ตอนที่ 8
“พี่มล” นิธาราเรียกแล้วก็หันมามองกมลวรรณ เพราะเธอคิดว่าอีกฝ่ายคงรู้
“นิดเรียกพี่ทำไมเหรอ” เมื่อถูกจ้องมากๆ เข้ากมลวรรณก็เริ่มวางตัวไม่ถูก
“พี่มล ถ้าพี่มลเคยเห็นอะไร พี่ก็บอกนิดมาเถอะค่ะ” แล้วเธอจะได้ตัดสินใจอีกครั้ง ก่อนที่งานหมั้นจะเกิดขึ้น ซึ่งก็เหลือเวลาอีกไม่นาน
“พี่ไม่เคยเห็นอะไรเลยนะนิด”
“แต่นิดเชื่อว่าพี่เคยเห็น ไม่งั้นพี่ไม่มาถามนิดหรอก” นิธาราคาดคั้น เธอยอมรับว่าโกรธมากที่พี่สิริทำแบบนั้นแต่ความโกรธที่มีไม่ได้เกิดจากความหึงหวง แต่เธอโกรธเพราะกำลังถูกสองคนนั้นทำเหมือนกับว่าเธอไร้ตัวตน หากรักชอบกันจริงทำไมพี่สิริถึงไม่มาพูดกับเธอตรงๆ ที่เธอก็พร้อมจะหลีกทางให้คนทั้งสองด้วยความเต็มใจอยู่แล้ว ในเมื่อเธอไม่เคยรักพี่สิริ แต่ที่ต้องหมั้นกันก็เพราะเธอไม่อาจขัดคุณหญิงฤทัยรัตน์ได้
“นิดอย่ามาคาดคั้นพี่แบบนี้สิ พี่...” กมลวรรณอึกอัก ใจก็อยากบอกแต่ก็กลัวจะตกงานอยู่เหมือนกัน เพราะงานสมัยนี้ไม่ใช่จะหาได้ง่ายๆ แล้วยิ่งเธอกำลังจะมีลูกอยู่ด้วย ทำให้เธอต้องคิดให้มาก ที่สำคัญเธอก็ไม่เคยเห็นกับตาสักครั้งว่าคุณสิริกับพิณแก้วเกินเลยกันไปแล้วหรือยัง
“พี่มล บอกนิดมาเถอะ” นิธาราทำหน้าขอร้อง
“คือพี่...”
“นิดขอร้องนะคะพี่มล ช่วยบอกนิดทีถ้าพี่รู้เห็นอะไรมา”
“แล้วนิดจะรู้ไปทำไมล่ะ แล้วพี่พูดตรงๆ นะว่านิดเป็นต่อผู้หญิงพวกนั้นมากๆ นิดไม่ต้องไปใส่หรอกนะ”
“แต่นิดอยากรู้ว่าเขาสองคนทำกับนิดแบบนี้นานแค่ไหนแล้ว” แล้วเธอก็ไม่ได้ดีไปกว่าผู้หญิงของพี่สิริเลย เธอผ่านการมีลูกแล้ว แต่ไม่ได้บอกใคร เพราะความขี้ขลาดที่ทำให้เธอไม่กล้าสารภาพความจริงกับมารดาและผู้มีพระคุณ
“โธ่นิด เห็นใจพี่เถอะ พี่กลัวตกงาน” กมลวรรณเริ่มเครียด คิดช่างใจอยู่ว่าจะบอกหรือไม่บอกดี
“นิดสัญญาว่าจะไม่ทำให้พี่เดือดร้อน”
“ก็ได้ๆ พี่จะบอกเท่าที่พี่เห็น เพราะพี่ก็ทนเก็บเอาไว้ไม่ได้แล้วเหมือนกัน แต่พี่ต้องขอโทษนิดด้วยนะที่รู้เห็นมาสักพักแล้วแต่ก็ไม่ได้บอกนิด แต่พี่ก็เคยเปรยๆ กับเด็กคนนั้นแล้วนะ แต่เด็กคนนั้นก็ยังทำ พี่ล่ะไม่เข้าใจเลยว่าทำไมพิณแก้วถึงได้ทำตัวแบบนี้ ทั้งที่ก็รู้อยู่เต็มอกว่าคุณสิริกำลังจะหมั้น” กมลวรรณยื่นมือไปกุมมืออีกฝ่ายไว้แล้วบีบเบาๆ
“แต่บ้างทีก็อาจจะเป็นที่ผู้ชายก็ได้นะคะพี่มลที่ไปหลอกจนพิณแก้วหลงเชื่อ”
“พี่ว่าคงเลวๆ พอกันนั่นแหละ ไม่งั้นไม่กล้าทำอะไรแบบนี้หรอก ว่าแต่นิดพร้อมจะฟังจริงเหรอ พี่ไม่อยากให้นิดไม่สบายใจกับเรื่องนี้ เพราะอีกไม่กี่วันนิดกับคุณสิริก็จะหมั้นกันแล้ว แล้วพี่ก็คิดว่าเด็กคนนั้นคงจะยอมถอยตอนนั้นแหละ” พูดไปแล้วก็ได้แต่ภาวนาขอให้ผู้ช่วยเลขายอมตัดใจจากคุณสิริ เพราะเธอไม่อยากเห็นเพื่อนรุ่นน้องต้องช้ำใจไปมากกว่านี้อีกแล้ว
“แต่นิดว่าพี่สิริคงไม่ยอมเลิก”
“นิดรู้ได้ยังไง”
“นิดก็เดาๆ เอาค่ะ แต่นิดค่อนข้างมั่นใจว่าพี่สิริไม่ยอมเลิกกับพิณแก้วแน่ๆ” แต่ปัญหาคือเธอจะบอกคุณหญิงอย่างไรดีว่าให้ยกเลิกงานหมั้น เพราะลูกชายของท่านมีคนรักอยู่แล้ว
“ถ้านิดมั่นใจ แล้วไม่อยากช้ำใจ พี่ขอแนะนำให้นิดยกเลิกงานหมั้นไปเลย เพราะขืนให้หมั้นให้แต่งกันไป ยังไงก็ต้องเลิกกันอยู่ดี แล้วสองคนนี้ก็ดูมีอะไรกันแปลกๆ มาสักพักแล้วด้วย เกือบจะเดือนแล้วนะนิด ตอนนี้คงกำลังหลงกันทีเดียวแหละ แล้วพี่ก็ต้องขอโทษอีกครั้ง ที่เห็นแต่ไม่ได้มาเตือนนิด”
“ไม่เป็นไรค่ะพี่ พี่มลไม่ต้องคิดมาก”
“แล้วตกลงนิดจะไปบอกคุณหญิงหรือเปล่า”
“นิดจะขอปรึกษากับแม่ก่อน แต่ถ้านิดไปบอกคุณหญิง ไม่รู้คุณหญิงจะยอมหรือเปล่า เพราะตอนนี้คนก็รู้กันหมดแล้วด้วยว่าลูกชายของท่านกำลังจะหมั้น ถ้าจะให้มายกเลิกก่อนถึงวันหมั้นไม่กี่วัน ไม่รู้ท่านจะยอมหรือเปล่า” พูดจบก็ถอนใจด้วยความหนักใจ แล้วหากท่านไม่ยอมให้ยกเลิกงานหมั้นจริงๆ เธอจะทำอย่างไร
“นิดก็บอกไปตรงๆ เลยว่าคุณสิริมีคนอื่น พี่ว่าคุณหญิงคงเข้าใจ” กมลวรรณเอ่ยแนะนำ
“นิดก็ภาวนาขอให้คุณหญิงเข้าใจเหมือนกันพี่มล”
“งั้นพี่จะช่วยภาวนาอีกคนนะ แต่ถ้านิดถอนหมั้นกับ คุณสิริจริงๆ นิดไม่เสียใจเหรอ”
“นิดไม่เสียใจเลยพี่มล”
“นิดนี่ก็พูดแปลกๆ พูดเหมือนตัวนิดไม่ได้รักคุณสิริ”
“นิด...”
“อย่าบอกนะว่านิดไม่ได้รักคุณสิริ” เห็นทีทางอ้ำๆ อึ้งๆ แล้วกมลวรรณก็พูดขึ้นเสียงดัง
“พี่มล เบาๆ ค่ะ”
“โทษที พี่ลืมตัวไป ว่าแต่นิดไม่ได้รักคุณสิริจริงเหรอ”
นิธาราพยักหน้าแทนการพูดตอบ ทำเอากมลวรรณถึงกับถอนใจ แล้วก็คิดไม่ตกกับเรื่องนี้ ถ้าหากทางคุณหญิงไม่ยอมให้ยกเลิกงานหมั้น
“พี่มล ตอนเที่ยงเราไปหาทานด้วยกันนะ” นิธาราเปลี่ยนเรื่อง เพราะยิ่งพูดเธอก็ยิ่งเครียด
“จะเที่ยงแล้วเหรอ”
“ยังหรอกพี่มล นิดแค่ชวนไว้ก่อน”
“งั้นเที่ยงแล้วเจอกัน ส่วนตอนนี้พี่ขอไปทำงานนะ มาเม้าท์ซะนาน ป่านนี้คุณสิริไม่บ่นพี่ยืดยาวแล้วเหรอเนี่ย แล้วแม่เด็กพิณแก้วนั่นก็ไม่รู้จะทำงานแทนได้หรือเปล่า”
“เดินดีๆ นะพี่มล”
“ขอบใจที่ห่วงจ๊ะ งั้นพี่ไปนะ” กมลวรรณบอกกล่าวแล้วก็เดินกลับไปที่โต๊ะทำงาน เป็นจังหวะเดียวกับที่พิณแก้วก็ออกจากห้องทำงานของเจ้านายหนุ่ม