BARBARIC 03
*************************
ฉันกลับมาที่ห้องของตัวเองทิ้งตัวลงนอนที่เตียงด้วยความเหนื่อย ก่อนที่จะสายตาจะหันไปมองดูรูปของพี่ไคโรที่ฉันติดเอาไว้เต็มห้อง มันเป็นรูปเผลอของเขาทั้งหมดเลยล่ะเพราะฉันแอบถ่ายเขาเอง
ฉันอยากมีรูปของเขาเอาไว้เยอะๆ แล้วติดอยู่เต็มห้องนอนตัวเองแบบนี้ เวลาที่ทำอะไรมันเหมือนว่าตัวเองอยู่ในสายตาเขาตลอดเวลา
ถึงแม้ว่าตัวจริงของเขาจะไม่ได้ต้องการฉันก็ตาม ฉันดันตัวลุกขึ้นนั่งก่อนจะหยิบมือถือตัวเองออกมาเปิดเข้าไปในไลน์ของพี่ไคโรที่มันมักจะหนักไปทางขวาซะมากกว่า
เพราะมีแต่ฉันไงที่เป็นคนส่งไปหาเขา ฉันเลื่อนอ่านข้อความเดิมๆ ของตัวเองที่ส่งไปหาเขาแล้วจู่ๆ มันก็ร้องไห้ออกมาอีกแล้ว
ฉันคิดว่าตัวเองเป็นคนที่มีความอดทนมากเหมือนกันนะที่ยอมอะไรหลายอย่างให้ผู้ชายที่ไม่เห็นค่าตัวเองเลยด้วยซ้ำ
ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องทำขนาดนี้ทั้งที่เขาก็ไม่ได้ใจดีกับฉันเลย ออกจะร้ายกับฉันซะด้วยซ้ำแล้วทำไมฉันถึงยังรักเขาได้ก็ไม่รู้ คำถามที่หลายคนอยากรู้ฉันยังตอบตัวเองไม่ได้เลย
การกระทำและคำพูดของพี่ไคโรน่ะมันก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าเขาไม่เอาฉัน แต่ฉันก็ยังดันทุรังที่จะรักเขาต่อไป
แต่ฉันคิดว่าความอดทนของคนเรามันมีขีดจำกัด แต่ถ้าเกิดว่าฉันพยายามถึงที่สุดแล้วแต่เขาไม่เอาฉัน
ฉันก็คงต้องทำใจแล้วล่ะเพราะต่อให้ทำดีแทบตาย พยายามทำให้เขารักยังไงถ้าเขาไม่รักยังไงเขาก็ไม่รักอยู่ดี เพียงแต่ตอนนี้มันยังทนได้และยังอยากพยายามต่อไปก่อนก็เท่านั้นเอง
วันนี้ก็เหมือนกันที่เขาทำให้ฉันเสียใจแต่ฉันก็ยังเลือกที่จะรักเขาแบบนี้ ก่อนหน้านี้เขาก็เพิ่งพาผู้หญิงเดินควงกันออกไปต่อหน้าต่อตาฉันเลยนะ
เจ็บมากและเสียใจมากแต่ทำอะไรไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ไม่รู้ทำไมเขาถึงใจร้ายกับฉันแบบนี้ เขาไม่คิดที่จะหยุดตัวเองหน่อยเหรอ
ไม่คิดที่อยากจะเป็นแฟนที่ดีเพื่อใครสักคนเลยเหรอ ฉันพลาดเองแหละที่ไปรักเขามากโดยที่ไม่คิดที่จะเผื่อใจเลย และพอรู้ว่าเขาเลวฉันก็ยังเลือกที่จะรักเขาเหมือนเดิม
ฉันถึงได้เกลียดตัวเองไงที่ถูกเขาทำร้ายจิตใจขนาดนี้แต่ก็ยังรักเขา แค่เดินออกมามันยากตรงไหน
ใช่ มันไม่ยากหรอกสำหรับคนที่ใจแข็งพอที่จะเริ่มต้นใหม่ ที่พูดแบบนี้ไม่ได้หมายความว่าฉันไม่อยากเริ่มต้นใหม่นะ แต่มันก็มีหลายเหตุผลเหมือนกันที่ทำให้ฉันอยากรักพี่ไคโรต่อ
“ตกหนักขนาดนี้จะกลับยังไงล่ะเนี่ย?”
ฉันยืนอยู่ที่ใต้ตึกคณะเกษตรเพราะรุ่นพี่บอกให้เอางานมาให้ที่นี่ แต่พอกำลังจะกลับฝนก็ดันตกหนักมากซะอย่างนั้น
รถก็ไม่ได้เอามาต้องเดินไปเรียกแท็กซี่ที่หน้ามหาลัยเองด้วย ฉันยืนรอให้ฝนหยุดตกอยู่นานเหมือนกันแต่ฝนมันก็ไม่ยอมหยุดให้นี่สิ
“ให้พี่ไปส่งมั้ยครับ?”
ฉันหันไปมองที่มาของเสียงที่ดังมาจากด้านหลังก็เห็นว่าเป็นผู้ชายคนหนึ่งกำลังยืนยิ้มให้ฉันอยู่ ฉ
นไม่คุ้นหน้าและคิดว่าตัวเองคงไม่ได้รู้จักเขาและเขาเองก็คงไม่ได้รู้จักฉันเหมือนกัน เขาเดินเข้ามาหาฉันแล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้บอกว่าถ้าไม่รังเกียจจะให้เขาไปส่งก็ได้
สายตาของคนตรงหน้าทำให้ฉันไม่สามารถละสายตาไปมองอย่างอื่นได้เลย เราสองคนมองสบตากันก่อนเสียงของเขาจะทำให้ฉันตื่นจากภวังค์ความคิดของตัวเองทันที
“ไว้ใจพี่ได้นะ พี่ชื่อไคโรค่ะ”
“ขอบคุณนะคะ แต่ว่าหนูให้เพื่อนมาแล้วรับ”
ฉันพูดโกหกไปเพราะเราไม่รู้จักกันการที่จะกลับกับผู้ชายที่ไม่รู้จักมันก็ยังไงอยู่เหมือนกันไงเลยเลือกที่จะปฏิเสธไป
พอฉันพูดขึ้นมาแบบนั้นคนตรงหน้าก็เลิกคิ้วตอบกลับมาเหมือนกันว่าการที่เขามาถามฉันแบบนี้มันเป็นเพราะเขารู้ว่าฉันไม่มีรถกลับและไม่มีใครมารับ
ถ้าเกิดว่ารอเพื่อนให้มารับเพื่อนก็คงมานานแล้วล่ะไม่ปล่อยให้ฉันต้องยืนรอนานขนาดนี้หรอก
การที่เขาพูดแบบนี้มันทำให้ฉันรู้ได้ทันทีว่าเขาเป็นผู้ชายที่เอาใจผู้หญิงเก่งมาก ไหนจะสายตาที่แพรวพราวของเขาอีกไม่บอกก็รู้ว่าเจ้าชู้มากแค่ไหน
“พี่เห็นเรายืนอยู่ตรงนี้ครึ่งชั่วโมงเลยนะ ถ้าเกิดว่าเพื่อนมารับคงมารับนานแล้วล่ะ”
“คือว่า...”
“ให้พี่ไปส่งได้นะ ไว้ใจพี่ได้ค่ะพี่ไม่ทำอะไรคนที่ไม่ยอมพี่หรอก จริงๆ ค่ะ”
พี่ไคโรชูสามนิ้วขึ้นมาเพื่อที่จะบอกว่าไม่คิดจะทำอะไรฉัน แต่ที่อยากไปส่งฉันเพราะเห็นว่าตอนนี้ก็เริ่มเย็นแล้วและฝนก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตกเลย
ถ้าเกิดว่าฉันยืนรอแบบนี้ก็ไม่รู้ว่าจะได้กลับตอนไหนเหมือนกัน แต่พอเห็นเขาเรียนที่นี่และท่าทางของเขาก็ไม่ได้ดูเป็นคนที่น่ากลัวฉันก็เลยยอมที่จะให้เขาไปส่ง
คอนโดที่ฉันพักอยู่ก็ไม่ได้อยู่ไกลจากมหาลัยเท่าไหร่ใช้เวลาไม่นานก็คงถึงแล้วล่ะ
“ก็ได้ค่ะ ยังไงก็ขอบคุณนะคะ”
“แล้วน้องชื่ออะไรอ่ะพี่จะได้เรียกถูก”
“หนูชื่อมิลินค่ะ”
“อ่า มิลินชื่อน่ารักดีนะคะ”
นั่นคือวันแรกที่ฉันกับพี่ไคโรได้เจอกัน ฉันยังแปลกใจเลยว่าอะไรที่ทำให้เขาใจร้ายกับฉันได้มากขนาดนี้ทั้งที่เมื่อก่อนเขาใจดีกับฉันมากเลยนะ
แต่พอฉันเริ่มรู้สึกดีกับเขาแล้วไปสารภาพรักเขานั่นแหละมันก็ทำให้เขาเริ่มเปลี่ยนไปทันที
ฉันเองก็ไม่เข้าใจการกระทำของเขาเหมือนกันว่าเพราะอะไรถึงได้เย็นชากับฉันได้มากขนาดนี้
แค่ฉันไปบอกรักเขาเองนะไม่ได้ไปพูดอะไรให้เขาไม่พอใจเลย แล้วรู้มั้ยว่าวันนั้นคือวันที่เขาทำให้ฉันเสียใจจนนอนร้องไห้ทั้งคืนเลย เพราะไม่คิดว่าเขาจะใจร้ายกับฉันมากขนาดนี้
“พี่ไคโรคะหนูมีอะไรอยากจะบอกพี่ค่ะ”
“อ่าฮะ เรื่องอะไรคะ?”
