รักนั้น ณ กาลครั้งหนึ่ง
สองร่างเปลือยเปล่านอนแผ่หลาพาดกันอยู่บนเตียงที่ยับยู่ยี่เนื่องจากกิจกรรมเมื่อสักพัก ร่างสูงใหญ่ขยับตัวหันหลังให้กับเจ้าของห้อง น้ำตาที่เริ่มจะหลั่งไหลของมายด์ทำให้ภาพที่มองเห็นมันพร่าเบลอไปหมด เธอมองเห็นเพียงแผ่นหลังกว้างเปลือยเปล่าของคนที่เธอรักแสนรัก ร่างบางที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยรอยแดงจากการดูด อีกทั้งรอยช้ำจากการออกแรงอย่างหนักมือของคนที่นอนอยู่ข้างๆ ค่อยๆ ขยับพลิกตัวหันหน้าไปอีกด้านส่วนหนึ่งเพราะไม่อยากมองเห็นคนเลวที่นอนอยู่ข้างๆ อีกส่วนหนึ่งก็อยากจะหลบมาแอบร้องไห้ มันคือความผิดพลาดครั้งใหญ่จริงๆ นั่นแหละผิดที่คิดจะตามหาเค้า ผิดที่ไม่คิดไต่ตรองให้ดีวันเปลี่ยนเวลาเปลี่ยนใจคนก็เหมือนกัน ข้อนี้คงต้องยอมรับว่าไม่ได้นึกถึงเลย เพราะคิดว่ารู้จักกัน และรู้จักดีแต่นั่นมันก็กี่ปีที่แล้วล่ะ ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บลึกๆ ที่กลางใจ. . .
06:11
มายด์ค่อยๆ ลืมตาขึ้นรู้สึกปวดระบมไปทั้งตัวจำได้ว่าก่อนฟ้าสาง คนหื่นที่บุกเข้ามาในห้องได้กระทำชำเลาเธออีกครั้งก่อนจะหมดเรี่ยวแรงและหลับไป ร่างบางที่แสนบอบช้ำลุกขึ้นนั่งบนเตียงแล้วกวาดสายตามองหาอีกคนในห้อง แต่ไม่เห็นแม้เงาของเขา ก็คงกลับไปแล้วสินะ ได้สิ่งที่ต้องการแล้วนี่เผลอๆ อาจจะไปตั้งแต่จบยกสุดท้ายแล้วด้วยมั้ง มายด์คิดด้วยความน้อยใจ
ตึ้ง~
?kenta : ตื่นได้แล้วแม่คุณป่านนี้ญี่ปุ่นหายไปครึ่งประเทศแล้วมั้ง
ถึงจะงงๆ ว่าไลน์ของเคนตะมาโผล่ที่นี่ได้ไงแต่ข้อความกวนๆ นี้ก็เรียกรอยยิ้มของคนอ่านได้โดยที่เธอไม่รู้ตัว
Mild : เออ กูตื่นละ
? kenta : อาบน้ำด้วย กลิ่นลอดผ่านมาทางไลน์ละ
Mild : เวอร์
? kenta : เออ ลุกไปอาบน้ำเถอะต้องไปทำงานนี่มึง
Mild : รู้ละ
? kenta : หาไรแดกด้วยละ ผอมชิบหายกอดไม่อุ่น
Mild : ???
จบบทสนทนามายด์เอาแต่ยิ้มจนแก้มแทบแตก คำพูดกวนๆ ที่แสนคุ้นเคยเหมือนได้ย้อนกลับไปเป็นเด็กมัธยมอีกครั้ง หัวใจที่พองโต จังหวะการเต้นที่เฟมือนกันกับตอนนั้น มันเป็นความรู้สึกที่ดีจนเผลอลืมเรื่องแย่ๆ ไปจนเกือบหมด เผลอลืมไปว่ากำลังโกรธเกลียดผู้ชายที่บุกมาในห้อง เอาคลิปมาขู่ขอขืนใจ แถมยังพูดจาทิ่มแทงหัวใจดวงน้อยที่เปี่ยมไปด้วยรักที่พร้อมยกให้กับเขา
หลังจากอาบน้ำเสร็จมายด์ก็กินอาหารเช้าตามคำสั่งของคนในไลน์ อาหารก็ง่ายๆ ขนมปังปิ้งกับกาแฟร้อนๆ เพราะเมื่อคืนนอนดึกใช้พลังงานไปก็มาก เลยจำเป็นต้องดื่มกาแฟเพื่อเรียกพลังให้มากพอที่จะทำงานทั้งวัน
ตึ้ง~
Layishi : เที่ยงนี้ไปกินข้าวด้วยกันมั้ยครับ
Mild : ไม่เหมาะมั้งคะ
Layishi : ไปกันหลายคนครับ ร้านใกล้ๆ นี้เอง
Mild : งั้นก็ได้ค่ะ
ตึ้ง~
ระหว่างที่กำลังพิมพ์พูดคุยกับหัวหน้างานอยู่ไลน์ของใครบางคนก็แทรกขึ้นมา
? kenta : อย่าลืมแกกข้าวด้วย ไม่ชอบคนผอม
Mild : ไม่ชอบก็เรื่องของมึงสิ
? kenta : ถ้ากูเป็นมึง กูจะไม่พูดแบบนี่กับคนที่มีคลิปโป๊พร้อมปล่อย
Mild : ก็มึงเป็นพระเอกหนังโป๊ป้ะ?
? kenta : ปากปบบนี้มันต้องจูบแล้วขยี้
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูทำคนที่กำลังก้มหน้าก้มตาพิมพ์อย่างยิ้มแย้ม สะดุ้งตกใจจนแทบโยนโทรศัพท์ทิ้ง
"ไปกินข้าวกัน บอสจะเลี้ยง"
เป็นพี่แจงที่เข้ามาเรียก มายด์รีบเงยหน้าขึ้นก่อนจะพยักหน้ารับ ถือว่าโชคดีถ้าหัวหน้าแผนกมาเจอคงโดนสวดยับ
Mild : กูไปกินข้าวละนะ
? Kenta : ไปกับใคร
Mild : พี่ๆ ที่ทำงาน
? Kenta : ไอ้เลย์ไปรึป่าว
มายด์ชะงักครู่หนึ่ง เพราะแอบฉุกคิดว่าควรหรือไม่ควรบอก
Mild : ไป
? Kenta : เออขอให้อร่อย
จบประโยคสุดท้ายมายด์ก็ลุกออกจากกองเอกสารเพราะกลัวคนอื่นๆ จะรอนาน เดินออกมาถึงหน้าออฟฟิศก็เจอแจงรออยู่ที่รถของบอสเลย์พร้อมกับพนักงานคนอื่นอีก 2 คน
"ไม่เคยไปที่ร้านใช่ไหม ไปด้วยกันสิ"
มายด์ยืนนิ่งแล้วหันไปมองหน้าแจงที่นั่งอยู่ในรถ
"ไปเหอะ"
แม้ปากจะพูดชวน แต่ดูสีหน้าแล้วเหมือนแจงจะไม่อยากให้ไปด้วยเท่าไหร่นัก ทำให้มายด์ได้แต่ยืนลังเลมองดูรถว่าจะไปหรือไม่ไปดี
"ไป ขึ้นรถ"
ในที่สุดก็ถูกบอสเดินเข้ามาคว้าแขนลากขึ้นรถ
"พี่ไม่อยากให้มีปัญหาเลย"
รถขับออกมาได้ครู่หนึ่งแจงก็พูดขึ้นด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล
"คะ"
"ก็คนในออฟฟิศดิ เริ่มเม้าท์ว่ามายด์จะมาเต๊าะบอส"
ทั้งคู่คุยกันเป็นภาษาไทยทำให้คนอื่นๆ บนรถฟังไม่รู้เรื่อง แต่เลย์อิชิก็แอบมองอยู่เป็นระยะ
"เต๊าะ บอส?"
"ใช่ คนเค้าเม้าท์กันเรื่องที่มายด์ขาดงานมาวันแรกก็ไปอ่อยบอสถึงห้องทำงาน แล้ววันนี้มาขึ้นรถบอสแบบนี้คนอื่นจะมองไม่ดีเอานะ"
คำพูดของแจงพาให้คิดมากไปต่างๆ นานา จริงๆ ก็ไม่ได้มีท่าทีแบบนั้นสักหน่อย คนหนอคนคิดกันได้
ไม่นานก็ถึงร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิมทั้งการตกแต่งและบรรยากาศในร้าน
"ตอนอยู่บนรถคุณกับแจงคุยอะไรกันสีหน้าดูเครียดๆ"
เลย์เดินมาประกบมายด์ก่อนเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง มายด์แอบงงนิดๆ ที่ลอสไม่ได้ตั้งชื่อให้กับพี่รหัสของเธอทั้ฃที่ชื่อแจงดูจะออกเสียงยากกว่ามายด์ด้วยซ้ำ
"เรื่อง...ข่าวที่ไทยค่ะ"
"อ้อ ผมไม่ค่อยติดตามข่าวต่างประเทศเลยไม่รู้เรื่องอะไรเลย..."
มายด์และเลย์อิชิเดินคุยกัยไปอย่างสนิทสนมจนทำให้คนอื่นๆ จ้องมองกันตาเขียวบ้างก็แปลกใจที่บอสมีท่าทีพอใจเด็กใหม่ บ้างก็อิจฉาริษยาที่บอสทำตัวเป็นกันเองขนาดนั้น เพราะโดยปกติแล้วเลย์อิชิจะไม่ค่อยมาสุงสิงกับพนักงานนัก
Mild : ถึงร้านแล้วนะ
อยู่ๆ มือมันก็กดส่งไปรายงานเขาซะอย่างนั้น แต่เฝ้ารอดูข้อความตอบกลับก็ต้องรอเก้อเพราะแม้แต่อ่านเขาก็ยังไม่อ่าน
"บอสมาร้านนี้บ่อยรึป่าวคะ"
แจงเป็นคนเริ่มเปิดบทสนทนาระหว่างที่ทุกชีวิตบนโต๊ะเอาแต่เงียบ
"เคยมากับเพื่อนครั้งหนึ่งครับ"
เลย์อิชิตอบในขณะที่สายตายังคงมองดูคนที่นั่งเยื่องกันเอาแต่ก้มหน้าดูโทรศัพท์
"แล้ว...ปกติชอบกินอาหารญี่ปุ่นมั้ยคะ"
แจงยังคงยิงคำถามต่อ
"ครับก็ชอบ"
แจงเริ่มสงสัยว่าบอสมองอะไรจึงมองไปตามสายตานั้น พอเห็นว่าเป็นยัยน้องรหัสตัวดีเลยเบนความสนใจไปที่มายด์บ้าง
"แล้วมายด์ล่ะชอบอาหารญี่ปุ่นมั้ย"
ไม่มีเสียงตอบรับ คนถูกถามให้ความสนใจกับโทรศัพท์จนไม่ได้ฟังคำถาม
"มายด์ !! มายด์!!"
มายด์สะดุ้งเฮือกพอถูกเรียกดังๆ เข้า ตากลมโตลนลานมองหาต้นเสียง
"ไม่มีมารยาทเลยนะ มากินข้าวกับคนตั้งเยอะ สนใจแต่โทรศัพท์ได้ไง ทำตัวเป็นเด็กๆไปได้"
แจงบ่นเสียงดังจนคนในบริษัทที่นั่งอยู่อีกโต๊ะหันมามอง
"ขอโทษนะคะ"
มายด์รีบเอ่ยปากขอโทษ
"เอาเถอะ นี่มันเวลาพักใครอยากทำอะไรก็อย่าว่ากันเลย"
เลย์อิชิรีบออกตัวปกป้องจนแจงที่เพิ่งเอ็ดมายด์ไปเมื่อครู่ถึงกับหน้าชา
"กินอาหารเถอะจะหมดเวลาพักก่อนนะ"
เลขาของเลอิชิพูดขึ้นบ้าง
ระหว่างที่กินอาหารกันทุกคนก็แลกเปลี่ยนพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน เลย์อิชิก็แอบมองมายด์อยู่เป็นระยะบางทีมีจังหวะก็ชวนคุยบ้าง แต่ก็จะโดนแจงแย่งตอบอยู่บ่อยๆ จนเขาเริ่มรู้สึกรำคาญพนักงานคนนี่อย่างบอกไม่ถูก ส่วนมายด์ก็เอาแต่รอเคนนะนอบไลน์จนเผลอส่งข้อความไปเสียมากมายอย่างไม่ตั้งใจ เมื่อกินกันเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลาต้องกลับไปทำงานต่อ เมื่อมาถึงบริษัทเลย์อิชิก็ยังไม่วายที่จะหาเรื่องชวนมายด์คุยต่อ
"อร่อยรึป่าว"
เขาเดินตามมาด้วยความรวดเร็วแล้วเอ่ยปากถาม
"ค่ะ ขอบคุณนะคะ"
"ไว้คราวหน้าผมจะพาไปร้านที่ผมชอบนะไกลหน่อย ไปตอนเลิกงานน่าจะดีกว่า"
"ไปด้วยสิคะ"
เสียงของแจงดังขึ้นมาจากด้านหลัง สร้างความหงุดหงิดให้กับหนุ่มญี่ปุ่นไม่น้อย เขาไม่ตอบแจงแต่หันไปโบกมือลามายด์ก่อนจะเดินแยกไปห้องทำงานตัวเอง
"นี่ ดูสนิทกับบอสจังนะ"
แจงละสายตาจากแผ่นหลังกว้างขอเลย์อิชิแล้วหันมาพูดกับมายด์
"สนิทอะไรล่ะพี่ ก็รู้จักกันฐานะเจ้านายกับลูกน้องนั่นแหละ"
"แหม เค้าชวนไปกินข้าวกันเยี่ยก็แค่เอาไปเป็นสะพานทอดมาหาแกหรอกคิดว่าพี่ดูไม่ออกหรือไงทั้งโต๊ะชวนแกคุยอยู่คนเดียว"
"ไม่ใช่หรอกมั้งพี่"
"นี่แกยังดูไม่ออกอีกหรอว่าเค้าจีบแกน่ะ"
มายด์ส่ายหัวไปมา
"นี่ รุกขนาดนี้ถ้าเป็นพี่นะท้องไปแล้วจ้า"
"ไม่ใช่หรอกมั้งพี่บอสเป็นเกย์ไม่ใช่หรอ"
"โอ้ย ตอนแรกใครๆ ก็คิดแบบนั้นอะ แต่ตอนนี้ก็เมาท์ๆ กันว่าเค้าจีบแกอยู่"
"จีบเจิบอะไรอะไม่มีหรอก"
"แล้วแต่แกนะพี่ว่าพี่มองออก เออแล้วคืนนี้ไปอีกปะ"
"ไปได้ แต่ไม่เมาแล้วนะ"
"โอเค เจอกันร้านเดิมนะ"
ตลอดเวลาทำงาน มายด์ก็จ้องแต่โทรศัพท์จนถึงเลิกงาน
Mild : ทำไมหายไปเลยวะ
ระหว่างแต่งตัวข้อความจากมายด์ยังคงส่งไปแย่างไม่หยุด
ตึ้ง~
จนในที่สุดแจ้งเนือนก็ดังขึ้น มือเรียวรีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาดู แต่กลับต้องผิดหวัง
-Layishi-
Layishi : วันนี้ว่างหรือป่าวครับ
Mild : มีนัดกับพี่แจงค่ะ
Layishi :ไปไหนกันล่ะ
Mild : แฮงค์เอาท์กันนิดหน่อย ที่ Jc
**[แฮงค์เอ้าท์ : handout>>ใช้ เวลาว่างกับเพื่อนๆโดยไม่ได้มีเป้าหมายอะไร พิเศษ]
Layishi : หวังว่าโอกาสหน้าผมจะได้รับคำเชิญบ้างนะครับ
Mild : บอสดื่มด้วยหรอคะ
Layishi : ทำไมครับ ผมดูอ่อนต่อโลกขนาดนั้นเลยหรอ
Mild : ป่าวค่ะแค่รู้สึกว่าคุณดูเป็นผู้ชายเรียบร้อย
Layishi : คุณคงคิดว่าผมเป็นเกย์ล่ะสิ
Mild : ป่าวนะคะ แค่บอกว่าคุณดูเรียบร้อย
Layishi : ถือว่าเป็นคำชม ผมไม่กวนคุณแล้ว ขอให้สนุกนะครับ
Mild : ?
แชทของเลย์อิชิพาให้มายด์ลืมความสนใจจากการรอให้เคนตะตอบไปได้จนกระทั่งเดินทางมาถึงที่นัดหมาย
ตึ้ง~
-พี่แจง-
Jang : มุมสุดซ้ายมือใกล้ๆ โต๊ะเดิม
มายด์เดินไปตามพิกัดที่แจงส่งให้ดมื่อไปถึงก็เจอเพื่อนๆ ชุดเดิมยืนโบกไม้โบกมือเรียกอยู่
ตึ้ง~
? kenta : โทษทีว่ะกูมีถ่ายงานทั้งคืนเลย วันนี้ก็ทั้งวัน
Mild : อืม
คำตอบที่ได้ค่อนข้างบีบหัวใจเล็กน้อยเพราะเป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าถ่ายงานในที่นี้หมายถึงทำอะไรๆ
พอหัวใจมันเฮิร์ทมือก็ยกแก้วเหล้าซดจนเริ่มมึน อาการดูจะเข้าทางเดิม เมาเป็นหมาแน่ๆ
"ไปเข้าห้องน้ำกันมั้ย"
หนึ่งใยสมาชิกบนโต๊ะเอ่ยถามมายด์พยักหน้าพร้อมกับลุกเดินตามไปที่ห้องน้ำ
"รอนี่นะ"
มายด์รู้ดีว่าในห้องน้ำคนค่อนข้างเยอะตัวเองๆม่เข้าเลยไม่อยากเข้าไปยืนเบียดกับใครจึงเลือกที่จะรออยู่ด้านหน้า หน้าห้องน้ำตรงนี้อยู่ๆ มันก็พาให้นึกถึงเรื่องคืนนั้นขึ้นมา คืนที่เมาจนโดนลากไปเสียสาว สมิงคิดไปตาก็มองโน่นมองนี่กระทั่งไปสะดุดกับภาพตรงหน้าที่ห่างออกไปเพียงไม่กี่ก้าว แม้ผู้คนจะเดินพลุกพร่านเป็นอุปสรรคต่อการมองเห็น แต่มายด์กมั่นใจว่าคนที่เห็นตรงหน้าคือคนที่เธอกำลังนึกถึงอยู่
"ไอ้เคน"
มายด์ก้าวฉับๆ เข้าไปร้องเรียกเขาจากด้านหลัง คนถูกเรียกหันมาด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างตกใจ
"มึงมาทำไรเนี่ย"
เคนตะถามขึ้นกลบเกลื่อนอาการตกใจของตัวเอง
"มึงนั่นแหละมาทำไร ถ่ายวานที่นี่หรอ"
ระหว่างที่ทั้งคู่ยืนเถียงกันอยู่สาวร่างบางผิวขาวออร่าสไตล์สาวญี่ปุ่นก็เดินโซซัดโซเซเข้ามาเกาะแขนของเคนตะ
"อีนี่ใคร"
เสียงใสใสที่บอกถึงระดับความเมาของคนถามเอ่ยขึ้น
"ไม่รู้จักกันหรอก เค้ามาขอบุหรี่นะ"
"กูฟังออกนะไอ้เคน"
มายด์โวยขึ้น
"มันพูดว่าอะไรคานะฟังไม่รู้เรื่อง"
สาวญี่ปุ่นโวยวาย
"คานะเมามากแล้ว คานพไปรอที่โต๊ะก่อนนะ"
เคนตะหันไปบอก เหมือนกับท่องคาถาสะกดจิตคนฟังทำตามคำขออย่างกับหมาที่เชื่องต่อเจ้าของ
"ตกลงยังไง มึงหลอกกูใช่มั้ย"
พอคานะให้หลังไปมายด์ก็ท้าวเอวโวยใส่เคนตะทันที
"มึงอย่าเยอะนะมายด์"
"เยอะ? กูเยอะอะไร"
"ที่ทำตัวเป็นเจ้าของกูอยู่นี่ไง มึงอย่าลืมนะว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกัน"
คำพูดที่รุนแรงพอๆ กับแรงจากฝ่ามือฟาดลงบนหน้าทำให้คนฟังชาไปทั้งตัว
"เรื่องข้อความอีกมึงจะส่งรัวๆ มาทำไมถ้ากูไม่ส่งไปก็ไม่ต้องส่งมา"
"แล้วมึงจะส่งมาหากูทำไม"
"เหงาๆ ใครตอบกูก็คุย"
จากหัวใจที่เต้นแรงอย่างสดชื่นเวลาเห็นข้อความ พอเจอประโยคนี้มันเหมือนหัวใจถูกควักออกมากระทืบบนพื้นแล้วคนในร้านก็เดินเหยียบมันซ้ำๆ
"สำหรับมึงแล้ว กูเป็นอะไรวะ"
มายด์กลั้นน้ำตาก่อนจะก้มหน้าเอ่ยถาม
"อย่าให้กูบอกสถานะเลย มันจะเจ็บยิ่งกว่าที่กูพูดมาทั้งหมดเมื่อกี้อีก"
ตามี่ร้อนผ่าวอยู่แล้วเริ่มเอ่อนองด้วยน้ำใสใสอุ่นๆ
"แล้วจำไว้นะ ถ้ากูไม่ต้องการมึง ก็ไม่ต้องพยายามแทรกตัวเข้ามาหากู มันจะทำให้กูเบื่อมึงได้ง่ายๆ"
พูดจบร่างสูงก็เดินออกไปทิ้งให้คนฟังยืนร้องไห้คนเดียวท่ามกลางคนพลุกพล่านที่หน้าห้องน้ำ...