- หนึ่งอาทิตยต่อมา –
“พัดโล้มมมมม”
“เออมีไรตุ๊ดดัดจริตที่อุตริเปลี่ยนชื่อจากสุเมธเป็นอีอิมเมท”
“โอ้ย! ไม่เลิกกระแนะกระแหนกูสักที” มันตะโกนเรียกชื่อฉันมาแต่ไกลพอมาถึงโต๊ะในโรงอาหารที่ฉันนั่งอยู่ฉันก็เลยแขวะมันไปนิดหน่อยด้วยความรำคาญ
“หมั่นไส้มึง เรียกเมธมันห้วนๆ เรียกอิมเมทก็ได้นะคะฟังดูอ่อนหวานกว่า แหวะ!” ฉันแกล้งดัดเสียงทำสำเนียงดัดจริตเหมือนที่มันแนะนำตัวกับอีตานั่น
“เออขี้อิจฉาค่ะชะนี แต่ช่างมันๆ เข้าเรื่องสำคัญก่ออนดีกว่า” มันโบกมือปัดเพื่อให้ฉันจบเรื่องนี้แล้วก็นั่งลงตรงข้ามฉันเพร้อมกับทำหน้าตาจริงจัง
“มีไร?”
“คืนนี้ไปสนามพี่เตอร์กัน”
“ไม่!” ฉันตอบมันทันควันทำให้อีตุ๊ดที่เสนอหน้าและยิ้มแฉ่งใส่รีบหุบยิ้ม
“กูไม่ให้สิทธิมึงปฏิเสธเช่นเคยค่ะ ยังไงมึงก็ต้องไปกับกู”
“ไม่เอา อีเมธมึงไม่เสียดายเงินรึไงไปดูติดกันขนาดนี้ เอากูไปด้วยคือต้องซื้อบัตรให้กูนะเพราะกูไม่จ่ายแน่นอน แต่! ถึงมึงจะจ่ายให้กูก็ไม่ไป” ฉันปฏิเสธเสียงแข็ง ต่อให้เอาพี่มิกซ์มาล่อพัดลมก็จะไม่ใจอ่อน เพราะฉันว่าฉันมีปัญญาหาทางเข้าหาพี่มิกซ์ได้โดยที่ไม่ต้องพึ่งสถานที่ของอีตานั่น
“ครั้งนี้ไม่เสียเงินค่ะ แล้ววันนี้มึงก็จะได้นั่งในโซนซุปเปอร์วีไอพีแบบเชิดๆ ด้วยค่า~” อีเมธบอกเสียงดังฟังชัด น้ำเสียงชื่นมื่นเหมือนไม่ได้สนใจคำปฏิเสธของฉันแต่อย่างใด
“หมายความว่าไง”
“ก็พี่เตอร์ของกูเขาโทนมาชวนเองโดยตรงจ้า!” อีเมธประกาศออกมาเสียงดังฟังชัดแถมยังผายมือทั้งสองข้างออกเหมือนอยากจะรับลมร้อนยังไงยังงั้น
“นั่นยิ่งทำให้กูไม่มีทางไป!” ฉันรีบปฏิเสธเสียงแข็ง ให้ไปเพาะอีตานั่นชวนงั้นเหรอ ไม่มีทาง!
“ทำไม? ไหนบอกมาซิมึงมีปัญหาอะไรกับพี่เตอร์นักหนา กูเห็นมึงทำท่าแอนตี้พี่เขาตั้งแต่วันนั้นแล้ว” อีเมธเท้าสะเอวถามฉันด้วยเสียงเอาเรื่องทันที นี่มันองครักษ์พิทักษ์ชัตเตอร์รึเปล่าคะ
“เปล่า แค่ไม่ชอบขี้หน้า ช่างมันเหอะขี้เกียจพูดถึง” ฉันบอกปัดแล้วก็ก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ต่อ
“ไม่รู้แหละยังไงมึงก็ต้องไป!”
“กูหาวิธีเข้าหาพี่มิกซ์ด้วยวิธีอื่นก็ได้อีเมธ ยังมีที่ๆ กูจะเจอพี่เขาได้ตั้งเยอะแยะ”
“โนววว กูไม่ได้พามึงไปที่นั่นเพื่อไปหาพี่มิกซ์แต่กูให้มึงไปสนุกแค่นั้น โอเคนะชะนี”
“อะไรวะ กูไม่ได้อยากไปสนุกสักหน่อยไม่เอาหรอก”
“”โอ้ย! ก็แค่ไปสนุกเหมือนไปเที่ยวผับคืนวันศุกร์นั่นแหละ ลบๆ เหตุผลเรื่องพี่มิกซ์ไปก่อน นี่กูชวนไปเที่ยวแค่นั้นจริงๆ”
“ไม่ไป~” ฉันส่ายหน้าปฏิเสธอีกรอบ คราวนี้อีเมธก็เลยเลิกสะดิ้งแล้วนั่งนิ่งมองหน้าฉันแทน
“...”
“อย่ามางอน”
“...”
“อีเมธ”
“...”
“เมธ”
“...”
“เออๆ ไปก็ไป” เวลามันทำท่าแบบนี้ฉันต้องยอมมันทุกครั้ง เพราะตุ๊ดไม่ได้งอนง่ายๆ แต่ถ้าได้งอนแต่ละครั้งฉันต้องใช้พลังและความพยายามอย่างมากในการง้อมัน
“เลิศ! ถ้างั้นแต่งตัวเลิศๆ นะคะหนูนีของเจ้!” อีตุ๊ดหลากอารมณ์! พอตกปากรับคำแล้วฉันรู้สึกเหมือนตกหลุมตอแหลของอีเมธที่กำลังจะกลายร่างเป็นอีอิมเมทในคืนนี้ยังไงก็ไม่รู้ เฮ้อ!
- 20.30 น. –
“พี่เตอร์ขาเมธเอ้ย! อิมเมทกับพัดลมมาถึงแล้วค่ะ” พอมาถึงประตูทางเข้าสนามอีเมธก็ต่อสายหาผู้ชายด้วยท่าทางระริกระรี้ ดัดจริต!
“ได้ค่าขอบบคุณมากนะคะ อิอิ” อีตุ๊ดยักษ์วางสายแล้วก็ยืนทำหน้าเลิศ ก่อนที่จะปลายตามามองที่ฉัน
“เดี๋ยวผู้มารับ”
“ย่ะ!” ฉันหมั่นไส้มันสุดๆ เลย ทำหน้าเหมือนจะเปิดตัวผัวแล้วก็เดินเข้าไปในพิธีส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวยังไงยังงั้น
“รอนานไหมครับสาวๆ” ยืนรอประมาณ 10 นีอีตาหัวทองก็เดินเข้ามาทัก และการมาของเขาก็ทำให้คนบริเวณรอบๆ ทางเข้ามองตามกันเป็นแถบ
“ไม่นานค่า สวัสดีค่ะพี่เตอร์” อีสุเมธรีบถลาไปซบแขนเขาซึ่งเขาก็อมยิ้มขำท่าทางของมัน ดูเข้ากั้นเข้ากัน เหมาะแก่การเป็นผัวเมียดี
“ถ้างั้นไปเลยไหมพวกเพื่อนพี่รอเมธกับพัดลมอยู่ข้างบนแล้ว”
“ว้าย! อิมเมทสิคะพี่เตอร์” เฮ้อ! กลับมาเป็นสุเมธเถอะค่ะชื่ออิมเมทขนาดกูเป็นเพื่อนกูยังรู้สึกกระดากหูเลยเวลาได้ยิน
“อ่าๆๆ โอเคจ้ะอิมเมท เชิญเลยครับ” เขาภายมือให้มันและนั่นก็ทำให้มันหันมามองหน้าฉันแล้วก็พยักหน้าเรียก
“ตามมาค่ะชะนี อิมเมทไม่เกรงใจแล้วนะคะพี่เตอร์ขา ผู้ชายมากมายรออิมเมทอยู่ อิอิ” พอมันเรียกฉันเสร็จก็หันหน้ากลับไปคุยกับเขาเสียงร่าเริงแล้วเดินเลิศๆ เชิดๆ เข้าไปด้วยสเต็ปนางแบบทันที ไม่สนใจแม้แต่จะรออีตานี่เลยด้วยซ้ำ
“เพื่อนพัดลมน่ารักดีนะ” เขาหันกลับมาคุยกับฉันด้วยรอยยิ้ม แต่ฉันมองเขาแล้วก็เดินผ่านหน้าเขาไป ไม่อยากคุยด้วยแล้วก็ไม่อยากอยู่ตรงนี้นานๆ เพราะยัยพวกผู้หญิงที่มาเที่ยวเริ่มมองมาทางเขามากขึ้น แถมยังส่งสายตาไม่เป็นมิตรมาทางฉันด้วย นี่พวกหล่อนมีเวลาคิดน้อยจนคิดว่าผู้หญิงสวยๆ อย่างฉันจะต้องเป็นอะไรกับผู้ชายหล่อๆ อย่างเขาเท่านั้นเหรอ โนวย่ะ ว่าที่ผู้ของฉันก็งานดีเช่นกัน ได้โปรดอย่าริษยาผิดคน!
“เอ้า! รอพี่ด้วยสิคะแฟน”
กึก!
...แฟน?
ขาฉันหยุดขยับอัตโนมัติทันทีที่ได้ยินเขาเรียกฉันด้วยมุกชื่อภาษาอังกฤษที่ฉันโดนคนล้อเล่นกับมุกนี้มาประจำ แต่ครั้งนี้พัดลมไม่ขำ
“อย่ามาเล่นมุกนี้เดี๋ยวคนอื่นเข้าใจผิด” ฉันหนขวับบบกลับไปแล้วพูดกับเขาทันที อุตส่าห์จะไม่ลดคุณค่าของริมฝีปากไปปะทะกับเขาอยู่แล้วเชียว
“เล่นที่ไหนพี่ไม่ได้ตั้งใจจะเรียกชื่อพัดลมเป็นศัพท์ภาษาอังกฤษสักหน่อย” เขาเดินล้วงกระเป๋าเข้ามาหาฉันเกือบดูดีแล้วเชียวถ้าไม่มีสายตาวอนตีนคู่นั้นที่มองมาที่ฉัน
“หมายความว่ายังไง?” ฉันถามเอาเรื่องเพราะไม่อยากเปลืองน้ำลายเยอะ หมั่นไส้! ไม่น่าตกหลุมพลางตอแหลของอีตุ๊ดเลยจริงๆ
“หึๆ เข้าไปข้างในดีกว่าค่ะ คนเริ่มเยอะแล้ว” เขายิ้มพร้อมกับหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนที่จะเลี่ยงตอบคำถามของฉันแล้วก็บอกให้ฉันเข้าไปข้างใน นี่มันกวนประสาทกันชัดๆ
“ทีหลังถ้าจะชวนอีเมธอีกก็ช่วยระบุกับมันชัดๆ ได้ไหมว่าชวนแค่มันคนเดียว รู้ไหมว่าฉันต้องฝืนใจมากับมันแค่ไหน” ฉันยอมสะบัดหน้ากลับไปทางเดิมแล้วเดินนำหน้าเขา พอมาถึงโซนทางเดินที่ดูเป็นส่วนตัวฉันก็เอ่ยปากพูดกับเขาทันที
“ไม่ได้หรอกเพราะพี่ตั้งใจชวนทั้งเมธแล้วก็พัดลม” เขายิ้มแล้วก็ยักคิ้วส่งมาให้พร้อมคำตอบ เมื่อไหร่เขาจะเลิกกวนประสาทฉันสักทีนะ!
“แต่ฉันไม่ได้อยากมา”
“มาเถอะเพราะวันนี้พัดลมได้เจอไอ้มิกซ์แน่ๆ” เขายังพูดไปยิ้มสบายๆ ไปด้วย แต่ชื่อและประโยคที่เขาพูดออกมามันทำให้ฉันหูผึ่งขึ้นมาได้เหมือนกัน ทั้งที่ก่อนตกลงจะมาฉันเพิ่งบอกอีเมธว่าฉันมีปัญญาเจอพี่มิกซ์ได้โดยที่ไม่ต้องพึ่งที่นี่ แต่ก็นะสุดท้ายไม่ว่าจะยังไงจุดอ่อนของพัดลมก็ยังคงเป็นพี่มิกซ์อยู่ดี >/////////<
“อ้อนี่น้องพัดลม” อีตานั่น ไม่สิไม่ใช่ พี่ชัตเตอร์ต่างหาก ต่อไปนี้จะยอมเรียกดีๆ ก็ได้เพราะเขารู้งาน ตอนนี้พี่มิกซ์ได้รู้แล้วว่ามีสาวสวยชื่อพัดลมอยู่บนโลก และมันก็เป็นเพราะพี่ชัตเตอร์~ ถึงจะค่อนข้างปากตอแหลและกวนประสาทไปบ้างแต่ตอนนี้พี่ชัตเตอร์คือผู้มีพระคุณ อิอิ
“น้องพัดลม” พี่มิกซ์ทวนชื่อฉันด้วยท่าทางเหมือนแปลกใจ ก็แหมใครจะไปคาดถึงว่าจะมีใครมีชื่อน่ารักน่าหยิกซะขนาดนี้จริงไหมคะ
“อื้ม น้องพัดลม...ว่าที่แฟนกูเอง”