3.แทนคุณ

1422 คำ
วันนี้เป็นอีกวันที่ฝนตกโปรยปรายลงมา ในมือของเย่วเล่อถือร่มกระดาษอยู่พร้อมกับใบหน้าที่ว่างเปล่า เป็นอีกครั้งที่เธอพาตัวเองมายังป่าชายแดนโดยไม่รู้ตัว ขาพลันหยุดก้าวเดินเมื่อเธอเดินมาถึงเขตรอยต่อของป่าเทพเซียน... ใบหน้าของชูชาง เขากลับมีรอยยิ้มทั้งที่เธอกล่าวปฏิเสธออกไป เรื่องนั้นเย่วเลอไม่อาจทำใจให้ยอมรับได้ เธอทั้งสงสัยและไม่เข้าใจในเวลาเดียวกัน หรือการกล่าวความรู้สึกที่แท้จริงออกไป มันจะทำให้เธอรู้สึกดีกว่านี้กันนะ ดีกว่าที่จะต้องทนเก็บงำความรู้สึกแบบนี้เอาไว้อย่างนั้นหรือ? ไวกว่าความคิดร่มกระดาษก็ร่วงลงสู้พื้นดินที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำฝน ใบหน้าของสาวงามแปรเปลี่ยนเป็นจิ้งจอกสีขาว ที่กำลังจะก้าวเดินไปยังป่าเทพเซียน ครั้งนี้เธอจะไม่หนีอีกแล้ว จะไปหาท่านอาจารย์เพื่อบอกกล่าวความรู้สึกที่ค้างคาใจมานาน ไปฟังคำปฏิเสธที่หนักแน่นของเขา บางทีความเจ็บปวดในใจดวงนี้อาจจะรู้สึกดีขึ้นมาก็เป็นได้ "ฟิ้ว!!" "ดูซิว่าวันนี้เราเจอตัวอะไร? จิ้งจอกหิมะล่ะ พวกเรารีบออกล่ากันเถอะ!!" ไม่บ่อยนักที่เย่วเล่อจะได้พบเจอนายพราน เพราะไม่อาจกลายร่างเป็นหญิงสาวต่อหน้านายพรานพวกนั้นได้ เธอจึงทำได้เพียงแค่ใช้ร่างจิ้งจอกในการวิ่งหนีเท่านั้น... "ฉึก!" "!!!" ลูกธนูปักลงบนขาหลังของเธอ แน่นอนว่ามันเจ็บปวดมากทีเดียว แต่ทว่าเย่วเล่อไม่อาจหยุดวิ่งได้เพราะเธอไม่อยากถูกพวกเขาจับตัวไป กลิ่นหอมอ่อนๆของยอดไผ่ในวันฝนตก เธอวิ่งตามกลิ่นไปเรื่อยๆก็พบกับ ชายผู้หนึ่งที่กำลังง้างธนูเพื่อที่จะยิงลูกธนูออกมา จุดหมายปลายลูกธนูของเขามันเล็งมาที่เธอ แต่ทว่าน่าแปลกที่เธอไม่รู้สึกหวาดกลัวเขาแม้แต่น้อย ราวกับว่า...ดวงตาสีรัตติกาลของเขามันทำให้เธอรู้สึกปลอดภัย เย่วเล่อกระโจนเข้าหาเขาพร้อมกับสติที่ค่อยๆเลือนราง ราวกับว่าเธอได้ใช้แรงเฮือกสุดท้ายไปจนหมดสิ้นแล้ว ....... หนิงหลงยกยิ้มเมื่อเขาได้อ่านจดหมายที่ซูมี่ส่งมา นางแต่งงานกับลู่ฟางแล้ว ในที่สุดสตรีที่เห็นความรักเป็นของเล่นเช่นนางก็ได้รู้จักกับความรักที่แท้จริงเสียที ส่วนจดหมายอีกฉบับส่งมาจากฟางหลง นางตั้งครรภ์ลูกคนที่สี่ได้สามเดือนแล้ว... สหายเขาในตอนนี้ล้วนแล้วแต่มีความสุข งานที่ชายแดนก็ไม่มีสิ่งใดต้องเป็นกังวล