สิ่งที่หนิงหลงลืมคิดไปคือ...สตรีตรงหน้านางมิใช่มนุษย์ เขาไม่แน่ใจว่าคือปีศาจหรือว่าเทพ แต่ทว่าการนำพานางกลับมาที่ค่ายทหารนั้นคือความคิดที่เรียกได้ว่ามันคือความผิดพลาดสุดๆไปเลย
"ข้าต้องการ...อ้อมกอดอุ่นๆเพื่อบรรเทาความหนาวเหน็บพวกนี้"
อย่างแรกคือ...นางเป็นเช่นนี้ตลอดเวลา นางพยายามเข้าหาเขาครั้งแล้วครั้งเล่า เพื่อจะกระทำเรื่องอย่างว่า
เย่วเล่อยกยิ้ม เธอนอนอยู่บนเตียงที่มีแต่กลิ่นของเขาเต็มไปหมด ส่วนชายซื่อบื้อผู้นั้นกำลังนั่งอ่านม้วนตำราอยู่ในห้อง ที่ด้านนอกฝนกำลังตกลงมาอย่างหนัก ทำให้อากาศเริ่มหนาวเย็นมากขึ้น
น่าแปลก.. ความสบายใจที่อยู่ใกล้ชิดเขานี้มันคืออะไรกัน ราวกับว่าตัวเธอนั้นจะปลอดภัยเมื่ออยู่กับเขา สายตาที่เขามองมายังคงเย็นชาเช่นเดิม แต่ทว่าความใจดีของเขามันมาจากการกระทำที่เต็มไปด้วยความเอาใจใส่ของเขา
เธอสวมชุดของเขาอยู่ แน่นอนว่ามันหลวมมากแต่ทว่าเย่วเล่อรู้สึกชอบมันมากทีเดียว
"มี..บ้านรึเปล่า? หรือว่าอาศัยอยู่ในป่า"
อ่า...นี่เขาคิดว่าเธอเป็นจิ้งจอกจริงๆหรืออย่างไร ถึงจะได้กินนอนอยู่ในป่านั่น
"มีบ้าน แต่ข้าไม่อยากกลับ อยากอยู่ที่นี่มากกว่า"
หนิงหลงมองไปยังสตรีที่กำลังนอนอยู่บนเตียงของเขา เธอสวมชุดของเขาซึ่งมัน..หลวมจนมองเห็นเนินอกอวบอิ่มที่โผล่ออกมาจากชุดของเขาอยู่รำไร ยังไม่รวมกับผมยาวที่นุ่มสลวยนั่นอีก
เขาถูกสอนมาตั้งแต่เด็กว่าถ้าหากบุรุษได้มองเห็นสตรีที่ไม่ได้ปักปิ่นหรือว่าเกล้าผมให้เรียบร้อย บุรุษผู้นั้นจะต้องแต่งงานกับสตรีผู้นั้นเพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบ
แต่นี่นางเป็นจิ้งจอก เขาคงจะไม่ถึงกับต้องแต่งงานเพื่อรับผิดชอบนางหรอก ใช่หรือไม่?
เย่วเล่อยกมือขึ้นมาเท้าคางเพื่อมองหน้าของหนิงหลง
"นี่ก็ดึกมาแล้วเจ้ายังไม่นอนอย่างนั้นหรือ?"
"ชายหญิงมิควรใกล้ชิด"
ยังมีบุรุษที่ถือปฏิบัติธรรมเนียมอะไรพวกนั้นอยู่อีกงั้นหรือ? เท่าที่เคยพบเจอมาไม่ว่าใครก็ตามที่เห็นเธออยู่ในสภาพนี้ต่างก็กระโจนเข้าใส่ด้วยราคะที่มีในใจทั้งนั้น
แต่ทว่าบุรุษผู้นี้กลับ..นั่งมองเธอเฉยๆอย่างนั้นหรือ?
เธอลุกขึ้นพร้อมกับเดินไปหาเขา เย่วเล่อนั่งลงบนตักของหนิงหลง เธอใช้เล็บมือที่เรียวยาวลูบไล้ลงไปตามไรหนวดของเขาช้าๆ
"เจ้าชื่ออะไรกัน?"
"พรุ่งนี้ข้าจะไปส่งเจ้าที่บ้าน ในเมื่อต้องแยกจากก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องทำความรู้จัก.."
"เหตุใดจึงคิดเช่นนั้น เจ้าคือผู้มีพระคุณของข้านะ ไม่ช้าก็เร็วข้าจะตอบแทนเจ้าอย่างแน่นอน"
เธอแย่งม้วนตำราออกมาจากมือของเขา แล้ววางมันลงบนโต๊ะ เย่วเล่อพรมจูบไปที่ปลายคางของหนิงหลงเบาๆ
มาดูกันว่าเจ้าจะทนได้สักกี่น้ำ
"ถ้ายังรุกล้ำความเป็นส่วนตัวของข้า ข้าจะโยนเจ้าออกไปด้านนอกห้องนี้"
นั่นคือคำขู่อย่างนั้นหรือ? เธอมิได้หวาดกลัวแม้แต่นิดเดียวเพราะเธอรู้ดีว่าเขาไม่มีทางที่จะทำเช่นนั้นหรอก...
"ตุบ!"
"ปึง!"
".....?"
เสียงประตูถูกปิดลงพร้อมกับเธอที่ถูกโยนออกมาจากห้องของเขา...
เย่วเล่อทำได้เพียงยืนแข็งค้างที่หน้าประตู...ใบหน้างดงามซีดเผือดด้วยความตกใจ
ช่วงนี้มีเรื่องราวให้ประหลาดใจไม่น้อยเลย ทั้งเรื่องของชูชาง และเรื่องของเจ้าทึ่มคนนี้...มันผิดพลาดตรงไหนกัน ไม่ว่าจะกี่ครั้งหรือว่ากี่คน ไม่มีใครที่ต้านทานเสน่ห์อันมากล้นของเธอได้เลย
แล้วทำไมเขาถึงได้...ปฏิเสธแถมโยนเธอออกมาโดยไม่มีความไยดีเช่นนี้
"...อ้ายฉิง?"
เย่วเล่อเงยหน้าขึ้นมาก็พบกับชูชางที่เดินมาพอดี ดวงตาของเธอพลันรื้นไปด้วยน้ำตาอย่างไม่ทราบสาเหตุ
ชูชางตกใจเล็กน้อยที่พบเจออ้ายฉิงในสภาพเช่นนี้ เธอสวมชุดบุรุษอีกทั้งผมก็มิได้เกล้าขึ้นมา ที่เท้ามิได้สวมถุงเท้าหรือว่ารองเท้าอยู่เลย
แถมหน้าห้องที่เธอกำลังยืนอยู่ มันคือห้องนอนของแม่ทัพหนิงที่พึ่งย้ายมาใหม่ เขาไม่อยากจะคิดในทางที่ไม่ดีเลยจริงๆ
ชูชางถอดเสื้อตัวนอกมาคลุมตัวของอ้ายฉิงเอาไว้ ก่อนจะอุ้มเธอขึ้นมา เขาเลือกที่จะไม่ถามว่าสิ่งที่ทำให้เธอมาอยู่ในสภาพเช่นนี้มันคืออะไรกันแน่...
หนิงหลงเม้มปากแน่น เขายืนมองแม่ทัพชูอุ้มสตรีผู้นั้นออกไปด้วยความรู้สึกที่ว่างเปล่า
นี่สินะปีศาจจิ้งจอก เพราะว่ามีรูปลักษณ์ที่งดงามจึงสามารถทำให้บุรุษมากมายหวั่นไหวไปกับนางจนนับไม่ถ้วน แม่ทัพชูเองก็คงเป็นหนึ่งในบุรุษเหล่านั้น
เขากำเสื้อคลุมในมือแน่น ราวกับว่าในใจเกิดความโมโหขึ้นมาสายหนึ่ง เขาโมโหตัวเองที่ดันไปเผลอเป็นห่วงนาง
เพราะที่เปิดประตูมาครั้งนี้ก็เพื่อจะพานางเข้าไปในห้อง...
แต่ทว่าความเป็นห่วงของเขาคงจะไม่จำเป็นอีก เพราะว่านางมีคนอื่นที่คอยเอาใจใส่มากพออยู่แล้ว
......
"จะไม่ถามรึไง?"
ความสัมพันธ์ของเธอและชูชางในตอนนี้มีแต่ความน่ากระอักกระอ่วนเต็มไปหมด เขามาส่งเธอที่โรงเตี๊ยมพร้อมกับอุ้มเธอขึ้นมาส่งที่ห้อง
"ไม่ล่ะ ข้ามิได้อยากรู้..."
เธอยกมือขึ้นมากุมหน้าเขาเอาไว้ในขณะที่เขาอุ้มเธออยู่
"เพราะแบบนี้ไงชาง มันถึงเป็นเจ้าไม่ได้..."
เพราะว่าเขาดีมากเกินไป เธอจะต้องเจ็บปวดอย่างแน่นอนหากว่าเธอรักเขา เพราะความตายจะพรากเขาไปจากอ้อมกอดของเธอ อีกทั้งตัวเธอนั้นไม่ใช้คนที่ดีพร้อมเหมาะสมกับเขาสักนิด
เขาควรจะได้..พบเจอกับสตรีที่ดีพร้อมและคู่ควร เพื่อครองคู่อยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า
"...ข้าเองก็กำลังพยายามอยู่ พยายามทำใจที่จะกลับไปเป็นสหายกับเจ้า หากรู้สึกดีขึ้นข้าจะกลับมาที่นี่พร้อมภรรยาสักคน พอถึงวันนั้นเจ้าอาจจะเสียดายที่ปฏิเสธข้าในวันนี้"
เธออาจจะเสียใจแต่ไม่เสียดายอย่างแน่นอน เพราะการปล่อยให้คนที่ดีอย่างเขาไปมีชีวิตดีๆนั่นคือเรื่องที่สมควรแล้ว
"อย่าลืมว่าเจ้าจะต้องปลอดภัย เขียนจดหมายมาหาข้าบ้าง"
"ใจร้ายจังเลยนะ ข้าไปเพื่อตัดใจจากเจ้าแต่กลับต้องเขียนจดหมายมาหาเจ้าด้วยเนี่ยนะ"
เขาวางเธอลงบนเตียงอย่างแผ่วเบาพร้อมกับดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มให้ ทุกการกระทำของชูชางนั้นอ่อนโยนเสมอ
"ความรักก็เป็นเช่นนี้ เจ้าจะดีขึ้นในไม่ช้าข้าเชื่อว่าจะเป็นแบบนั้น"
โชคชะตาจงนำพาเขาไปพบเจอกับความรักครั้งใหม่ที่สวยงามและสมหวังด้วยเถอะนะ... ขอให้เขาลืมเลือนเธอได้ในเร็ววัน
และขอให้ตัวเธอเองลืมเลือนเรื่องราวในอดีตได้เช่นกัน...