ทันทีที่ได้รับคำสั่งจากนายหนุ่มเหนือน่านก็รีบเอาอาหารเช้ามายังคอนโดของเจ้านายทันที ตอนได้รับคำสั่งและได้รู้เรื่องราวมาจากบอดี้การ์ดคู่ใจของเจ้านาย ซึ่งนานๆ ทีจะเรียกใช้งานนั้นเขาก็ตกใจ ไม่คิดว่ารักษ์จะทำตามที่พูดจริงๆ ไม่อยากเชื่อเลย เขาอ่านใจเจ้านายของเขาไม่ออกเลยว่าต่อไปจะทำกับเด็กสาวยังไง
พอเข้ามาในห้องวางอาหารเช้าเรียบร้อย พร้อมกับถุงเสื้อผ้า และชุดแต่ละชุดเจ้านายบอกเน้นให้เป็นเกาะอกถอดง่ายใส่ง่าย เขาก็เลือกมาตามคำสั่งทุกอย่าง พอวางของทุกอย่างเสร็จเห็นว่าในห้องเงียบจึงเดินเข้าไปดูในห้องนอนก็ไม่เห็นมีใคร เห็นแต่ประตูห้องน้ำที่เปิดกว้าง
“คุณป่านทออยู่ในห้องน้ำรึเปล่าครับ” เขาร้องเรียกเผื่อว่าหญิงสาวจะอยู่ในห้องน้ำ และมองตามเส้นโซ่ที่ลากยาวหายเข้าไปในห้องน้ำก็น่าจะเป็นอย่างที่คิด
ด้านคนที่นอนแช่น้ำอยู่ในห้องน้ำสะดุ้งดีดตัวลุกขึ้นแล้วร้องตะโกนตอบคนนอกห้องออกไป
“อยู่ค่ะ อย่าเข้ามานะคะ” มันไม่ใช่เสียงของคนใจร้าย แต่เป็นเสียงของใครกันล่ะ
“ผมเอาเสื้อผ้าและอาหารเช้ามาให้นะครับ เดี๋ยวผมเอาเข้ามาวางไว้ในห้องนอนให้นะครับ” เหนือน่านเอ่ยแล้วก็รีบเดินไปถือถุงข้าวของที่วางไว้ก่อนหน้านี้เข้ามาวางไว้ให้หญิงสาว
“ขอบคุณค่ะ” ป่านทอรีบลุกขึ้นหาผ้าเช็ดตัวมาเช็ดตัวแล้วพันรอบอกเดินมาโผล่หน้าออกจากประตูห้องเพื่อมองดูว่าชายคนนี้เป็นใคร
“ผมเอาวางไว้ตรงนี้นะครับ” เหนือน่านยิ้มให้คนที่ยื่นหน้าออกมาจากขอบประตูอย่างเป็นมิตรและสงสาร
“ขอบคุณค่ะ”
“ยินดีครับ” เขายิ้มให้เธอก่อนจะเก็บถุง 7-11 อีกมุมติดมือไปด้วย โดยไม่พูดอะไรอีก เพราะอีกไม่นานก็จะถึงเวลาประชุมของเจ้านายแล้ว เขาต้องรีบไป
ป่านทอมองตามคนแปลกหน้าออกไปจนลับสายตาและได้ยินเสียงประตูห้องปิดสนิทนั่นแหละถึงเดินออกมาจากหลังประตูมาดูเสื้อผ้าข้าวของและอาหารที่ชายแปลกหน้าซื้อมาให้ตน แล้วเธอก็รีบแต่งตัวให้เรียบร้อย ชุดทุกชุดเป็นเกาะอกทั้งนั้น สวมใส่ง่ายใส่สบาย
“อย่างน้อยก็มีข้าวให้กินยัยป๊อบ”
หล่อนยิ้มแห้งๆ ให้ตัวเองแล้วเริ่มทานข้าวที่ชายหนุ่มคนนั้นซื้อมาให้ มันมีสองกล่องสงสัยเตรียมมาให้สำหรับมื้อเช้าและมื้อเย็นแน่ มีขนมและน้ำให้ด้วย หล่อนยิ้มให้กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ไม่รู้จะสมเพชหรือสงสารตัวเองดีตอนนี้ หล่อนรู้แต่ว่าหากตายได้คงตายไปแล้ว แต่ก็ตายยังไม่ได้หากยังไม่สู้จนถึงที่สุด หล่อนจะสู้กับโชคชะตาโหดร้ายนี้ไปให้ได้ สู้จนกว่าลมหายใจสุดท้าย และต้องหนีออกจากกรงขังและโซ่หนักๆ นี้ไปให้ได้