“แม็กซ์! นี่แกกลับจากบาฮามาสตั้งแต่เมื่อไหร่ หรือว่าโครงการสร้างหุ่นยนต์เติมเชื้อเพลิงให้ดาวเทียมของนาซ่าที่แกบอกฉันว่าจะเอาไปสานต่อสำเร็จแล้ว”
ไมค์เข้าไปตบบ่าลูกชายคนเดียวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสก่อนจะตวัดแขนโอบไหล่นางแบบสาวที่ยังมองชายหนุ่มไม่วางตา
“จูเวล...นี่ฮอฟมันน์ ลูกชายที่ฉันเคยเล่าให้เธอฟังยังไงล่ะว่าเป็นนาวิกโยธินอยู่ในกองทัพเรือสหรัฐ แต่ตอนนี้ออกมาช่วยฉันบริหารเอ็ม. ซี. เด็กเตอร์ คอร์ป เรียกเขาสั้น ๆ ว่าแม็กซ์ก็ได้”
ชายวัยกลางคนกล่าวด้วยความภาคภุมิใจทว่าคนที่เก็บความปลื้มที่มีมากกว่าไว้ภายในคืออัญมณี
“ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ แม็กซ์”
หญิงสาวส่งสายตาพราวพรายให้ชายหนุ่มที่ไม่ได้คิดว่าน่าสนใจเท่ากับสิ่งที่เขาต้องการพูด
“พ่อครับ...ที่ผมมาที่นี่ไม่ใช่เพราะเรื่องงานของบริษัท พ่อไม่รู้เลยหรือครับว่าตอนนี้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นบ้าง”
ไมค์ขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนพูด “ยังมีอะไรที่ฉันไม่รู้นอกจากเรื่องที่แกลาออกจากกองทัพมาบริหารงานในบริษัทกระทันหันอย่างนั้นหรือ?”
“มันมีเรื่องที่สำคัญมากกว่านั้นครับพ่อ ตอนนี้แม่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลที่ดามตัชท์”
“อะไรนะ!” ไมค์เลิกคิ้วสูงแต่ยังโอบไหล่นางแบบสาวชาวไทยไว้แน่น
“แม่แกเป็นอะไรถึงเข้าโรงพยาบาลล่ะ”
“แม่กินยากล่อมประสาทมากเกินขนาดเพราะเครียดจัด...พ่อน่าจะรู้นะครับว่าเพราะอะไร”
ฮอฟมันน์เน้นเสียงหนักขณะเหลืบมองอัญมณีที่แสร้งหันไปทางอื่น
“แล้วตอนนี้แม่แกเป็นยังไงบ้าง?”
“พ้นขีดโคม่าร์แล้วครับ หมอล้างท้องได้ทัน ผมกำลังคิดว่าถ้าไม่มีใครเข้าไปเห็นแม่และช่วยไว้ได้ทันเสียก่อน แม่จะเป็นยังไง”
“อืม...โชคดีจัง หมอช่วยไว้ได้แล้วซีนะ”
ไมค์ทำสีหน้าราวกับโล่งใจหากก็ไม่ได้ตื่นเต้นมากมายต่อข่าวที่ได้รับรู้
“แกเองก็ควรสบายใจได้แล้วนะเพราะแม่แกไม่เป็นอะไรแล้ว”
“แต่แม่ต้องการกำลังใจนะครับ! พ่อควรจะไปเยอรมันไม่ใช่นั่งไว้วางใจอยู่ที่นี่!”
“แม็กซ์!...นี่แกสั่งพ่อแกหรือ...ฉันไม่ใช่ผู้ใต้บังคับบัญชาในกองทัพที่แกจะมาสั่งให้ฉันทำอะไรก็ได้นะ!”
ไมค์ขึ้นเสียงบ้างเมื่อเห็นว่าลูกชายแสดงความไม่พอใจออกมา ส่วนอัญมณีเมื่อเห็นท่าไม่ดีจึงรีบถอยฉากไปนั่งที่เก้าอี้รับแขกและโบกมือให้ช่างนวดเท้ากลับออกไป
“ผมไม่ได้สั่งพ่อนะครับ แต่คนเราต้องมีจิตสำนึกว่าไม่ควรปล่อยให้เมียตัวเองที่กำลังจะตายต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวอย่างนั้น พ่อควรไปให้กำลังใจแม่สักนิดถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้พ่อจะไม่เคยใยดีแม่เลย”
“นั่นแหละ แกกำลังมาออกคำสั่งกับฉัน! แกรู้ไว้ด้วยนะแม็กซ์ว่าไม่มีใครมาสั่งฉันได้ ทั้งเอ็ม. ซี. เด็กเตอร์ คอร์ป ทั้งแกและแม่ของแกที่มีวันนี้ได้ก็เพราะฉัน!”
ไมค์ชี้หน้าบุตรชายอย่างเป็นเดือดเป็นแค้นขณะที่ฮอฟมันน์ก็กำลังฉุดรั้งตัวเองไว้แทบไม่อยู่เช่นกัน ใบหน้าคร้ามคมเป็นสีเข้มจัดเมื่อประจักษ์ชัดว่าพ่อของเขามัวเมาอยู่กับนางแบบคนนั้นถึงขั้นหูหนวกตาบอด
”แต่เอ็ม. ซี. เด็กซ์เตอร์ คอร์ป กำลังจะล้มถ้าผมไม่เข้ามาช่วยค้ำมันไว้! ใช่ครับ...พ่อพูดไม่ผิดว่าที่เรามีวันนี้ได้ก็เพราะพ่อเป็นเสาหลัก แต่มันจะมีประโยชน์อะไรถ้าใต้ฐานรากของเสาต้นนั้นกำลังเน่าเปื่อยผุพังเพราะถูกพวกปลวกพวกแมลงมารุมแทะกิน ผมยอมโค่นมันลงแล้วสร้างใหม่ยังดีเสียกว่าให้มันล้มทับพวกเราตายกันหมด!”
“ไอ้แม็กซ์!”
“ถ้าพ่อไม่คิดว่าแม่สำคัญ ผมนี่แหละที่จะคอยดูแลแม่เอง ส่วนเอ็ม. ซี. เด็กเตอร์ คอร์ป ในเมื่อพ่อยกให้ผมบริหารแล้ว ส่วนแบ่งจากผลกำไรผมจะเป็นคนจัดการเองทั้งหมด เชิญพ่อมีความสุขต่อไปเถอะครับ!”
“ไอ้...ไอ้แม็กซ์...ไอ้ลูกเวร!”
“ท่านคะ”
อัญมณีรีบปรี่เข้ามาประคองร่างของไมค์ที่ยืนตัวสั่นด้วยความโกรธจัด หญิงสาวมองตามร่างสูงใหญ่ที่เดินลงส้นจากไปไม่เหลียวหลัง
“ดูมัน...จูเวล เธอดูไอ้ลูกชายหัวดื้อของฉันไว้ซะ มันดื้อด้านไม่เคยลงหัวให้พ่อมันมาแต่ไหนแต่ไร มันคงคิดว่าตัวเองเก่งเสียเต็มประดา ช่างมัน!...อยากจะทำอะไรฉันก็จะปล่อยให้มันทำตามใจของมันไปเลย!”
ไมค์คำรามลั่นทั้งเนนื้อตัวสั่นเทาในขณะที่อัญมณีคอยลูบแขนและหลังเป็นการปลอบเอาใจ สาววัยยี่สิบหกรู้สึกเหมือนหัวใจตัวเองกระตุกเต้นรัวเร็ว ไม่ใช่เพราะห่วงชายอายุคราวพ่อที่เลี้ยงดูเธอราวกับเจ้าหญิง แต่เป็นเพราะผู้ชายเลือดร้อนที่ชื่อ ฮอฟมันน์ แม็คเคลนคนนั้น จะเป็นเช่นไรหากได้อยู่ในอ้อมแขนแข็งแกร่งนั้นสักครั้ง
หลังก้าวขึ้นรถเรนจ์ โรเวอร์คันใหญ่ที่จอดรออยู่หน้าคฤหาสน์และปิดประตูลงดังปัง ฮอฟมันน์ก็หยิบเบียร์ในลังขึ้นมาและซดมันจนหมดกระป๋อง ชายหนุ่มเขวี้ยงมันลงพื้นรถที่เต็มไปด้วยกระป๋องเบียร์นับสิบก่อนลั่นคำสั่งกับคนขับอย่างหัวเสีย
“เจค...ออกรถ!”
บอดี้การ์ดคนสนิทพยักหน้ารับก่อนพารถเคลื่อนออกจากคฤหาสน์ที่ฮอฟมันน์แทบไม่อยากหันกลับไปมอง หลังเดินทางไปเยอรมันเพื่อเฝ้าดูอาการของคลอเดียซึ่งดีขึ้นมากแล้วเขาก็มุ่งมาที่นี่หวังจะบอกข่าวให้บิดาได้รับรู้
แต่แล้วก็ไม่เป็นดังหวังเพราะยิ่งนับวันพ่อของเขาก็ดูเหมือนจะห่างไกลออกไปมากทุกที ไมค์ไม่สนใจอะไรอีก มัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับนารีและกามราคะถึงขนาดละทิ้งครอบครัว ฮอฟมันน์หลับตาลงเพื่อรำลึกถึงใบหน้าซูบซีดของมารดาก่อนที่ใบหน้าของผู้หญิงไร้ยางอายจะเข้ามาแทนที่ ความคั่งแค้นผสมฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้ร่างสูงใหญ่แทบคุมสติไว้ไม่อยู่กระทั่งคนขับถามขึ้น
“จะไปไหนต่อครับ แม็กซ์?”
ฮอฟมันน์นิ่งไปก่อนจะนึกถึงการแก้แค้นครั้งใหม่ที่รออยู่เบื้องหน้า เรียวปากหยักเหยียดออกก่อนลั่นคำบัญชาเสียงเข้ม
“ให้คนเตรียมเครื่องบิน...ฉันจะกลับบาฮามาส...คืนนี้!”