ราวสี่ทุ่มเศษ หลังจากที่หยิบหนังสือนิยายออกมาอ่านแต่มันไม่เข้าหัวเลยด้วยความว้าวุ่น เธอก็ตัดสินใจปิดไฟเอนกายลงบนเตียงหนานุ่ม หลับตาลง ทว่ามิอาจข่มมันให้สู่ห้วงนิทราได้ ในสมองพาลคิดถึงเรื่องที่ต้องไปใช้ชีวิตในที่ทำงาน ต้องคอยดูแลนฤบดินทร์ นั่นมันทำให้เธอเครียดเหลือเกิน
เหตุใดมันจึงเป็นแบบนี้หนอน้ำหนึ่ง ทำไมไม่มีความสุขเลย..
ถึงแม้เธอจะไม่เคยมีคนรักมาก่อน แต่เท่าที่เคยอ่านในนิยาย เคยดูในละคร คนรักกันย่อมต้องมีความห่วงหาอาทร คอยดูแลเอาใจใส่ คอยปกป้อง อยากอยู่ใกล้กันตลอดเวลานี่นา เหตุใดเธอจึงไม่เคยรู้สึกอยากใกล้ชิดกับอีกฝ่าย และเธอก็ไม่ได้โง่พอที่จะไม่รู้ว่าเขาเองก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับตนเองเลย
มันเป็นเช่นไรหนอความรัก เป็นอย่างไรหรือ จะละมุนอบอุ่นกรุ่นความสุขสักเพียงไหน..
พลันสายตาคมหวานกับรอยยิ้มมุมปากของใครบางคนก็โผล่เข้ามาในภวังค์ คนที่ดูแลเธอ ช่วยถือของ ขับรถมาส่งถึงบ้าน เขาอาจทำไปเพราะเพื่อนไหว้วานแต่นั่นมันทำให้เธอรู้สึกดีเหลือเกิน ยิ่งตอนที่เขาสวมหมวกกันน็อคให้ ส่งเสื้อให้สวม แววตากับน้ำเสียงนุ่ม ๆ มันทำให้อบอุ่นหัวใจเหลือเกิน
คล้าย ๆ แบบนี้ไหมหนอความรัก จะใช่แบบนี้หรือเปล่า..
ริมฝีปากอวบอิ่มเผยอยิ้มอย่างไม่รู้ตัวก่อนเรียกชื่อหนึ่งออกมาเบา ๆ
“ พี่ราม ” ก่อนจะค่อย ๆ เข้าสู่ห้วงนิทราในที่สุด
ในห้วงเวลาเดียวกันนั้น มันบังเอิญเหลือเกินที่เจ้าของชื่อก็กำลังคิดถึงเธอแทบบ้าไม่ต่างกัน
ร่างสูงใหญ่ของรามลุกขึ้นไปยืนรับลมที่ระเบียงของคอนโดมิเนียม หลังจากที่พลิกไปพลิกมาบนเตียงอยู่นานสองนาน เขาข่มตาอย่างไรก็ไม่หลับ มีแต่รอยยิ้มหวาน ๆ กับแก้มใส ๆ มาวนเวียนรบกวนหัวใจอยู่ร่ำไป
เกิดมายี่สิบเก้าขวบปีก็ไม่เคยรู้สึกเช่นนี้ ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ความรู้สึกแบบนี้มันจะเป็นอะไรไปได้ นอกจากที่เขาเรียกกันว่ารักแรกพบ
คิดได้ดังนั้น รามก็หัวเราะขำแล้วต่อว่าตัวเองเบา ๆ
“ น้ำเน่าว่ะไอ้ราม ”
แล้วถ้ามันจะเป็นรักแรกพบจริง ๆ ทำไมต้องมาเกิดกับผู้หญิงต้องห้าม ผู้หญิงที่มีเจ้าของแล้ว ที่สำคัญดันเป็นผู้หญิงของเพื่อนด้วยวะ ไอ้รามเอ๊ย
รอยยิ้มกว้างปรากฏขึ้นบนใบหน้าคมสัน หัวใจอิ่มเอมชุ่มชื้นอย่างบอกไม่ถูก
เขาเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ดันปรากฏรอยยิ้มหวาน ๆ บนนั้นเข้าให้อีก รามหัวเราะร่วน
“ นี่มึงบ้าไปแล้วแน่ ๆ ไอ้ราม ” ก่อนสลัดศีรษะแรง ๆ แล้วเดินกลับเข้าห้องเพื่อหนีความฟุ้งซ่าน แล้วทิ้งตัวบนเตียงนอน พยายามข่มตาลงอีกครั้ง
แต่มันหนีไม่พ้น เขาหนีเธอไม่พ้นจริง ๆ !
