เช้าวันต่อมา...
“อื้อ~” มะปรางรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในช่วงสาย ๆ ของอีกวัน เธอส่งเสียงครางกระเส่าในลำคอเบา ๆ ทักทายแสงสว่างจ้าที่กระทบสู่ม่านตา หลังจากที่เปลือกตาค่อย ๆ เปิดออก ความเจ็บปวดที่เล่นพล่านไปทั่วร่างกายทำให้เธอนิ่วหน้าเล็กน้อย
“เฮีย...” มะปรางเอ่ยเรียกคนที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำ มือข้างหนึ่งของเตชินไล่เช็ดผมที่เปียกชุ่มด้วยผ้าขนหนูผืนเล็กที่พาดอยู่ตรงบ่า พร้อมเดินไปหาคนขี้เซาบนเตียงนอน
“ครับ”
“หนูลุกไม่ไหว”
“อะไรนะ หนูลุกไม่ไหวเหรอ” คนทะเล้นหย่อนตัวลงนั่งพร้อมหยัดแขนทั้งสองข้างกักขังคนตัวเล็กเอาไว้ในอ้อมกอด ก่อนจะก้มไปจูบแนบชิดปากอวบอิ่มอย่างหยอกล้อ มะปรางพยายามหันหน้าบ่ายเบี่ยง แต่ก็โดนอีกฝ่ายจูบต้อนไปทั่วทั้งดวงหน้า
“อื้อ หนูเจ็บ”
“เมื่อคืนเฮียรุนแรงกับหนูเหรอ ไหนเฮียขอดูหน่อย” พูดจบเขาก็สลัดผ้าห่มออกจากเรือนร่างของคนตัวเล็ก ก่อนจะสวมบทบาทเป็นคุณหมอเพื่อทำการตรวจภายในให้กับเด็กสาว “เจ็บตรงไหนบอกเฮีย”
“ไม่เอานะเฮีย” มะปรางหนีบขาเข้าหากันพร้อมดันตัวเองลุกขึ้นมากอดแขนของชายหนุ่มเอาไว้แน่น ใบหน้าสวยซบลงบนบ่าแกร่งซ่อนอาการเขินอาย หากว่าร่างกายที่ไร้ซึ่งอาภรณ์ทำให้เธอทำตัวไม่ถูก “หนูอาย”
“ไม่ต้องอายนะครับ เฮียสัญญาว่าจะทำเบา ๆ”
“ฮื้อ...ไม่เอาหนูอาย”
“โอเคครับ ไม่แกล้งแล้วก็ได้” เตชินก้มไปจูบศีรษะทุยเล็กละไม ก่อนจะอุ้มคนตัวเล็กไปยังทิศทางของห้องน้ำ แม้ว่าเขาจะอาบน้ำชำระร่างกายไปแล้ว แต่คนเจ้าเล่ห์ก็ตีเนียนจะอาบน้ำกับเธออีกรอบ แม้มะปรางจะพยายามไล่ให้ออกไป แต่เขาก็ดื้อด้านจนได้แช่น้ำในอ่างเดียวกันกับเธอ
“หายโกรธเฮียหรือยังครับ” เตชินเอ่ยถามขณะที่แกะถุงข้าวต้มร้อน ๆ เทลงถ้วย หากว่าซานเป็นคนซื้ออาหารและของใช้จำเป็นมาเก็บไว้ในครัวตั้งแต่หกโมงเช้า
“...” มะปรางส่ายหน้าพัลวันให้เป็นคำตอบ เธอไม่ยอมหายโกรธเขาง่าย ๆ หรอก มะปรางก้มหน้าลงไปสูดกลิ่นข้าวต้มที่หอมอบอวลก่อนจะเอ่ยถามในสิ่งที่เตชินต้องตระเตรียมมาให้กับเธอ “ไหนยา?”
“ยาอะไรครับ”
“ก็ยาคุมไงเฮีย ไหนยาคุม”
“ยาคุม? ต้องกินด้วยเหรอ”
“...??” เด็กสาวเอียงคอพลางทำสีหน้าเชิงคำถาม เขากำลังเล่นตลกอะไรกับเธอ
คำว่า ‘ต้องกินด้วยเหรอ’ มันหมายความว่าไง??
“ไม่ต้องกินหรอก” เขาพูดพร้อมลูบวนที่หน้าท้องของเธอเบา ๆ ก่อนจะถูกมือเล็กตีที่ท่อนแขนเข้าให้อย่างจัง
“เฮีย!! หนูซีเรียสนะ ไหนยาคุมหนู!”
“หึหึ เดี๋ยวเฮียไปเอามาให้ครับ” เตชินหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะรีบลุกไปหยิบแผงยาในถุงยาทันที หากว่าโดนคนตัวเล็กมองค้อนใส่ และเขาก็ไม่อยากทำให้เธอต้องหงุดหงิดไปมากกว่านี้
คนเจ้าเล่ห์มองแผงยาที่บรรจุด้วยตัวยาสองเม็ดแล้วบิดยิ้มมุมปาก หากว่ามันคือแผงยาอันเดียวกันกับที่เขาเคยเอามาให้มะปรางกินเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน
เขาเคยบอกงั้นเหรอ...ว่ามันคือยาคุมกำเนิด หึหึ!
“พูดจาเพ้อเจ้อบ่อยนะเฮียเดี๋ยวนี้” มะปรางพูดเมื่อเห็นเตชินเดินกลับมาพร้อมกับแผงยาในมือ เตชินแสร้งทำสีหน้าไม่เต็มใจขณะที่วางแผงยาลงบนฝ่ามือเล็กที่แบรออยู่แล้ว
“เพ้อเจ้ออะไรกัน คนเขาออกจะจริงจัง เฮียจริงจังกับหนูจริง ๆ นะมะปราง”
“ถ้าเฮียจริงจังกับหนูจริง ๆ เฮียคงไม่หายไปจากชีวิตหนูตั้งหลายปีหรอก จนมีเรื่องมีราวถึงได้กลับมา หนูไม่เชื่อใจเฮียหรอก” ว่าจบเธอก็แกะเม็ดยาเข้าปากแล้วดื่มน้ำตามทันที ก่อนจะถูกอีกฝ่ายยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ๆ จนปลายจมูกของทั้งคู่แทบจะชนกันอยู่รอมร่อ
“ตอนนั้นหนูยังเด็ก เฮียไม่สามารถทำในสิ่งที่เฮียอยากทำได้ แต่ว่าตอนนี้หนูโตแล้ว โตพร้อมที่จะเป็นเมียของเฮียแล้ว”
“เฮีย! พะ...พูดอะไรของเฮีย” มะปรางรีบหลบตาพลางหันหน้าไปทางอื่นเพื่อซ่อนพวงแก้มสีแดงระเรื่อ
“เฮียกำลังจีบเมียอยู่ อย่าหันหน้าหนีเฮียสิ เฮียจีบไม่ถนัดเลย”
“อื้อ~” คนเอาแต่ใจอุ้มเธอขึ้นมาบนตัก ก่อนจะหอมแก้มนวลน้อยหนัก ๆ ไปหนึ่งฟอด มะปรางไม่ได้ขัดขืนเพียงแค่ตกใจเล็กน้อย เธอจึงตีท่อนแขนแกร่งแก้เขิน
“วันนี้อยู่บ้านอย่าออกไปไหนนะ เดี๋ยวเฮียรีบกลับมา” มะปรางพยักหน้ารับแบบขอไปที ก่อนจะตักข้าวต้มอุ่น ๆ เข้าปากด้วยความหิวโหย เตชินยกยิ้มมุมปากเมื่อเห็นเด็กตะกละตักข้าวต้มกินอย่างเอร็ดอร่อย มือหนาลูบผมเธอเล่นด้วยความเอ็นดู
“พวกมันเอาหลักฐานไปหมดเลย” มะปรางพูดออกมาด้วยความเสียดายก็ไม่ปาน หากว่าเธออุตส่าห์เสี่ยงตายไปขโมยหลักฐานไว้เอาผิดคนชั่ว แต่กลับกลายเป็นว่าเธอเกือบเอาตัวไม่รอด
“หลักฐานทั้งหมดอยู่กับเฮียแล้ว หนูอย่าทำอะไรเหมือนเมื่อวานอีกนะ เฮียเป็นห่วงหนูมากรู้ไหม”
“หนูอยู่เฉยไม่ได้แล้วเฮีย พวกนั้นมันฆ่าคน จะให้หนูเฉยได้ยังไงในเมื่อคนที่มันฆ่าคือตาของไอ้เติร์ด”
“ตา... ของใครนะ”
“ช่างมันเถอะเฮีย ชีวิตชาวบ้านจน ๆ เป็นอะไรไปก็ไม่มีใครมาดูดำดูดีหรอก แต่หนูจะไม่หยุดแค่นี้แน่!”
มะปรางพูดพลางยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาที่เผลอไหลออกมาแบบไม่รู้ตัวอีกแล้ว เธอไม่ชอบที่จะร้องไห้เพราะนั่นหมายความว่าเธอกำลังอ่อนแอ เด็กสาวหยิบน้ำขึ้นมาดื่มล้างปาก หลังจากที่กินข้าวต้มจนหมดถ้วย
“คนที่หนูพูดถึงใช่คนนี้หรือเปล่า”
“...ใช่” มะปรางตอบ เมื่อเห็นว่าคนในภาพที่เตชินให้เธอดูคือคุณตาของน้องรัก “คุณตายังไม่ตายเหรอ เฮียช่วยเขาใช่ไหม”
“เซนเป็นคนจัดการทั้งหมด ชายสูงวัยคนนี้เป็นพยานปากสำคัญ เฮียว่าเขาต้องรู้อะไรดี ๆ ที่เราคาดไม่ถึงแน่ ตอนนี้เขาถูกส่งไปรักษาตัวที่กรุงเทพฯ เรียบร้อยแล้ว”
“ฮึก...เฮีย ระ...เรื่องจริงใช่ไหม” มะปรางแทบจะกลั้นเสียงร้องไห้ไม่ไหว เธอหันไปสวมกอดเตชินด้วยความดีใจและโล่งอก หากว่าผู้ใหญ่คนที่เธอเคารพรักยังปลอดภัยดี
“ตอนนี้พวกมันกำลังตามหาตัวหนูอยู่ หนูซ่อนอยู่ที่นี่ห้ามออกไปไหนเข้าใจไหม” มะปรางพยักหน้าก่อนจะอ้าปากหาวหวอด เธอเริ่มงัวเงียราวกับกำลังจะหลับ
“อ่า ง่วงจัง~”
ลมหายใจเข้าออกที่เป็นจังหวะสม่ำเสมอบ่งบอกว่าคนตัวเล็กได้หลับไปเรียบร้อยแล้ว
“ถึงยังไงก็ไว้ใจไม่ได้หรอก เด็กดื้อต้องโดนซ้อนแผน” เตชินกระซิบพูดที่ข้างหูใบเล็ก หากว่าที่มะปรางหลับไปอย่างไม่มีสาเหตุล้วนมาจากฝีมือของเขาเอง เนื่องจากข้าวต้มที่เขาเทให้เธอกินนั้นมีฤทธิ์ยานอนหลับอ่อน ๆ ผสมอยู่ ที่เขาทำแบบนี้ก็เพื่อให้แน่ใจว่าเด็กหัวรั้นอย่างมะปรางจะไม่แอบออกไปข้างนอกให้เขาต้องเป็นกังวล
หลายชั่วโมงต่อมา...
กรี๊ดดดดดด!
“มันจะมากเกินไปแล้วนะเฮีย” คนโดนหลอกส่งเสียงกรีดร้องออกมาดังลั่น หากว่าเธอเพิ่งตื่นขึ้นมาในช่วงบ่ายของวัน ประตูหน้าต่างของบ้านถูกล็อกเอาไว้จากด้านนอกจนเธอไม่สามารถออกไปไหนได้ เธอพยายามเปิดประตูหน้าต่าง และเขย่ากลอนประตูจนเจ็บมือไปหมด “ทำแบบนี้มันกักขังหน่วงเหนี่ยวกันชัด ๆ!”
เด็กสาวนั่งเครียดอยู่เพียงลำพัง หากว่าเธอกะว่าจะแอบไปหาแม่มะลิสักหน่อย ไปบอกให้ท่านรับรู้ว่าเธอยังปลอดภัยดีและไม่ต้องเป็นห่วงเธอ แต่การที่เตชินทำกับเธอแบบนี้มันมากเกินไป เขารู้ทันเธอทุกทางจนเธอลำบากใจ
หากว่าทำอะไรไม่ได้มะปรางก็คงต้องยอมจำนน เธอคงต้องอยู่รอเขาจนกว่าเขาจะกลับมา โวยวายไปก็ไร้ประโยชน์ กินข้าวเก็บแรงไว้ดีกว่า
‘เด็กดื้อของเฮียกินข้าวให้อร่อยนะครับ :-) ’
ข้อความจากกระดาษโน๊ตแผ่นหนึ่งถูกแปะไว้บนกล่องอาหารมื้อเที่ยงที่เขาตระเตรียมไว้ให้กับเธอ มะปรางใช้ความคิดอยู่สักพักก่อนจะบิดยิ้มมุมปากที่เปี่ยมไปด้วยความร้ายกาจ
“คนเจ้าเล่ห์ต้องโดนสั่งสอน”