ด้านคาเรนที่กลับมาจากการทานอาหารร่วมกับปู่ของเขาและลูกพี่ลูกน้องสาวอย่างเคียร่า รวมไปถึงบรรดาญาติของตระกูลซามัสเซลเกือบทั้งหมด ก็มานั่งดื่มไวน์ต่อที่ห้องนอนชั้นบนสุดของตึกเพื่อระบายอารมณ์ เพราะตั้งแต่เขาย่างก้าวเข้าไปในคฤหาสน์นั่น บรรดาพี่น้องของพ่อเขาก็ทำท่าไม่ชอบเขาอย่างออกนอกหน้าเช่นเคย ซึ่งมันทำให้เขารู้สึกโกธรมากที่สุดก็คือพวกนั้นต่อว่าแม่ของเขาที่ทำให้พ่อของเขาต้องออกจากตระกูลไป แต่ที่น่าเจ็บใจก็คือพวกนั้นดูถูกเขาเหมือนกับว่าเขาไม่ใช่ลูกหลานของคุณปู่ ซึ่งก็เปรียบว่าเขาเป็นลูกชู้
“นายครับ ผมว่าพอก่อนเถอะครับ นายเมามากแล้วนะครับ” บาคัสเอ่ยบอกเจ้านายหนุ่มที่กำลังดื่มไวน์เข้าไปหยั่งกับดื่มน้ำเปล่า
“ไม่ ฉันจะดื่มให้หมด แกคอยดูนะบาคัส ฉันจะทำให้คนพวกนั่นไม่กล้ามาว่าแม่ฉันได้อีก” คาเรนเอ่ยพูดออกไปอย่างจริงจัง
“นายจะทำอะไรครับ” บาคัสเอ่ยถามออกไปอย่างอยากรู้ เพราะตั้งแต่กลับมาจากบ้านของท่านลาฮิมเจ้านายของเขาก็อารมณ์เกี้ยวกราดมาตลอดทางจนถึงกระทั่งตอนนี้
“ฉันจะรับมรดกของปู่ฉัน ฉันจะดูน้ำหน้าของคนพวกนั้นว่าจะทำยังไง เมื่อรู้ว่าฉันก็เป็นทายาทอีกคนของซามัสเซล” คาเรนเอ่ยพูดออกไปอย่างแค้นใจ
“นายแน่ใจเหรอครับ ผมว่าถ้าท่านลาฮิมรู้ว่านายรับมรดกเพราะต้องการแกล้งคนพวกนั้น ท่านคงจะเสียใจมาก” บาคัสเอ่ยเตือนเจ้านายของตัวเอง
“นั่นมันเรื่องของฉัน แล้วไหนล่ะ ผู้หญิงที่คามีลมันจะส่งมาให้ฉัน ไปเรียกมาสิ” คาเรนเอ่ยพูดด้วยความมึนเมา เพราะตอนนี้เขาอยากจะระบายอารมณ์หงุดหงิดให้หายไปสักที แล้วสิ่งที่จะทำให้เขาคลายเครียดได้อย่างดีก็คือเซ็กส์
“อ่อ รอสักครู่ครับนาย คนของเรากำลังรอรับผู้หญิงที่คุณคามีลส่งมาให้อยู่ครับ” บาคัสเอ่ยบอกไปก็มองเจ้านายหนุ่ม เมาแบบนี้ผู้หญิงที่มานอนกับนายของเขาคืนนี้คงอ่วมแน่ นายเขาเคยยั้งมือตอนเมาที่ไหนกัน ผู้หญิงที่มีอะไรกับนายเขาตอนเมาทีไร เขาได้จ่ายหนักจ่ายเต็มทุกครั้งไป
“ถ้าชักช้านัก นายก็ไปหามาให้ฉันก่อนไป” คาเรนเอ่ยบอกออกไป ก็กระดกแก้วไวน์ขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมดแก้ว
“แล้วถ้าคนของคุณคามีลมาล่ะครับนาย” บาคัสเอ่ยถามออกไปอย่างสงสัย เพราะถ้าเขาไปหาผู้หญิงมาให้กับเจ้านายแล้ว แล้วถ้าผู้หญิงที่คามีลส่งมาให้ล่ะจะทำยังไง
“คืนนี้ฉันจะเอาทั้งสองคนนั่นแหละ นายหยุดถามแล้วไปหาผู้หญิงมาได้แล้วบาคัส” คาเรนเอ่ยบอกก็ปัดมือให้บาคัสออกไป ส่วนบาคัสพอเจ้านายเริ่มจะโมโหก็รีบออกไปหาสาวๆมาบำเรอให้กับนายตัวเองอย่างรีบร้อน
