได้เซย่า ผมมีนัดสำคัญจริง ๆ เอาไว้ก่อนนะ ”  
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม