ทะเบียนไร้รัก

ภายในสถานบันเทิงราคาจัดว่าแพงในระดับหนึ่ง เนืองแน่นไปด้วยเหล่านักท่องราตรีที่มีฐานะและหน้าตาทางสังคมที่ต่างพากันเข้ามาใช้บริการที่ผับแห่งนี้ เพื่อดื่มด่ำกับบรรยากาศในยามค่ำคืนที่มีแสงสีและเสียงอึกทึกเพียงผ่อนคลายความเคลียด ร่างสูงโปร่งสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวปลดกระดุมสองเม็ด เผยให้เห็นแผ่นอกขาวที่โผล่พ้นออกมา สองขายาวก้าวเดินเข้าไปในผับด้วยความเร่งรีบ เมื่อชายหนุ่มมาช้ากว่าเวลานัดหมายที่เพื่อนนัดเอาไว้มากโข และด้วยความเร่งรีบนั้น ทำให้ชายหนุ่มไม่ทันระวังจนเผลอเดินชนเข้ากับหญิงสาวคนหนึ่งอย่างจัง ตุบ!! ร่างสูงโปร่งรีบดึงร่างบางเข้าหาตัวจนใบหน้าของหญิงสาวคนนั้นกระแทกเข้าแผ่นอกของชายหนุ่มอย่างแรง จนสัมผัสได้ถึงกลิ่นน้ำหอมชวนหลงใหลจากชายหนุ่ม “ขอโทษ” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยขอโทษหญิงสาว พร้อมกับผลักเธอให้ออกห่างจากตัว เพียงแค่ร่างบางเงยหน้าขึ้น ทุกอย่างเหมือนถูกต้องมนตร์สะกดเมื่อตาคมของชายหนุ่มกลับจดจ้องใบหน้าสะสวยของหญิงสาวไม่ละสายตา “คราวหลังก็ระวังนะคุณ” เสียงหวานเอ่ยเตือนชายหนุ่มใบหน้าหล่อเหลาตรงหน้าด้วยอาการเมามายจนน้ำเสียงที่เปล่งออกมายานคางจนแทบฟังไม่ได้ศัพท์ “ชามาเป็นอะไรรึเปล่า” มุกดาเพื่อนสาวของชามารีบเดินเข้าไปประคองเพื่อนสาวด้วยความเป็นห่วง “ชามา!!” เสียงทุ้มต่ำพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ตาคมจ้องมองหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าโดยที่ชายหนุ่มไม่ได้พูดอะไรออกมาเหมือนกำลังครุ่นคิดว่าเคยได้ยินชื่อนี้มาจากที่ไหน “คุณใช่ คุณเธียร์วิชทร์รึเปล่าคะ” แสงไฟสลัวในสถานบันเทิง ทำให้มุกดาไม่แน่ใจว่าผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าเป็นคนเดียวกันกับที่เธอคิดรึเปล่า? จึงได้เอ่ยถามผู้ชายตรงหน้าด้วยความอยากรู้ “รู้จักผม” คิ้วเข้มขมวดกันเป็นปมด้วยความสงสัย ชายหนุ่มครุ่นคิดกับตัวเองอยู่สักพักว่า เขานั้นเคยรู้จักผู้หญิงคนนี้รึเปล่า? “รู้จักค่ะ ฉันมุกดา ผู้บริหารสื่อสิ่งพิมพ์ M ค่ะ” เวลานี้ไม่มีใครที่ไม่รู้จักผู้ชายคนนี้ ชายหนุ่มที่มีใบหน้าหล่อเหลา ดำรงตำแหน่งประธานบริษัทตั้งแต่อายุยังน้อย แถมยังถูกโหวตให้ขึ้นแท่นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงที่มีผู้หญิงอยากพลีกายให้ “ขอตัว” ใบหน้าเรียบเฉยของเธียร์วิชทร์ตอบกลับเสียงห้วนพร้อมกับเดินหันหลังให้กับมุกดาและชามาไร้ซึ่งความสนใจใยดี “ขอโทษแทนชามาอีกครั้งนะคะ” มุกดาก้มหัวให้กับเธียร์วิชทร์อีกครั้งเป็นเชิงขอโทษแทนเพื่อนสาวที่ตอนนี้กำลังยืนทำหน้ามึนงง อยู่ข้าง ๆ เธอ “ไอ้เธียร์กว่ามึงจะมาได้นะ” เสียงทุ้มต่ำของชวินทร์เอ่ยเหน็บแนมเธียร์วิชทร์ที่กำลังทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ว่างด้วยใบหน้าเรียบเฉย “กูก็มาแล้วไง” ใบหน้าเบื่อหน่ายของเธียร์วิชทร์แสดงออกชัดเจน เมื่อได้ยินเพื่อนรักเหน็บแนมใส่ตัวเอง “กูรอมึง จนจะเมาอยู่แล้ว” “ทำไมเธียร์พึ่งมา กุลเมาแล้วเนี่ย ไปส่งคอนโดด้วยนะ” กุลภรณ์ทำหน้างอนเธียร์วิชทร์เหมือนต้องการให้เขาง้อ แต่เธอกลับได้เพียงคำตอบสั้น ๆ จากชายหนุ่ม “อืม” “กุลครับ อัทธ์ก็นั่งอยู่ตรงนี้ทั้งคน” อัทธ์เพื่อนรักของเธียร์วิชทร์เอ่ยบอกกับกุลภรณ์เพื่อนผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มด้วยใบหน้ากะลิ้มกะเหลี่ยแกมเจ้าชู้ “อัทธ์ไม่น่าไว้ใจเหมือนเธียร์” ใบหน้าเงอะงะของกุลภรณ์บวกกับเสียงหวาน ทำให้เธอดูเป็นผู้หญิงที่น่าทะนุถนอมจนเพื่อนทั้งสามมักชอบประคบประหงมเธอเป็นพิเศษ “ไอ้เธียร์น่าไว้ใจกว่าอัทธ์ตรงไหนครับ” อัทธ์เริ่มโวยวายเสียงดัง เมื่อถูกกุลภรณ์กล่าวหาตัวเอง “ทุกตรงเลย อีกอย่างอัทธ์ก็รู้ว่ากุลคิดยังไงกับเธียร์” กุลภรณ์โน้มหน้าไปกระซิบข้างหูของอัทธ์เพื่อให้ได้ยินกันแค่สองคน กุลภรณ์หวังให้อัทธ์ช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างเธอและเธียร์วิชทร์อีกทางหนึ่ง “พอแล้วกุล พรุ่งนี้ไปต่างประเทศไม่ใช่เหรอ” อัทธ์จึงรีบเอ่ยเตือนกุลภรณ์ขึ้น เมื่อเห็นว่าหญิงสาวกำลังเมาและพยายามจะยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม “กุลลืมไปเลย ไม่อยากไปเลยจริง ๆ” สายตาหวานเยิ้มของกุลภรณ์หันไปสบตาคมของเธียร์วิชทร์ที่กำลังนั่งกระดกแก้วเหล้าสีอำพันเข้าปากเงียบ ๆ “ไอ้เธียร์ เมื่อกี้มึงเดินชนกับใครวะ? ใช่น้องชามารึเปลาวะ” จู่ ๆ ชวินทร์เอ่ยถามเธียร์วิชทร์ด้วยความอยากรู้ “ไม่รู้” น้ำเสียงทุ้มต่ำของเธียร์วิชทร์ตอบกลับชวินทร์ด้วยใบหน้าเรียบเฉยไร้ซึ่งอารมณ์ใด ๆ แสดงออกมา “น้องชามารึเปล่าวะ” อัทธ์เอ่ยถามออกมาด้วยความสงสัย เนื่องจากพวกเขาพอจะได้ยินข่าวที่เธอกลับมาหนาหูพอสมควร “น้องชามาคนสวยที่พึ่งกลับมาจากต่างประเทศรึเปล่าวะ” ชวินทร์เอ่ยถามเพื่อให้แน่ใจ เพราะความสวยของชามาต่างเป็นที่พูดถึงในแวดวงไฮโซด้วยกัน “ใช่เลย สวยมาก” ใบหน้าเคลิบเคลิ้มของอัทธ์แสดงออกมาชัดเจน การันตีถึงความสวยของชามาที่ถูกร่ำลือจากใครหลายคน “แต่กุลได้ยินมาว่า ครอบครัวกำลังจะล้มละลาย และอยากจับผู้ชายรวย พวกนายก็ระวังตัวเองไว้ด้วยแล้วกัน” กลุภรณ์เอ่ยพูดออกมาด้วยความเป็นห่วงแววตาแฝงไปด้วยความริษยาผู้หญิงที่เพื่อนสนิทเอ่ยชม เนื่องจากกุลภรณ์รู้จักนิสัยของอัทธ์และชวินทร์ดี เธอแทบไม่เคยได้ยินพวกเขาชมผู้หญิงคนไหนสวยเลยสักคนเว้นแต่ผู้หญิงที่ชื่อชามา “จริงเหรอ?” “จริง!! แวดวงธุรกิจกำลังเล่าลือกันให้หนาหู” เพียงแค่เห็นเพื่อนให้ความสนใจกับผู้หญิงคนนี้ ใจของกุลภรณ์ถึงกับร้อนรุ่มขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ เธอจึงรีบหันหน้าไปสังเกตอาการของเธียร์วิชทร์ที่กำลังนั่งฟังบทสนทนาเงียบ ๆ “ก็ได้ยินมาว่า ธุรกิจโรงแรมของตระกูลนี้ กำลังมีปัญหาอยู่เหมือนกัน” ชวินทร์เองก็พอจะทราบข่าวเรื่องนี้เหมือนกัน เนื่องจากตระกูลนี้กำลังขอแรงสนับสนุนจากหลายตระกูล “เธียร์อย่าไปยุ่งกับผู้หญิงคนนั้นนะ กุลเตือนในฐานะเพื่อน” ความผิดปกติของเธียร์วิชทร์ ทำให้กุลภรณ์สังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่างจากแววตาคมคู่นั้น ซึ่งเธอเองก็ไม่ทราบได้ว่าตอนนี้เธียร์วิชทร์ ชายหนุ่มที่เธอหลงรักกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ “ผู้หญิงหวังผลประโยชน์ เธียร์ไม่ยุ่งอยู่แล้ว”