สายตามองท้องฟ้ามันคงถึงเวลาที่คนไร้ค่าอย่างเธอต้องจากไปชีวิตนี้มองไปทางไหนก็ไม่มีใครที่ต้องการเธอ แต่ก่อนที่ทุกอย่างมันจะสายเกินไปก็มีมือของใครบางคนที่คว้าตัวของเธอที่กำลังจะกระโดดลงไปเอาไว้ได้ทัน
"หนูจะทำอะไรลูก"น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเหนื่อยหอบและความกลัวทำเอาเธอถึงกับต้องเปิดเปลือกตาขึ้นมาดู ก็พบว่าร่างของเธอนั้นกำลังอยู่ในอ้อมกอดของหญิงสาวบางคนที่กำลังโอบกอดตัวเธอเอาไว้
"ปล่อยหนูมุก หนูมุกอยากตาย"
"ตัวแค่นี้จะรีบตายไปไหนกันหือ แล้วนี่พ่อแม่ของหนูอยู่ที่ไหนถึงได้ปล่อยให้หนูมาอยู่ที่นี่"คำถามของหญิงสาวปริศนาทำเอามุกดาน้ำตาไหลอีกครั้งจนกะรัตเพชรถึงกับตกใจรีบดึงหนูน้อยเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด
"หนูร้องไห้ทำไมลูก"
"ฮึก ชีวิตของหนูไม่เหลือใครแล้ว คุณน้าปล่อยให้หนูตายไปเถอะนะคะหนูไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้ว"น้ำตาของมุกดาไหลราวกับเขื่อนแตกตั้งแต่ชีวิตของเธอพลิกผันในวันนั้นมันก็ไม่มีความสุขอีกต่อไปเลยถึงแม้บางครั้งในตอนที่พ่ออยู่เธอก็ยังยิ้มให้ถึงแม้ว่าในใจจะคอยนึกถึงผู้หญิงใจร้ายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแม่ของตัวเองก็ตาม
"โถ ลูก"กะรัตเพชรยังต้องน้ำตาคลอกับคำพูดของเด็กน้อย อดที่จะอยากรู้ไม่ได้ว่าทำไมเด็กน้อยตัวแค่นี้ถึงได้มีความคิดที่จะลาโลกนี้ไป
"ฮึก ฮึก"น้ำตาไหลอาบหน้าเปรอะเปื้อนเสื้อผ้าราคาแพงของกะรัตเพชรแต่เธอก็ไม่คิดที่จะสนใจได้แต่นั่งกอดปลอบโยนหนูน้อยคนนี้เอาไว้
วันนี้เธอออกมาทำธุระขากลับเลยแวะซื้อเค้กให้สามีที่ร้านประจำเวลาที่เดินทางมาเมืองไทย เมื่อขับรถออกจากร้านเค้กสายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นหนูน้อยที่เดินร้องไห้ออกมาจากโรงพยาบาลฝั่งตรงกันข้ามก็เลยนึกเป็นห่วงเลยสั่งให้ลูกน้องขับรถตามไม่คิดว่าหนูน้อยคนนี้จะบั่นทอนชีวิตคิดจะฆ่าตัวตายดีที่เธอรีบวิ่งลงจากรถมาคว้าตัวของหนูน้อยเอาไว้ ไม่งั้นก็คงจะรู้สึกผิดอยู่ในใจที่ปล่อยให้หนูน้อยตายไปต่อหน้าต่อตา
"ถ้าชีวิตของหนูไม่เหลือใคร หนูไปอยู่กับน้านะลูกน้าจะมอบชีวิตใหม่ให้หนูเอง"ถึงแม้จะเพียงได้เห็นหน้าแต่เธอก็รู้สึกถูกชะตาอย่างประหลาดเด็กน้อยคนนี้ สามีกับเธอนั้นช่างอาภัพกำพร้าลูกที่จะสืบทอดแต่เธอกับสามีก็รักกันดีแถมสามียังไม่เคยนอกลู่นอกทางทำให้เธอเสียใจอีก
"คุณน้า"
"ไปอยู่กับน้าเถอะลูก ต่อไปนี้น้าจะเป็นแม่ให้หนูเอง"สิ่งที่เด็กน้อยคนนี้ขาดหายเธอจะช่วยเติมเต็มให้ใหม่เอง
