ตอนที่ 12

1271 คำ
ตอนที่ 12 “พิณรู้ค่ะ แต่ตอนนี้ใกล้ได้เวลาแล้วนะคะ” พูดจบเจ้าตัวก็พยายามดันชายหนุ่มออกห่าง ทำทีว่าไม่อยากให้กอด แต่จริงๆ แล้วเธออยากจะรั้งคุณสิริไว้ที่นี่ “ผมไม่สน” “แต่..” พูดไม่ทันจบ ปากร้อนก็ทาบลงมา เสี้ยววินาทีความวาบหวามก็บุกจู่โจม หญิงสาวเปิดปากรับลิ้นอุ่นให้ซอกซอนเข้าไปภายในด้วยความเต็มใจ ขณะที่สิริก็ตั้งใจจะตักตวงความหวานล้ำจากปากจิ้มลิ้มที่ทำให้เขาติดใจให้มากที่สุด ก่อนที่เขาจะหมั้นกับผู้หญิงอีกคนให้นานที่สุด แต่ทุกสิ่งที่วาดฝันก็ต้องสะดุดลง เพราะเสียงที่คุ้นหู “สิริ!!!” คุณหญิงฤทัยรัตน์ตวาดเสียงดังลั่น ก่อนจะหันมองผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมกอดของลูกชาย “คุณแม่! คุณแม่มาได้ยังไง” สิริตกใจ ก่อนจะถอยห่างจากพิณแก้ว “ตาสิริ ผู้หญิงไร้ยางอายคนนี้เป็นใคร แล้วไม่รู้หรือไงว่าผู้ชายที่ตัวเองยอมให้กอดจูบกำลังจะหมั้น” คุณหญิงฤทัยรัตน์ถามเสียงกราดเกรี้ยว สีหน้าบ่งบอกชัดเจนว่าไม่พอใจ “คุณแม่ครับ เดี๋ยวเรื่องนี้ผมจะอธิบายให้คุณแม่ฟัง หลังจากผมหมั้นกับนิดแล้วนะครับ” เพราะไม่อยากสูญเสียผู้หญิงอีกคนไป สิริจึงขอต่อรองกับคนเป็นแม่ “แต่ฉันอยากรู้ตอนนี้” “ขอเป็นหลังงานหมั้นนะครับคุณแม่” “แล้วแกจะทำยังไงกับผู้หญิงคนนี้” คุณหญิงตวัดหางตามองไปยังคนที่ถูกเอ่ยถึง ขณะที่พิณแก้วก็ได้แต่ยืนน้ำตาคลอ “เดี๋ยวผมจัดการเองครับ คุณแม่ลงไปรอข้างล่างก่อนนะครับ นะครับ” สิริเดินเข้าไปโอบกอดผู้เป็นแม่ ก่อนจะพาท่านออกจากห้อง ฝ่ายคุณหญิงฤทัยรัตน์ก็ได้แต่มองค้อนคนเป็นลูกพร้อมกำชับว่ารีบจัดการให้เรียบร้อย แล้วลงไปในงาน เพราะใกล้ฤกษ์หมั้นเต็มทีแล้ว “ผมจะรีบลงไปเลยครับคุณแม่” “อย่าดีแต่รับปากแล้วกัน รีบๆ จัดการ แล้วก็รีบลงไป แต่แกอย่าพาผู้หญิงคนนี้เข้าไปในงานเด็ดขาด ไม่งั้นได้เห็นดีกัน” คุณหญิงฤทัยรัตน์กำชับก่อนจะยอมไปรอลูกชายในงานและทันทีที่มารดาออกไปแล้วสิริก็เข้าไปสวมกอดผู้ช่วยเลขา “คุณสิริ รีบไปเถอะค่ะ” พิณแก้วดันร่างใหญ่ออก แต่มีหรือที่อีกคนจะยอม สิริโน้มใบหน้าลงมาประทับจูบอ้อยอิ่งบนปากจิ้มลิ้ม “คุณสิริ!” เมื่อทุกอย่างจะไม่หยุดอยู่แค่จูบ เสียงหวานก็ดังขึ้นทันทีเมื่อปากร้อนเคลื่อนไปซุกไซ้ทั่วลำคอ “อย่าขัดใจผม พิณแก้ว” สิริปรามเสียงเข้ม ก่อนจะซบหน้าลงไปคลุกเคล้าซอกคออีกครั้ง นานกว่าจะปล่อยให้ผู้ช่วยเลขาเป็นอิสระ “ไปได้แล้วค่ะ” เสียงหวานติดจะสั่นเอ่ยเตือน ยกมือดันใบหน้าของเจ้านายหนุ่มเอาไว้เมื่อเขาทำท่าจะจูบอีก “คอยดูเถอะ หลังงานหมั้นผมจะทำโทษคุณให้หนัก” สิริคาดโทษ “พิณไม่กลัวคุณหรอกค่ะ แต่ตอนนี้คุณลงไปได้แล้วนะคะ อย่าทำให้คุณหญิงโกรธเลย” “ผมไปก็ได้ แต่คุณอย่าโกรธคุณแม่ของผมได้ไหม” “พิณไม่โกรธท่านหรอกค่ะ” “ขอบคุณที่รัก” ขาดคำสิริก็จูบลา ก่อนจะยอมลงไปในงาน แล้วเดินไปหาผู้เป็นแม่ “ทำไมแกลงมาช้า” คุณหญิงฤทัยรัตน์เอ็ดลูกชายเบาๆ เพราะกลัวคนอื่นจะได้ยิน “ถึงมาช้าแต่ผมก็มาทันฤกษ์นะครับคุณแม่” สิริตอบกลับหน้าทะเล้น “แกนี่จริงๆ เลย” คุณหญิงฤทัยรัตน์ส่ายหน้าอย่างระอาลูกชาย ขณะเดียวกันก็มีสายตาคู่หนึ่งคอยมองดูอยู่ และก็รู้ว่าคู่หมั้นหนุ่มหายไปไหน “นิด” คนเป็นแม่ขานเรียกเมื่อเห็นสีหน้าลูกสาวแล้วรู้สึกไม่สบายใจ “คะแม่” นิธาราเอ่ยถามด้วยสีหน้านิ่วคิ้วขมวด เพราะแม่ไม่ได้เพียงแค่สะกิด แต่ยังหยิกเธอจนเนื้อเขียว “จะอะไรอีกล่ะ ดูเราทำหน้า งานหมั้นตัวเองทั้งแท้ๆ แทนที่จะทำหน้าตาให้มันดีๆ นี่อะไรทำหน้าทำตาเหมือนโดนบังคับให้หมั้น แล้วก็ยิ้มซะบ้าง เดี๋ยวแขกจะเข้าใจผิดว่าโดนบังคับให้หมั้น” “หน้าตานิดก็เป็นแบบนี้อยู่แล้วนะแม่” คนเป็นตอบกลับเสียงเอื่อยๆ รู้สึกเบื่อหน่ายจนอยากจะหนีไปให้ไกล “เดี๋ยวเถอะ ทำหน้าทำตาให้มันยิ้มแย้มหน่อย เร็วเข้า นั่น คุณสิริเดินมาโน้นแล้ว” ผู้เป็นแม่พูดจบก็หันไปยิ้มให้กับคู่หมั้นของลูกสาว ทางด้านนิธาราก็ถอนใจอย่างคนเบื่อโลก เธอไม่อยากหมั้น เพราะรู้อยู่เต็มอกว่าพี่สิริมีคนรักอยู่แล้ว ถ้าหากได้หมั้นได้แต่งกันไปคงไม่วายต้องเลิกกัน แต่เธอก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ในเมื่อผู้ให้กำเนิดสั่งว่าอย่าทำให้คุณหญิงฤทัยรัตน์เสียใจ “นิดไปกันเถอะ ใกล้ฤกษ์แล้ว” สิริเดินเข้าไปโอบเอวคู่หมั้นสาวแล้วพาเข้าไปในงาน ส่วนนิธาราดันตัวออกห่างจากคู่หมั้นหนุ่มราวกับรังเกียจ “นิด!” สิริตวาดใส่เสียงค่อนดัง “นิดเดินเองได้” ตอบจบแล้วเธอก็เบี่ยงตัวออกมาแล้วเดินไปตามลำพัง ทางด้านสิริก็ยืนหัวเสียอยู่ที่เดิม ท่ามกลางสายตาอยากรู้อยากเห็นของแขกในงานและลุ้นว่างานหมั้นจะเกิดขึ้นหรือไม่ ในเมื่อสองหนุ่มสาวดูท่าจะโกรธเคืองกันมากทีเดียว “ตาสิริ ทำไมแขกถึงได้พากันซุบซิบแล้วมองมาที่แก” คุณหญิงฤทัยรัตน์ที่มองดูผู้คนแล้วก็ชักสงสัยจึงถามลูกชาย “ไม่มีอะไรครับ” ตอบมารดาแต่สายตายังคงจับจ้องไปที่คู่หมั้นสาว ที่เขาจะไม่รีรออีกต่อไปแล้ว หลังจากหมั้นเขาจะต้องเป็นเจ้าของเธอให้ได้! “ไม่มีได้ยังไง ก็แม่เห็นคนในงานจับกลุ่มซุบซิบแล้วก็พากันมองมาที่แก หรือแกทะเลาะกับยัยนิด คนในงานถึงได้มองแก” คุณหญิงฤทัยรัตน์คาดคั้นบุตรชายด้วยสีหน้าไม่พอใจ เพราะไม่อยากให้ครอบครัวตกเป็นขี้ปากชาวบ้าน “คุณแม่ อย่าเพิ่งมาซักไซ้ผมตอนนี้ได้ไหมครับ” สิริตอบมารดาด้วยใจยังคุกรุ่น ที่คู่หมั้นสาวมีท่าทีรังเกียจ “ก็แล้วแกทำอะไรไว้ล่ะ” คนเป็นแม่ถามเสียงเครียด เพราะกลัวว่างานหมั้นจะล่ม แล้วยิ่งมารู้มารู้เห็นว่าลูกชายพาผู้หญิงอีกคนมาด้วย ทั้งที่ตัวเองกำลังจะหมั้นก็ยิ่งหวั่นใจกลัวว่าลูกชายจะหนีงานหมั้นไปกกกับผู้หญิงไร้ยางอาย “คุณแม่” “ฉันไม่ถามแกแล้วก็ได้” คนเป็นแม่ยอมแพ้ เพราะกลัวลูกชายจะหนีงานหมั้น แต่ขณะที่กำลังรอฤกษ์สวมแหวน ก็มีกลุ่มคนเกือบสิบคนเดินเข้ามา คุณหญิงฤทัยรัตน์ รวมทั้งคนอื่นๆ ต่างพากันหันไปมองด้วยความสงสัย “นั่นใครกันคะคุณหญิง” แม่สาย แม่บ้านคนเก่าแก่เอ่ยถาม “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่เคยเห็นหน้าสักคน หรือจะมาผิดงาน” คนเป็นนายตอบเสียงเรียบๆ แต่ใจก็นึกหวั่นอยู่เหมือนกัน เพราะกลัวว่าคนเหล่านั้นจะมาทำลายงานหมั้น ส่วนคนว่าจ้าง ก็คงจะเป็นผู้หญิงไร้ยางอายที่มากอดจูบกับลูกชายตน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม