ตอนที่ 13
“สวัสดีครับ คุณหญิงฤทัยรัตน์” หนุ่มหล่อที่ดูโดดเด่นกว่าใครเอ่ยทักทายที่ทำเอาคุณหญิงประหลาดใจมากยิ่งขึ้น
“สวัสดีค่ะ แต่คุณมาผิดงานกันหรือเปล่า ฉันจำได้ว่าไม่เคยให้การ์ดเชิญคุณ”
“ไม่ผิดครับ”
“แล้วคุณรู้จักคนในงานหรืออย่างไร”
“ผมเป็นเพื่อนเก่าของคุณนิดครับ พอผมได้ข่าวว่า คุณนิดจะหมั้นวันนี้ ผมเลยมาแสดงความยินดี”
“เพื่อนยัยนิด” คุณหญิงฤทัยรัตน์อุทาน ก่อนจะหันไปมองแม่บ้าน ที่อีกฝ่ายก็ดูตกใจไม่แพ้ผู้เป็นนาย
“ใช่ครับ” คลินท์ตอบกลับเสียงราบเรียบ
“ยัยนิดไม่เคยบอกเลยว่าจะมีเพื่อนมางาน”
“คุณนิดอาจจะลืมบอกก็ได้ครับ” คลินท์ตอบกลับด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ทางด้านคุณหญิงฤทัยรัตน์ก็สองจิตสองใจว่าจะเชิญหนุ่มฝรั่งเข้าไปในงานดีหรือไม่
“วางใจเถอะครับ ผมมาดี ไม่ได้คิดจะมาล้มงานหมั้นลูกชายคุณหญิง” คลินท์บอกเพื่อให้อีกฝ่ายวางใจ
“ถ้างั้นก็เชิญในงานได้เลย” เมื่อไม่อาจไล่แขกหนุ่มต่างชาติไปได้คุณหญิงฤทัยรัตน์จึงเอ่ยปากเชิญตามมารยาท ทว่าพอพ้นกลุ่มคนต่างชาติเดินเข้าไปในงาน คุณหญิงก็สั่งให้ผู้ดูแลความปลอดภัยของงานจับตาดูกลุ่มคนเหล่านั้นให้ดี จากนั้นจึงเดินเข้าไปในงานที่ตอนนี้พิธีการต่างๆ กำลังจะเริ่มขึ้น
“นิด ทำหน้าให้ดีหน่อย เดี๋ยวแขกก็เอาไปนินทากันหรอกว่านิดโดนบังคับให้หมั้นกับพี่” สิริกระซิบบอกเสียงเข้ม
“นิดไม่สนใจหรอกค่ะ” หญิงสาวบอกอย่างไม่ใส่ใจ
“นิด! ทำตามที่พี่บอกเดี๋ยวนี้” สิริตวาดใส่เสียงดังทำให้เอาคุณหญิงฤทัยรัตน์แทบจะลมจับไปเสียให้ได้ เมื่อจู่ๆ หนุ่มสาวที่กำลังจะสวมแหวนหมั้นเถียงกัน
“สิริ ยัยนิด มีอะไรกันก็ค่อยเคลียร์กันทีหลังได้ไหม” คุณหญิงฤทัยรัตน์เอ็ดเบาๆ พร้อมกับทำหน้าตาดุใส่เพื่อเร่งให้ทั้งสองหยุดเถียงแล้วก็จัดการหมั้นกัน
“ทำหน้าให้ดีๆ นิด” สิริรับปากมารดาแล้วหันมากระซิบสั่งคู่หมั้นสาว
“ค่ะ” นิธารารับคำอย่างเลี่ยงไม่ได้
“ดี” คู่หมั้นหนุ่มยิ้มอย่างผู้ชนะ
“สิริ” คุณหญิงฤทัยรัตน์เอ่ยเรียกลูกชายเสียงต่ำเมื่อลูกชายยังไม่จัดการสวมแหวนหมั้นเสียที
“เดี๋ยวนี้เลยครับคุณแม่”
“งั้นก็สวมแหวนสิ แขกพากันสงสัยแล้ว” คุณหญิงฤทัยรัตน์เร่ง ก่อนที่สิริจะหยิบแหวนเพชรสวมให้คู่หมั้นสาว จากนั้นคู่หมั้นสาวก็หันไปหยิบแหวนมาสวมให้กับคู่หมั้น จังหวะนั้นเธอได้เห็นใครบางคนเข้า มือเล็กสั่นจนระงับเอาไว้ไม่อยู่ทำให้แหวนหล่นลงพื้นสร้างความแตกตื่นให้กับแขก
คุณหญิงฤทัยรัตน์จึงรีบไปหยิบแหวนมาส่งให้คนที่ควบคุมอาการตื่นเต้นระคนหวาดกลัวจนแยกแยะไม่ออกยื่นมือไปรับแหวนมาสวมให้กับคู่หมั้นหนุ่ม กระทั่งพิธีการต่างๆ ผ่านพ้นไปแล้วเธอจึงขอไปยังห้องแต่งตัวทันที แม้จะรู้ว่าเป็นการเสียมารยาท ทว่าเธอไม่สามารถยืนอยู่ในงานได้อีกต่อไป
“พี่สิริ ปล่อยนิด” นิธาราเอ่ยบอกคู่หมั้นหนุ่ม ที่ไม่ยอมให้เธอขึ้นไปพักผ่อนทั้งที่คุณหญิงอนุญาตแล้ว
“พี่ไม่ให้นิดไปไหนทั้งนั้น” สิริรั้งคู่หมั้นสาวเอาไว้
“นิดจะไป” นิธาราสะบัดแขนจนหลุด จากนั้นก็รีบแยกตัวออกไปโดยมีสายตาคู่หนึ่งมองอยู่ ก่อนที่เจ้าของสายตาจะพยักหน้าเล็กน้อยให้บอดี้การ์ดออกไปรอด้านนอก
“ให้ผมตามไปดูแลหน้าห้องไม่ดีกว่าเหรอครับ” โรเจอร์เอ่ยถาม เพราะอยากตามไปดูแลเจ้านายหนุ่ม เนื่องจากเห็นว่ามีคนดูแลงานคอยจับตาพวกเขาอยู่
“ไม่ต้อง รีบไปกันได้แล้ว” คลินท์หันมาสั่งลูกน้อง แล้วเดินนำออกมา ก่อนจะแยกย้ายกันไป คนหนึ่งขึ้นลิฟต์ ส่วนลูกน้องพากันออกจากงาน
******
นิธารานั่งอยู่หน้ากระจกในห้องแต่งตัว ที่เวลานี้ไม่มีใครอยู่แล้ว เธอนั่งมองแหวนเพชรบนนิ้วด้วยสายตาว่างเปล่า เธอจับแหวนถอดออก ทว่า...
“ราคามันน้อยเกินไปหรือไงถึงต้องรีบถอดออก” เสียงห้วนที่ดังอยู่ด้านหลังทำให้อีกคนตัวแข็งทื่อ พยายามคิดว่าตัวเองหูฟาดไป แต่มันไม่ใช่ เมื่อเธอเห็นเงาของเขาในกระจก
“คุณ...คลินท์” นิธาราตกใจหน้าซีดเผือด ใจหล่นหายไปอยู่ตาตุ่มเมื่อได้พบหน้าคนเคยรักอีกครั้ง ทั้งที่เธอคิดว่าชาตินี้คงไม่ได้มีวันได้พบเขาอีกแล้ว
“แค่เห็นหน้าผัวเก่าก็ถึงกับช๊อกไปเลยหรือไง” พูดจบ คลินท์ก็ยิ้มมุมปาก
“ฉะ...ฉัน...”
“นอกจากช๊อกแล้วยังพูดไม่ออกอีกด้วย คงดีใจมากที่ได้เห็นหน้าผัวเก่า น่าประทับใจจริงๆ” พูดจบคลินท์ก็ตบมือสองสามครั้ง
“ฉัน...ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับคุณ” นานหลายนาทีกว่าเธอจะเอ่ยตอบเขากลับไป อึดใจต่อมาก็รีบถอยหนี
“รังเกียจผัวเก่าเหรอ ถึงไม่ยอมให้ผัวเก่าโดนตัว” คลินท์เหยียดปากยิ้ม พลางสอดสองมือล้วงกระเป๋าด้วยท้วงท่าสบาย
“คุณไม่ใช่สามีของฉัน กรุณาอย่าพูดแบบนี้อีก” พูดจบก็เดินหนีตรงไปที่ประตู แต่ช้าไปว่ามือหนาที่กระชากเพียงครั้งเดียวร่างเล็กก็ถลาเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด
“ปล่อยฉัน” นิธาราเอ่ยสั่งเสียงดังเท่าที่จะทำได้ พลางดิ้นรนขัดขืนสุดแรง แต่ดิ้นเท่าไรก็หนีไม่พ้นอ้อมกอดที่รัดแน่น
“ขอร้องผมดีๆ เผื่อผมจะยอมปล่อย แต่ถ้าไม่ทำตามที่ผมสั่ง ผมจะกอดคุณไว้แบบนี้จนกว่าคู่หมั้นของคุณจะขึ้นมาตาม” คลินท์โน้มหน้าลงมากระซิบบอก จงใจให้ริมฝีปากสัมผัสกับแก้มนุ่ม
“คนสารเลว ปล่อยฉันนะ ปล่อย”
“ใครกันแน่ที่เลว คิดให้ดีๆ ก่อนจะพูดคำนี้ออกมา” น้ำเสียงของเขาดุดันต่างจากเมื่อครู่ลิบลับ หนำซ้ำแรงกอดรัดก็แนบแน่นมากขึ้นจนแทบหายใจไม่ออก
“ไม่จำต้องเป็นคิด เพราะคนที่เลวก็คือคุณ” น้ำเสียงหวานสั่นตอบกลับอย่างรวดเร็ว สองมือเล็กก็เพียรผลักไสเขาออกไป แต่ก็ไม่สำเร็จอีกตามเคย
“นิด!” คลินท์ตวาดใบหน้าเครียดจัด
“ปล่อยฉัน” เจ้าของร่างเล็กพยายามจะพาตัวเองออกจากอ้อมกอด แต่ก็ไม่สำเร็จเสียที กระทั่งมีคนเปิดประตูเข้ามาทำให้เธอหลุดมาจากอ้อมกอดของคนเคยรักได้
“นิด! ไอ้หมอนี่เป็นใคร” สิริที่ขึ้นมาตามคู่หมั้นสาวตวาดถามทันที และความโกรธแล่นพล่านด้วยเช่นกัน