ห้องสมุด
กอหญ้าเดินมาที่ห้องสมุดเพราะพี่โมสบอกว่าจะมารอกอหญ้าอยู่ที่นี่ แต่เดินจนทั่วห้องสมุดแล้วก็ไม่เห็นพี่โมสเลย
"พี่โมสหายไปไหนนะ นี่ก็เย็นมากแล้วด้วยพี่โมสก็น่าจะมารอกอหญ้าแล้วซิ.."
กอหญ้าไม่รู้จะติดต่อพี่โมสยังไง ขนาดเรา 2 คนกลับบ้านด้วยกันมาเป็นเดือนแล้ว กอหญ้าก็ยังไม่กล้าขอเบอร์มือถือหรือไลน์ของพี่โมสเอาไว้เลย งั้นก็นั่งรอในนี้ไปก่อนแล้วกันพี่โมสอาจจะติดธุระก็ได้มั้ง
"หรือว่าเราจะเข้าไปรอในห้องดูหนังดี.."
กอหญ้ามาหยุดที่หน้าห้องฉายหนังในห้องสมุด กอหญ้าคิดอยู่ว่าจะไปนั่งดูหนังแก้เบื่อรอพี่โมสเพลินๆในนั้นดีกว่า
แกร๊ก>>
กอหญ้ากำลังจะจับลูกบิดประตู แต่แล้วจู่ๆประตูห้องฉายหนังก็เปิดออกพร้อมกับมีคนเดินออกมาคู่กัน
"พี่โมส.."
"ใครหรอโมส..?"
กอหญ้ามองดูสภาพของพี่โมสแล้วรู้สึกแปลกจัง เหมือนพี่ทั้ง 2 คนเพิ่งไปออกรบมางั้นแหละ เสื้อผ้าหน้าผมที่ดูยุ่งเหยิงแถมรอบๆริมฝีปากของพี่โมสก็ยังเลอะไปหมดอีก
"น้องนะ..."
"นี่โมสมีน้องสาวด้วยหรอ จินนี่เพิ่งรู้นะเนี่ย..?"
"เป็นลูกสาวของเพื่อนพ่อโมสนะ ไม่ใช่น้องสาวแท้ๆหรอก.."
"..."
พี่ผู้หญิงคนที่ยืนข้างพี่โมสหันมายิ้มให้ฉันเล็กน้อย แล้วก็หันกลับไปที่พี่โมสอีกครั้ง
"ดูซิปากของโมสเลอะหมดเลย มานี่มาเดี๋ยวจินนี่เช็ดออกให้"
เธอหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมาแล้วยื่นมือไปจับหน้าของพี่โมสให้หันมาใกล้ๆหน้าเธอ แล้วเธอก็ยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดรอยคราบสกปรกที่ริมฝีปากให้พี่โมสด้วยความอ้อยอิ่ง
"ลิปสติกของจินนี่เลอะเต็มขอบปากโมสหมดเลย จินนี่นี่แย่จัง..ไม่น่าทาลิปสติกสีนี้เลยดูซิเช็ดไม่ออกเลย"
"..."
ทำไมกอหญ้าถึงได้รู้สึกหมั่นไส้พี่คนนี้นักนะ ทั้งสายตาทั้งท่าทางทุเรศที่สุด
"พอเถอะจินนี่..เดี๋ยวโมสเช็ดเอง.."
พี่โมสดึงผ้าเช็ดหน้าออกจากมือเธอแล้วขยับตัวออกห่าง
"โมสกลับก่อนนะ.."
"อื้ม.."
"โมสเดี๋ยว..ขอเบอร์โมสไว้หน่อยได้ไหม จินนี่ยังไม่มีเบอร์ของโมสเลย.."
"ได้ซิ.."
ทั้ง 2 คนแลกเบอร์กันและก็แถมยังแลกไลน์กันอีก ทำไมเธอถึงกล้าที่จะขอเบอร์หรือขอไลน์ผู้ชายก่อนนะ กอหญ้าอยู่กับพี่โมสมาเป็นเดือน กอหญ้ายังไม่กล้าขอเลย
....
ผมเดินนำกอหญ้าออกมาจากห้องสมุดก็เห็นเธอดูนิ่งไปแปลกๆจึงถามขึ้น
"เป็นอะไร..?"
"คะ..?"
"ก็เดินมาไม่พูดไม่จา เป็นอะไร?"
"เปล่าค่ะ."
"เธอนี่พูดคำอื่นเป็นบ้างไหม ฉันถามอะไรเธอทีไรเธอก็บอกเปล่าทุกที มีคำอื่นพูดอีกไหมนอกจากคำว่าเปล่า เปล่า เปล่าเนี่ย..?"
"..."
มองหน้ายัยนี่ทีไรหงุดหงิดทุกทีเลย
"พี่โมสจะไปไหนคะ..?"
"..."
ผมเดินไปอีกทางของป้ายรถเมล์เพราะวันนี้ตั้งใจว่าจะไปซื้อเกมส์ใหม่ไปลงคอมที่บ้านสักหน่อย แต่อยากจะแกล้งกอหญ้าดูว้าถ้าผมหายตัวไป ยัยนี่จะทำยังไง ผมจึงแกล้งรีบเดินเร็วๆเพื่อให้กอหญ้าตามไม่ทัน
"พี่โมส รอกอหญ้าด้วยค่ะ.."
ผมเดินเข้าไปในร้านเกมส์ร้านหนึ่งอย่างไว โดยที่กอหญ้าไม่เห็นว่าผมหายเข้ามาในร้านนี้แล้ว.
"พี่โมส.พี่โมสอยู่ไหนคะ..พี่โมส.."
ผมแอบอยู่ในร้านนั้นแล้วก็ยืนมองกอหญ้าอยู่ด้วยความสะใจ เพราะตลอด 1 เดือนที่ผ่านมาผมแทบจะไม่ได้กระดิกตัวไปไหนเลยหลังเลิกเรียน เพราะแม่บังคับให้ผมพากอหญ้ากลับบ้านด้วยกันทุกวันไม่เกิน 2 ทุ่ม ผมไม่มีอิสระเลยตั้งแต่มียัยนี่เข้ามาอยู่ด้วย แต่แม่บอกว่าขอแค่เดือนเดียวเท่านั้นที่จะให้กอหญ้าตามติดผม เพราะหลังจากนี้ยัยกอหญ้าจะต้องไปกลับมหาลัยเองแล้ว
"พรุ่งนี้ยัยนี่ก็ไปกลับมหาลัยเองแล้ว งั้นวันนี้ก็ปล่อยให้ยืนเอ๋อไปก่อนแล้วกัน.."
ผมตัดสินใจเดินเข้าไปในร้านเกมส์แล้วก็หายไปสักพักใหญ่ เพราะมัวแต่เพลิดเพลินกับเกมส์ใหม่ที่ได้ลองเล่น แล้วพอดูนาฬิกาก็ต้องตกใจเพราะมันจะ 1 ทุ่มแล้วจึงรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้ววิ่งออกไปนอกร้านอย่างไว
"เชี้ย.! ฝนตกอีกยัยกอหญ้าเป็นไงบ้างวะเนี่ย..?"
หวังว่ายัยนั่นจะหาที่หลบฝนเป็นนะ คงไม่โง่ยืนตากฝนหรอกมั้ง ผมยืนรอในร้านจนฝนเริ่มซาๆจึงรีบเดินออกมาหายัยกอหญ้าแต่ก็ไม่เจอ ผมจึงเดินมาเรื่อยๆในขณะที่ฝนก็ยังตกอยู่ซาๆจนมาถึงป้ายรถเมล์หน้ามหาลัย
"นี่เธอ.."
"พี่โมส."
"ทำบ้าอะไรของเธอเนี่ย ทำไมไม่ไปหาที่หลบฝนมายืนตากฝนทำไม.?"
"กอหญ้ากลัวว่าพี่โมสจะเป็นห่วงกอหญ้านี่คะ ที่กอหญ้าหายไปก็เลยมายืนอยู่ตรงนี้ พี่โมสจะได้เห็นตัวกอหญ้าง่ายๆ..กอหญ้าขอโทษนะคะที่กอหญ้าเดินตามพี่โมสไม่ทันจนทำให้กอหญ้าต้องผลัดหลงกับพี่โมส..แต่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ กอหญ้าจะไม่บอกให้อามิวรู้เด็ดขาดค่ะ.."
"นี่เธอ..."
"ขอโทษนะคะที่ทำให้พี่โมสต้องเป็นห่วง เป็นความผิดของกอหญ้าเอง กอหญ้าขอโทษค่ะ.."
"..."
ยัยนี่ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆที่คิดแบบนี้ คิดว่าฉันจะเดือดร้อนถ้าแม่รู้ คิดว่าฉันจะเป็นห่วงเธองั้นหรอคิดบ้าอะไรของเธอเนี่ย ฉันไม่ได้เป็นห่วงเธอสักหน่อยนี่ฉันกำลังแกล้งเธออยู่ต่างหากไม่รู้ตัวเอาซะเลย
บนรถแท็กซี่
ตลอดทางที่นั่งรถแท็กซี่กลับมาบ้านด้วยกัน ยัยนี่ก็นั่งตัวสั่นไม่พูดไม่จาเลยสักคำคงจะหนาวมากซินะ ก็เล่นไปยืนตากฝนจนตัวเปียกซะขนาดนั้นจะไม่หนาวได้ยังไง
ฮัดชิ้ว>> ฮัดชิ้ว>>
เธอจามออกมาติดๆกันหลายครั้งจนผมต้องหันไปมอง
"หนูไม่สบายหรือเปล่ากลับไปทานยาแล้วก็รีบเข้านอนนะ เดี๋ยวลุงเบาแอร์ลงให้จะได้ไม่หนาวมาก.."
"ขอบคุณค่ะคุณลุง.."
ผมมองคุณลุงขับแท็กซี่แล้วก็หันคอยมองยัยนี่ตลอดทางจนมาถึงบ้าน
"ว๊าย.! เปียกกันขนาดนี้เลยหรอ..?"
"ฝนที่มหาลัยตกหนักมากเลยค่ะอามิว แต่เรา 2 คนหาที่หลบกันไม่ทันนะคะก็เลยเปียกกันหมดเลย."
ผมหันไปมองที่กอหญ้าด้วยสายตาที่อึ้งๆ เพราะเรื่องที่ยัยนี่พูดกับแม่ผมมันโกหกทุกคำเลย
"รีบไปอาบน้ำนะทั้ง 2 คนเดี๋ยวแม่เอายาขึ้นไปให้บนห้อง แล้วก็เดี๋ยวต้มข้าวต้มร้อนๆขึ้นไปให้ด้วยทานสักนิดก่อนทานยาดักไข้ไว้ก่อน.."
"ค่ะอามิว.."
หลังจากนั้นผมก็รีบขึ้นไปอาบน้ำรอให้แม่ยกข้าวต้มกับยาขึ้นมาให้ที่ห้อง แล้วก็นอนคิดถึงภาพที่เห็นกอหญ้ายืนตากฝนอยู่ที่ป้ายรถเมล์ด้วยตัวสั่นเทา
"ยัยบ้าเอ้ย.!.."
...