โกรธไม่ลง

1547 คำ
----07---- ผ่านมา 2-3 วันนับตั้งแต่ที่เจอกันที่ผับมายด์กับเคนตะก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย ทางฝ่ายชายที่หายไปก็เพราะมีสาวน้อยนางเอกใหม่มาให้เล่น ให้ชื่นชม จึงทำให้ลืมของเก่าอย่างมายด์ไปจนสนิท ฝั่งผู้หญิงก็เพราะคิดทบทวนอะไรหลายๆ อย่างว่าควรจะอยู่หรือควรจะหยุด ตึ้ง~ เสียงไลน์ทำให้คนที่นอนเหม่ออยู่บนเตียงลนลานลุกขึ้นมาเปิดดูอย่างรีบร้อน -พี่สาว- เป็นพี่สาวแท้ๆ ของมายด์ที่ส่งข้อความมาหา จะว่าไปก็ไม่ได้ติดต่อทางบ้านไปเลยนี่ เธอฉุกคิดขึ้นมาได้ พี่สาว : ทำไรอยู่ ว่างมั้ย Mild : ว่าง พี่สาว : แม่คิดถึง อยากคุยด้วย เมื่ออ่านได้แบบนั้นมายด์ก็รีบกดโทรหาปลายสายทันที "สวัสดีจ่ะแม่" "มายด์ มายด์" แม่ร้องเรียกลูกสาวน้ำตาไหลพราก พอเห็นแม่ร้องไห้ลูกสาวก็ใจคอไม่ดี ‘นี่เราสร้างความไม่สบายใจให้แม่อีกแล้วหรือ’ เธอคิดในใจ "แม่เป็นไร ร้องไห้ทำไม" มายด์ถามเสียงสั่น ใจก็นึกห่วงแม่ "ผอมไปรึป่าวลูก สบายดีหรือป่าว ทำไม่ไม่โทรหาแม่เลย" ก็ตามนั้นคนเป็นแม่เห็นลูกสาวหายไป ก็ต้องห่วงลูกสาวเป็นธรรมดา มาอยู่ไกลบ้านขนาดนี้ใครล่ะจะไม่ห่วง มายด์คุยกับแม่อยู่พักใหญ่จนท่านสบายใจก็ส่งโทรศัพท์ต่อให้พี่สาว "ยังไง ทำไมไม่โทรหาแม่เลย" มิ้นท์พี่สาวของมายด์ถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจนัก คนที่บ้านเป็นห่วงกันแย่ แต่ดูน้องสาวจะไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไรเลย "มันยุ่งๆ" "ไปตั้งนานละ แม่เป็นห่วงรู้บ้างมั้ย นึกว่าเครื่องบินตกตายไปแล้ว" แต่ไหนแต่ไรมามิ้นท์ก็มักจะดุมายด์อยู่เสมอ เพราะความดื้อเงียบ ดื้อลึกๆ ของน้องสาว "ก็คุยกันแล้วนี่ไง" "กูไม่โทรไปจะได้คุยมั้ย เคยคิดถึงคนอื่นบ้างรึป่าวพ่อแม่น่ะเค้าเป็นห่วง" "รู้แล้ว ก็ว่าจะโทรหาอยู่" "จะทั้งปี" มิ้นท์ก็บ่นน้องสาวอยู่พักใหญ่จนเริ่มเหนื่อย มานด์เป็นพวกดื้อตาใส ด่าให้ตายก็ไม่จำ "แล้วไปอยู่โน่นไม่มีเรื่องผู้ชายใช่มั้ย" คำถามนี้ฟาดลงบนหน้าของมายด์เข้าอย่างจัง ทั้งช็อคทั้งจุกทำอะไรไม่ถูกได้แต่นิ่ง นี่แหละที่เขาว่าคนอาบน้ำร้อนมาก่อนเห็นเป็นมีตาทิพย์ "ทำหน้าแบบนี้มีใช่มั้ย" มิ้นท์พยายามเค้นถามน้องสาว เมือเห็นอาการแปลกๆ "โหย พี่เคยเห็นหนูมีแฟนรึไง" "เคย ไอ้เคนไงทะเลาะกับที่บ้านแทบตายให้เลิกก็ไม่เลิก" เรื่องนี้วนกลับมาในความจำของมายด์อีกครั้งตอนที่คบกับเคนครั้งแรกที่บ้านไม่ชอบเคนเลย เหตุผลหนึ่งเพราะบ้านเคนย้ายไปมาตลอดไม่มีหลักแหล่ง ป้าของเครก็ติดไพ่ติดพนัน เคนเองก็กำพร้า บ้านของมายด์เลี้ยงดูประคบประหงบลูกสาวมาอย่างดี ไม่อยากให้ต้องลำบาก แต่เพราะอนุภาคแห่งนักนั่นแหละที่ทำให้มายด์ยอมทะเลาะกับคนทั้งบ้านเพื่อให้ได้คบกับเคน แต่สุดท้ายทุกอย่างก็จบลงหลังจากที่บ้านจับมายด์ส่งเข้าโรงเรียนประจำ "เรื่องมันตั้งกี่ปีพี่ยังพูดถึงอีก" "ก็อยากจะเตือนแก จะรักใครมันก็รักได้แต่อย่ารักมันมากกว่าที่รักตัวเองเพราะสุดท้ายแล้วอ่ะคนที่จะเจ็บที่สุดก็คือตัวเธอเอง" "รู้แล้ว" "รู้ตลอด" "จริงๆ" "เออ ถ้างั้นก็ไม่กวนละว่าจะโทรไปใหม่แม่เค้าคิดถึง" "แม่คิดถึงหรือตัวเองคิดถึง" มายด์แกล้งแซวพี่สาว เพราะหวังจะให้มิ้นท์อารมณ์เย็นลง "เออก็ไม่รู้จะด่าใครนี่แหละ งั้นแค่นี้นะอย่าลืมที่สอนล่ะ" มายด์พยักหน้ารับก่อนจะโบกมือลาพี่สาว ก๊อก ก๊อก ก๊อก~ หลังจากวางสายพี่สาวได้สักพักเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ร่างเล็กๆ ที่นอนกลิ้งเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียงจึงลุกขึ้นมาเปิดประตูโดยไม่ได้คิดอะไร "ไง" เสียงของคนตรงหน้าเหมือนกับน้ำ 1 ถังใหญ่สาดเข้ามาในห้อง เธอไม่ทันได้จั้งตัวก่อนว่าคนใจร้ายจะมาหาถึงห้อง "มึงมาทำไม" มายด์ถามเสียงแข็ง และไม่มีทีท่าว่าจะยอมให้เข้ามาในห้อง "วันนี้อารมณ์ดีก็เลยซื้อของมากินด้วยกัน ไป ไปแกะ จะได้กินกัน" เคนตะไม่สนใจทีท่าต่อต้านของเจ้าของห้อง เขาทำท่าจะเดินเข้ามาในห้องอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว "แต่กูอารมณ์ไม่ดีอยากกิน ก็ไปกินกับผู้หญิงคนอื่น" "อะไรอีกล่ะ กอารมณ์ดีดี มึงก็มาทำให้เสียเรื่อง" "กูทำอะไรกูยังไม่ได้ทำอะไรเลย" "ไม่ได้ทำก็ไม่ได้ทำ หลบไปกูหนัก จะกินมั้ยซื้อมาฝากเนี่ย" "ไม่กิน ไม่หิว" "แต่กูหิว" มายด์ยังคงยืนขวางประตูไม่ให้เคนตะเข้ามา "ไม่รักกูแล้วหรือไง ถ้ากูหิวตายขึ้นมามึงจะทำยังไง" ไม่รู้หรอกว่าคำพูดนี้เป็นคำพูดจริงหรือพูดเล่นแต่มันทำให้คนฟังหัวใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะเลยทีเดียวและแน่นอนว่าเหมือนเป็นคาถาปลดล็อคความรู้สึกเจ็บปวดทั้งปวงที่เคยเกิดขึ้นกับผู้หญิงที่ชื่อมายด์ตรงหน้าเขา สุดท้ายแล้วผู้บุกรุกก็บุกเข้ามาในห้องพร้อมกับอาหารทะเลชุดใหญ่ได้สำเร็จเค้าจัดการแกะทุกอย่างใส่จานด้วยตัวเองโดยให้เจ้าของห้องนั่งรออยู่ที่โซฟา "มาแล้วครับ" เคนตะพูดพร้อมกับเดินยกจานกุ้งมาวางบนโต๊ะ "อยากกินไม่ใช่หรอตอนเด็กเด็กเห็นบ่นตลอด" "กูอายุเท่าไหร่แล้ว ไปกินมาจนจะหมดทะเลแล้วมั้ง" มายด์ตอบกระแทกกระทั้น แต่ในใจลึกลึกก็แอบดีใจที่เคนตะยังจำได้ "อ๋อเหรอ งั้นที่ซื้อมานี่ก็จะไม่กิน" "กิน" มายด์พูดพร้อมกับหยิบกุ้งขึ้นมาถือไว้ในมือ "แล้วก็ปากดี" ทั้งคู่นั่งกินอาหารด้วยกันพร้อมทั้งเปิดทีวีดูไปด้วยกระทั่งอาหารหมดเคนตะก็เป็นคนเก็บกวาด เก็บจานทำความสะอาดโต๊ะเรียกได้ว่าบริการเต็มที่เลยทีเดียว หลังจากเก็บกวาดทำความสะอาดทุกอย่างเสร็จแล้ว เคนตะ ก็กลับมาที่โซฟาหน้าทีวี ไลน์!!!~ เสียงแจ้งเตือน LINE ดังมาจาก โทรศัพท์ของเคนตะขณะที่เขากำลังนั่งดูทีวีอยู่กับมายด์ในลักษณะที่มายด์นั่งพิงไหล่เขาอยู่ เคนตะเพียงแค่มองโทรศัพท์ไม่แม้แต่จะหยิบขึ้นมาดู "มึงไม่คิดจะอ่านหน่อยแงะ" มายด์ ถามขึ้นอย่างทันที "ไม่อะ ตอนนี้อยู่กับมึงจะให้ไปยุ่งกับคนอื่นทำไมวะ" "เดี๋ยวมึงก็ต้องเปิดอ่านอยู่ดีก็อ่านไปเลยมันเป็นอะไร" "ก็ตอนนี้กูอยู่กับมึงไง" "อ่านต่อหน้าหรืออ่านลับหลังกูก็รู้อยู่ดีว่ามึงก็มีคนอื่นด้วยอีกอย่างพี่พูดเองไม่ใช่หรอว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกัน" ข้อนี้จริงๆ มายด์เพิ่งตกลงกับตัวเองได้เมื่อสักพักนี้ ว่าจะยังคงอยู่แบบนี้ต่อไป ยินดียอมรับในความสัมพันธ์ไม่มีชื่อเรียก เพียงขอให้มีเวลาได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ก็พอใจแล้ว ยินดีที่จะอยู่ในจัดของตัวเอง ไม่ลุกล้ำเข้าไปก้าวก่ายหรือข้ามเส้นอะไร และจะท่องไว้เสมอว่าระหว่างตัวเองกับเคนตะ -สุดท้ายวันหนึ่ง มันต้องจบลง- นี่คือตัวอย่างของการที่เราไม่คาดหวัง เพราะมายด์เชื่อเหลือเกินว่าตอนที่เราไม่คาดหวังเราก็จะไม่ผิดหวังและเมื่อเราไม่ผิดหวังเราก็จะไม่เจ็บ "มันไม่ได้เกี่ยวที่มึงรู้หรือไม่รู้แต่กูอยากใช้เวลาตรงนี้อยู่กับมึงโดยที่ไม่ต้องไปยุ่งกับคนอื่น คำว่าไม่ยุ่งของกูก็คือ ไม่ต้องตอบแชทไม่รับสายไม่อะไรเลยสนใจแต่มึงคนเดียวเข้าใจไหม" มายด์ไม่เข้าใจว่าทำไมเคนตะ จะต้องมาทำเหมือนว่าเธอสำคัญด้วยเพราะความจริงแล้วตอนนี้เธอก็เข้าใจทุกอย่างและพร้อมยินดียอมรับมันแล้วด้วยซ้ำแต่สิ่งที่เค้าทำอยู่ตอนนี้มันเหมือนเป็นสิ่งที่ทำให้เธอ รู้สึกว่าตัวเองสำคัญทั้งที่ความจริงมันก็ไม่ใช่มันกลับทำให้เธอสับสนมากขึ้นไปอีกมากกว่าว่าควรจะต้องรู้สึกยังไง "เรื่องของมึงเหอะ" "ดูทำหน้า" "เอ๊ะ!!" เคนตะก้มลงไปหอมแก้มคนที่นั่งซบอยู่ที่ไหล พอเจ้าตัวโวยวายเขาก็หัวเราชอบใจใหญ่ จริงๆ แล้วตอนนี้ไม่ใช่แค่มายด์คนเดียวหรอกที่กำลังสับสน เคนตะเองก็ต่อสู้กับความรู้สึกของตัวเองมากพอสมควรเหมือนกัน. . .
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม