นาราภัทรยังคงหลับตานิ่งเอนศีรษะพิงพนักเก้าอี้และขยับตัวเล็กน้อยตามสัญชาตญาณเมื่อรับรู้ว่ามีผู้โดยสารคนอื่นได้ทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้อีกตัวที่ยังคงว่างอยู่ เจ้าชายซารีฟร์ทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ที่อยู่ติดกับนาราภัทรพร้อมกับลอบสังเกตสีหน้าของหญิงงามที่ใจภักด้วยแววตารักใคร่ระคนเป็นห่วงเมื่อได้เห็นกริยาท่าทางที่บ่งบอกถึงความเหน็ดเหนื่อยอ่อนล้า “เหนื่อยมากเลยหรือน้ำหนาว” มือใหญ่ร้อนผ่าวเอื้อมไปลูบไล้แผ่วเบาตรงแก้มเนียนแดงปลั่งพร้อมกับเอ่ยถามเสียงทุ้มนุ่มนวลเต็มไปด้วยความห่วงใย “เจ้าชายซารีฟร์...” นาราภัทรทะลึ่งพรวดดีดตัวนั่งตัวตรงเบิกตากว้างครางเรียกชื่อเจ้าชายหนุ่มที่เฝ้าคะนึงหาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา เจ้าชายซารีฟร์เป็นคนสุดท้ายที่เธอไม่คาดคิดว่าจะได้พบบนรถเมล์ที่เหมาะสำหรับคนจนๆ เดินดินเช่นเธอ “เจ้าชายจะไปไหนคะ แล้วทำไมถึงมาคนเดียวองครักษ์หายไปไหนหมดคะ” นาราภัทรไม่ตอบคำถามของเจ้าชายหนุ่มแต