“มาแข่งกันว่าเราสองคนใครจะทำได้ก่อนกัน”
“ทำอะไร?”
“ก็ระหว่างเราที่ไม่ตรงสเปคไอ้มิกซ์กับพี่ที่ไม่ตรงสเปคเรา ใครกันแน่ที่จะทำให้คนที่ไม่ตรงสเปคหันมาชอบตัวเองได้ก่อน กล้าไหม?”
“...ไร้สาระ ต้องมั่นหน้ามั่นโหนกขนาดไหนถึงกล้ามาท้าคนที่ไม่แม้แต่รู้จักชื่อแบบนี้” โคตรไร้สาระเลยค่ะพัดลมบอกได้แค่คำนี้คำเดียวเท่านั้น นี่มั่นเบอร์แรงไปรึเปล่ายะ
“หึ! ว่าละ” เขาแค่นยิ้มแล้วก็พูดออกมาเบาๆ ก่อนที่จะผละออกไปจากการกระทำที่เริ่มคุกคามฉันแล้วก็ขยับไปยืนพิงพนังอีกด้านพร้อมกับเอามือล้วงกระเป๋า เหมือนเท่ ก็คงเท่มั้งคะ ก็เท่แหละแต่ก็แค่เท่ไม่ได้ประทับใจอะไร บอกแล้วไงว่าสายตาพัดลมมีไว้มองและชื่นชมพี่มิกซ์คนเดียว อิอิ
“แค่นี้ใช่ไหมไม่มีอะไรที่ไร้สาระกว่านี้จะพูดแล้วเนอะ” ฉันขยับตัวให้ยืนตรงๆ แล้วก็ถามเขากลับ นี่พัดลมกำลังเสียเวลาทำอะไรอยู่ เดินวนในเขาวงกตหาห้องน้ำสักหนึ่งชั่วโมงยังรู้สึกว่าอย่างน้อยก็ได้ออกกำลังกาย แต่การยืนคุยกับไอ้หัวทองนี่ไม่มีทั้งประโยชน์แล้วก็สาระเลยสักนิดเดียว
“หึๆๆ เชิญครับตามสบาย อ้อ! อย่าลืมไปเข้าห้องน้ำนะคะอย่ามาทำเลอะเทอะเรี่ยราดล่ะ”
“ไอ้!...โอ้ย!” เขาผายมือให้ด้วยท่าทางเหมือนบริกรแล้วก็ปิดจ๊อบของตัวเองด้วยคำพูดกวนส้นตีน! ฉันตะคอกใส่แค่นั้นแต่ไม่พูดอะไรต่อเพราะรู้สึกเกลียดรอยยิ้มกวนประสาทของเขาเลยตะโกนคำว่าโอ้ยใส่ด้วยความหงุดหงิดแล้วก็สะบัดก้นออกมาทันที
อีตาชัตเตอร์! พัดลมคนนี้จะจำชื่อเขาให้ขึ้นใจแล้วสาบานด้วยเกียรติของความสวยระดับไฮคลาสของตัวเองว่าเมื่อไหร่ที่พัดลมได้เป็นหวานใจของของพี่มิกซ์แม่จะเป่าหูพี่เขาเช้ากลางวันเย็นก่อนนอน วันพระ วันโกน วันจันทร์ถึงอาทิตย์ เป่ามันทุกวันนั่นแหละ ฉันจะเป่าหูพี่มิกซ์ให้เลิกคบอีตาชัตเตอร์ให้ได้!
“เป็นอะไรคะหนูนีของเจ้” ฉันเข้าห้องน้ำเสร็จก็เดินหน้าตึงกลับมานั่งที่เดิม การแข่งยังดำเนินไปเรื่อยๆ ยิ่งดึกก็ดูยิ่งคึกครื้นอย่างกับปาร์ตี้ฟลูมูลแต่อารมณ์ฉันดิ่งลงเหวมากค่ะตอนนี้
“พอดีไปเจออะไรที่ทำให้หงุดหงิดนิดหน่อยแต่ช่างมันเถอะ” ฉันตอบมันแล้วก็ยกเบียร์ในกระป๋องขึ้นกระดก ที่ตอบเลี่ยงๆ เพราะถ้าได้เล่ามันจะปลุกไฟในใจให้โหมกระหน่ำค่ะ เพราะฉะนั้นเลี่ยงๆ ไว้ดีกว่า
“เหรอ ทำไมยะชะนีในห้องน้ำขี้นานจนหล่อนอั้นฉี่ไม่ไหวรึไง ไปนานมาก~”
“เหอะ! เดี๋ยวค่อยเล่าวันหลังก็แล้วกัน กูขอดูว่าที่แฟนกูก่อน หายไปนานยัยพวกอกลูกโป่งใส่น้ำหิ้วไปกินแล้วมั้ง” ฉันตอบปัดไปก่อนแล้ว็ค่อยๆ บรรจงหันไปมองทางพี่มิกซ์แบบเสมอง แอบมองยังไงให้เหมือนไม่มองคืองานถนัดของพัดลมค่ะ เพราะถ้าไม่ถนัดจริงไม่แอบมองพี่มิกซ์โดยที่พี่เขาไม่รู้มาได้เป็นปีหรอก
...แต่
หันไปมองพี่มิกซ์ก็เจอค่ะ เจอว่าที่หวานใจของฉันนั่งมองการแข่งขันโดยที่ยังเป็นว่าที่แฟนที่ดีคือไม่สนใจแม่พวกอกลูกโป่งใส่น้ำแม้แต่นิดเดียว ไม่สนใจผู้หญิงคนไหนเลยสักคนเดียวรวมถึงว่าที่แฟนอย่างพัดลมคนนี้ด้วย เฮ้อ!
แต่! นั่นไม่ใช่ประเด็นเท่าการเห็นอีตาชัตเตอร์มานั่งลงข้างๆ และเขาก็หันมาทางฉันพอดี พอเขาเห็นฉันก็ขมวดคิ้วมองประมาณเสี้ยววินาทีแล้วก็กระตุกยิ้มใส่ฉัน ก่อนที่จะกอดอกแล้วขยับหัวไปทางพี่มิกซ์คล้ายๆ การส่งซิกบอกให้ฉันรู้ว่า คนที่มึงชอบนั่งอยู่ข้างกู ฉันตีความได้ประมาณนี้ล่ะค่ะ
เกลียดขี้หน้าไอ้เจ้าของสนามนี่เป็นบ้าเลย คิดว่าหล่อมากรึไงยะ หล่อลากไส้กว่านี้ก็ไม่สามารถทำให้จิตใจพัดลมระทดระทวยได้หรอกฝากไปบอกเขาที
“อีเมธกูอยากกลับแล้ว” ฉันสะบัดหน้าหนีอีตานั่นแล้วหันมางอแงใส่อีเมธแทน
“อะไรของมึงนี่เขากำลังสนุกติดลมกัน มึงจะมางอแงกลับบ้าบออะไรคะนั่งดูการแข่งขันให้คุ้มค่าบัตรเดี๋ยวนี้!” อีเมธหันมาวีนแตกใส่ฉันทันทีที่ได้ยินฉันบอกแค่สั้นๆ ว่าอยากกลับแล้ว จากนั้นมันก็หันกลับไปกรี๊ดนักแข่งในสนามต่อ ฉันเลยได้แต่จำใจนั่งหน้าหงิกหน้างอไม่สบอารมณ์ต่อไป
- 01.30 น. –
“ไปค่ะชะนีน้อยกลับได้ เอ้า! เป็นอะไรทำไมหน้าหงิกขนาดนั้น” พอการแข่งขันจบลงและกิจกรรมต่างๆ ก็เสร็จสิ้นหมดแล้วอีเมธก็หันมาชวนฉันกลับ แต่มันคงเห็นหน้าฉันมั้งคะก็เลยรีบถาม
“วันนี้เรื่องระหว่างกูกับพี่มิกซ์ไม่มีอะไรคืบหน้าเลยเมธ” ฉันเซ็งมาก พี่มิกซ์ก็ยังคงเป็นพี่มิกซ์ที่ไม่รู้จักพัดลมผู้มีหัวใจจงรักภักดีต่อเขาอีกเช่นเคย เฮ้อ!
“เอ้า! กูก็นึกว่ามึงนั่งอ่อยพี่เขาอยู่ มึงปล่อยเวลาค่อนคืนให้เปล่าประโยชน์ทั้งที่กูเสียเงินตั้งเยอะพามึงมาเนี่ยนะ” มันวีนฉันแต่ฉันก็แค่เบะปากใส่มัน
“ก็มึงไม่ช่วยกูอ่ะ”
“โห~ ควักกระเป๋าขนาดนี้คือกูไม่ช่วยเลย ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนบ้างชะนี กูถามหน่อยไลน์ผู้ชายที่กูตกได้ 5 คนวันนี้กูให้มึงช่วยหารึเปล่า”
“หือ? 5 คนเลยเหรอ” ฉันหูผึ่งทันที นี่กูได้ยินแต่เสียงกรี๊ดเป็นปลาไหลต้มเปรตของมึงแทบจะตลอดเวลา มึงเอาเวลาที่ไหนไปแสดงความร่านจนได้ไลน์ผู้ชายมาเกือบครึ่งโหลคะอีเมธ
“เออน่ะสิ แต่เรื่องของกูช่างมันเถอะแค่กรุบกริบ แต่ของมึงอ่ะชะนี ทำไมวันนี้มึงไม่พยายามแกรนโอเพนนิ่งคะ!”
“ฮือ~ กูเอาเวลาไปนั่งหงุดหงิดอยู่น่ะสิ” ฉันบ่นออกมาด้วยความรู้สึกเสียดาย จากที่ไม่ชอบขี้หน้าไอ้เจ้าของสนามตอนนี้เลยรู้สึกเกลี๊ยดเกลียดขึ้นมาทันทีทันใด
“หงุดหงิดอะไรของมึง?”
“เฮ้อ! เดี๋ยวค่อยเล่า ป่ะกลับกันเถอะไหนๆ ก็ไม่ได้อะไรแล้ว ยิ่งนั่งเล่ายิ่งเศร้านาน” ฉันลุกขึ้นด้วยความเซ็ง หันไปทางโซนซุปเปอร์วีไอพีที่พี่มิกซ์เคยจุติอยู่ก็ไม่มีพี่เขาอยู่ตรงนั้นแล้วฉันยิ่งเซ็งคูณ 10 เข้าไปอีก
“อ้าวเมธ พัดลม จะกลับกันแล้วเหรอ” พอเดินออกมาระหว่างทางพวกเราก็สวนทางกับ เอ่อ คอปเปอร์เหรอ ใช่ไหมคะ?
“ค่าคูเปอร์ขา~” อ้อคูเปอร์ จำได้เพราะอีตุ๊ดมันรีบสาระแนลากเสียงหวานตอบเขาซะดังก้องกังวาน
“อ้อครับ เสียดายจังเราว่าจะไปชวนเมธกับพัดลมลงไปสนุกต่อสักหน่อย”
“หืม~ มีต่อด้วยเหรอคะ” อีเมธทำเสียงสองถามกลับทันที นั่นน่ะสิมีอะไรต่อเหรอ
“อื้ม ที่นี่ทุกคืนที่จัดแข่งเสร็จจะมีปาร์ตี้เล็กๆ สังสรรค์กันต่อน่ะ ก็มีพวกเรา เพื่อนพี่เรากับนักแข่งแล้วก็คนอื่นอีกนิดหน่อย เราเห็นเมธกับพัดลมมากันสองคนกลัวจะเบื่อเลยกะว่าจะชวนไปนั่งดื่มต่อ แต่ถ้ารีบกลับก็ไม่เป็นไรครับเอาไว้โอกาสหน้าก็.../ ไปค่ะ คืนนี้ ตอนนี้ เวลานี้ได้เลยค่ะคูเปอร์ขา”
“อีเมธ!” ฉันหันไปเรียกอีเมธด้วยความตกใจ นี่มันไม่คิดจะถามความสมัครใจจากฉันเลยเหรอ ให้ไปนั่งดื่มต่อกับผู้ชายที่เพิ่งรู้จักกันนี่นะ ไว้ใจได้รึเปล่าก็ไม่รู้ แถมที่นี่มันที่ของเขาเกิดเขาเซ็ตฉากแล้ววางยาลากฉันกับมันไปปู้ยี่ปู้ยำล่ะ และที่สำคัญฉันเซ็งกับภารกิจอ่อยพี่มิกซ์ที่ล้มเหลวจนรู้สึกง่วงนอนแล้วด้วย
“พี่มิกซ์ต้องอยู่มึงเชื่อกู” มันหันมากระซิบบอกเบาๆ แต่พอได้ยินความง่วงที่กำลังก่อตัวก็มีอันได้อันตรธานหายไปในทันที
“โอเค” ฉันรีบพยักหน้าตกลงทำให้อีเมธเบ้ปากใส่ฉันทันที
“ถ้างั้นก็เชิญทางนี้เลยครับสาวๆ” คูเปอร์ยิ้มให้พวกเราก่อนที่จะเดินนำไป พอมาถึงปาร์ตี้เล็กๆ ของเขา โอ้โห~ ไม่เล็กหรอกมั้งเพราะมันค่อนข้างเป็นปาร์ตี้ที่อลังและเลิศหรู แต่คนก็ไม่เยอะจริงๆ อย่างที่คูเปอร์ว่านั่นแหละ ค่อนข้างเอ็กซ์คลูซีฟทีเดียว
“เมธกับพัดลมเชิญตามสบายเลยนะไม่ต้องเกรงใจ ทุกคนที่นี่สบายๆ กันทั้งนั้น เดี๋ยวเราแนะนำให้รู้จักจะได้ไม่เกร็ง”
“ยินดีค่า...มึงๆ ที่คูเปอร์บอกว่าจะแนะนำให้รู้จักนี่อาจจะรวมถึงพี่มิกซ์ด้วยนะจ้ะ เตรียมตัวให้ดีนะชะนี” อีเมธยิ้มหวานให้คูเปอร์ก่อนที่จะหันมากระซิบคุยกับฉันด้วยท่าทางระริกระรี้ ส่วนฉันน่ะเหรอคะใจเต้นรัวเลยล่ะค่ะ >///<
“ถ้างั้นเชิญทางนี้ครับสาวๆ เดี๋ยวจะแนะนำให้รู้จักพี่ของเรา” คูเปอร์เดินนำไปทางกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่ฉันจำได้ดีว่าเป็นผู้ชายในโซนซุปเปอร์วีไอพีทั้งนั้น พี่มิกซ์~ ต้องมีพี่มิกซ์อยู่ที่นี่และที่ตรงนี้แน่นอน โอ้ย~ พัดลมตื่นเต้นจนใจจะขาดแล้ว
“เฮียๆ ผมพาเพื่อนมาแนะนำ” คูเปอร์พาเดินตรงไปที่กลุ่มนั้นนั่นแหละค่ะแต่ยังไปไม่ถึงเพราะมีผู้ชายคนหนึ่งยืนหันหลังอยู่พอดี เขาเรียกพร้อมกับสะกิดทำให้ผู้ชายคนนั้นหันมา
“หืม มีไรวะ?”
“ผมพาเพื่อนมาแนะนำให้รู้จัก” คูเปอร์บอกผู้ชายคนนั้นที่เพิ่งหันหน้ามา และ...เอ้อ! พัดลมเอ้ยมัวแต่จิตใจล่องลอยว่าจะต้องได้เจอพี่มิกซ์จนลืมไปว่าอาจจะต้องเจอไอ้พี่ชัตเตอร์กดติดวิญญาณอะไรนี่ด้วย และใช่ค่ะ! ไอ้หัวทองคือคนแรกที่คูเปอร์พาฉันกับอีเมธมาทำความรู้จัก
“พี่...ชัตเตอร์~” อีเมธครางเรียกชื่ออีตาชัตเตอร์เหมือนคนละเมอส่วนเขาก็หันมามองทางพวกฉันสองคนและพอเขาเห็นหน้าฉันเขาก็กระตุกรอยยิ้มร้ายๆ ออกมาที่มุมปากทันที
“เพื่อนมึงเหรอไอ้เปอร์” อยู่ดีๆ ก็รู้สึกเกลียดมุมปากที่ขยับนิดๆ เหมือนกำลังพอใจอะไรสักอย่างของเขาที่สุดเลย
“ใช่เฮีย นี่เมธ”
“สวัสดีค่ะพี่ชัตเตอร์ เรียกเมธมันห้วนๆ เรียกอิมเมทก็ได้นะคะฟังดูอ่อนหวานกว่า อิมเมทเป็นแฟนคลับของสนามพี่ชัตเตอร์มานานแล้วนะคะ มาทุกอาทิตย์เลยค่ะ” หืม~ อิมเมทเลยเหรอ?
“อ่า ครับขอบคุณนะครับอิม เอ่อ อิมเมท” เขาก็ดูกระดากปากที่จะเรียกชื่อมันนะคะ ก็แหมร่างถึกอย่างกับควายแนะนำว่าชื่อสุเมธยังดูสบายใจที่จะคุยด้วยมากกว่าอีก
“แล้ว...” เขาเบนสายตาจากอีอิมเมทมามองที่ฉันแล้วหันไปหาคูเปอร์ ส่วนฉันก็ตีหน้านิ่งใส่
“นี่พัดลมเฮีย”
“พัดลม?” เขาได้ยินชื่อฉันก็หันมามองหน้าฉันแล้วทวนชื่อก่อนที่จะทำหน้าแปลกๆ ไปพักหนึ่งแต่ก็ไม่ได้นานเท่าไหร่
“อืม...ชื่อแปลกดี พัดลม ชื่อน่ารักดีนะคะ” เขามองหน้าฉันพร้อมกับชมและส่งรอยยิ้มหวานๆ มาให้ฉัน
...ไม่รู้ว่าอคติต่ออีตาพี่ชัตเตอร์คนนี้มากเกินไปรึเปล่า แต่ทำไมพัดลมคนนี้สัมผัสได้ว่าคำชมที่บอกว่าชื่อฉันมันน่าร้าก น่ารัก มันดู...ตอแหล