เพราะช่วงนี้ทางชนเผ่าต่างๆ ไม่แสดงท่าทีรุกรานเลย วันนี้หนิงหลงก็เลยใช้เวลาว่างในการเดินสำรวจป่าชายแดน เขาต้องการหาสมุนไพรอีกทั้งมีข่าวลือว่าในป่าแห่งนี้มีจิ้งจอกอาศัยอยู่ คงจะดีหากได้ขนจิ้งจอกเอาไว้ทำเสื้อกันหนาวให้กับหลานตัวน้อยที่กำลังจะเกิดมา "...." จิ้งจอกหิมะได้วิ่งผ่านมาหาเขาอย่างรวดเร็ว ที่ขาของมันมีลูกธนูปักอยู่พร้อมกับเลือดที่ไหลเป็นทางยาว ในใจพลันรู้สึกสงสารเกินกว่าจะตัดใจสังหารมันได้ ไวกว่าความคิดมันวิ่งเข้ามาพร้อมกับกระโจนเข้าหาเขา หนิงหลงอุ้มจิ้งจอกหิมะขึ้นมา เขาวางมันเอาไว้บนโขดหินเพื่อทำการรักษา.. เริ่มจากการดึงลูกธนูนี้ออกก่อน "ฉึก!!" เขาหยิบยาสมุนไพรขึ้นมาใส่แผลที่เลือดกำลังไหลซึมออกมา...ทันใดนั้นเองจากจิ้งจอกหิมะขนสีขาวกลับกลายเป็นหญิงสาวที่มีใบหน้างดงาม... "....จะ.เจ็บ" ในใจมีคำถามมากมายหรือว่าจิ้งจอกตรงหน้าจะเป็นปีศาจ!! เขาควรจะวิ่งหนีหรือว่าควรจะสังหารนางทิ้งเสียตั้งแต่ตอนนี้ หากว่านางเป็นปีศาจจริงๆ ก็นับว่านางคือตัวอันตราย.. ในขณะที่หนิงหลงกำลังยืนอึ้งอยู่ จิ้งจอกสาวตัวนั้นก็ยกมือขึ้นมาเพื่อกอดคอของหนิงหลงเอาไว้ นางโน้มใบหน้าของเขามาประกอบริมฝีปากอย่างรวดเร็ว... นี่เขากำลังถูกดูดวิญญาณออกไปจากร่างใช่หรือไม่ หนิงหลงไม่คิดเลยว่าชีวิตของเขาจะต้องมาจบลงท่ามกลางป่าเขาเช่นนี้ "...คิดว่าข้าจะฆ่าเจ้าหรืออย่างไรกัน ข้าเพียงขอแบ่งพลังชีวิตของเจ้ามานิดหน่อยก็เท่านั้น" เขาเลือกที่จะเงียบ เพราะในใจยังไม่อาจรับมือกับความน่าตกใจกับเหตุการณ์ตรงหน้าได้... หรือว่าชายผู้นี้จะเป็นใบ้? น่าเสียดายทั้งที่เขารูปงามอีกทั้งใบหน้าก็ถูกใจเย่วเล่อมากทีเดียว เมื่อครู่มันราวกับว่านางสลบไป แต่พอตื่นขึ้นมาแผลที่ขาก็ได้รับการรักษาแล้ว อีกทั้ง..ยังกลายร่างต่อหน้าเขาอีกด้วย ถึงแม้ในยามนี้บาดแผลพวกนั้นจะจางหายไป แต่ทว่าถ้ามิใช่ความช่วยเหลือจากชายผู้นี้ นางอาจจะมีอันตรายก็ได้ เพราะนางจะไม่สามารถกลับคืนร่างมนุษย์ได้หากว่าได้รับบาดเจ็บ "ข้ามิใช่ปีศาจ แต่ทว่าคือเทพจิ้งจอก หากว่าเจ้ามีเรื่องอันใดให้ช่วยเหลือได้โปรดบอกกล่าวมาได้เลย" อ่า..เธอลืมไปว่าเขาพูดไม่ได้ เย่วเล่อยกมือขึ้นมาวาดในอากาศ พลันมีกระดาษและพู่กันปรากฏขึ้นมาบนมือของเธอ "เขียนลงไปสิ ในเมื่อเจ้าพูดไม่ได้เช่นนั้นก็เขียนสิ่งที่เจ้าปรารถนาลงไป เงินทองของมีค่า..