“ พี่รามขา ”
แว่วเสียงกระซิบอยู่ข้างหูพร้อมประทับจูบแผ่วเบาบนริมฝีปาก รามลืมตาโพลงขึ้นทันทีพร้อมกับความปวดปร่าที่แก่นกายชาย
“ มึงเป็นมากแล้วราม สงสัยต้องพบแพทย์ ไอ้โรคจิต ” เขาสบถด่าตัวเองก่อนลุกขึ้นไปหยิบยาคลายเครียดที่ซื้อติดไว้เวลานอนไม่หลับเข้าปากพร้อมน้ำตาม
“ ไม่หลับให้มันรู้ไปทีนี้ ” เขาว่าก่อนทิ้งตัวลงบนเตียงใหญ่อีกครั้ง ไม่กี่นาทีถัดมาเขาก็ค่อย ๆ เข้าสู่ภวังค์ ทว่าก่อนสติจะลาลับ ในห้วงคำนึงยังปรากฏใบหน้าหวานนั้นลอยวนมารบกวนหัวใจอยู่ร่ำไป ริมฝีปากหยักเผลอแย้มยิ้มแล้วร่ำเรียกอย่างถวิลหา
“ น้ำหนึ่ง ”
***
อรุณรุ่งของอีกวัน
รามตื่นแต่เช้า รีบอาบน้ำแต่งตัวแล้วบึ่งจักรยานยนต์คันใหญ่มาที่โรงแรมปุชารายาตามที่เพื่อนได้ส่งข้อความไปนัดหมาย เมื่อมาถึงก็รีบโทรหาเพื่อนตัวแสบในทันที ปลายสายกดรับส่งเสียงงัวเงียมาตามสาย
“ ว่าไงราม ”
“ อยู่ไหนน่ะ ”
“ อยู่โรงแรม ”
“ อยู่โรงแรมแล้วทำไมเสียงยังงัวเงียอยู่วะ ”
“ ก็เมื่อคืนนอนที่โรงแรมไง ” รามนิ่งเงียบ นี่เพื่อนยังไม่แยกจากแม่เซย่าอะไรนั่นอีกเหรอเนี่ย
“ ถ้างั้นกูกลับก่อนละกัน ”
“ เฮ้ย ๆ เดี๋ยว ” นฤบดินทร์หูผึ่งตาตื่นเลยทีเดียว ใช่ วันนี้เขานัดเพื่อนไว้
ชายหนุ่มดีดตัวลุกขึ้นนั่งแล้วเขม้นมองตัวเลขบอกเวลาบนโทรศัพท์มือถือ
“ แปดโมงยี่สิบแล้วเหรอเนี่ย ” เขานัดรามไว้แปดโมง นี่มันเลยมายี่สิบนาทีแล้ว เขารู้จักรามดีว่ามีความรับผิดชอบและตรงต่อเวลาแค่ไหน ถ้าขืนเล่น ๆ หัว ๆ ผิดคำพูด ทำให้มันรำคาญใจ ประเดี๋ยวมันหนีไปไม่ทำงานให้ล่ะยุ่งเลย
“ เดี๋ยวมึงขึ้นมารอที่ห้องทำงานกูเลยราม ชั้นแปดนะ กูบอกเลขาไว้แล้ว ขอตัวล้างกระดูกไม่เกินครึ่งชั่วโมง ”
“ อืม ” ตอบสั้น ๆ ก่อนกดวาง
“ ใครโทรมาแต่เช้าเหรอคะที่รัก ” เสียงหวานของคนข้าง ๆ เอ่ยถามงัวเงีย
“ ไอ้ราม เพื่อนผม จะให้มาช่วยออกแบบโครงการที่หัวหิน นัดมันไว้วันนี้ ผมต้องรีบอาบน้ำไปทำงานแล้วนะ ”
ว่าก่อนลุกขึ้นยืน แต่มือขาวคว้าหมับเข้าที่แก่นกายชายก่อนจะรูดรึงมันช้า ๆ
“ สักน้ำก่อนไม่ได้เหรอคะ ” เธอว่าพลางส่งสายตายั่วยวนมาให้ พร้อมสลัดผ้าห่มออกจากกายจนเปลือยเปล่า เผยให้เห็นร่างอวบอัดอันเปลือยเปล่า สิ่งที่เธอกำอยู่เหยียดยาวขยายอย่างรู้หน้าที่ เซย่าดึงเขาลงนั่งบนเตียง ก่อนจะคลานเข้าคร่อมบนตัก
ชายหนุ่มกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ก่อนฝืนใจดันร่างที่กำลังนั่งยอง ๆ แล้วจับจ่อท่อนเอ็นของเขาเข้ากับรูร่องสีชมพูสดนั้นออก เพราะถ้าขืนใจอ่อนให้เธอละก็จะยิ่งทำให้ช้าเข้าไปอีก
“ ไม่ได้เซย่า ผมมีนัดสำคัญจริง ๆ เอาไว้ก่อนนะ ”