บทที่4(จบ)

1347 คำ
แท็กซี่ส่วนบุคคลจอดตรงหน้าประตูเหล็กดัดสีขาว ขวัญข้าวชำระค่าโดยสารแล้วก้าวลงจากรถ เธอออกจากที่ทำงานแล้วกลับบ้านในทันที ไม่มีแก่ใจจะทำอะไรหรือไปที่ไหนทั้งนั้น สายตาของทุกคนที่มองเธอเหมือนเป็นเครื่องมือแพทย์ที่แหวกเข้าไปในเนื้อหนังของเธออย่างไรอย่างนั้น ไหนจะคำพูดและท่าทีแปลกๆ ของคิมห์เมื่อสักครู่ คำที่เกือบทำให้เธอประจานตัวเองออกไปแล้ว ขวัญข้าวควานมือลงในกระเป๋าสะพายแล้วทำหน้าแปลกใจ ไม่ว่าจะควานไปซอกไหนมุมใดนิ้วมือของเธอก็ไม่สัมผัสกับสิ่งที่ต้องการ จนต้องให้อีกมือแบะปากกระเป๋าออกแล้วมองลงไป “เอ๊ะ! มันหายไปไหน” เธอรำพึงอย่างงุนงง ลองจับดูตามกระเป๋าเสื้อและกางเกงก็ไม่พบ จนต้องนิ่งคิดย้อนไปถึงตอนออกจากบ้าน “ตายแล้ว ติดมือพี่พีไปแน่...เฮ้อ” แต่ทันทีที่เสียงถอนหายใจของขวัญข้าวเงียบลง เสียงของคนที่กำลังนึกถึงก็ดังขึ้น “หานี่ใช่ไหมข้าว” ลูกกุญแจพวงใหญ่พอสมควร เพราะเป็นกุญแจของบ้านทั้งหลังรวมถึงประตูรั้วยื่นมาตรงหน้าเธอ “พี่พี ขอบคุณค่ะ” เธอรีบคว้ามันมาจากมือของชายตรงหน้า ทว่าไม่เป็นอย่างที่คิดเพราะพีรัชชักมือกลับ กำพวงกุญแจนั้นไว้ แล้วยื่นหนังสือพิมพ์หลายฉบับให้เธอแทน “เพิ่งรู้ว่าเรากำลังจะได้ดองกัน ผ่านคุณอาติณณ์” น้ำเสียงเขาแข็ง ดวงตาตัดพ้อ จนคนฟังแปลกใจ “พี่พีพูดอะไรคะข้าวไม่เข้าใจ แต่ตอนนี้ขอกุญแจให้ข้าวก่อน” เธอไม่รับหนังสือพิมพ์ แต่แบมือขอพวงกุญแจ ซึ่งชายหนุ่มก็มอบมันให้แต่โดยดี แต่เขาก็ยังไม่วายพูดในสิ่งที่เธอไม่เข้าใจอยู่ดี “เพราะแบบนี้นี่เอง ข้าวถึงไม่รอให้คนรถของพ่อพี่มาส่ง” หญิงสาวไขประตูรั้วเข้าไป โดยมีพีรัชแทรกตัวตามเข้าไปโดยเธอไม่ได้เอ่ยชวน ขวัญข้าวมองหน้าเขาอย่างไม่ชอบใจเท่าไหร่ แต่จะกล่าววาจาเกรี้ยวกราดรุนแรงก็เป็นการไม่สมควรนัก เธอจึงต้องพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน แต่มีความนัย “พี่พีคะ ข้าวปวดหัวกลับมาพักผ่อน ไม่สะดวกจะต้อนรับ” พีรัชชะงักเท้าเล็กน้อย ก่อนทำเหมือนไม่ได้ยิน แล้วยังสาวเท้าต่อ จนเป็นการนำหน้าเจ้าของบ้าน ขวัญข้าวจำต้องเดินตามเขาไป แม้ไม่อยากต้อนรับแต่ทำอะไรไม่ได้แล้ว พีรัชเดินมานั่งตรงชุดหินอ่อนใต้ชายคาบ้าน ซึ่งวันก่อนเขามานั่งกินกาแฟพร้อมกับเธอที่นี่ เขาวางหนังสือพิมพ์ทั้งหมดที่ถือมาลงบนโต๊ะ แล้วกอดอกเฉย ขวัญข้าวมองหนังสือพิมพ์ที่มีสภาพยับย่นไปเสียทุกฉบับนิ่ง พีรัชคงต้องการให้เธอดูอะไรในหนังสือพิมพ์พวกนี้เป็นแน่ เมื่อคิดดังนั้นก็พานให้คิดถึงเพื่อนๆ ที่ทำงาน ที่ต่างมองเธอด้วยสายตาแปลกๆ หญิงสาวจำได้ว่าหนึ่งในนั้นถือหนังสือพิมพ์ไว้ในมือเช่นกัน ขวัญข้าวรีบคว้าหนังสือพิมพ์ฉบับบนสุดออกมาดูทันที อ่านตั้งแต่ข่าวพาดหัวและทุกข่าวในหน้าแรก ก่อนจะเปิดต่อไปแล้วมองอย่างละเอียด จนมาสะดุดเอากับข่าวแวดวงไฮโซ ที่มีพวกคอลัมน์ซุบซิบ จะว่าไปแล้วงานเลี้ยงฉลองหมั้นของน้องสาวคนสวยก็สิ้นสุดตั้งแต่สี่ทุ่มกว่าๆ โดยไม่มีเงาพี่ชายสุดหล่อมายืนช่วยส่งแขกแต่ประการใด ในทีแรกเยอบีร่าคิดว่า คุณโคบาลหนุ่มจากเมืองปากช่องคงตีรถกลับเพื่อไปฟูมฟักแม่วัวนมพันธุ์ดี ที่ได้ข่าวว่ากำลังทำผลผลิตให้เป็นที่น่าพอใจ แต่ที่ไหนได้ในตอนดึกสงัดใกล้รุ่งเต็มที เศรษฐีใหม่เมืองไทยจากเมืองปากช่องก็ปรากฏตัวตรงหน้าโรงแรมอีกครั้ง ทั้งยังยื้อยุดฉุดกระชากลากถูกอยู่กับสาวสวยในชุดเซ็กซี่สีร้อนแรง แต่ทำไม๊ ทำไม ชุดของคุณเธอถึงได้ยับย่นขนาดนั้น แต่มันก็เข้ากันดีกับผมยุ่งของชี ละค้า...เยอบีร่า กัดไม่ปล่อย ข่าวซุบซิบของหนังสือพิมพ์ฉบับแรก มีภาพชายหนุ่มและหญิงสาวที่กำลังยื้อยุดข้อมือกันอยู่ แม้ทำเป็นภาพเลือนราง แต่ขวัญข้าวก็จำได้แม่น เธอกับผู้ชายที่ถูกพาดพิงในข่าวนั่นเอง ทำให้เธอนึกไปถึงแสงสว่างวาบตอนที่กำลังโต้เถียงกับอาติณณ์ที่หน้าโรงแรม ในคืนนั้น เธอวางหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นลงแล้วหยิบฉบับใหม่ขึ้นมาเปิดดู มุ่งไปที่หน้าซุบซิบพวกแวดวงไฮโซ แล้วก็พบจริงๆ สาวๆ ทั่วบ้านทั่วเมืองคงอกหักดังเป๊าะ เมื่อเศรษฐีหนุ่มหล่อแห่งเมืองปากช่องมีเจ้าของตัวจริงเสียแล้ว จะปฏิเสธว่าหัวใจยังว่างเหมือนทุกครั้งคงไม่ได้แล้วนะคะคุณอาติณณ์ ก็เล่นควงสาวสวยมาร่วมงานเลี้ยงฉลองหมั้นของอินทุอรน้องสาวสุดที่รักกับพีรัชลูกชายนายธนาคาร แต่ก็ยังมีข้อสงสัยคุณน้องเอาแฟนสาวไปซุกไว้ตรงไหนในงานเลี้ยงล่ะเจ้าคะ คนถึงไม่รู้ มาความแตกเอาตอนขากลับ ที่พากันไปขึ้นรถ แต่แหมกลับเสียเกือบเช้าเชียวนะคะ! ภาพประกอบที่นำมาลงในฉบับนี้ เป็นรูปอาติณณ์และตัวเธอนั่งคู่กันอยู่ในรถ แม้รูปจะเล็กและเป็นมุมด้านข้าง แต่ก็ชัดเจน จะปฏิเสธว่าไม่ใช่เธอก็คงไม่ได้ หญิงสาวขยำหนังสือพิมพ์ในมือเสียยับย่น พร้อมทิ้งตัวลงนั่งอย่างหมดแรง ไม่มีแก่ใจจะเปิดหนังสือพิมพ์ฉบับอื่นดูอีกต่อไปแล้ว พีรัชมองเธออยู่ตลอดเวลา รอยยิ้มสมเพชปรากฏตรงมุมปาก อาการเหมือนคนช็อกเพราะคาดไม่ถึงของขวัญข้าวในตอนนี้นั้น คงเพราะอับอายกับข่าวซุบซิบที่มีคนมาตั้งข้อสงสัยว่าในคืนนั้นเธอกับอาติณณ์ไปทำอะไรกันถึงได้กลับออกจากโรงแรมเสียดึกดื่นขนาดนั้น “ฉบับอื่นๆ ก็ข่าวคล้ายๆ แบบนี้แหละ รูปเบลอบ้าง ชัดบ้าง ข้าวไปแอบคบกับเขาตั้งแต่เมื่อไหร่นี่” คำถามของเขาทำให้ขวัญข้าวนึกถึงการประชดประชันกันเสียมากกว่า แต่เธอจะคบกับใครตอนไหนเมื่อไหร่ก็ไม่เกี่ยวกับเขาอยู่ดี เพราะเลิกรากันไปนานแล้ว ขวัญข้าวเชิดหน้าอย่างถือดีก่อนตอบ “ข้าวคงไม่ต้องบอกพี่พีมังคะ ว่ากำลังคบกับใครอยู่บ้าง” “แล้วไอ้หมาหวงก้างมันปล่อยข้าวไปมีแฟนได้ยังไง เห็นทำตัวเป็นมดแดงแฝงพวงมะม่วงอยู่ได้ตั้งนาน” มิวายที่เขายังประชดไปถึงคิมห์เพื่อนสนิทของเธอจนได้ ทั้งยังทำเสียงเยาะเย้ยในลำคอ จนเจ้าของบ้านสาวเกิดขุ่นเคือง “ถ้าพี่พีจะมาเพื่อพูดแดกดันกันละก็ กลับไปดีกว่าค่ะ ข้าวอยากพักผ่อน” พูดพร้อมกับลุกขึ้น แล้วผายมือไปทางหน้าบ้าน พีรัชลุกขึ้นยืนอย่างเดือดดาลไม่คิดว่าขวัญข้าวจะกล้าไล่เขา วันเวลาทำให้คนเปลี่ยนแปลงกันได้ แต่เขาไม่เคยคิดว่าเธอจะเปลี่ยนไปได้มาก ขนาดกล้าที่จะออกปากไล่เขา “พี่กลับก่อนก็ได้ แค่อยากมาเตือนข้าวเท่านั้น น้องอ่อนเขาไม่ค่อยปลื้มกับข่าวนี้เท่าไหร่ เพราะอะไรข้าวก็รู้อยู่แก่ใจ พี่คงไม่ต้องอธิบาย” ไม่ทันที่ขวัญข้าวหรือพีรัชจะพูดอะไรต่อ รถปิคอัพกลางเก่ากลางใหม่ก็แล่นเข้ามาจอด ชนิดจ่อท้ายรถของพีรัช ก่อนที่คนขับจะก้าวลงมาแล้วเดินจ้ำอ้าวเข้ามาในบ้าน โดยไม่รอให้เจ้าของบ้านออกไปเชื้อเชิญ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม