บทที่ 7

813 คำ
“พ่อครับผมเองครับ” “ตาต่อหรอ เข้ามาเลยลูก” บิดาของชายหนุ่มถามออกไปน้ำเสียงราบเรียบ เมื่อคนเป็นพ่ออนุญาตชายหนุ่มจึงเข้ามาหาท่านพร้อมกับยกมือไหว้อย่างนอบน้อม “สวัสดีครับพ่อ” “พ่อมีเรื่องสำคัญจะบอกลูกพอดีเลย” “มีอะไรหรือเปล่าครับ” “ลูกรู้สถานการณ์บริษัทของเราดีแล้วใช่ไหม” “ครับผมพยายามหาแหล่งเงินทุนให้พ่ออยู่ครับ” “พ่อมีแหล่งเงินทุนที่ง่ายมาก” “ที่ไหนกันครับพ่อ” “พ่อของหนูตาหวานไงลูก” “หมายความว่ายังไงครับพ่อ” ชายหนุ่มถามกลับด้วยความไม่เข้าใจ “ก็หมายความว่าลูกต้องแต่งงานกับหนูตาหวานไงลูก” “แต่งงาน?” ชายหนุ่มรู้สึกอึ้ง ได้แต่ถามกลับไป “ถ้ายังไม่อยากแต่งงานฝ่ายนั้นเขาเสนอมาว่าให้หมั้นก่อนก็ได้นะลูกเพราะหนูตาหวานเองก็ยังไม่ได้อยากจะรีบแต่งเร็วๆนี้ เห็นว่าแกจะไปเรียนภาษาต่อที่ต่างประเทศ” “ครับเรื่องนั้นผมทราบแล้ว” “แล้วลูกจะตัดสินใจยังไงล่ะ” “ผมขอเวลาคิดทบทวนก่อนนะครับพ่อ” ชายหนุ่มอยากจะขอเวลาคิดทบทวนเรื่องนี้ให้ดีอีกสักหน่อย รับรองว่าไม่นานเกินไปแน่ “ได้สิพ่อจะให้เวลาลูกคิดทบทวน” “ขอบคุณครับพ่อ” ชายหนุ่มตรงกลับคอนโดทันที ตอนนี้เป็นเวลาสี่ทุ่มกว่าแล้วหญิงสาวกำลังนอนหลับตาพริ้มไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขากลับมาแล้ว “นอนน้ำลายยืดอีกแล้วนะ” เขาบ่นหญิงสาวข้างกายยิ้มๆ เวลานอนหลับเวลาเดียวเท่านั้นที่เธอจะเหมือนกับเด็กๆ เช้าวันต่อมาข่าวการหมั้นหมายระหว่างทายาทของสองตระกูลดังเป็นข่าวดังในสังคมออนไลน์มากๆเพราะนี่ถือเป็นการรวมตัวของบริษัทใหญ่ยักษ์เข้าไว้ด้วยกัน ปาริมาตื่นแต่เช้ารู้สึกมึนหัวอยากจะนอนต่อเท่าไรก็ทำไมได้เพราะเธอต้องไปทำงาน เธอจึงฝืนร่างกายลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวแล้วตรงไปทำงานทันที “สวัสดีค่ะพี่ส้ม ทำไมทำหน้าแบบนั้นละคะ” “พี่อกหักค่ะ” “อกหักอะไรกันคะ” หญิงสาวถามกลับด้วยความสงสัย “ก็คุณธนพลลูกชายของท่านประธานกำลังจะหมั้นกับแฟนสาวของเขานี่คะพี่ถึงได้อกหักทิพย์อยู่อย่างนี้ ฮืออ พี่เสียดายเขาอ่ะน้องข้าวคิดดูสิคะคนอะไรทั้งหล่อทั้งรวย” หลังจากจบประโยคของหัวหน้าหญิงสาวก็รู้สึกหน้ามืดตาลายจนต้องขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ใบหน้าของเธอซีดเผือดอาการที่เป็นอยู่ก่อนแล้วยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ “ต๊าย ตายทำไมหน้าซีดขนาดนั้นละคะ ไม่ได้การแล้วพี่ต้องพาหนูไปหาหมอ” ส้มบอกออกไปน้ำเสียงเป็นกังวล “อะ เอ่อพี่ส้มคะ” “ไม่ต้องเกรงใจนะคะยังไงพี่ก็เต็มใจจะดูแลน้องข้าวค่ะ ไปโรงพยาบาลเถอะค่ะ” “ก็ได้ค่ะ” เพราะความห่วงใยที่ฉายชัดในแววตาของหัวหน้าสาวทำให้เธอทำได้เพียงแค่ตอบตกลง เมื่อมาถึงโรงพยาบาลเธอก็ได้รับการตรวจหลายอย่างเพราะอาการเธอไม่ค่อยจะดีใบหน้าซีดเซียวอย่างเห็นได้ชัด “คุณปาริมารอสักครูนะคะถ้าผลตรวจเลือดออกแล้วพยาบาลจะมาตามคุณเข้าห้องตรวจค่ะ” “ขอบคุณค่ะ” “ขอให้น้องข้าวไม่เป็นอะไรมากนะจ๊ะ” “ค่ะพี่ส้ม ข้าวก็ขอให้เป็นแบบนั้นเหมือนกัน” “เชิญคุณปาริมาที่ห้องตรวจหมายเลขสามค่ะ” “คุณหมอเรียกแล้วค่ะพี่ส้ม” “ป่ะๆไปกัน” ส้มช่วยประคองหญิงสาวเข้าไปในห้องตรวจ “สวัสดีค่ะคุณหมอ” หญิงสาวยกมือไหว้คุณหมออย่างนอบน้อม “สวัสดีค่ะคุณปาริมา” “น้องสาวดิฉันเป็นไงบ้างคะคุณหมอ” “คนไข้แค่อ่อนเพลียน่ะค่ะ ต่อไปนี้หมออยากให้พักผ่อนเยอะๆหน่อยนะคะ หมอไม่อยากให้กระทบกับทารกน้อยในครรภ์ค่ะ” “ทะ ทารกหรอคะ” “นี่คุณปาริมายังไม่ทราบว่าตัวเองตั้งครรภ์หรอคะ” “ยังเลยค่ะคุณหมอ” หญิงสาวตอบกลับเสียงอ่อน ต้องโทษที่เธอไม่ได้สังเกตอาการผิดปกติของตนเองเลยในช่วงที่ผ่านมา “ถ้าอย่างนั้นหมอขอแสดงความยินดีด้วยนะคะคุณปาริมากำลังตั้งครรภ์ได้สี่สัปดาห์แล้วค่ะ” คงจะเป็นช่วงก่อนที่เขาจะหายไปสินะ ตอนนั้นเธอว่าจะไปซื้อยาแต่ก็ลืมเรื่องนี้ไปเลย “ค่ะ” “ฝากท้องเลยไหมคะหรือว่าจะรอคุณพ่อก่อน” “ฝากเลยค่ะคุณหมอ” “ได้เลยค่ะ เดี๋ยวหมอจะจัดยาบำรุงให้ด้วยนะคะ” “ค่ะคุณหมอ” เมื่อออกมาจากโรงพยายาลรุ่นพี่สาวก็ให้หญิงสาวลางานช่วงบ่ายทันทีและพาเธอมาส่งที่คอนโดหรูตามพิกัดทีหญิงสาวบอก
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม