ทวงคำสัญญา

1540 คำ
ภายในห้องรับแขกของคฤหาสน์หลังใหญ่มีชายเส้นผมขาวบ่งบอกถึงอายุรวมไปถึงใบหน้าเคร่งขรึมที่หน้าเกรงขามนั่งจิบชารอหลานชายเข้ามาพบเขา “คุณพ่อคะ นี่ตาเธียร์ยังไม่มาอีกเหรอคะ” คุณหญิงเขมิกาสะใภ้ของบ้านเดินเข้ามาภายในห้องรับแขกพร้อมกับของว่างให้กับพ่อสามีของเธอ “เดี๋ยวมันก็มา” ก่อนหน้านี้แม่บ้านได้เข้ามารายงานเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เธียร์วิชทร์กำลังเดินทางมาที่นี่ตามคำสั่งของชายชราที่ขึ้นชื่อว่าปู่ “มาแล้วเหรอพ่อตัวดี” ยังไม่ทันที่คุณหญิงเขมิกาจะกดต่อสายหาลูกชายเพียงคนเดียวของเธอที่น้อยครั้งจะได้เห็นหน้าค่าตา เนื่องจากภาระงานที่หนักอึ้งของเธียร์วิชทร์แถมลูกชายตัวดียังออกไปอาศัยอยู่ที่คอนโดยิ่งเป็นเรื่องยากที่จะได้เห็นหน้า “คุณปู่ คุณแม่ สวัสดีครับ” เธียร์วิชทร์ยกมือขึ้นไหว้ทักทายท่าทางนอบน้อม ก่อนที่ร่างสูงจะนั่งลงโซฟาที่ว่าง “งั้นแม่ขอตัวก่อน เธียร์คุยธุระกับคุณปู่ไปก่อนนะ” คุณหญิงเขมิกาจึงขอตัวออกจากห้องรับแขก เนื่องจากเธอไม่อยากอยู่รบกวนเวลาคุยเรื่องธุรกิจของพ่อสามีและลูกชายของเธอ “เขมิกาเธอก็นั่งฟังด้วยกันนี่แหละ” น้ำเสียงเคร่งขรึมของชายสูงวัยดังขึ้น ทำให้คุณหญิงเขมิกาเดินไปนั่งข้าง ๆ ลูกชายของตัวเองเงียบ ๆ เพื่อรอฟังในสิ่งที่พ่อสามีกำลังจะพูดต่อจากนี้ “คะ” “ฉันมีเรื่องสำคัญที่ต้องบอกกับเจ้าเธียร์ และบอกให้เธอรับรู้” “คุณปู่มีอะไรรึเปล่าครับ” เธียร์วิชทร์เอ่ยถามผู้เป็นปู่ขึ้นด้วยความสงสัย น้อยครั้งนักที่ปู่ของเขามีเรื่องสำคัญจะบอก เพราะตั้งแต่คุณปู่ธีร์วัฒน์วางมือจากธุรกิจก็ไม่ค่อยมีเรื่องสำคัญอะไรให้หารือกันสักเท่าไรนัก จะมีเพียงแค่ตักเตือนเธียร์วิชทร์ไม่ให้ทำอะไรโผงผางเท่านั้น “แกต้องแต่งงานกับหลานสาวเพื่อนของปู่” น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยวเอ่ยบอกกับหลานชายที่เหลือเพียงคนเดียวของตัวเอง และแน่นอนว่า เรื่องนี้เธียร์วิชทร์ไม่สามารถปฏิเสธได้ “อะไรนะครับ!!” เธียร์วิชทร์อุทานเสียงดังด้วยความตกใจ ชายหนุ่มไม่คิดเลยว่า ตัวเองจะได้ยินประโยคนี้หลุดออกจากปากผู้เป็นปู่ของตัวเอง “แต่งงาน” คุณปู่ธีร์วัตน์เอ่ยย้ำประโยคของตัวเองอีกครั้ง แววตาและน้ำเสียงที่จริงจังของชายสูงวัย ทำให้เธียร์วิชทร์รีบค้านหัวชนฝา “ไม่ครับ ผมไม่แต่งแน่นอน” น้ำเสียงหนักแน่นของเธียร์วิชทร์ยังคงปฏิเสธเสียงแข็ง เขาไม่มีทางยอมแต่งงานกับผู้หญิงที่เขาไม่ได้รักเป็นอันขาด “แต่ปู่สัญญากับเพื่อนของปู่ที่จากไปแล้ว อีกอย่างครอบครัววงศ์พานิชก็เคยช่วยเหลือปู่ตอนลำบาก” เพียงแค่นึกถึงความยากลำบากของตัวเองเมื่อในอดีต ทำให้เจ้าสัวธีร์วัฒน์ถึงกับหนักแน่นในคำสั่งของตัวเอง “เมื่อวานครอบครัววงศ์พานิชมาเพราะเรื่องนี้รึเปล่าคะ” คุณหญิงเขมิกาที่นั่งเงียบฟังบทสนทนาระหว่างพ่อสามีและลูกชายเป็นอันต้องเอ่ยถามขึ้นมาด้วยความสงสัย เนื่องจากเมื่อวานมีครอบครัววงศ์พานิชได้เดินทางมาที่นี่ “ใช่ พวกเขาต้องการให้ลูกสาวแต่งงานกับตาเธียร์” ถ้าหากครอบครัววงศ์พานิชไม่เดินทางมาหาด้วยตัวเอง เขานี่แหละจะเป็นฝ่ายเดินทางไปหาด้วยตัวเอง เนื่องจากได้ทราบข่าวว่าหลานสาวของเพื่อนรักได้เดินทางกลับมาจากต่างประเทศแล้ว “คุณปู่ก็ยอมอย่างนั้นเหรอครับ? ผมไม่แต่งเด็ดขาดครับ” น้ำเสียงเด็ดเดี่ยวและเด็ดขาดของเธียร์วิชทร์ปฏิเสธเสียงแข็ง “งั้นฉันก็จะแบ่งสมบัติให้หนูชามาครึ่งหนึ่ง” “คุณปู่!!” “แกก็กลับไปคิดเอาแล้วกัน ยอมแต่งงานกับแบ่งสมบัติ ปู่จะให้แกเลือก” เธียร์วิชทร์หลานชายที่เขาเลี้ยงมาเองกับมือ ไม่มีทางทันเล่ห์เหลี่ยมปู่อย่างเขาได้แน่นอน เรื่องนี้เจ้าสัวธีร์วัฒน์มั่นใจไม่น้อย “ผมไม่เลือกครับ” เธียร์วิชทร์ยังคงยืนกระต่ายขาเดียวปฏิเสธเสียงแข็ง ไม่มีทางที่เขาจะแต่งงานกับผู้หญิงที่ปู่ต้องการและยิ่งไปกว่านั้น ยิ่งเธอต้องการแต่งงานเพราะเงินไม่มีทางเด็ดขาด “งั้นปู่จะเลือกให้” เมื่อเห็นหลานชายยังคงค้านหัวชนฝา เจ้าสัวธีร์วัฒน์จึงเอ่ยปากออกมาด้วยตัวเอง การตัดสินใจครั้งนี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของหลานชายที่เหลือเพียงคนเดียวก็เป็นได้ “ทำไมผมต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่ผมไม่เคยรู้จักด้วยครับ” “แกเคยรู้จักผู้หญิงที่แกจะแต่งงานด้วย แถมหนูชามายังเคย” ยังไม่ทันที่ท่านเจ้าสัวธีร์วัฒน์จะเอ่ยจบ เสียงทุ้มต่ำของเธียร์วิชทร์ก็พูดแทรกขึ้นเสียก่อน “ใครครับ? ผมไปรู้จักเธอตอนไหน” หัวคิ้วเข้มขมวดกันเป็นปม งุนงง กับประโยคของผู้เป็นปู่ไม่น้อย “หนูชามา หลานสาวเพื่อนปู่ที่เคยมาเล่นที่บ้านของเรา” “ชามา ชื่อนี้อีกแล้วเหรอครับ” เธียร์วิชทร์ขมวดคิ้วเข้าหากันอีกรอบ ชายหนุ่มหลุดปากเอ่ยพูดชื่อหญิงสาวออกมาดั่งคนกำลังละเมอ “แกจำได้เหรอ” เจ้าสัวธีร์วัฒน์เอ่ยถามหลานชายด้วยความสงสัย เนื่องจากเวลาที่เธียร์วิชทร์เคยเจอชามาก็เนิ่นนานมาแล้ว “ไม่ครับ” “อีกอย่างแกก็อายุเยอะแล้ว ปู่อยากให้แกแต่งงาน เขมิกาเธอเห็นด้วยกับฉันไหม” เจ้าสัวธีร์วัฒน์หันหน้าไปขอความช่วยเหลือจากลูกสะใภ้ให้ช่วยสมทบเรื่องการแต่งงานกับลูกชายตัวเองอีกแรง “ฉันเห็นด้วยกับคุณพ่อค่ะ” รอยยิ้มกรุ้มกริ่มประดับบนใบหน้าของคุณหญิงเขมิกา เธอเองก็อยากให้ลูกชายเป็นฝั่งเป็นฝากับเขาเสียที อีกอย่างเธอเองก็รู้จักหนูชามาเช่นกัน จึงไม่ได้ขัดข้องอะไรกับเรื่องนี้ “ตาเธียร์ แม่อยากอุ้มหลาน” คุณหญิงเขมิกาเอ่ยบอกกับลูกชายด้วยน้ำเสียงออดอ้อน เธอเป็นเพียงอยากมีหลานไปอวดเหมือนเพื่อนคนอื่น ๆ บ้าง “ผมไม่มีทางมีลูกกับผู้หญิงที่ผมไม่ได้รักครับ คุณแม่ก็ทราบไม่ใช่เหรอครับ เก็บผู้หญิงที่เห็นแก่เงินเอาไว้ใกล้ตัวสุดท้ายเป็นยังไง ธามต้องตายเพราะ” “เธียร์ แกหยุดพูดเดี๋ยวนี้นะ!!” น้ำเสียงกังวานของคุณหญิงเขมิกาเอ่ยสั่งให้เธียร์วิชทร์หยุดประโยคคำพูดของตัวเองเอาไว้ไม่ให้หลุดพูดออกมา “งั้นฉันจะยกสมบัติทุกอย่างให้หนูชามา โดยที่เธอไม่ต้องแต่งงานกับแก” เมื่อเห็นหลานชายตัวเองยังคงดื้อดึง ปู่ธีร์วัฒน์จึงตัดปัญหา และเอ่ยพูดความต้องการของตัวเองออกมา “คุณปู่ อีกอย่างเพื่อนของคุณปู่ก็ตายไปแล้วไม่ใช่เหรอครับ” “ตายไปนานแล้ว” “แล้วทำไมผมต้องแต่งกับหลานสาวของเพื่อนคุณปู่อีกล่ะครับ” “ก็เพราะมันคือคำสัญญาของปู่และเพื่อนของปู่ไง” คำสัญญาสำหรับเขามีค่ามากมายกว่าเงินทองด้วยซ้ำ ในเมื่อตอนนี้ครอบครัววงศ์พานิชกำลังเดือดร้อน และต้องการความช่วยเหลือจากเขา มีหรือที่เขาจะไม่ยื่นมือเข้าไปช่วย “แต่ตระกูลนั้นกำลังจะล้มละลาย” เธียร์วิชทร์พยายามหาเหตุผลและข้ออ้างมาล้มล้างความคิดของปู่ตัวเองแต่ทุกอย่างกลับไม่เป็นผล เมื่อคุณปู่ของเขายังคงยืนยันด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ปู่ไม่อยากให้แกคิดว่า หนูชามาแต่งงานกับแกเพราะเงิน” “คุณปู่พูดแบบนี้หมายความว่ายังไงครับ ก็ในเมื่อผู้หญิงคนนี้เห็นแก่เงิน” “สรุปแกจะแต่งไหม” “ผมมีทางเลือกด้วยเหรอครับ” เธียร์วิชทร์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงและใบหน้าจำยอม ชายหนุ่มไม่มีทางให้ผู้หญิงหน้าไหนปอกลอกครอบครัวเขาได้ “แสดงว่าแกตอบตกลง” ใบหน้าชายสูงวัยยิ้มออกมาด้วยความดีใจ เพียงแค่เห็นรอยยิ้มที่มีรอยย่นบนใบหน้าเจ้าสัวธีร์วัฒน์ ทำให้เธียร์วิชทร์ตระหนักได้ถึงความสุขของผู้เป็นปู่ขึ้นมาทันที “ผมสามารถปฏิเสธเรื่องนี้ได้ด้วยเหรอครับ” น้ำเสียงตัดพ้อของเธียร์วิชทร์ตอบกลับผู้เป็นปู่ของตัวเอง “งั้นพรุ่งนี้เราจะเข้าไปคุยกับครอบครัววงศ์พานิช” “ครับ ในเมื่อแสดงตัวขนาดนี้ เราก็ต้องไปจริงไหมครับ” เธียร์วิชทร์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกพร้อมกับแววตาดุดันจนผู้เป็นมารดาสัมผัสความรู้สึกของลูกชายได้ “เจ้าเธียร์ นี่แกคิดจะทำอะไร” คุณหญิงเขมิกาเริ่มเป็นกังวลใจ เพียงแค่เห็นสีหน้าและแววตาของลูกชายที่ไม่ได้ยินดีจะแต่งงานกับผู้หญิงที่คุณปู่หามาให้ “ผมคิดจะแต่งงานกับผู้หญิงที่คุณปู่ต้องการให้แต่งไงครับ” รอยยิ้มบนใบหน้าสวนทางกับแววตาคมคู่นั้นโดยสิ้นเชิง สร้างความหวั่นใจให้กับคุณหญิงเขมิกาไม่น้อย ซึ่งเธอเองก็ทำได้เพียงมองลูกชายอยู่ห่าง ๆ “เธียร์ ในเมื่อตกลงแต่งงานกับลูกสาวบ้านนั้นแล้ว ดูแลเขาให้ดีนะลูก” “หึ!! ครับ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม