“กินข้าวกินยารึยัง” น้ำเสียงห้าวถามเมื่อเห็นเธอนั่งพิงหัวเตียงดูโทรทัศน์โดยไม่หันมาสนใจตน
เงียบ!
ความเงียบของป่านทอทำให้เขาหงุดหงิดจนต้องดึงรีโมทจากมือเล็กมาถือไว้
“ฉันถามหูแตกรึไง!” เขาตะคอกถามเธอเสียงดัง
“ได้ยินค่ะ สัตว์เลี้ยงอย่างป๊อบหากินเองไม่ได้หรอกค่ะ ต้องรอให้เจ้าของของมันหาข้าวหาน้ำมาป้อน เพราะมันเป็นแค่สัตว์เลี้ยง!” หล่อนตอบประชดอย่างน้อยใจ แล้วเบือนหน้าหนีไปอีกทาง โดยไม่คิดจะสนใจว่าอีกคนนั้นกำลังมีอารมณ์ขุ่นเคืองตนเองแค่ไหน
รักษ์กัดฟันกรามแน่นเป็นสันเด่นนูนด้วยความขึงโกรธ สองมือกำแน่น มือข้างกำรีโมทโทรทัศน์กำจนรีโมทจะแตกหักคามือ แล้วก็ตอบกลับไป
“สัตว์เลี้ยงอย่างเธอไม่กินคงไม่ตายหรอก เพราะสัตว์มันเรียนรู้วิธีเอาตัวรอดเก่ง”
พูดจบก็ทิ้งรีโมทในมือแล้วเดินไปถอดชุดเหม็นเหงื่อของตัวเองออกแล้วเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ ด้านป่านทอเมื่อได้ยินเสียงประตูห้องน้ำกระแทกปิดก็ล้มตัวลงนอนทั้งน้ำตา ปกติเป็นคนเข้มแข็ง ไม่เคยร้องไห้กับอะไรง่ายๆ แต่พักหลังๆ มาตั้งแต่มาอยู่กับชายใจร้ายหล่อนก็ร้องไห้บ่อยๆ จากวันนั้นจนวันนี้ก็อาทิตย์กว่าแล้ว หล่อนอยากจะมีปีกบินได้ อยากจะหนีออกจากห้องนี้ อยากจะไปให้ไกลจากเขา แต่ก็ติดตรงโซ่ที่รัดข้อมือไว้
อึก!
เธอกลืนก้อนสะอื้นไห้แล้วหลับตาข่มความหิวของท้องตัวเองไว้ เธอหิว แต่ก็หยิ่งเกินกว่าจะขอร้องให้รักษ์หาอาหารมาให้ เธอไม่อยากง้อเขา เพราะเมื่อกี้ตัวหล่อนเองเป็นคนทำให้เขาโกรธ ปล่อยไปแบบนี้แหละดีแล้ว ปล่อยไป ไม่กินข้าววันเดียวไม่ตายหรอก มีน้ำ กินน้ำก็ได้ เมื่อนึกได้ดังนั้นก็ลุกขึ้นมาเปิดขวดน้ำวางข้างโต๊ะหัวเตียงออกดื่มเพื่อประทังความหิวของตัวเอง
พอเข้ามาในห้องน้ำเขาก็เปิดฝักบัวให้น้ำเย็นๆ ไหลอาบชโลมกายตัวเองทันที เขายืนนิ่งให้น้ำเย็นไหลอาบตัวใช้ความเย็นของน้ำดับความร้อนรุ่มของแก่นกายร้อนและอารมณ์ขุ่นเคืองป่านทอของตน สองมือใหญ่กำแน่นยกยันผนังห้องน้ำแล้วก็สะบัดหัวแรงๆ เพื่อไล่ความโกรธของตัวเองทิ้ง หากเพียงป่านทออ่อนหวานสักนิด ถามเขาสักหน่อยเขาคงไม่โกรธแบบนี้ แล้วทำไมเขาต้องหวังให้หล่อนถามราวกับเป็นคนรักด้วยล่ะ ทั้งๆ ที่สิทธิ์ของหล่อนไม่มีและไม่คู่ควรกับตน เธอเป็นเพียงแมวขโมย เป็นโจร เป็นโจรชั้นต่ำ เป็นสัตว์เลี้ยงที่ไร้ค่าที่รอวันเขาเขี่ยทิ้ง
“แม่งเอ๊ย!” สบถออกมาอย่างหงุดหงิดเมื่อควบคุมความปรารถนาของตัวเองที่มีต่อป่านทอไม่ได้ เขาสะบัดหัวไปมา ก่อนจะยกมือฟาดสายน้ำไปมาแล้วเดินกัดฟันเปิดกระชากประตูห้องน้ำออกเดินตรงไปยังเตียงด้วยร่างเปลือยเปล่าและมีคราบน้ำเกาะตามตัว
“ฉันต้องการเธอป๊อบ...”
กระชากข้อมือเล็กข้างที่มีโซ่รัดไว้ให้นอนพลิกตัวนอนหงาย แล้วตัวเขาเองก็ตามลงไปคร่อมทับอย่างรวดเร็ว สองมือใหญ่กดทับข้อมือเล็กกดกับเตียงนุ่มของตนพร้อมกับโน้มใบหน้าเปียกชื้นและผมเปียกๆ ของตนลงไปซุกไซ้ใบหน้าสวยที่กำลังเบี่ยงหนีการรุกเร้าของคนเหนือร่าง
“อะ! ว้าย! ยะ...อย่าทำแบบนี้กับป๊อบอีกเลยนะคะ อือ!”
หล่อนเบือนหน้าส่ายหนีหนวดเคราสากของบุรุษเหนือร่าง หล่อนเจ็บข้อมือข้างที่ยังเป็นแผลไม่หายดี พยายามดิ้นรนถีบเท้าถอยหนี แต่ก็ไม่เป็นผลเมื่อแรงของเธอนั้นมีน้อยนิดเมื่อเทียบกับแรงของจอมมาร
“เรียกฉันพี่รัก...เรียกฉันแบบครั้งก่อนคนสวย อ่า! พี่ก็ห้ามตัวเองไม่ได้เหมือนกันทำไมถึงต้องการป๊อบขนาดนี้ อืม! หอมเป็นบ้าเลย คิดถึง ชูว์!”
เขาเอ่ยเสียงพร่ารัวเร็วกับใบหน้าสวยแล้วซุกไซ้จมูกโด่งไปกับซอกคอหอมกรุ่น กลิ่นกายของป่านทอช่างหอมและแตกต่างจากทุกคน มันไม่ใช่กลิ่นน้ำหอม ไม่ใช่กลิ่นแป้งเด็ก แต่มันเป็นกลิ่นตัวเฉพาะของหล่อน กลิ่นที่เขาได้สูดดมเข้าไปแล้วมีพลัง
“อ่า! ฉันอยากรักเธอแรงๆ ป๊อบ พี่อยากรักเธอ อูว์!”
รักษ์ไม่อาจควบคุมตัวเองได้ หล่อนไม่รู้หรอกว่าตลอดเวลาที่เธอป่วยเขาต้องอดทนแค่ไหน ไปเที่ยว ไปอ่างอบนวดเขาก็ไม่สามารถให้ผู้หญิงคนอื่นมานอนทาบทับหรือแตะต้องตัวเขาได้ เขารู้สึกมันไม่ใช่ ความต้องการของเขามันไม่ตื่นตัว แต่พอมาเจอหน้าของป่านทอมันกลับตรงกันข้าม ทุกอย่างมันร้อนแรงราวกับมีไฟฟ้าสถิตก็มิปานตอนนี้
“อือ! ปะ...ป๊อบเจ็บข้อมือค่ะพี่รัก” หล่อนบอกเขาเสียงแผ่วพร้อมกับเบือนหน้าหนีเคราสากที่ถูไถข้างแก้มของตน
“พี่ขอโทษป๊อบ แต่พี่ต้องการเธอมากจริงๆ อ่า!”
เคลื่อนใบหน้าหล่อไปจูบข้อมือเล็กข้างที่มีผ้าพันแผลปลอบประโลมแล้วตวัดลิ้นสากลากถูไถไปมากับแขนเล็กของหญิงสาวเพื่อให้เธอผ่อนคลายและทุเลาความเจ็บที่ข้อมือ การกระทำของรักษ์ทำให้ป่านทอเคลิบเคลิ้ม หล่อนซ่านสยิวไปกับสัมผัสวูบวาบที่เขาทำจนเผลอครวญครางกระเส่าหลุดออกมาจากริมฝีปากเล็กแห้งผาก