LOVE ACCIDENT #1
LOVE ACCIDENT #1
ณ ประเทศฮ่องกง
“ฮึก...” เสียงสะอื้นที่แสนเศร้าราวกับว่าหัวใจกำลังแหลกสลายเรียกสายตาคนบริเวณนั้นให้จับจ้องไปยังหญิงสาวที่เดินราวกับคนไร้วิญญาณพร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม “ทำไมต้องเป็นฉัน ฮึก ทำไม ฮืออ ทำไมต้องเป็นฉันด้วย” หญิงสาวเอ่ยกับต้นเองด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ “เธอมันโง่ ฮืออ เธอมันโง่เองมุก”
ไข่มุกเดินไปตามทางเท้าที่ห่างจากผู้คนไปเรื่อยโดยไม่ทันสังเกตแสงไฟข้างทางที่ตอนนี้แทบจะไม่มีแสงสว่างเลยด้วยซ้ำ จะมีก็เพียงแค่เสียงไฟจากดวงจันทร์ที่ส่องนำทางให้กับเธอ
ฟุบ!
หญิงสาวทรุดตัวลงพร้อมกับปล่อยโฮออกมาราวกับคนที่ใกล้จะหมดแรงขึ้นมาทุกทีก่อนจะเงยหน้าเมื่อเสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าดังขึ้น
“ฮึก..” ไข่มุกสะอื่นพร้อมกับมองสายที่โทรเข้ามาด้วยแววตาที่ดูเศร้ามากกว่าเดิม หญิงสาวกอดโทรศัพท์ไว้แน่นและเสียงเรียกเข้าดังอยู่แบบนั้น
“ไม่ ฉันจะต้องไม่กลับไป ไม่กลับไป” หญิงสาวพึมพรำกับตนเองก่อนสายตาจะเหลือบไปเห็นรูปปั้นหญิงสาวที่ยืนนิ่งด้วยใบหน้าซึมเศร้าพร้อมกับป้ายที่บรรยายถึงที่มาของรูปปั้นนี้ ไข่มุกค่อยๆพยุงตัวเองแล้วเดินไปยืนหน้ารูปปั้นดังกล่าวพร้อมกับสายตาไปอ่านป้ายตรงหน้า “หญิงสาวผู้ถูกหักหลัง” ก่อนจะเงยหน้าไปสบตากับรูปปั้นดังกล่าว “ฉันเหมือนคุณเลยค่ะ ฮึก ฉัน ฮึก ฉันก็ถูกหักหลังมาจากคนที่ฉันรัก คุณก็เหมือนกันใช่มั้ย”
หญิงสาวทรุดลงตรงหน้ารูปปั้นอย่างหมดแรงพร้อมกับหลับตานิ่งราวกับกำลังต่อสู้กับความเจ็บปวดที่กำลังกลืนกินใจของเธออยู่
“ได้ยินฉันมั้ยคะ” ไข่มุกสบตากับรูปปั้นตรงหน้า “คุณ ฮึก คุณได้ยินฉันรึเปล่า” หญิงสาวจ้องรูปปั้นด้วยแววตาเว้าวอน “ถ้าคุณได้ยินช่วยดึงฉันออกจากความเจ็บปวดนี้ทีได้มั้ยคะ ขอให้ฉันได้พบกับคนที่รักฉันจริงๆแต่ถ้าไม่มี ฮึก ก็ขออย่าให้มีใครเข้ามาทำร้ายใจกันอีกเลย”
ไข่มุกสบตากับรูปปั้นตรงหน้าก่อนจะยิ้มออกมาทั้งน้ำตาราวกับกำลังยิ้มเยาะตนเอง “บ้าไปแล้วแน่ๆมุก นี่อาการหนักถึงขนาดนั่งคุยกับรูปปั้นเลยหรอ” ก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นยืนแต่เพราะขาอันไร้เรี่ยวแรงของเธอทำให้ทรุดลงอีกครั้งพร้อมกับแหวนที่เธอกำไว้หลุดร่วงลงไปบนถนนอันเงียบสงบ
“ฮึก ไม่นะ” ไข่มุกเอ่ยขึ้นพร้อมกับฮึดลุกขึ้นวิ่งตามไปคว้าแหวนวงดังกล่าว
หมับ!
“ฮือออ” หญิงสาวเอาแหวนมาแนบอกพร้อมกับปล่อยโฮออกมา
ปริ้นน ปริ้นน
ไข่มุกหันไปมองเสียงบีบแตรที่ดังขึ้นพร้อมกับแสงแหวนที่จู่โจมเข้ามาใกล้เธอจนไม่ทันได้ขยับหนี
“กรี๊ดดดด”
เอี๊ยดดด
ตุบบ!
.
.
“กลิ่นอะไร” หญิงสาวพึมพำกับตนเอง “ฉุนจัง” ไข่มุกลืมตามองไปรอบๆ “โรงพยาบาลหรอ”
“คนไข้ฟื้นแล้วหรอคะ” พยาบาลสาวหันมาสอบถาม “รอสักครู่นะคะ เดี๋ยวให้คุณหมอมาเช็คอาการอีกรอบ”
“หมอ” หญิงสาวทำสีหน้างุนงง
“ครับ หมอเอง”
ไข่มุกค่อยๆยันตัวขึ้นแต่ถูกพยาบาลเข้ามาห้ามแล้วให้นอนลงเช่นเดิม “ฉันเป็นอะไรไปคะคุณหมอ”
“คุณถูกรถชนครับ ไม่สิ ต้องเรียกกว่าเกือบโดนรถชนมากกว่า คุณสลบไปก่อนดีนะที่รถคันนั้นเบรกทัน”
ไข่มุกพยักหน้ารับแล้วพยายามคิดถึงเรื่องราวก่อนหน้า แต่ทำยังไงก็คิดไม่ออก “แล้วฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ ใครพาฉันมา ญาติฉันหรอ?”
“หมอคิดว่าไม่น่าจะใช้ญาตินะครับ” หมอสบตากับไข่มุก “คุณอยากให้ทางเราติดต่อญาติให้มั้ย”
“ไม่” หญิงสาวส่ายหน้า “ฉัน...”
“ขอผมเข้าไปพบน้องสาวผมได้มั้ยครับหมอ” เสียงชายคนหนึ่งดังขึ้นแล้วเดินเข้ามาใกล้เตียงคนใกล้ “เป็นยังไงบ้าง”
“ก็ ดี” ไข่มุกพยักหน้างงๆ
“ถ้าไม่เป็นอะไรแล้ว ผมขอพาน้องสาวกลับบ้านนะครับ”
หมอยืนนิ่งอย่างชั่งใจ “ครับ” แล้วหันไปสบตากับไข่มุก “คนไข้พักผ่อนเยอะๆนะครับ ถ้า 2-3 วันนี้มีอาการผิดปกติ เช่น ปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน ให้กลับมาพบหมออีกครั้งนะครับ”
“ค่ะคุณหมอ ขอบคุณมากค่ะ” ไข่มุกยกมือไหว้คนตรงหน้าแล้วหันไปมองชายหนุ่มที่อ้างว่าเป็นพี่ชายของตนเอง “คุณ...”
“ลุกขึ้น เราต้องรีบไป”
“ไปไหน?”
“ไปเหอะน่า เดี๋ยวก็รู้เอง” ชายหนุ่มดึงแขนไข่มุกลงจากเตียงแล้วพาเดินออกไปด้วยท่าทางรีบร้อน
ชายชุดดำเดินเรียงเข้ามายืนในโซนห้องรับแขก ณ ห้องหรูของโรงแรมห้าดาวก่อนจะก้มศรีษะเล็กน้อยเมื่อเจ้านายของตนเองเดินออกมาด้วยใบหน้านิ่งเฉย
“ว่ามา”
“ทางประเทศไทยรายงานมาว่าไซต์งานบางเลนมีปัญหาครับ ผู้รับเหมารวมตัวกันหยุดเพื่อจะกดดันให้เราปรับราคาค่างานขึ้น”
“ชุดที่มีปัญหาเอาพวกมันออกทั้งชุดแล้วหาชุดใหม่มาแทน แล้วให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องติดแบล็คลิสต์ไว้ด้วย อย่าให้ฉันเห็นมันเสนอหน้ามารับงานอีก”
“ครับนาย” ชายชุดดำพยักหน้านิ่ง “ไซต์งานที่สมุยบริษัทฯตอกเข็มทำงานพลาด ทำให้...”
“กางสัญญาให้มันดูว่ามันจะเอายังไง จะเสียค่าปรับหรือจะจัดการกับความสะเพร่าของตัวเอง”
“ครับนาย” ชายชุดดำพยักหน้ารับก่อนจะยื่นเอกสารให้กับเจ้านายตนเอง “งบประมาณไซต์งานที่สีลมครับ”
“ทำไมมาให้เซ็นต์ตอนนี้?”
“หัวหน้าวิศวกรประจำไซต์งานทำเอกสารเข้ามาช้าครับ แล้วถึงรอบที่หน้างานต้องเอาเหล็กเข้ามาพอดี”
ชายหนุ่มถอนหายใจก่อนจะคว้าเอกสารมาเซ็นต์ชื่อของตนเองลงไป “เตือนวิศวกรคนนี้ด้วยนะ ว่าอย่าทำงานสะเพร่าแบบนี้อีก ไม่อย่างงั้นก็เตรียมหางานใหม่ซะ”
“ครับ รถรออยู่ด้านล่างเรียบร้อยแล้วครับนาย”
“อืม” ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำนั่งดื่มกาแฟด้วยสีหน้านิ่งเรียบ “ทุกอย่างที่ฉันให้เตรียมอย่างเรียบร้อยดีใช่มั้ย”
“คาดว่า...”
“คาดว่า?” ชายหนุ่มเอ่ยขัดขึ้น “แปลว่าไม่แน่นอนงั้นหรอ”
“เปล่าครับนาย” ลูกน้องตรงหน้าก้มหน้านิ่งก่อนจะเงียบไปเล็กน้อย “ทุกอย่างเรียบร้อยครับ”
“ดี” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นพร้อมกับขยับเน็กไทเล็กน้อย “แล้วเรื่องที่ฉันให้ไปจัดการล่ะ”
“เรียบร้อยครับนาย เราจะได้ของก่อนที่นายจะกลับประเทศไทยแน่นอนครับ”
“ฉันไม่มีอารมณ์ไปรับของด้วยตัวเอง ฝากเช็คของที”
“ได้ครับนาย”
ชายหนุ่มพยักหน้ารับก่อนจะเดินออกไปจากห้องพักโดยมีลูกน้องเดินตามประกบไม่ห่าง
-หลายชั่วโมงต่อมา-
[Kaimook’s part]
“ลงไป”
“เอ่อ ฉะ...ฉัน ฉันไม่ไปได้มั้ย” ใครจะกล้าลงไปด้านล่างมีใครก็ไม่รู้ยืนทำหน้าตึงอยู่ หึ่ยย ขนลุก
“เอ้า มานั่งทำตาโตอยู่ได้ อย่ามาลีลาได้มั้ย ลงไปดิวะ!”
ฉันสบตาผู้ชายสองคนที่หันมามองฉันราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ “ลงก็ได้ ไม่เห็นต้องตะคอกเลย” ก่อนจะเปิดประตูเดินลงไปยืนหน้าโรงแรมหรู นี่มีเรื่องบ้าอะไรเนี่ย ทำไมฉันจำอะไรไม่ได้เลยนะ พวกนั้นพาฉันออกมาจากโรงพยาบาลแล้วบอกว่าฉันความจำเสื่อมและฉันก็คิดแบบนั้นเพราะฉันจำอะไรไม่ได้เลยจริงๆ ไม่ได้แม้แต่นิดเดียวยกเว้นชื่อของตัวเอง.....
“ไข่มุก”
ใช่ ฉันชื่อไข่มุก ว่าแต่...ใครมาเรียกชื่อฉันเนี่ย ฉันหันไปมองด้านหลังก่อนจะรู้สึกขนลุกอย่างบอกไม่ถูก ด้านหน้าก็ไม่เวิร์ค ด้านหลังก็น่ากลัว
“ค่ะ” ยิ้มสู้เข้าไว้นะ ยิ้มสู้...
“ชื่อไข่มุกใช่มั้ย”
“ค่ะ” ฉันพยักหน้ารับมองผู้ชายหน้านิ่งที่เดินเข้ามาสำรวจฉันราวกับกำลังเลือกซื้อของอย่างงั้นแหละ “เอ่อ...มีอะไรรึเปล่า”
“ทำงานได้ดี”
“ขอบคุณครับ เอ่อ...”
“นี่ของพวกแก แล้วปิดปากเรื่องนี้ให้เงียบ รู้ใช่มั้ยว่าอะไรควรทำไม่ควรทำ”
“ครับ”
“เดี๋ยวก่อนนะ ฉันขอคั่นหน่อยได้มั้ย” ฉันเอ่ยแทรกกลุ่มคนตรงหน้า “ใครก็ได้ช่วยอธิบายให้หน่อยว่าฉันมาทำอะไรตรงนี้”
ชายชุดดำมองหน้าฉันด้วยความสงสัยก่อนจะหันไปคุยกับคนที่พาฉันมา “นี่ไม่ได้ไปหลอกลูกใครมาใช่มั้ย”
“ไม่ใช่ครับนาย ไม่ใช่ พอดีตอนผมพายัยนี่มา เราเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยครับ ตื่นมาก็เลยงงๆ”
“ฉันว่าสมองฉันตอนนี้เลยคำว่า งง ไปแล้วนะ” ฉันโพล่งออกไปด้วยความรู้สึกสับสน ก็จริงนี่นา “ฉันจำอะไรไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว”
ชายชุดดำมองหน้าฉันราวกับพิจารณาอะไรบางอย่าง “ช่างเถอะ เรื่องนั้นไม่ได้สำคัญอะไร แค่ทำหน้าที่ของเธอให้ดีก็พอ”
“หน้าที่หรอ หน้าที่อะ...”
“หยุดพูดแล้วตามฉันมา แค่นี้ฉันก็เสียเวลามากพอแล้ว”
โหย ทำไมต้องตะคอกกันด้วย ฉันบ่นในใจ แหงสิ ถ้าเผลอพูดออกไปตานี่น่าจะพาฉันไปฆ่าทิ้งอะ “แล้วฉันต้องทำงานอะไร คุณช่วยบอกฉันได้มั้ยคะ”
“น่ารำคาญ” ชายชุดดำบ่นฉันเบาๆก่อนจะเดินนำเข้าไปในโรงแรมหรู ใช่สิ ฉันเพิ่งสังเกตพอเดินเข้ามาในโรงแรมนี้ ราวกับว่ากำลังเดินอยู่ในปราสาทอย่างงั้นแหละ จะว่าไปก็เหมือนเจ้าหญิงเลยแฮะ แต่ไม่อะ สภาพฉันตอนนี้เหมือนคนรับใช้มากกว่า เห้ออ สู้เค้านะไข่มุก
[End]
.
.
“แต่งตัวให้เรียบร้อย ชุดของเธออยู่ในตู้” ชายหนุ่มหันไปชี้ตู้เสื้อผ้าก่อนจะหันมาจ้องหน้าไข่มุก “อีก 1 ชั่วโมงจะมีช่างมาจัดการเรื่องแต่งหน้าทำผมให้ และหลังจากนั้นอีก 1 ชั่วโมงฉันจะส่งคนมารับ”
“เดี๋ยว!” ไข่มุกเอื้อมมือไปคว้าแขนของชายคนดังกล่าวไว้ “คุณชื่ออะไรคะ”
“มีอะไร”
“คือ ช่วยอธิบายได้มั้ยว่าฉันต้องทำอะไร ฉันงงไปหมดแล้ว พอตื่นมาคนพวกนั้นบอกแค่ว่าฉันต้องมาทำงาน แต่ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่างานที่ว่าคืออะไรแถมฉันยัง...”
“พอ” ชายชุดดำเอ่ยเสียงนิ่ง “ฉันไม่ได้อยากจะฟังเรื่องของเธอ เอาเป็นว่าฉันจะอธิบายหน้าที่ของเธอให้ฟังตอนเดินทางไปหาคุณชาย”
“คุณชาย?”
“เลิกสงสัยแล้วไปจัดการตัวเองซะ”
“แต่ฉัน...”
“พวกมันไม่ได้บอกหรอว่าฉันไม่ชอบคนพูดไม่รู้เรื่อง”
“โอเค” ไข่มุกพยักหน้ารับ “ไปก็ได้” ก่อนจะมองชายหนุ่มเดินออกจากห้องไปพร้อมกับถอนหายใจออกมา “นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย” ก่อนจะพยายามคิดถึงเรื่องราวก่อนหน้าที่ตัวเธอเองลืมไปจนหมด
“ฮึก...” ไข่มุกสะอื้นออกมาด้วยความรู้สึกกดดัน อ้างว้างที่ตีกันจนมั่วไปหมด “ฉันไปทำอะไรไว้เนี่ย ทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย” ใบหน้าหวานเต็มไปด้วยคราบน้ำตาที่ไหลออกมาเพื่อระบายความอึดอัด “ไม่ได้ๆ ถ้าหมอนั่นเห็นฉันตาบวมต้องพาฉันไปฆ่าแน่ๆ” ก่อนจะหายใจเข้าออกช้าๆ แล้วเดินไปคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำไปทันที
-2 ชั่วโมงต่อมา-
“เรียบร้อยค่ะคุณลม” ช่างผมหันไปส่งยิ้มให้ลมที่ยืนมองผลงานตรงหน้าด้วยสีหน้าพึงพอใจ
“เดี๋ยวคนของผมจะจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายให้คุณ ขอบคุณมาก”
“ขอบคุณคุณลมมากค่ะ เรียกใช้ได้ตลอดเลยนะคะ”
ไข่มุกยืนฟังบบทสนทนาดังกล่าวด้วยสีหน้านิ่งเรียบก่อนจะหันไปสบตากับลมที่มองมาเธอด้วยแววตานิ่งเรียบ “คุณชื่อลมหรอคะ?”
“...”
“เอ่อ...ไปเลยมั้ยคะ”
“เชิญ” ลมเอ่ยเสียงนิ่งก่อนจะเดินนำออกไปด้านนอก โดยมีลูกน้องอีกสองคนเดินตามประกบไม่ห่าง
ไข่มุกถอนหายใจออกมาเบาๆราวกับพยายามทำใจรับสภาพกับสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนจะเดินตามทั้งสามคนไป
.
.
“เอ่อ...” ไข่มุกเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบขณะที่รถหรูกำลังแล่นไปบนถนนของประเทศฮ่องกง “คุณบอกว่า...”
“เธอต้องมาทำหน้าที่เป็นนายหญิงของพวกฉัน” ลมเอ่ยขึ้นก่อนจะปรายตาไปมองหญิงสาวเล็กน้อย “นายหญิงแบบปลอมๆ”
“ทำไมล่ะ แล้ว...”
“เธอไม่จำเป็นต้องรู้เหตุผล แค่ทำหน้าที่ของเธอให้ดี คุ้มกับเงินที่เจ้านายของฉันต้องจ่ายไป”
“ขอเวลาฉันหน่อยได้มั้ย ฉันจำอะไรไม่ได้จริงๆ”
“พวกนั้นมันเบี้ยวค่าจ้างเธอหรอไง”
“ห๊ะ?”
“พวกมันไม่ให้ค่าจ้างหรอถึงได้มาใช้มุกนี้ ล้มเลิกความคิดซะ เพราะมันไม่มีประโยชน์”
ไข่มันถอนหายใจออกมาก่อนจะนึกอะไรขึ้นได้ “เจ้านายคุณใช้ชีวิตอยู่ที่ไหนหรอ”
“อะไร”
“หมายถึงอาศัยอยู่ที่ไหน ฮ่องกงหรอคะ”
“กรุงเทพ” ลมเอ่ยด้วยน้ำเสียงกึ่งรำคาญ “วันนี้หลังจบงานเราจะเดินทางกลับประเทศไทยกันทันที”
“แล้วจะกลับยังไง ฉันไม่มีหลักฐานอะไรเลย”
ชายหนุ่มชักสีหน้าหงุดหงิดหญิงสาวตรงหน้า “เดี๋ยวฉันจัดการเอง เธอทำหน้าที่ของเธอให้ดีก็พอ”
“คนที่นี่เป็นอะไรกันหมด ทั้งหน้าบึ้ง ทั้งขี้หงุดหงิด” ไข่มุกพึมพัมกับตนเองเบาๆก่อนจะหันไปมองนอกหน้าต่างด้วยแววตาสับสน
“ลงไปได้แล้ว”
“คะ?”
“ถึงแล้ว ลงไปได้แล้ว” ลมเพยิดหน้าไปทางด้านล่าง “เจ้านายฉันรออยู่”
“ค่ะ” ไข่มุกพยักหน้ารับก่อนจะเดินลงจากรถและยื่นนิ่งมองเข้าไปในงานเลี้ยงที่มีเสียงไฟระยิบระยับเต็มไปหมด
“อยู่ใกล้ๆฉัน พูดเท่าที่จำเป็น อย่าคุยกับคนที่ไม่มีประโยชน์”
“แล้วฉันจะรู้ได้ไงว่าใครมีประโยชน์ ใครไม่มี”
ลมปรายตาไปมองไข่มุกเล็กน้อยก่อนจะเดินนำเข้าไปในงานโดยมีคนของตนเองเดินประกบหญิงสาวไว้ท่ามกลางสายตาของแขกในงานที่มองมาด้วยแววตาสนใจ