ตอนที่ 8

1559 คำ
8 ใจเธอ...อีกไม่นานมันก็คงจะเป็นดังเช่นก้อนหินที่ไม่มีความรู้สึกใดๆ ให้กับชายตรงหน้า เมื่อถึงวันนั้น เธอก็สามารถตัดใจจากเขาได้ ซึ่งจะต้องเริ่มทำนับตั้งแต่บัดนี้ใช่ไหม? “ก็ได้ค่ะ แล้วดาจะรอนะคะ” ชลดามีอาการกระเง้ากระงอดเล็กน้อย แต่ยอมที่จะทำตามความต้องการของภาม แต่ก่อนเดินออกจากตักอีกฝ่าย ริมฝีปากอวบอิ่มทาบทับไปบนแก้มสากระคาย เคลื่อนไล้ลงมาจนพบกับริมฝีปากหนา กดย้ำทาบทับบดคลึงกลีบปากอวบอิ่ม ลากไล้เปิดแยกกลีบปากหนาด้วยปลายลิ้นเล็ก สอดแทรกไปในโพรงปากอุ่น สองมือเล็กลากไล้เคลื่อนไปยังจุดสำคัญๆ ของภามอย่างไม่อายคนที่นั่งมองอยู่ จวบจนได้ยินเสียงครางผะแผ่วดังมาจากคนร่างใหญ่ถึงได้ยอมเคลื่อนตัวออก เดินเยื้องย่างสะบัดส่ายสะโพกยั่วให้ภามต้องถวิลหา ปลายมือยาวทาบทับบนเรียวปากอวบอิ่มแดงก่ำ เพราะแรงบดคลึงส่งจุมพิตไปให้ภามอีกระลอก พร้อมตวัดส่งค้อนให้กับผู้หญิงปากเสียที่เธอเดาว่าน่าจะเป็นน้องสาวของภามวงโต ‘ชิ...ยัยหน้าหม้อ เป็นแค่น้องสาว แต่ทำเป็นหวงพี่ชายซะจนน่าเกลียด นึกหรือว่าฉันจะยอมให้หล่อนกันภามออกจากฉันง่ายๆ รู้จักชลดาน้อยไปเสียแล้ว’ “พี่ภามไปเก็บตกมาจากที่ไหนคะนี่ หน้าตาก็งั้นๆ ไม่เห็นจะสวยเลย หุ่นก็งั้นๆ แหละ น้องว่าสู้พี่ไทนี่ก็ไม่ได้ ห่างไกลกันเยอะ” รสรินพูดเสียงดังๆ ตามไล่หลังให้อีกฝ่ายได้ยินด้วย ก่อนจะหันมาหาพี่ชาย แต่ริมฝีปากอวบอิ่มที่อ้าออกกลับต้องค้างเติ่งอยู่อย่างนั้น เพราะภามกลับนำเรื่องงานมาอ้างแทน “น้องรสไปคุยกับพี่นนท์ที่ห้องก่อนไหม พี่มีงานจะเคลียร์กับไทนี่นิดหน่อย...” ภามพูดเสียงเย็น นอกจากจะปรายสายตาแข็งดุกร้าวไปแล้ว ยังจะรัศมีแห่งความเกรี้ยวกราดและขุ่นแค้นส่งมอบให้นันทิยา จนอีกฝ่ายสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ เพราะไม่ทันเตรียมรับสถานการณ์เอาไว้ “เดี๋ยวพี่เคลียร์เสร็จจะตามไปคุยด้วยนะจ๊ะ” หันไปพูดเสียงหวานกับน้องสาว และอย่างที่กลัวว่าอีกฝ่ายจะอิดออดอยู่ทำให้เขาจัดการยัยตัวดีไม่ได้ ก็เอ่ยปากต่ออีกนิด “อืม...นนท์ เมื่อวานนัดกับน้องอะไรไว้นะ...รีบเคลียร์กับน้องสาวพี่ให้ดีละ แล้วอย่าลืมคุยเรื่องงานไว้บ้างก็ดีนะ กลับมาแล้วจะได้มาช่วยกัน” คิ้วคมเข้มเลิกยิกๆ เมื่อวางยาชานนท์ได้สำเร็จ เพราะใบหน้าน้องสาวของเขานั้นบูดบึ้งตึงตวัดสายตาเกรี้ยวกราดใส่ชานนท์ “น้องรสรู้ค่ะ พี่ภามอยากให้ออกไป เลยเอาเรื่องนี้มาบอกน้องรส แต่แหม...” หญิงสาวลากเสียงยาว นัยน์ตาระยิบระยับแพรวพราว “พอสาวไป ก็อ้างงานขึ้นมาไล่น้องกลับเลยนะ ตกลงไม่คิดถึงน้องสาวคนนี้บ้างเลยหรือไงคะ จากไปตั้งสองสามปีเชียวนะ” รสรินทำแก้มป่องงอนๆ ใส่พี่ชาย มือเล็กยกขึ้นซับหน้า ทั้งเหนื่อยและร้อนแล้วก็ง่วงด้วยอยากกลับไปอาบน้ำเย็นๆ และคลานขึ้นเตียงจะแย่แล้ว แต่ก็ต้องเคลียร์กับชานนท์ด้วยเหมือนกัน ไม่งั้นนอนไม่หลับ ส่วนพี่ชายน่ะหรือ เอาไว้คุยที่บ้านพรุ่งนี้แล้วกัน จัดปาร์ตี้กองไฟที่ชายหาด มีดนตรีเบาๆ คลอเคลียกับอาหารนิดหน่อยให้ร่างกายได้สนุกสนานผ่อนคลายก่อนจะต้องลงมือทำงาน “แล้วเราไม่เคยกลับบ้านหรือไงยัยตัวยุ่ง” มือใหญ่ยกขึ้นขยี้ผมบนศีรษะทุยแรงๆ จนกระจายยุ่งเหยิง “ปล่อยนะพี่ภาม น้องไปก็ได้ ไม่อยากอยู่ขวางหูขวางตาพี่นักหรอก” รสรินตอบกลับ เพราะรู้ว่าพี่ชายคงอยากจะคุยกับนันทิยา ก็เห็นปรายสายตาไปมองสาวเจ้าอยู่บ่อยครั้งนี่นา ถึงแม้จะออกแนวไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่ แต่คนเราบางทีใกล้เกลือกินด่างก็ยังมี โน่นกว่าจะรู้ตัวว่าเขาสำคัญก็เมื่อตอนเขาจากไปแล้วนั่นแหละ อีกอย่างเรื่องบางเรื่องเร่งรัดไปยิ่งทำให้มันห่างไกลไป ถ้ารู้จักถอยหลังกลับไปสักก้าว นั่นอาจจะทำให้มีค่าขึ้นมากกว่า มีโอกาสเธอคงจะต้องคุยกับนันทิยาเรื่องนี้ คิดจะจับภามใส่กรงหัวใจน่ะมันต้องมีทั้งรุกทั้งรับ และถอยกลับไปตั้งหลัก มันถึงจะชนะ “ไปกันเถอะค่ะพี่นนท์ ทางนี้ปล่อยให้คู่หมั้นเขาดูแลกันเอง เรามันคนนอก เขาไม่ต้องการให้อยู่เป็นก้างชิ้นโต เดี๋ยวจะติดคอก่อนได้กินเนื้อสมันหวานๆ ” รสรินกระเซ้ากัดพี่ชาย ก่อนขยับกายไปหาชานนท์ สอดมือเล็กคล้องแขนใหญ่ คิ้วโก่งสวยได้รูปเลิกขึ้นเมื่อถูกมือของนันทิยากำเสื้อชานนท์ไว้ไม่ยอมปล่อย “พี่ไปด้วยนนท์” นันทิยาบอกพร้อมรีบลุกจากที่นั่งเดินตามน้องชายออกจากห้องทำงาน ด้วยเธอรู้ตัวดีว่าคงจะทำใจคุยเรื่องงานไม่ได้ ทว่า...   “ว้าย!!” นันทิยาหวีดร้องอย่างตกใจ ไม่คิดว่าคนร่างหนาใหญ่ราวกับยักษ์ปักหลั่นจะเคลื่อนไหวได้เร็วถึงเพียงนี้ แค่เธอคล้อยหลังนิดเดียวเอง อีกฝ่ายก็ฉกเข้ามาคว้าแขนเรียวยาว บีบกระชับและดึงแรงๆ จนร่างโปร่งถลาไปด้านหลังชนเข้ากับแผ่นอกกว้างบึกบึน แต่มันคงจะไม่เท่ากับลมหายใจอุ่นร้อนที่เป่าพ่นอยู่บริเวณลำคอระหง ทำให้นันทิยาขลาดกลัวอารมณ์โกรธที่แผ่ซ่านออกมาครอบคลุมกาย ระคนหวั่นไหวกับความรู้สึกในหัวใจที่พร้อมจะเผยแย้มออกมาทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้ชิดกับภาม “ปะ...ปล่อยไทนี่นะพี่ภาม” น้ำเสียงเบาหวิวดังออกจากริมฝีปากอวบอิ่มสีแดงระเรื่อซึ่งสั่นไหวระริก จนต้องรีบขบกัดเอาไว้ หัวใจดวงน้อยเต้นตึกตักรัวเร็ว ไฟร้อนผ่าวไล่ขึ้นจากกึ่งกลางลำตัวไปรวมกันอยู่ที่วงหน้าจนแดงปลั่ง ชานนท์ได้ยินเสียงพี่สาวก็รีบหันไปมองอย่างรวดเร็ว เมื่อได้เห็นพี่สาวอยู่ในอ้อมแขนภาม สายตาที่นันทิยาส่งมาให้มันหลากหลาย จะดีใจที่ได้อยู่ในอ้อมแขนคนที่ชอบก็ใช่ จะขลาดกลัวระคนสับสนก็มี “พี่ภาม...พี่ปล่อยพี่สาวผมดีกว่าไหมครับ” ชานนท์เอ่ยพูดเสียงเรียบ ถึงจะรู้ซึ้งถึงความรู้สึกของพี่สาว การได้อยู่ในอ้อมแขนของภามก็มีความสุขมิใช่น้อย แต่ถ้าใช้ศักดิ์ศรีแลกกับความสุขเล็กๆ น้อยๆ เขาว่าไม่คุ้มกัน ถ้าไม่ได้ยินคำบอกจากปากภามว่าจะแต่งงานกับนันทิยาเขาก็ไม่ยอมให้อีกฝ่ายเอาเปรียบพี่สาวได้เช่นกัน เพราะนั่นจะยิ่งทำให้พี่สาวไม่มีค่าในสายตาอีกฝ่ายมากยิ่งขึ้น กายใหญ่ขยับก้าวไปข้างหน้าเพื่อจะดึงเอาร่างนันทิยาออกจากภาม คิ้วเข้มเลิกขึ้นเมื่อแขนใหญ่ถูกจับไว้จากอีกคนที่ดูจะพอใจกับสิ่งที่ได้เห็น “เฉยๆ น่าพี่นนท์” “ทำไม” ชานนท์เอ่ยถามเสียงเรียบ ปรายสายตาหันไปมองคนห้ามอย่างไม่เข้าใจและไม่ค่อยจะชอบใจสักเท่าไหร่ ก็เห็นๆ อยู่ว่าภามทำกับนันทิยายังไงก็ยังจะเข้าข้างกันอีก “ก็แหม...เรื่องของเขาสองคน ก็ให้เขาสองคนจัดการกันเองซิ แล้วอีกอย่างนะ...ให้พี่ภามกับพี่ไทนี่ได้ใกล้ชิดกันหน่อยก็ดีนะ เผื่ออะไรๆ มันจะดีกว่านี้ แล้วพี่นนท์ก็ไม่ต้องห่วงพี่ไทนี่มากหรอกน่า พี่ไทนี่ดูแลตัวเองได้ เชื่อน้องรสเถอะ” รสรินเชื่อในความดีและน่ารักของนันทิยาว่า จะต้องสามารถยึดพื้นที่ในหัวใจภามได้ เพียงแค่จะต้องให้ทั้งสองคนใกล้ชิดกันมากกว่านี้และภามต้องไม่มีผู้หญิงข้างกาย รวมถึงไม่มีตัวมารอย่างชานนท์ที่คอยกีดกันและดูแลพี่สาวแบบริ้นไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอมด้วย “ทำอะไรน่ะพี่ภาม” รสรินหันไปล้อพี่ชายสีหน้ายิ้มๆ นัยน์ตากลมโตเป็นประกายแพรวพราวระยับ พวงแก้มอิ่มเต็มป่องออกอย่างรู้เท่าทัน แหม...ปากบอกว่าไม่สน แล้วไงตอนนี้ถึงได้กอดนันทิยาจนตัวกลมเชียวนะ หน้าตาก็แหมระรื่นสดชื่นเชียว อย่างนี้มีลุ้นใช่ไหมนี่ แต่ยังไงก็ต้องติวเข้มวิชามารยาหญิงให้กับนันทิยาหนักๆ หน่อย จะได้มัดใจและกายภามให้อยู่หมัด ไม่มีสายตาไปมองผู้หญิงคนอื่นอีก “อ้าว!!” ภามแสร้งทำหน้าเหวอ เสแสร้งทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้กับสายตาของน้องสาวที่มองมาอย่างมีเลศนัย 
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม