----07----
ผ่านมา 2-3 วันนับตั้งแต่ที่เจอกันที่ผับมายด์กับเคนตะก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย ทางฝ่ายชายที่หายไปก็เพราะมีสาวน้อยนางเอกใหม่มาให้เล่น ให้ชื่นชม จึงทำให้ลืมของเก่าอย่างมายด์ไปจนสนิท ฝั่งผู้หญิงก็เพราะคิดทบทวนอะไรหลายๆ อย่างว่าควรจะอยู่หรือควรจะหยุด
ตึ้ง~
เสียงไลน์ทำให้คนที่นอนเหม่ออยู่บนเตียงลนลานลุกขึ้นมาเปิดดูอย่างรีบร้อน
-พี่สาว-
เป็นพี่สาวแท้ๆ ของมายด์ที่ส่งข้อความมาหา จะว่าไปก็ไม่ได้ติดต่อทางบ้านไปเลยนี่ เธอฉุกคิดขึ้นมาได้
พี่สาว : ทำไรอยู่ ว่างมั้ย
Mild : ว่าง
พี่สาว : แม่คิดถึง อยากคุยด้วย
เมื่ออ่านได้แบบนั้นมายด์ก็รีบกดโทรหาปลายสายทันที
"สวัสดีจ่ะแม่"
"มายด์ มายด์"
แม่ร้องเรียกลูกสาวน้ำตาไหลพราก พอเห็นแม่ร้องไห้ลูกสาวก็ใจคอไม่ดี ‘นี่เราสร้างความไม่สบายใจให้แม่อีกแล้วหรือ’ เธอคิดในใจ
"แม่เป็นไร ร้องไห้ทำไม"
มายด์ถามเสียงสั่น ใจก็นึกห่วงแม่
"ผอมไปรึป่าวลูก สบายดีหรือป่าว ทำไม่ไม่โทรหาแม่เลย"
ก็ตามนั้นคนเป็นแม่เห็นลูกสาวหายไป ก็ต้องห่วงลูกสาวเป็นธรรมดา มาอยู่ไกลบ้านขนาดนี้ใครล่ะจะไม่ห่วง มายด์คุยกับแม่อยู่พักใหญ่จนท่านสบายใจก็ส่งโทรศัพท์ต่อให้พี่สาว
"ยังไง ทำไมไม่โทรหาแม่เลย"
มิ้นท์พี่สาวของมายด์ถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจนัก คนที่บ้านเป็นห่วงกันแย่ แต่ดูน้องสาวจะไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไรเลย
"มันยุ่งๆ"
"ไปตั้งนานละ แม่เป็นห่วงรู้บ้างมั้ย นึกว่าเครื่องบินตกตายไปแล้ว"
แต่ไหนแต่ไรมามิ้นท์ก็มักจะดุมายด์อยู่เสมอ เพราะความดื้อเงียบ ดื้อลึกๆ ของน้องสาว
"ก็คุยกันแล้วนี่ไง"
"กูไม่โทรไปจะได้คุยมั้ย เคยคิดถึงคนอื่นบ้างรึป่าวพ่อแม่น่ะเค้าเป็นห่วง"
"รู้แล้ว ก็ว่าจะโทรหาอยู่"
"จะทั้งปี"
มิ้นท์ก็บ่นน้องสาวอยู่พักใหญ่จนเริ่มเหนื่อย มานด์เป็นพวกดื้อตาใส ด่าให้ตายก็ไม่จำ
"แล้วไปอยู่โน่นไม่มีเรื่องผู้ชายใช่มั้ย"
คำถามนี้ฟาดลงบนหน้าของมายด์เข้าอย่างจัง ทั้งช็อคทั้งจุกทำอะไรไม่ถูกได้แต่นิ่ง นี่แหละที่เขาว่าคนอาบน้ำร้อนมาก่อนเห็นเป็นมีตาทิพย์
"ทำหน้าแบบนี้มีใช่มั้ย"
มิ้นท์พยายามเค้นถามน้องสาว เมือเห็นอาการแปลกๆ
"โหย พี่เคยเห็นหนูมีแฟนรึไง"
"เคย ไอ้เคนไงทะเลาะกับที่บ้านแทบตายให้เลิกก็ไม่เลิก"
เรื่องนี้วนกลับมาในความจำของมายด์อีกครั้งตอนที่คบกับเคนครั้งแรกที่บ้านไม่ชอบเคนเลย เหตุผลหนึ่งเพราะบ้านเคนย้ายไปมาตลอดไม่มีหลักแหล่ง ป้าของเครก็ติดไพ่ติดพนัน เคนเองก็กำพร้า บ้านของมายด์เลี้ยงดูประคบประหงบลูกสาวมาอย่างดี ไม่อยากให้ต้องลำบาก แต่เพราะอนุภาคแห่งนักนั่นแหละที่ทำให้มายด์ยอมทะเลาะกับคนทั้งบ้านเพื่อให้ได้คบกับเคน แต่สุดท้ายทุกอย่างก็จบลงหลังจากที่บ้านจับมายด์ส่งเข้าโรงเรียนประจำ
"เรื่องมันตั้งกี่ปีพี่ยังพูดถึงอีก"
"ก็อยากจะเตือนแก จะรักใครมันก็รักได้แต่อย่ารักมันมากกว่าที่รักตัวเองเพราะสุดท้ายแล้วอ่ะคนที่จะเจ็บที่สุดก็คือตัวเธอเอง"
"รู้แล้ว"
"รู้ตลอด"
"จริงๆ"
"เออ ถ้างั้นก็ไม่กวนละว่าจะโทรไปใหม่แม่เค้าคิดถึง"
"แม่คิดถึงหรือตัวเองคิดถึง"
มายด์แกล้งแซวพี่สาว เพราะหวังจะให้มิ้นท์อารมณ์เย็นลง
"เออก็ไม่รู้จะด่าใครนี่แหละ งั้นแค่นี้นะอย่าลืมที่สอนล่ะ"
มายด์พยักหน้ารับก่อนจะโบกมือลาพี่สาว
ก๊อก ก๊อก ก๊อก~
หลังจากวางสายพี่สาวได้สักพักเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ร่างเล็กๆ ที่นอนกลิ้งเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียงจึงลุกขึ้นมาเปิดประตูโดยไม่ได้คิดอะไร
"ไง"
เสียงของคนตรงหน้าเหมือนกับน้ำ 1 ถังใหญ่สาดเข้ามาในห้อง เธอไม่ทันได้จั้งตัวก่อนว่าคนใจร้ายจะมาหาถึงห้อง
"มึงมาทำไม"
มายด์ถามเสียงแข็ง และไม่มีทีท่าว่าจะยอมให้เข้ามาในห้อง
"วันนี้อารมณ์ดีก็เลยซื้อของมากินด้วยกัน ไป ไปแกะ จะได้กินกัน"
เคนตะไม่สนใจทีท่าต่อต้านของเจ้าของห้อง เขาทำท่าจะเดินเข้ามาในห้องอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว
"แต่กูอารมณ์ไม่ดีอยากกิน ก็ไปกินกับผู้หญิงคนอื่น"
"อะไรอีกล่ะ กอารมณ์ดีดี มึงก็มาทำให้เสียเรื่อง"
"กูทำอะไรกูยังไม่ได้ทำอะไรเลย"
"ไม่ได้ทำก็ไม่ได้ทำ หลบไปกูหนัก จะกินมั้ยซื้อมาฝากเนี่ย"
"ไม่กิน ไม่หิว"
"แต่กูหิว"
มายด์ยังคงยืนขวางประตูไม่ให้เคนตะเข้ามา
"ไม่รักกูแล้วหรือไง ถ้ากูหิวตายขึ้นมามึงจะทำยังไง"
ไม่รู้หรอกว่าคำพูดนี้เป็นคำพูดจริงหรือพูดเล่นแต่มันทำให้คนฟังหัวใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะเลยทีเดียวและแน่นอนว่าเหมือนเป็นคาถาปลดล็อคความรู้สึกเจ็บปวดทั้งปวงที่เคยเกิดขึ้นกับผู้หญิงที่ชื่อมายด์ตรงหน้าเขา
สุดท้ายแล้วผู้บุกรุกก็บุกเข้ามาในห้องพร้อมกับอาหารทะเลชุดใหญ่ได้สำเร็จเค้าจัดการแกะทุกอย่างใส่จานด้วยตัวเองโดยให้เจ้าของห้องนั่งรออยู่ที่โซฟา
"มาแล้วครับ"
เคนตะพูดพร้อมกับเดินยกจานกุ้งมาวางบนโต๊ะ
"อยากกินไม่ใช่หรอตอนเด็กเด็กเห็นบ่นตลอด"
"กูอายุเท่าไหร่แล้ว ไปกินมาจนจะหมดทะเลแล้วมั้ง"
มายด์ตอบกระแทกกระทั้น แต่ในใจลึกลึกก็แอบดีใจที่เคนตะยังจำได้
"อ๋อเหรอ งั้นที่ซื้อมานี่ก็จะไม่กิน"
"กิน"
มายด์พูดพร้อมกับหยิบกุ้งขึ้นมาถือไว้ในมือ
"แล้วก็ปากดี"
ทั้งคู่นั่งกินอาหารด้วยกันพร้อมทั้งเปิดทีวีดูไปด้วยกระทั่งอาหารหมดเคนตะก็เป็นคนเก็บกวาด เก็บจานทำความสะอาดโต๊ะเรียกได้ว่าบริการเต็มที่เลยทีเดียว หลังจากเก็บกวาดทำความสะอาดทุกอย่างเสร็จแล้ว เคนตะ ก็กลับมาที่โซฟาหน้าทีวี
ไลน์!!!~
เสียงแจ้งเตือน LINE ดังมาจาก โทรศัพท์ของเคนตะขณะที่เขากำลังนั่งดูทีวีอยู่กับมายด์ในลักษณะที่มายด์นั่งพิงไหล่เขาอยู่ เคนตะเพียงแค่มองโทรศัพท์ไม่แม้แต่จะหยิบขึ้นมาดู
"มึงไม่คิดจะอ่านหน่อยแงะ"
มายด์ ถามขึ้นอย่างทันที
"ไม่อะ ตอนนี้อยู่กับมึงจะให้ไปยุ่งกับคนอื่นทำไมวะ"
"เดี๋ยวมึงก็ต้องเปิดอ่านอยู่ดีก็อ่านไปเลยมันเป็นอะไร"
"ก็ตอนนี้กูอยู่กับมึงไง"
"อ่านต่อหน้าหรืออ่านลับหลังกูก็รู้อยู่ดีว่ามึงก็มีคนอื่นด้วยอีกอย่างพี่พูดเองไม่ใช่หรอว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกัน"
ข้อนี้จริงๆ มายด์เพิ่งตกลงกับตัวเองได้เมื่อสักพักนี้ ว่าจะยังคงอยู่แบบนี้ต่อไป ยินดียอมรับในความสัมพันธ์ไม่มีชื่อเรียก เพียงขอให้มีเวลาได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ก็พอใจแล้ว ยินดีที่จะอยู่ในจัดของตัวเอง ไม่ลุกล้ำเข้าไปก้าวก่ายหรือข้ามเส้นอะไร และจะท่องไว้เสมอว่าระหว่างตัวเองกับเคนตะ -สุดท้ายวันหนึ่ง มันต้องจบลง- นี่คือตัวอย่างของการที่เราไม่คาดหวัง เพราะมายด์เชื่อเหลือเกินว่าตอนที่เราไม่คาดหวังเราก็จะไม่ผิดหวังและเมื่อเราไม่ผิดหวังเราก็จะไม่เจ็บ
"มันไม่ได้เกี่ยวที่มึงรู้หรือไม่รู้แต่กูอยากใช้เวลาตรงนี้อยู่กับมึงโดยที่ไม่ต้องไปยุ่งกับคนอื่น คำว่าไม่ยุ่งของกูก็คือ ไม่ต้องตอบแชทไม่รับสายไม่อะไรเลยสนใจแต่มึงคนเดียวเข้าใจไหม"
มายด์ไม่เข้าใจว่าทำไมเคนตะ จะต้องมาทำเหมือนว่าเธอสำคัญด้วยเพราะความจริงแล้วตอนนี้เธอก็เข้าใจทุกอย่างและพร้อมยินดียอมรับมันแล้วด้วยซ้ำแต่สิ่งที่เค้าทำอยู่ตอนนี้มันเหมือนเป็นสิ่งที่ทำให้เธอ รู้สึกว่าตัวเองสำคัญทั้งที่ความจริงมันก็ไม่ใช่มันกลับทำให้เธอสับสนมากขึ้นไปอีกมากกว่าว่าควรจะต้องรู้สึกยังไง
"เรื่องของมึงเหอะ"
"ดูทำหน้า"
"เอ๊ะ!!"
เคนตะก้มลงไปหอมแก้มคนที่นั่งซบอยู่ที่ไหล พอเจ้าตัวโวยวายเขาก็หัวเราชอบใจใหญ่ จริงๆ แล้วตอนนี้ไม่ใช่แค่มายด์คนเดียวหรอกที่กำลังสับสน เคนตะเองก็ต่อสู้กับความรู้สึกของตัวเองมากพอสมควรเหมือนกัน. . .