คนตรงหน้ายิ้มให้ฉันที่ยิ้มให้เขาอยู่ก่อนแล้ว ฉันเองก็เขินเหมือนกันนะที่จะมาสารภาพรักกับเขาอ่ะ
ไม่รู้ว่าเขาจะคิดแบบเดียวกับฉันหรือเปล่า แต่ที่ผ่านมาพี่ไคโรก็ดูแลฉันและเอ็นดูฉันมากเลยนะ ฉันคิดว่าบางทีเขาอาจจะคิดแบบเดียวกับฉันอยู่ก็ได้
“ทำหน้าเขินแบบนี้อย่าบอกนะว่าจะมาบอกชอบพี่?”
“พี่ไคโรรู้ด้วยเหรอคะ?”
ฉันทำหน้าตกใจที่คนตรงหน้ารู้ว่าจะมาพูดอะไรกับเขา พอฉันถามเขาออกไปแบบนั้นเขาก็หุบยิ้มทันทีแล้วคิ้วก็ขมวดเข้าหากันก่อนที่จะเอ่ยถามฉันอีกทีว่าที่มีเรื่องอยากจะพูดกับเขาก็คือเรื่องที่จะมาบอกชอบเขาใช่มั้ย
ฉันก้มหน้ามองมือตัวเองแล้วพยักหน้าตอบว่าเรื่องที่จะมาบอกเขาก็คือเรื่องที่ฉันชอบเขา
พี่ไคโรได้ยินแบบนั้นก็เงียบไปทันทีและสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปด้วย เมื่อกี้ยังยิ้มให้ฉันอย่างเอ็นดูอยู่เลยแต่ตอนนี้แววตาของเขาที่มองฉันเหมือนว่าฉันกลายเป็นคนอื่นสำหรับเขาไปแล้ว
อย่าบอกนะว่าเขาไม่ได้คิดแบบเดียวกับฉันอ่ะ แล้วที่ผ่านมาที่เขาคอยไปรับไปส่งฉันและคอยเอาใจฉันมันหมายความว่ายังไงอ่ะ
“หนูชอบพี่ไคโรนะคะ ชอบมานานแล้ว และอยากจะบอกพี่ให้รู้ความรู้สึกของหนูด้วยค่ะ”
“แต่พี่ไม่ได้คิดกับเราแบบนั้น”
“คะ?”
“พี่ไม่ได้ชอบเรา ถ้าเกิดว่าเราชอบพี่แบบนี้พี่คงเลิกยุ่งกับเราแล้วล่ะมิลิน”
มันเหมือนว่าเขามาหลอกให้ฉันรักแต่สุดท้ายเขาก็ไม่ได้คิดอะไรกับฉันเลย ตอนที่ถูกเขาปฏิเสธน่ะมันเป็นอะไรที่โคตรเจ็บและโคตรเสียใจมากเลยนะ
ไม่คิดไงว่าการที่ตัวเองไปสารภาพรักกับเขามันจะกลายเป็นวันที่เขาเย็นชากับฉันได้มากขนาดนี้
และหลังจากนั้นเขาก็เปลี่ยนไปเลยจากที่แสนดีกับฉันและอ่อนโยนกับฉันมากๆ เขาก็เย็นชาและใจร้ายกับฉันมาตลอด เหมือนอย่างวันนี้ที่เขาทำให้ฉันเจ็บไง
ไม่สิ เขาไม่ได้ทำให้ฉันเจ็บแต่ฉันทำตัวเองต่างหากล่ะ เพราะเขาก็ชัดเจนกับฉันมาตลอดเลยว่าเขาไม่ได้คิดอะไรด้วย
มีแต่ฉันที่คิดไปเองและพยายามไปเองคนเดียว