บทที่ 4 แด่เชลยด้วยหนี้แค้น
ใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ในยามใกล้รุ่งบุษราคัมยังคงนอนลืมตาดูเดือนดาวบนท้องฟ้าสีเทาสว่างผ่านกระจกบานใหญ่เพราะทำอย่างไรก็ข่มตาหลับไม่ลง เกือบสัปดาห์แล้วที่เจ้าของเกาะทิ้งเธอไว้ที่นี่ เกาะไดโอนีที่ชื่อแสนน่ารักทว่าน่ากลัวหนักหนา
ฮอฟมันน์ไม่ติดต่อกลับมาเลยแม้แต่บอดี้การ์ดของเขาก็นิ่งเฉยจนน่าใจหาย ทั้งเจเรมีและริชาร์ดยังคงทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดี พวกเขาดูแลเธอตามคำสั่งของเจ้านายไม่บกพร่อง และบางทีก็ออกจะดีมากเกินไปด้วยซ้ำเพราะไม่ว่าหญิงสาวจะกระดิกตัวไปไหนพวกบอดี้การ์ดตัวใหญ่ก็จะตามดูไม่ให้คลาดสายตา
เธอก็แค่อยากรู้ว่าตอนนี้มารดาของฮอฟมันน์จะเป็นอย่างไรบ้าง บุษราคัมคิดทบทวนในช่วงเวลาหลายวันที่เขาไม่อยู่ทั้งตริตรองดีแล้วว่าเธออยากจะขอสงบศึกหากเขากลับมา พี่สาวของเธอทำผิดไว้มากจริง ๆ แม้จะไม่ได้พบหน้ากันเป็นเวลาเกือบสองปีแต่เธอก็รู้ดีว่าอัญมณีไม่เคยเปลี่ยนนิสัย ทั้งทะเยอทะยาน อยากได้และไม่แคร์ใคร จนตอนนี้เป็นต้นเหตุให้ครอบครัวของฮอฟมันน์ต้องแตกสลายซ้ำร้ายแม่เขายังคิดฆ่าตัวตายเพราะความผิดหวัง
แม็กซ์...ฉันอยากขอโทษคุณแทนพี่สาวของฉัน
หญิงสาวนิ่งนึกในใจก่อนจะผล็อยหลับไปกระทั่งได้ยินเสียงบานประตูถูกเปิดเข้ามา สัญชาติญาณที่ยังคงไม่ไว้ใจและระแวดระวังภัยกระตุ้นเตือนร่างกายให้ลืมตาตื่น ใต้แสงไฟสลัวบุษราคัมมองเห็นร่างสูงใหญ่ของใครคนนั้นซึ่งมันทำให้เธอรีบผุดลุกขึ้นนั่งแต่กลับลืมระมัดระวังว่าตัวเองยังอยู่ในชุดนอนบางเบา
“แม็กซ์...”
ร่างแน่งน้อยเรียก เขา ที่ยังคงยืนนิ่งขณะค่อย ๆ เคลื่อนกายลงจากเตียง
“แม็กซ์...คุณเพิ่งมาถึงหรือคะ แม่ของคุณล่ะคะ...ท่านเป็นยังไงบ้าง?”
บุษราคัมถามออกไปด้วยความเป็นห่วง แต่แล้วร่างสูงใหญ่ก็ก้าวเข้ามาใกล้พร้อมใบหน้าถมึงทึง
“ที่คุณถามนี่เป็นเพราะห่วงจริง ๆ หรืออยากจะสมน้ำหน้ากันแน่!”
“แม็กซ์!”
ร่างเล็กถอยกรูดไปจนชิดผนังเมื่อฮอฟมันน์ก้าวพรวดเดียวเข้ามาถึงตัวและจับไหล่บางกดไว้แน่น หน้าตาเขาเหมือนจะเอาเรื่องแต่อะไรก็ไม่น่าตกใจเท่ากลิ่นแอลกอฮอล์ที่กำจายมาจากร่างสูง
“นี่คุณเมาหรือคะ แม็กซ์...ถ้าไม่ไหวก็กลับไปนอนก่อนเถอะค่ะ”
“ผมยังสติดีอยู่ บีน่า!”
ฮอฟมันน์แทรกขึ้นทันควันแต่ลักษณะท่าทางนั้นสวนทางกับคำพูด บุษราคัมเริ่มหวาดกลัวขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ แม้เธอจะเพิ่งเคยพบและสัมผัสเขาเพียงครั้งหากก็ยังจดจำได้ว่าอดีตนาวิกโยธินผู้นี้น่าหวั่นหวาดแค่ไหน
“แม็กซ์...ฉันเป็นห่วงแม่ของคุณจริง ๆ นะคะ ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าพี่สาวฉันทำอะไรไว้กับคุณบ้าง ฉันแค่อยากจะ...”
“บอกใช่มั้ยว่าสมเพช! หรือสงสารคนโง่ที่คิดฆ่าตัวตายอย่างแม่ผม!”
“เราพูดกันดี ๆ เถอะค่ะ แม็กซ์...รู้ตัวไหมคะว่าคุณน่ะเมามาก”
บุษราคัมเอามือยันหน้าอกกว้างไว้เมื่อร่างสูงใหญ่ดันตัวเข้าไปจนชิด ยิ่งอยู่ใกล้หญิงสาวก็ยิ่งได้กลิ่นแอลกอฮอล์แรงขึ้นจนแสบจมูก
“ผมไม่ได้เมา! เบียร์แค่สิบกระป๋องไม่ระคายคอผมหรอก”
“แต่ตอนนี้เราคุยกันไม่รู้เรื่องนะคะ แม็กซ์ ขนาดฉันถามดี ๆ คุณก็ยังมาหาว่าฉันสมน้ำหน้าคุณ”
“หรือไม่จริง! รู้ไว้ด้วยว่าแม่ผมกินยากล่อมประสาทเข้าไปเกินขนาดจนเกือบเอาชีวิตไม่รอดในขณะที่พี่สาวคุณระเริงสุขอยู่กับพ่อของผมที่เขาไม่สนใจใยดีอะไรเลย!”
“พี่อิง...”
ร่างเล็กเผลอครางชื่อพี่สาวออกมาทว่าท่าทีเหมือนสำนึกผิดกลับยิ่งจุดเชื้อไฟผลาญหัวใจของชายหนุ่ม เขาแทบไม่รู้สึกตัวว่าเพลิงพิโรธที่กำลังระบิดออกนั้นส่วนหนึ่งก็มาจากน้ำเมาดีกรีต่ำที่เขาสาดเข้าปากแทบจะตลอดเวลาก่อนกลับมาถึง
“แม็กซ์...อ๊ะ!”
บุษราคัมอ้าปากจะพูดทว่าถูกกระชากลงไปนอนอยู่ใต้ร่างสูงใหญ่บนเตียง รอบ ๆ นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มเป็นรอยแดงก่ำและนั่นยิ่งทำให้หญิงสาวหวาดหวั่นด้วยเขากำลังขาดสติ
“แม็กซ์...คุณจะทำอะไร ปล่อยฉันนะ!”
“ไม่ปล่อย!”
ฮอฟมันน์คำรามเสียงดังก่อนจะฝังจมูกลงบนซอกคอขาวผ่องอย่างบ้าคลั่ง หญิงสาวทั้งทุบด้วยกำปั้นและพยายามยกเข่าเบียดท่อนขาใหญ่ออกไปให้พ้นแต่พละกำลังอันน้อยนิดไม่อาจต้านทานคนบ้าระห่ำอย่างเขาได้ นี่มันเกิดอะไรขึ้น...เขาไปจากเกาะนี้ไม่ถึงสิบวันพอกลับมาก็กลายร่างเป็นซาตานป่าเถื่อนยิ่งกว่าครั้งแรกที่ได้พบ
“หยุดดิ้นเดี๋ยวนี้นะ บีน่า!...ผมบอกให้คุณหยุดดิ้น!”
ฮอฟมันน์ออกคำสั่งทันทีที่ถออนใบหน้าสากระคายออกมาจากซอกคอระหง แต่ยังกดไหล่บางของร่างเล็กที่หยุดตัวเองลงทว่าอกอิ่มภายใต้บชุดนอนบางเบายังหอบสะท้อนทั้งเรียวปากสั่นระริกและนัยน์ตาสีน้ำตาลเบิกกว้างราวกับกลัวสุดชีวิต ชายหนุ่มเหยียดริมฝีปากออก ดวงตาคู่นั้นอาบด้วยความคั่งแค้นจนขุ่นคลั่ก
“คุณกลัวหรือ...จริงสินะ เราเพิ่งพบกันแค่ครั้งเดียว ทีนี่เริ่มจะรู้จักผมดีหรือยังล่ะ บีน่า!”
“ฉันไม่ได้อยากรู้จักคุณ! คนเลว คุณเอาฉันมาขังไว้แล้วยังจะทำอะไรฉันอีก!”
“ทำอะไรอย่างนั้นหรือ?”
ชายหนุ่มทวนคำนั้นก่อนจะโน้มใบหน้าคร้ามเข้มลงไปเพื่อลากลิ้นร้อนไปตามขมับเปียกชื้นของร่างอรชรที่หลับตาพร้อมทั้งเบือนหน้าหลบ
“มองหน้าผม...บีน่า!”