เวลาบ่าย 2
ตึกวิศวะกรรมศาสตร์
“ขอบคุณมากนะมินนาที่เดินมาส่งกอหญ้า..”
กอหญ้าขอให้มินนาเดินมาส่งที่หน้าตึกวิศวะ เพราะมินนารู้จักทุกตึกของมหาลัยนี้ดี
“ไม่เป็นไรแค่นี้เอง แล้วนี่พี่ของกอหญ้าเลิกเรียนกี่โมงหรอ..?”
“ไม่รู้ซิ..กอหญ้าก็ไม่ได้ถามด้วย.”
“อ้าว.! งั้นก็ลองโทรไปถามพี่เขาซิ เผื่อถ้าพี่เขาเลิกเย็น กอหญ้าจะได้ไปนั่งรอที่ห้องสมุดก่อน หรือไม่ก็ไปหาอะไรกินกับมินกันก่อนดีไหม..?”
“เอ่อ.! ไม่เป็นไรหรอก กอหญ้าว่าจะนั่งรอพี่ที่นี่ดีกว่า..”
“งั้นก็ตามใจ..งั้นมินไปก่อนนะ.”
“จ่ะ..”
กอหญ้าไม่มีเบอร์แล้วก็ไม่มีไลน์ของพี่โมสเลยสักอย่างไม่รู้จะติดต่อไปหาพี่โมสยังไง แล้วพี่โมสเลิกเรียนกี่โมงกอหญ้าก็ไม่รู้
...
เวลา 5 โมงเย็น
ผมเดินออกมาจากห้องเรียนหลังจากที่เรียนวิชาสุดท้ายของวันนี้เสร็จ ก็มองหากอหญ้าดูที่ใต้ตึกว่ายัยนั่นมารอผมตามที่บอกหรือยัง
“โมส..เลิกเรียนแล้วจะไปไหนต่อหรือเปล่า.?”
“แพรมีอะไรหรอ..?”
“ไปดูหนังด้วยกันไหม.?”
“ไม่อะ..โมสไม่ชอบดูหนัง”
“ถ้าโมสไม่อยากดูหนัง แล้วโมสอยากดูอะไรละบอกแพรได้นะ..?”
ผมมองจ้องเข้าไปในแววตาของแพรก็รู้ได้ทันทีว่าเธอกำลังหมายถึงเรื่องอะไร แต่ผมเบื่อเธอแล้วเพราะเธอชอบทำตัวเป็นเจ้าเข้าเจ้าของผมตลอดเวลา จนผมเริ่มอึดอัดอยากจะสลัดเธอทิ้งเพื่อไม่ให้เธอมายุ่งกับผมอีก
“...”
แพรเดินเข้ามาใกล้ผมมากขึ้น แล้วส่งสายตายั่วยวนมาให้
“วันนี้คงไม่ได้..โมสต้องรีบกลับบ้านนะ”
“จะรีบกลับไปไหนละทำเหมือนว่ามีใครรออยู่ที่บ้านงั้นแหละ..?”
“พี่โมสคะ..”
ผมได้ยินเสียงกอหญ้าเรียกก็หันไปมองทันทีพร้อมกับแพรด้วย ที่มองไปที่กอหญ้าด้วยสายตาที่ดูจะสงสัยและก็คงอยากรู้ว่ากอหญ้าเป็นอะไรกับผม
“เลิกเรียนแล้วหรอคะ..?”
“อื้ม.”
“ที่โมสปฏิเสธแพร เพราะว่าโมสนัดกับผู้หญิงคนนี้หรอ.?”
“...”
ผมคิดอะไรขึ้นได้จึงตัดสินใจปล่อยไปตามน้ำ ให้แพรเข้าใจไปแบบนั้น แพรจะได้เลิกตามมายุ่งวุ่นวายกับผมสักที
“ใช่..โมสนัดกับกอหญ้าไว้แล้ว งั้นโมสขอตัวนะแพร”
ผมพูดจบก็จับแขนกอหญ้าลากออกไปจากตรงนั้นทันที จนพ้นห่างออกมาจากตึก
“พี่โมส..”
“อะไร..?”
“เกิดอะไรขึ้นหรอคะ ทำไมพี่โมสต้องพากอหญ้าออกมาแล้วก็ยังรีบเดินหนีผู้หญิงคนนั้นด้วย..?”
“อย่าถามมากได้ไหม จะกลับไหมบ้านนะ.?”
“กลับค่ะ..”
“งั้นก็รีบเดินตามมาซิ เดี๋ยวรถจะมาแล้วเธอก็วิ่งไม่ทันอีก รอบนี้ฉันหนีขึ้นรถไปก่อนฉันไม่รอด้วยนะ..”
“ค่ะๆ ..”
...
1 เดือนต่อมา
หลังจากวันนั้น 1 เดือนเต็ม เวลาที่กอหญ้าเรียนเสร็จแล้วกอหญ้าก็ต้องไปรอพี่โมสที่ตึกวิศวะทุกวัน หรือถ้าวันไหนที่กอหญ้าเลิกเย็นกว่าพี่โมสก็จะไปอ่านหนังสือที่ห้องสมุดรอ
“วิชานี้ต้องจับกลุ่ม 4 คนนะครับ อาจารย์ขอเป็นชาย 2 หญิง 2 ไม่เอาแบบหญิงล้วนหรือชายล้วนนะ อยากให้คละกันการทำงานแบบกลุ่มจะได้ดูมีอะไรที่แปลกใหม่บ้าง..”
วิชาออกแบบศิลป์อาจารย์บอกว่าให้พวกเราจับกลุ่มทำรายงานกัน 4 คน ซึ่งอาจารย์กำหนดสถานที่ที่สมมุติขึ้นมาให้ เพื่อให้แต่ละกลุ่มออกแบบร้านคาเฟ่ที่มีความน่าสนใจออกมาหนึ่งร้าน
“อาจารย์อยากให้ทุกคนช่วยกันออกแบบร้านคาเฟ่ที่ทรุดโทรมร้านนี้ขึ้นมาใหม่ เพื่อดึงดูดลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ให้เข้ามาที่ร้าน และจะทำยังไงเพื่อให้ร้านนี้สามารถรองรับลูกค้าได้เป็นจำนวนมาก..อาจารย์ให้เวลา 45 วันนะครับในการคิดสร้างสรรค์และสร้างโมเดลขึ้นมาพรีเซ้นต์ หวังว่าจะได้ไอเดียดีๆ จากทุกๆ คนนะครับ..”
“กอหญ้า..ขอริวอยู่ด้วยคนนะ..?”
ริวจิวิ่งตามกอหญ้ากับมินนาออกมานอกห้อง โดยมีโอมเพื่อนของริวจิที่เรียนอยู่ในห้องด้วยกันตามมาด้วยอีกคน
“ถามกอหญ้าคนเดียวหรอ ถามฉันด้วยไหมว่าฉันยอมหรือเปล่า..?”
“ฉันจะอยู่กลุ่มเดียวกับกอหญ้าฉันไม่ได้อยากอยู่กลุ่มเดียวกับเธอ..”
“แต่กอหญ้ากับฉันอยู่กลุ่มเดียวกัน ถ้าฉันไม่ยอมกอหญ้าก็ให้นายมาอยู่ด้วยไม่ได้หรอก..”
“มินนา..ให้ริวจิเขาอยู่ด้วยคนเถอะนะ.”
“โอมขออยู่ด้วยอีกคนนะกอหญ้า..?”
“ไม่ได้..ฉันไม่ยอม”
ริวจิเดินแทนกตัวโอม และขยับเดินเข้ามาใกล้กอหญ้ามากขึ้น
“กอหญ้า กอหญ้าลองคิดดูนะว่าถ้ากอหญ้าให้ริวไปอยู่ในกลุ่มด้วย กอหญ้าจะสบายมากแค่ไหน กอหญ้าจะไม่ต้องลำบากเลย เพราะริวจะพากอหญ้าขับรถไปหาแรงบันดาลใจจากคาเฟ่ที่อยู่ในตัวเมืองเชียงใหม่ได้อีกหลายๆ ที่ หรือว่าอยากได้อะไรก็บอกริวได้ริวจะจัดการให้ได้ทุกอย่างเลย..”
“นายนี่คงสบายมาจนเคยตัวซินะ เลยคิดว่าจะเอาความสบายมาพูดล่อลวงให้กับกอหญ้าหลงนายใช่ไหม..ฝันไปเถอะ”
“ฉันไม่ได้ล่อลวงฉันพูดถึงสิ่งที่จำเป็น หรือว่าพวกเธอจะนั่งรถเมล์รอบเชียงใหม่ไปหาดูร้านคาเฟ่กันเอง เชียงใหม่มีคาเฟ่เป็นร้อยๆ ร้านเธอไหวหรอ..?”
“...”
กอหญ้าคิดตามที่ริวจิพูด เพราะมันก็จริงอย่างที่เขาบอก ถ้ามีรถของริวจิอะไรก็จะง่ายมากขึ้นแล้วก็สะดวกสบายมากขึ้นด้วย
“มันก็จริงนะมินนาถ้าเรามีรถซักคัน เราก็จะได้แรงบันดาลใจจากคาเฟ่ที่เราไปดู เพื่อมาช่วยในการออกแบบร้านของเราให้เร็วขึ้น กว่าเราจะคิดแบบได้แล้วก็กว่าจะสร้างโมเดลเสร็จอีก จะได้ทันตามกำหนดที่อาจารย์บอกด้วยไง..ให้ริวจิกับโอมเขาอยู่กลุ่มเดียวกับเราเถอะนะ..”
“...”
มินนาหันมามองหน้ากอหญ้านิ่งๆ ยืนคิดอยู่สีกพักแล้วก็ยอมพยักหน้าแทนการตอบ ด้วยสีหน้าบึ้งตึง แต่ก็ทำให้ริวจิแล้วก็โอมดีใจมากจนกระโดดโลดเต้นกันใหญ่
“ขอบใจนะกอหญ้า..”
มินนาทำหน้าบึ้งมองมาที่กอหญ้าแล้วก็สบัดหน้าหนีไปอย่างงอนๆ กอหญ้ารู้ดีว่ามินนาไม่ชอบริวจิเพราะพวกเขาทะเลาะกันตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ จนถึงทุกวันนี้ก็ยังคงทะเลาะกันทุกครั้งที่เวลาเจอหน้ากัน
“ถ้าไม่ใช่กอหญ้าขอมินนะ มินไม่มีทางยอมเด็ดขาด กอหญ้าก็รู้ว่ามินเกลียดไอ้บ้าริวมากแค่ไหน คนบ้าอะไรไม่รู้อวดร่ำอวดรวย ปากหมาเป็นที่หนึ่งแล้วก็ยังทำตัวอวดเก่งอีก..”
กอหญ้าจับบ่ามินนาด้วยการปลอบให้เธอใจเย็นลง
“มินกลับบ้านดีกว่า นี่กอหญ้าจะไปหาพี่ที่ห้องสมุดใช่ไหม..?”
“ใช่..พี่ของกอหญ้าเขาเลิกเรียนเร็วกว่านะ ป่านนี้คงรออยู่ที่ห้องสมุดแล้วมั้ง..”
“งั้นมินกลับก่อนนะ ไว้เจอกันพรุ่งนี้..”
“จ่ะ..กลับบ้านดีๆ นะ..”
...
ห้องสมุด
“โมส..ยังไม่กลับบ้านอีกหรอ.?”
“พอดีโมสเข้ามาหาหนังสือไปทำรายงานนะ.”
“หาหนังสืออะไรหรอ ให้จินนี่ช่วยไหม.?”
“ก็ดีนะ..”
“ลองไปหาดูในห้องฉายหนังไหม เผื่อจะเจอหนังสือดีๆ ..ไม่มีคนอยู่เลยสักคนน่าจะได้สักเล่ม 2 เล่ม..”
“...”
ห้องฉายหนัง
“โมส..อื้มมม..จินนี่เสียวจัง..อ่าส์..”
....
โมส ถ้าจะได้หนังสือเด็ดๆ
555