ด้านรินลดาพอลงจากรถของคามีลและเดินเข้าโรงแรมมา ก็มีผู้ชายเดินเข้ามาหาเธอทันทีจนเธอมองอย่างสงสัย
“คุณลงจากรถของคุณคามีลมาใช่ไหมครับ” เจเดนลูกน้องของคาเรนเอ่ยถามออกไป เมื่อเขามีหน้าที่มารอรับผู้หญิงที่คุณคามีลส่งมาให้กับเจ้านายของเขา
“อ่อค่ะ มีอะไรรึเปล่าคะ” รินลดาเอ่ยพูดเป็นภาษาอังกฤษตอบกลับไปแล้วทำหน้างงๆ เพราะไม่รู้ว่าชายตรงหน้าถามเธอเพราะอะไร
“งั้นเชิญทางนี้เลยครับ” เจเดนเอ่ยบอกไป แล้วเชิญให้หญิงสาวเดินไปยังลิฟท์ส่วนตัวที่อยู่ด้านในสุด เพราะเข้าใจว่าเธอคือคนที่คามีลส่งมา
“ ไปไหนคะ” รินลดาเอ่ยถามอย่างไม่ไว้ใจ เพราะอยู่ๆก็จะให้เธอไปไหนก็ไม่รู้
“เจเดน นั่นใช่ผู้หญิงที่คุณคามีลส่งมาใช่ไหม” บาคัสที่เดินออกจากลิฟท์มาเอ่ยถามก็มองไปที่ผู้หญิงสวยที่มาพร้อมกับเจเดน
“ใช่ ฉันกำลังจะพาขึ้นไปหานายพอดี” เจเดนบอกไปก็มองหน้าของบาคัส
“งั้นไปกันเลย ตอนนี้นายโมโหใหญ่แล้ว ส่วนคุณตามผมมา” บาคัสบอกไปก็พารินลดาเข้าไปในลิฟท์ ก็กดขึ้นไปยังชั้นที่เจ้านายของเขาพักอยู่อย่างรวดเร็ว
“นี่พวกคุณจะพาฉันไปไหน ปล่อยฉันออกไปเดี๋ยวนี้นะ” รินลดาเอ่ยพูดออกไปก็พยายามจะกดเปิดลิฟท์ เพราะกลัวชายทั้งสองคนนี้ ที่พาเธอเข้ามาในลิฟท์อย่างไร้มารยาท
“เงียบซะ เดี๋ยวถึงเวลาคุณจะได้พูดเอง แต่ไม่ใช่ตอนนี้ " บาคัสเอ่ยบอกไปเสียงเข้ม ก่อนจะเงยหน้ามองว่าลิฟท์ขึ้นมาถึงชั้นไหนแล้ว
"ถ้าไม่อยากมีปัญหาก็อยู่เฉยๆเถอะครับ" เจเดนเอ่ยบอกย้ำอีกคน เพราะหากหญิงสาวยังคงฤทธิ์เยอะแบบนี้ เจ้านายของเขาคงจะได้ปราบพยศกันมันส์แน่งานนี้
"ติ้ง!" เสียงลิฟท์เปิดออก ทั้งสองหนุ่มก็จับแขนของรินลดาให้เดินไปยังห้องของคาเรน ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับห้องของคามีลและเคียร่า ส่วนห้องข้างๆของคาเรนก็จะเป็นของญาติๆที่จะมาเข้าพัก
"รีบเข้าไปได้แล้ว หวังว่าคุณคงจะรู้หน้าที่ของตัวเองนะครับ" บาคัสเอ่ยบอกก็เอามือผลักหลังของรินลดาเบาๆเพื่อให้เธอเดินเข้าไปในห้อง ก่อนจะปิดประตูห้องอย่างรวดเร็ว
“นี่คุณ ปล่อยฉันออกไปนะ” รินลดารีบเดินไปที่ประตูห้อง เพื่อหวังจะเปิดออกไป แต่เธอไม่มีรหัสที่จะกดออกจากห้อง จึงไม่สามารถออกจากห้องนี่ได้ เธอจึงพยายามเรียกคนที่พาเธอมาในห้องนี้ให้เปิดออกมา
“แหกปากโวยวายอยู่ได้ รีบมาทำหน้าที่ของเธอซะ ก่อนที่ฉันจะหมดอารมณ์” คาเรนที่นั่งรออยู่ที่โซฟาเอ่ยออกมาเสียงเข้มด้วยความเมา เมื่อผู้หญิงคนนี้เข้ามาแล้วเอะอะเสียงดังจนเขาคำราญหู
ส่วนรินลดาที่ได้ยินเสียงของผู้ชายอีกคนในห้องนี้ ถึงกับหันควับไปมองหาต้นเสียงว่าอยู่ที่ไหน จนเธอเห็นแผ่นหลังของชายคนหนึ่งนั่งอยู่ที่โซฟา เธอจึงรีบเอ่ยออกไปทันที
“หมดอารมณ์ก็ช่างหัวคุณสิ เปิดประตูให้ฉันออกไปเดี๋ยวนี้นะ” รินลดาหันมาบอกกับชายที่นั่งอยู่ที่โซฟาด้วยความโมโห เพราะเธอมาอยู่ในห้องนี้โดยไม่รู้เรื่องอะไรเลย ก่อนจะเดินไปหาชายคนนั้นอย่างไม่กลัว
คาเรนที่ได้ฟังคำตอบจากหญิงสาวถึงกลับชักสีหน้าโกธร พร้อมกับเงยหน้าขึ้นไปมองผู้หญิงปากกรรไกรคนนี้อย่างเหลืออด เพราะไม่เคยมีใครใช้คำพูดหรือชักน้ำเสียงใส่เขาเลยสักคน แต่พอได้เห็นใบหน้าสวยของหญิงตรงหน้าพร้อมกับมองการแต่งตัวของเธอเขาก็เอ่ยออกไป
“แต่งตัวแบบนี้มา เธอจะไปบวชชีรึไง” คาเรนเอ่ยพูดเสียงเข้ม ก่อนจะเบะปากมองร่างบางอย่างพิจารณา นี่คามีลมันคิดอะไรอยู่ถึงส่งผู้หญิงผอมแห้งแรงน้อยมาให้เขาแบบนี้ ยัยนี่ยังสวยไม่ได้ครึ่งของนางแบบสาวๆที่เขาควงอยู่ด้วยซ้ำ จะใช้งานได้นานทนทานรึเปล่านะแบบนี้ คาเรนคิดในใจ
ส่วนรินลดาก็มองชายตรงหน้าอย่างสำรวจเช่นกัน เขาหล่อ ใช่ เธอพูดได้คำเดียวว่าเขาหล่อมาก หล่อกว่าคามีลเพื่อนใหม่ของเธอด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้มันใช่เวลาชมนายนี่ที่ไหนกันเล่ายัยทับทิม แกกำลังอยู่กับคนเมาอยู่นะ รีบออกไปจากห้องนี้ได้แล้ว รินลดาคิดในใจอย่างเตือนสติตัวเองไม่ให้หลงไปมองใบหน้าหล่อๆนั่น
“มันก็เรื่องของฉัน คุณไปเปิดประตูให้ฉันเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นฉันจะโทรแจ้งกับทางโรงแรมให้จัดการจับคุณส่งตำรวจ โทษฐานกักขังหน่วงเหนี่ยว” รินลดาเอ่ยออกไปอย่างไม่ยอมแพ้ ถึงชายตรงหน้านี่จะหล่อขนาดไหนก็เถอะ แต่พูดจาสุนัขไม่รับประทานแบบนี้เธอก็ขอบาย
“หึ ที่จริงฉันก็ไม่อยากจะมีอะไรกับผู้หญิงจืดๆแบบเธอหรอกนะ แต่ว่าฝีปากของเธอมันจัดจ้านดีแฮะ ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าคนอย่างเธอจะเล่นตัวไปได้สักกี่น้ำ” คาเรนเอ่ยพูดก็ลุกขึ้นด้วยท่าทางเมาๆ แล้วเดินก้าวเข้าไปหาร่างบางที่ถือว่าเตี้ยกว่าเขามาก
“นี่คุณคิดจะทำอะไร อย่าเข้ามานะ” รินลดาเอ่ยพูดก็ทำท่าเอากระเป๋าของตัวเองยกขึ้นมา เพื่อเตรียมรับมือกับชายตรงหน้า ที่กำลังเดินเข้ามาหาเธอ
“เธอคิดว่ากระเป๋าแค่นี้จะทำอะไรฉันได้ อย่าเล่นตัวให้มันมากนักเลยน่า ฉันไม่มีอารมณ์มาเถียงกับเธอหรอกนะ รับรองว่าถ้าเธอทำให้ฉันเสร็จเมื่อไหร่ ฉันจะจ่ายให้เธอสองเท่า” คาเรนเอ่ยพูดแล้วเอามือจับข้อมือของผู้หญิงตรงหน้า เพราะคิดว่าเธอก็คงเล่นตัวเพื่อเพิ่มค่าตัวให้สูงขึ้น
ส่วนรินลดาพอได้ยินประโยคที่ชายตรงหน้าพูดมาก็โมโห เธอก็เอากระเป๋าฟาดลงไปที่หน้าของเขาอย่างแรง เธอไม่ได้มาขายตัวให้กับเขาสักหน่อย ทำไมเขาถึงพูดจาดูถูกเธอขนาดนี่
“ผัวะ” เสียงกระเป๋ากระทบกับในหน้าของคาเรนอย่างแรง จนคาเรนหน้าหันไปด้านซ้ายทันที
“ฉันไม่ได้มาขายตัว” รินลดาเอ่ยพูดออกไปเสียงดังด้วยความอย่างโมโห เมื่อถูกชายตรงหน้าดูถูก
“นี่เธอกล้าเอากระเป๋าตบฉันงั้นเหรอ เธอรู้ไหมว่าไม่มีใครกล้าทำแบบนี้กับฉันสักคน” คาเรนหันมามองรินลดาก่อนจะกัดฟันพูดอย่างข่มอารมณ์
“คุณไม่ใช่พระเจ้านิ ทำไมฉันจะทำไม่ได้ ถ้าไม่อยากโดนอีกรอบก็ไปเปิดประตูให้ฉันเดี๋ยวนี้” รินลดาเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงจริงจังอย่างไม่กลัว แต่ในใจก็ลุ้นตุ้มๆต่อมๆ เพราะชายคนนี้กำลังมึนเมาจึงไม่รู้ว่าจะทำอะไร
“ฉันจะเปิดให้ก็ต่อเมื่อฉันเอาเธอเสร็จแล้วเท่านั้น มานี่” คาเรนพูดด้วยเสียงแข็ง ก็จับข้อมือของรินลดาที่ถือกระเป๋าจะฟาดหน้าเขาอีกครั้งอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเอามืออีกข้างดึงกระเป๋าออกจากมือบางแล้วปาทิ้งไป
“ปล่อยนะ ฉันเจ็บนะไอ้บ้า” รินลดาเอ่ยบอกออกไปพร้อมกับสีหน้าเจ็บปวด เพราะชายตรงหน้าบีบข้อมือของเธอจนเจ็บ
“ฉันชื่อคาเรน ไม่ใช่ไอ้บ้าจำไว้ซะ ปากเก่งอย่างนี้ก็ดี เวลาเอาก็ครางให้ดังๆแบบนี้นะ” คาเรนเอ่ยพูดก็ผลักรินลดาลงบนโซฟาอย่างแรง จนรินลดาถึงกับแสดงออกทางสีหน้าเพราะว่าเจ็บที่หลัง
“โอ้ย ไอ้บ้า อย่ามายุ่งกับฉันนะ ปล่อย” รินลดาเอ่ยพูดก็พยายามเอามือทุบตีชายตรงหน้าอย่างไม่ยอม เธออุตส่าห์รักษามันไว้ให้กับสามีในอนาคต เธอจะมาเสียสาวให้ไอ้ผู้ชายคนนี้ไม่ได้ รินลดาคิดอย่างมาดมั่น
“ฤทธิ์เยอะใช่ไหม ได้” คาเรนเห็นหญิงสาวยังคงขัดขืน เขาจึงถอดเนคไทของตัวเองออกมา แล้วเอาไปมัดที่ข้อมือของหญิงสาวอย่างรวดเร็ว
“ ไอ้โรคจิต ปล่อยฉันนะ ไอ้เลว” รินลดาพ่นวาจาด่าทอชายตรงหน้าอย่างไม่เกรงกลัว เพราะตอนนี้เธอหมดหนทางจะหนีแล้ว ได้สู้กับไอ้นี่ด้วยคำพูดก็ยังดี
“งั้นมาดูความโรคจิตของฉันหน่อยเป็นไง” คาเรนเอ่ยพูดก็จับรินลดานอนพลิกคว่ำ แล้วเขาก็จัดการรูปซิปชุดเดรสสีแดงออกทันที จากนั้นก็จับร่างบางให้พลิกนอนหงายอีกครั้ง