"นี่บ้านของคุณน้าเหรอคะ"เมื่อรถวิ่งเข้ามาในอาณาเขตของบ้านมุกดาแทบไม่อยากเชื่อสายตาบ้านของผู้มีพระคุณนั้นใหญ่มากกว่าบ้านของเธอเป็นร้อยเท่า แต่สิ่งที่อยู่รอบตัวบ้านมันทำให้เธออดที่จะกลัวไม่ได้ ชายชุดดำร่างใหญ่มากมายเดินวนเวียนอยู่เต็มหน้าบ้านไปหมด
"ใช่จ้ะนี่เป็นบ้านของน้าเอง"
"แต่หนูกลัว"มองไปนอกหน้าต่างเห็นชายชุดดำมากมายกำลังเดินมาที่รถที่หยุดจอดอยู่หน้าบันไดของตัวบ้าน
"คนพวกนี้หนูไม่ต้องกลัวหรอกพวกเขาจะไม่มีวันทำร้ายหนูตราบใดที่น้ายังมีลมหายใจคนพวกนี้จะไม่ทำร้ายหนูให้มีแม้แต่รอยขีดข่วน"ถึงยังไงเธอก็ยังคงหวาดกลัวคนพวกนี้อยู่ดี ชีวิตของเธอไม่เคยเจออะไรแบบนี้มากก่อน
"เชื่อใจน้า ไปกันเถอะสามีน้ากำลังรออยู่"มือบางจับมือของเด็กน้อยไม่ห่าง ถึงแม้ว่าจะกลัวเสียเพียงไหนแต่เมื่อได้จับมือของผู้หญิงคนนี้เอาไว้ความกลัวก็ลดลงไปถนัดตา มุกดามองชายชุดดำทั้งหมดก้มหัวทำความเคารพหญิงสาว
"ไปกันเถอะ"ทั้งสองเดินจับมือเข้าไปในตัวบ้านชายชุดดำมากมายเดินแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเอง
นอกบ้านที่ว่าสวยแล้วด้านในยิ่งสวยกว่าการตกแต่งด้วยสีทองเหลืองอร่ามทำเอามุกดาถึงกับตาพร่ามองไปตามรูปที่แขวนอยู่บนผนัง ชายร่างใหญ่ใบหน้าเหี้ยมกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวใหญ่โดยข้างหลังมีร่างของผู้หญิงที่ยืนอยู่ด้านข้าง
"คุณคะดูสิฉันพาใครมา"เสียงของกะรัตเพชรที่เรียกสามีทำให้มุกดาต้องหันกลับมาก็เจอเข้ากับชายคนที่อยู่ในรูปหน้าตาโหดเหี้ยมทำเอามุกดาถึงกับต้องหลบไปอยู่ด้านหลัง
"ไม่ต้องกลัวนะลูกสามีน้าใจดี"ถึงแม้ว่าสามีจะมีใบหน้าที่เรียบนิ่งตามฉบับของคนที่ต้องคุมลูกน้องนับหมื่นคนแต่เมื่อได้อยู่กันสองคนกับเธอเขาจะกลายเป็นผู้ชายที่อบอุ่นโดยทันที
มุกดาค่อย ๆ โผล่หน้าออกมา ชายตรงหน้ายังคงจ้องอยู่ที่เธอจนเธอนึกหวาดกลัวนัยน์ตาสีอำพันที่คล้ายกับสายตาของราชสีห์นั่น
"ฟรานซิสคะ คุณอย่าจ้องหนูน้อยแบบนี้สิเธอกลัวหมดแล้ว"
"เพชรคุณเอาตัวลูกของใครมา"
"คุณนี่ชอบใส่ร้ายฉันอยู่เรื่องเลยนะคะ"ว่าแล้วก็จูงมือของมือของมุกดาให้เดินเข้ามาหาสามีก่อนที่กะรัตเพชรจะนั่งลงด้านข้างของสามีอย่างฟรานซิสที่อยู่กินด้วยกันมานานหลายปี
"หนูนั่งมานั่งกับน้าสิคะ"มุกดานั่งคุกเข่าก่อนจะคลานเข้าไปหายกมือขึ้นไหว้สองสามีภรรยาอย่างอ่อนช้อย กะรัตเพชรกับฟรานซิสถึงกับต้องหันมองหน้าไม่คิดว่าเด็กน้อยคนนี้จะทำความเคารพได้น่ารักถึงเพียงนี้
"มานั่งกับน้ามา"มุกดาส่ายหน้าก่อนจะรีบอธิบาย
"ตัวหนูสกปรก ถ้าหากว่าหนูขึ้นไปนั่งกลัวจะทำให้โซฟาของคุณน้าเลอะ"ฟรานซิสจ้องหน้าของมุกดาที่นั่งอยู่บนพื้นในมือของเธอกอดกระเป๋าใบเก่า ๆ เอาไว้แน่นราวกับสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่เธอหวงแหนไม่ต้องการให้ใครมาแตะต้อง ฟรานซิสลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินเข้าไปหามุกดาก่อนจะทำสิ่งที่แม้แต่ภรรยาก็ไม่คาดคิด
มือหนาคว้าตัวของเด็กสาวขึ้นมาอุ้มแนบกับอก เสื้อผ้าราคาหลายหมื่นเปื้อนไปด้วยเศษดินที่ติดอยู่ตามเนื้อตัว แต่เขาก็ไม่คิดที่จะสนใจกลับอุ้มร่างของมุกดาเอาไว้แบบนั้น
"คุณน้าเสื้อของคุณน้าเลอะ"
"เลอะแล้วยังไง เลอะก็ซักได้"ฟรานซิสตอบก่อนที่จะอุ้มร่างของมุกดาไปนั่งบนโซฟาราคาแพงลิบลิ่ว
"ชื่ออะไรน่ะเรา"
"หนูชื่อมุกดาค่ะ"ฟรานซิสพยักหน้ารู้สึกถูกชะตากับเด็กคนนี้อย่างน่าแปลกประหลาด
"แล้วพ่อแม่ล่ะไปไหนทำไมถึงมากับเมียฉันได้"เล็บทั้งสิบจิกลงบนต้นขามุกดาน้ำตาคลอเมื่อได้ยินคำถามที่แสลงใจ
"ไม่สบายใจก็ไม่ต้องตอบ"
"พ่อหนูตายได้สามเดือนแล้วค่ะ ส่วนแม่"มุกดาเม้มปากเข้าหาเธอพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้ไหล ทั้งฟรานซิสและกะรัตเพชรต่างรอฟังในสิ่งที่มุกดาพูดแต่เดาได้ไม่ยากว่ามันคงจะเป็นเรื่องที่เลวร้ายในชีวิตของเธออยู่พอสมควร
"ส่วนแม่ ท่านทิ้งหนูไปก่อนที่พ่อหนูท่านจะเสียอีกค่ะ แม่ทิ้งหนูไปได้ไม่เท่าไหร่พ่อก็ทิ้งหนูไปอีกคนด้วยฝีมือของแม่"น้ำตาไหลหยดลงบนต้นขาเธอกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่อีกต่อไปนึกถึงเรื่องราววันนั้นทีไรใจของเธอก็เจ็บปวด ทั้งรักทั้งโกรธผู้เป็นแม่ที่ทำอะไรลงไปแบบนั้น
"หนูบอกว่าพ่อของหนูตายเพราะแม่ เรื่องมันเกิดอะไรขึ้น"คุณกะรัตเพชรอดที่จะตกใจเสียไม่ได้ทำไมเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ถึงได้เจเรื่องเลวร้ายแบบนี้
"พ่อหนูท่านล้มละลาย แม่เลยทิ้งหนูกับท่านไปหารักใหม่ จนวันหนึ่งพ่อส่งข้อความไปหาแม่เพื่อที่จะเปิดโปงอดีตที่เกี่ยวกับแม่ แม่เลยโกรธจนส่งคนมาฆ่าพ่อ ฮึก"
"ตายจริง ฟรานซิสคะ"สิ่งที่มุกดาเล่ามามันกระทบถึงจิตใจของทั้งคู่ไม่น้อย
"วันนี้หนูเจอแม่ แม่กำลังมีความสุขกับรักใหม่เขาทั้งคู่กำลังจะมีลูกด้วยกัน แม่มองหนูเป็นเด็กเหลือขอที่เดินเร่ร่อนขอทาน ฮึก แม่ไม่รักหนูแล้ว"คำพูดของมุกดากระทบเข้าไปในจิตใจของฟรานซิสเข้าอย่างจัง สิ่งเลวร้ายที่เด็กน้อยนั้นได้เจอทำเอาเขารู้สึกโกรธและเกลียดผู้หญิงคนนั้น สาบานได้ว่าผู้หญิงคนนั้นจะต้องได้ชดใช้กรรมที่ทำไว้กับเด็กคนนี้
"มาเป็นลูกฉันไหม โตขึ้นเมื่อไหร่ค่อยกลับไปฆ่าแม่ของเธอ"