สิ่งใดที่เจ้าหมายปองเอาไว้.." "...ข้ามิได้อยากได้สิ่งใด ข้าช่วยเจ้ามิได้หวังสิ่งตอบแทน เมื่อเจ้าหายดีแล้วเช่นนั้นข้าก็ขอตัว..." "ในเมื่อพูดได้แล้วเหตุใดถึงไม่พูดตั้งแต่แรกเล่า บุรุษนี่เอาใจยากยิ่งนัก" เขามิได้กล่าวคำใด หนิงหลงเก็บของใส่กระเป๋าพร้อมกับเดินจากไปเงียบๆ เขาควรจะรีบออกไปจากที่นี่..อยู่ในป่ายามเย็นเช่นนี้รังแต่จะต้องพบเจออันตราย อันที่จริงการพบเจอปีศาจเช่นนั้นก็นับว่าเป็นเรื่องที่อันตรายยิ่งนัก ...สมกับตำนานที่เล่าขาน ความงดงามของปีศาจจิ้งจอก ทั้งงดงามและเจ้าเล่ห์ ความอันตรายที่บุรุษหลายคนยอมเอาชีวิตไปเสี่ยง...เพื่อให้ได้เชยชมสักครั้ง แต่ไม่ใช่เขาคนหนึ่งแล้ว เพราะเขาไม่คิดที่จะหลงใหลสตรีที่รูปลักษณ์ภายนอก นิ้วมือเรียวยาวลูบไล้ที่สันกรามของเขาเบาๆ นางกำลังลอยอยู่ในอากาศพร้อมกับกอดคอเขาเอาไว้แน่น.. "เจ้าหนุ่มน้อย เจ้ากำลังดูถูกความงามบนใบหน้าของข้าใช่หรือไม่ ข้าบอกแล้วว่าข้ามิใช่ปีศาจ..แต่ว่าข้าคือเทพจิ้งจอก" "ไม่ว่าเจ้าจะเป็นอะไร ก็ควรจะปล่อยมือที่จับข้าเอาไว้.." "แต่ข้าต้องแทนคุณผู้ที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือนี่..ในเมื่อมิอยากได้เงินทองหรือว่าสิ่งของ เช่นนั้น..ร่างกายของข้าเล่า พอจะตอบแทนเจ้าได้หรือไม่?" นี่เป็น..ครั้งแรก เป็นครั้งแรกที่เย่วเล่อรู้สึกว่าใบหน้าที่แสนงดงามของนางมันถูกสายตาที่เย็นชาของเขาทำลายความมั่นใจไปจนหมดสิ้น!! ทั้งที่มีบุรุษมากมายในเมืองที่เฝ้าฝันว่าจะได้รับรอยยิ้มจากนางสักครั้งแต่ทว่าชายผู้นี้กลับไม่แลแม้แต่หางตา นั่นหมายความว่าอย่างไรกัน? "เรื่องนี้มิได้ง่ายดายเช่นที่เจ้าคิด เพราะข้าได้ดูดกลืนวิญญาณบางส่วนของเจ้าไปแล้ว หรือถ้าจะกล่าวให้ถูกต้องนั่นคือเจ้า..จะต้องมารับใช้เพื่อเป็นบริวารให้ข้า..." หนิงหลงมองดวงหน้าที่งดงามแทบลืมหายใจของสตรีเบื้องหน้า ฝนที่กำลังโปรยปรายลงมาทำให้เขารู้สึกหนาวเล็กน้อย และพอมองดูดีๆก็พบว่านางมิได้สวมรองเท้า... อีกทั้งอาภรณ์ที่สวมใส่ก็เปียกฝนไปจนหมด เรากำลังอยู่ในป่าเขาที่ไม่ว่ามองทางไหนเธอที่อยู่ในสภาพนี้ก็จะเป็นอันตรายอย่างแน่นอนถ้าหากว่านายพรานพวกนั้นมาพบเจอ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม